ไอ้หื่นก่อคดีซ้ำ! หลอกเด็ก 15 อยากเป็นดารา ให้ส่งภาพหวิวอ้างเป็นโมเดลลิง

lead image

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

30 ม.ค.2566 พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท.สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม ดำเนินการ เข้าจับกุมโมเดลลิงปลอม หลอกลวงเด็ก อยากเป็นดารา ให้ทำการวิดีโอคอล และ แอบอัดคลิป โดยจับกุมผู้ต้องหาได้ 1 ราย ภายในที่พักย่านซอยประชาอุทิศ 127 กทม.

 

จากที่กลุ่มงานต่อต้านการล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็กทางอินเทอร์เน็ต บก.ตอท. ได้รับการแจ้งจากผู้เสียหายอายุ 15 ปี ว่า เมื่อวันที่ 6 เม.ย. 2565 มีบุคคลติดต่อเข้ามาทางแอปพลิเคชันไลน์ ทำนองชักชวนว่า มีภาพยนตร์ของค่ายดัง กำลังจะดำเนินการถ่ายทำ หากผู้เสียหายมีความสนใจอยากแสดงภาพยนตร์เรื่องดังกล่าว ให้ผู้เสียหายส่งภาพที่สวมใส่เพียงชุดชั้นในส่งไปให้ทางไลน์

 

รูปภาพจาก : facebook.com/CybercopTH

(คลิกเพื่อดูโพสต์ต้นฉบับ)

 

เมื่อผู้เสียหายได้ส่งไปให้ คนร้ายทำท่าทีเป็นมองไม่ชัด และจึงขอวิดีโอคอล หลังจากนั้นได้พูดโน้มน้าวให้ผู้เสียหายถอดเสื้อผ้าออก ผู้เสียหายจึงได้ทำการถอดเสื้อผ้าออกโดยไม่ทราบว่าคนร้ายได้ทำการบันทึกวิดีโอตอนที่ผู้เสียหายโป๊เปลือยไว้แล้ว เมื่อพูดคุยเสร็จคนร้ายก็เงียบหายไป จนเมื่อช่วงกลางเดือน ม.ค. ที่ผ่านมา มีผู้ประสงค์ดี แจ้งเข้ามายังค่ายของผู้เสียหายว่ามีวิดีโอในลักษณะโป๊เปลือยของผู้เสียหาย ถูกเผยแพร่อยู่ในทวิตเตอร์ จึงได้รีบเข้าไปตรวจสอบ พบเป็นคลิปของผู้เสียหายจริง

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

ต่อมาผู้เสียหายได้เดินทางเข้ามาพบ ผกก.กลุ่มงานต่อต้านการล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็กทางอินเทอร์เน็ต ร้องให้ช่วยดำเนินการติดตามจับกุมคนร้าย ผกก. จึงได้สั่งการให้ เจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัดประสานงานปิดบัญชีทวิตเตอร์ ที่มีการเผยแพร่สื่อลามกอนาจารเด็กดังกล่าว และให้ทำการสืบสวน จนได้ทราบว่าผู้ใช้งาน แอปพลิเคชันไลน์ดังกล่าว คือนายประสาร นายประสาร(บอย) อุทากรณ์ และพบว่าเคยถูกจับในคดีลักษณะเดียวกันมาแล้วในปี 2558 จึงได้ดำเนินการรวบรวมหลักฐานเพื่อขอหมายค้นต่อศาล

 

วันนี้ 30 ม.ค.2566 เจ้าหน้าที่ได้นำหมายค้นจากศาลอาญาธนบุรี เข้าทำการตรวจค้นบ้านผู้ต้องสงสัย พบโทรศัพท์มือถือ ที่มีการติดตั้ง แอปพลิเคชันไลน์ ซึ่งได้ลงทะเบียนใช้งานไว้ด้วยชื่อที่ใช้หลอกลวงผู้เสียหาย และพบประวัติการพูดคุยล่อลวงกับผู้เสียหายอายุ 15 ปี ที่เข้าแจ้งเหตุ และยังพบวิดีโอบันทึกหน้าจอของผู้เสียหายระหว่างการ วิดีโอคอล อีกทั้งยังพบคลิปผู้เสียหายรายอื่นอีกเป็น จำนวนมากโดยอยู่ระหว่างประสานผู้เสียหายรายอื่น ๆ เข้าแจ้งความ ได้รวบรวมของกลาง รวมทั้งสิ้น 5 รายการ

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

รูปภาพจาก : facebook.com/CybercopTH

(คลิกเพื่อดูโพสต์ต้นฉบับ)

 

ผู้ต้องหาให้การว่า จะหาเหยื่อจากเด็ก ๆ ที่สนใจอยากเป็นนักแสดง ในกลุ่มไลน์ที่ใช้ชื่อว่า “ นักแสดงบันเทิง ” และทำการเพิ่มเพื่อนเพื่อส่งข้อความชักชวนให้มาแสดงภาพยนตร์ ค่ายดัง โดยได้เสนอให้ค่าจ้างมากกว่าปกติ หากสนใจให้ส่งภาพถ่ายแสดงสัดส่วน โดยใส่เฉพาะกางเกงในมา หากมีน้องคนไหนส่งมา อาจจะขอวิดีโอคอลเพื่อขอดูเพิ่มเติม และจะทำการบันทึกหน้าจอ แต่ถ้าหากน้องไม่ยินยอม ก็จะเปลี่ยนเป้าหมายเป็นคนอื่นแทน หลังจากได้คลิปก็เก็บบันทึกไว้ และจะนำไปลงในบัญชีทวิตเตอร์ เพื่อเพิ่มยอดผู้ติดตาม และนำบัญชีทวิตเตอร์ ที่มีผู้ติดตามเพิ่มเยอะขึ้นไปจำหน่ายต่อไป

 

เบื้องต้นแจ้งข้อหา เจ้าหน้าที่แจ้งข้อหา ฐานความผิด 1.ครอบครองและส่งต่อ ซึ่งสื่อลามกอนาจารเด็กเพื่อแสวงหาประโยชน์ในทางเพศสำหรับตนเองหรือผู้อื่น, 2.ทำให้แพร่หลายโดยประการใด ๆ ซึ่งสื่อลามกอนาจารเด็ก, 3.นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ หรือส่งต่อซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์โดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่มีลักษณะอันลามก, 4.บังคับ ขู่เข็ญ ใช้ ชักจูง ยุยง ส่งเสริม หรือยินยอมให้เด็กแสดงหรือกระทำการอันมีลักษณะลามกอนาจาร พร้อมของกลาง 5 รายการ เจ้าหน้าที่คุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน สน.ทุ่งครุ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

บทความที่เกี่ยวข้อง : สลด! ลูกผูกคอดับในป่า คาดเพราะถูกหลอกลงทุน กว่า 14,000 บาท พ่อร่ำไห้หนัก

 

6 ข้อควรทำ หากอยากดันให้ลูกเป็นดารา

1. เรียนการแสดงตั้งแต่อายุยังน้อย

ไม่ใช่เพียงแค่หน้าตาเพียงอย่างเดียวที่จะช่วยให้ลูกเข้าวงการบันเทิงได้ ปัจจุบันก็ต้องใช้ความสามารถในการแสดงเป็นสิ่งสำคัญด้วย เราคงเห็นกันมาบ่อยที่มีนักแสดงหน้าตาดี แต่ไม่นานก็หายไปจากจอ เพราะการแสดงแข็ง สื่ออารมณ์ไม่ได้ หากผู้ปกครองคงไม่อยากให้ลูกเป็นแบบนั้น การฝึกกับครูที่เป็นมืออาชีพในด้านนี้โดยเฉพาะตั้งแต่ยังเด็ก จะช่วยให้ลูกสามารถเรียนพื้นฐานที่จำเป็น และปรับตัวได้ไวมากขึ้นกว่าการหันมาฝึกเมื่อโตแล้ว หากมั่นใจว่าลูกอยากเป็นดาราจริง ๆ ก็ควรเริ่มเรียน เริ่มฝึกไปเลยตั้งแต่อายุยังน้อย ๆ ค่ะ

 

2. กิจกรรมเสริมเพื่อฝึกการแสดง

แม้จะอยู่ที่บ้านก็ช่วยลูกฝึกการแสดงได้ แม้ผู้ปกครองจะไม่ได้เป็นดารานักแสดง เพราะเป้าหมายหลัก คือ การช่วยลูกฝึกนั่นเอง เป็นกิจกรรมที่สามารถช่วยทำได้ทั้งครอบครัว ได้ทั้งความสนุก และเป็นการใช้เวลาร่วมกันอีกด้วย นั่นคือ การรับบทบาทสมมุติต่าง ๆ สมมุติเรื่องราวขึ้นมา ให้เข้าลูกรับบทเป็นตัวนำ การเล่นบทบาทสมมุติเป็นวิธีการฝึกการแสดงที่ดี หากเพิ่มความจริงจังขึ้นมา จะยิ่งทำให้การฝึกเข้มข้นขึ้นอีก เช่น การมีบทพูด ทำให้ลูกต้องฝึกท่องบท จดจำบท การฝึกแบบนี้บ่อย ๆ จะทำให้ลูกชินกับการใช้ความจำ ซึ่งสำคัญมากสำหรับการเป็นนักแสดง

 

3. หาเอกลักษณ์ของลูกให้เจอ

การหาว่าลูกมีเอกลักษณ์ถนัดในด้านไหนของการแสดงเป็นสิ่งที่สามารถนำไปเสนอผู้อื่นได้ดี เราต้องยอมรับว่าหากนักแสดงมีเอกลักษณ์ให้พูดถึงจะเป็นที่น่าสนใจกว่ามาก เช่น ลูกสามารถเรียกเสียงหัวเราะเป็นคนตลกโดยธรรมชาติ หรือสามารถเรียกน้ำตาได้เอง ไปจนถึงความจำเป็นเลิศใช้เวลาในการท่องจำบทไม่นาน เป็นต้น

บทความที่เกี่ยวข้อง : อยากให้ลูกเป็นดารา มีวิธีฝึกลูกอย่างไรบ้างให้ไปถึงฝั่งฝัน

 

 

4. เตรียม Resume พร้อมรูปถ่ายให้ครบ

การทำแฟ้มสะสมผลงาน และข้อมูลต่าง ๆ เกี่ยวกับลูก ก็เป็นสิ่งสำคัญที่จะนำไปยื่นให้ผู้ที่เกี่ยวข้องในวงการพิจารณา ใน Resume ควรมีชื่อนามสกุล อายุ น้ำหนัก และส่วนสูง รวมไปถึงกิจกรรมโปรดของลูก หากเคยทำกิจกรรม หรือการแสดงก็ให้แนบรูปประกอบด้วย หรือลิงก์วิดีโอไปด้วย และที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ ภาพถ่ายในลักษณะท่าทางต่าง ๆ ในชุดหลากหลายรูปแบบของลูก เพื่อให้ผู้พิจารณาเห็นภาพการแสดงของลูกด้วย อย่าลืมช่องทางในการติดต่อเพื่อไม่ให้พลาดงาน หากลูกรักไปโดนตาโดนใจใครเข้าให้แล้ว จะได้ติดต่อกลับมาในทันที

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

5. หาผู้ดูแลมืออาชีพ หรือเอเจนซี

การหาผู้ดูแลมืออาชีพจะช่วยเป็นสะพานสำคัญในการนำลูกของเราเข้าสู่วงการบันเทิงได้ จากการนำไปเสนอตามงานต่าง ๆ แต่แน่นอนว่า ไม่ใช่ทุกคนที่ยื่นเข้าไปแล้วจะได้รับตอบรับ เอเจนซีก็ต้องเลือกเด็กที่มีความเหมาะสมเพื่อเข้าสังกัดของตนเอง ซึ่งโดยปกติแล้วจะคัดเลือกผ่านการออดิชั่นนั่นเอง ถ้าลูกรักไม่ได้ฝึกอะไรมาเลย ก็คงยากอย่างแน่นอน นอกจากนี้การออดิชั่นโดยปกติส่วนมากจะไม่เรียกเก็บเงิน หากมีการเรียกเก็บเงินมีความเป็นไปได้ว่าอาจเป็นมิจฉาชีพ

ดังนั้นก่อนตัดสินใจพาลูกไปออดิชั่นหากมีการเรียกเก็บเงิน ให้ทำการตรวจสอบข้อมูลที่มาของเอเจนซีก่อนว่ามาจากไหน มีความน่าเชื่อถือมากน้อยแค่ไหน แต่ให้ผู้ปกครองตั้งแง่ไว้ก่อนเลยว่าโดยทั่วไป เอเจนซีจะได้รายได้เป็นส่วนแบ่งจากผู้จัด เมื่อเด็กในสังกัดได้งานแล้วเท่านั้น

 

 

6. ตกลงว่าใครจะติดตามลูก

เป็นสิ่งที่ต้องคุยกันแต่เนิ่น ๆ เรื่องนี้เป็นการเตรียมตัวของผู้ปกครอง เพราะหากลูกได้เข้าวงการจริง คงเป็นไปไม่ได้ที่จะปล่อยให้ลูกไปออกงานต่าง ๆ ด้วยตัวคนเดียว แม้อาจจะมีคนดูแล แต่เด็กเล็กมักจะไว้ใจคนใกล้ตัว หรือพ่อแม่มากที่สุด จึงต้องตกลงกันให้ดีว่าใครจะเป็นคนที่คอยอยู่กับลูกตลอดเวลา เพื่อไม่ให้ลูกเกิดความกังวล ในขณะที่รอบตัวมีแต่คนแปลกหน้าที่ไม่คุ้นเคย

 

การเป็นดาราที่มีชื่อเสียง เป็นที่รู้จัก และได้รับการยอมรับ เป็นอีกหนึ่งอาชีพที่มีเด็ก ๆ จำนวนไม่น้อยเลยที่อยากจะเป็น แต่ก็ใช่ว่าจะเป็นกันได้ง่าย ๆ นอกจากมีรูปร่างหน้าตาที่ดีแล้ว ยังต้องมีความสามารถและกล้าแสดงออกอีกด้วย นอกจากนี้การหาผู้ดูแลที่เป็นมืออาชีพน่าเชื่อถือได้ ก็เป็นอีกหนึ่งสิ่ง ที่จะทำให้เส้นทางการเป็นดารานั้นอยู่ไม่ไกลเลยค่ะ

 

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :

อยากให้ลูกเป็นหมอ พ่อแม่อย่าพลาดลืมทำ 6 ข้อนี้เด็ดขาด !

อาชีพในฝัน เปรียบเทียบ เด็กไทยและเด็กญี่ปุ่น จะแตกต่างกันแค่ไหน?

แนะนำ! 10 เครื่องบินของเล่น เสริมสร้างพัฒนาการ สานฝันหนูน้อยอยากเป็นนักบิน

ที่มา : komchadluek.net

บทความโดย

Kanjana Thammachai