เรื่องราวสุดพีค อย่างการเจองู เชื่อว่าในประเทศไทย อาจจะมีข่าวงูหลุดบ่อย แต่การที่งูจะหลุดเข้าไปเล่นกับเด็ก นับเป็นเรื่องที่เกิดได้น้อย ดังเช่นเด็กชายคนนี้ ที่แม่แทบไม่อยากเชื่อสายตา เมื่อ งูเลื้อยมาเล่นกับลูก แถมยังไม่โดนกัดอีกด้วย
เรื่องนี้ถูกเผยแพร่บนโลกออนไลน์ โดยคุณแม่คนหนึ่งในจิ่วเจียง มณฑลเจียงซี ประเทศจีน แชร์คลิปวิดีโอลูกชาย อายุประมาณ 1 ขวบ กำลังเล่นกับงูเหลือมยักษ์อยู่บนเตียง จนทำเอาโลกโซเชียลแตกตื่น เพราะอยู่ดี ๆ งูเลื้อยมาเล่นกับลูก โดยที่ไม่ทันตั้งตัว
โดยเธอเล่าว่า วันนั้นกำลังทำอาหารอยู่ในครัว และได้ยินเสียงหัวเราะคิกคักของลูกชาย วัย 1 ขวบ ดังออกมาจากในห้องนอน ตอนแรกเธอคิดว่า ลูกอาจจะแค่ละเมอ อย่างไรก็ตามเสียงหัวเราะ ยังคงดังอยู่อย่างต่อเนื่อง ทำให้เธอเริ่มสงสัยว่า ลูกชายของเธอ อาจจะตื่นขึ้นมาแล้ว แต่ปกติเวลาตื่นนอน ลูกชายมักจะร้องหาแม่ก่อนเสมอ ดังนั้นการได้ยินเสียงหัวเราะ จึงทำให้เธอรู้สึกแปลกใจ
เธอจึงรีบออกจากครัว ไปที่ห้องของลูก และทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็ต้องตะลึง เมื่อได้พบกับ งูเหลือมยักษ์ เป็น “แขกพิเศษ” ที่มีความยาวประมาณ 2 เมตร กำลังเลื้อยอยู่บนที่นอนของลูกชาย นอกจากจะตกใจ กับการปรากฏตัวของสัตว์ร้ายแล้ว เธอยังประหลาดใจกับ การกระทำของลูกชายด้วย เพราะแทนที่จะกลัว เด็กชายกลับแสดงความสนใจ เมื่อเห็นงูเหลือม
โดยลูกชายของเธอ กลับเอื้อมมือไปหยอกล้อกับสัตว์อันตราย ราวกับเป็นสัตว์เลี้ยงน่ารัก ๆ ใช้มือบีบหัวของงู และยกมันขึ้นสูง ๆ ในขณะที่งูทำได้แค่ดิ้นอย่างเดียว
คุณแม่รายนี้ระบุว่า ระหว่างที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมด เธอยอมรับว่าช็อก จนแทบแข็งเป็นหิน ก่อนที่จะตั้งสติได้แล้ว รีบโทรแจ้งตำรวจให้ช่วยจับงูเหลือม โดยงูตัวดังกล่าว สามีเพิ่งซื้อมาเลี้ยงได้ไม่กี่วัน และคาดว่า น่าจะลืมล็อกประตูกรง ทำให้สัตว์เลื้อยออกมาข้างนอกได้
บทความที่เกี่ยวข้อง : หวาดเสียว! พ่อแม่ปล่อยลูกวัยแบเบาะเล่นกับงูยักษ์ ยืนถ่ายคลิปหัวเราะร่า (มีคลิป)
หลังจากคลิปเหตุการณ์ดังกล่าว ถูกเผยแพร่ลงโลกออนไลน์ ชาวเน็ตอดไม่ได้ที่จะประหลาดใจ กับสถานการณ์ที่อันตราย นอกจากนี้ ยังมีหลายคนติพ่อแม่ของเด็กน้อย เพราะไม่เข้าใจว่า คิดอย่างไรจึงนำงูหลามยักษ์ มาเลี้ยงที่บ้าน ในขณะที่มีลูกเล็ก ๆ อีกทั้งยังประมาทเลินเล่อ ในการกักขังสัตว์ โชคดีที่เด็กไม่เป็นไร แต่ถ้าเกิดอุบัติเหตุที่ร้ายแรงขึ้นมา มันคงสายเกินไปที่ผู้ใหญ่ จะมานั่งเสียใจในตอนนั้น
รู้จักธรรมชาติของงู
งู คือสัตว์เลื้อยคลานชนิดหนึ่ง ที่เราต่างรู้จักกันเป็นอย่างดี แต่ถึงจะรู้จักดีอย่างไร เชื่อว่าใครหลายคน กลับไม่ได้รู้สึกว่า งูเป็นสัตว์ที่ใกล้ชิดมากขนาดนั้น เนื่องจากมีกรณีที่ มักพบเจองูที่อาศัยอยู่ตามสถาน ที่รกร้างหรือตามท่อน้ำ จนมีเหตุการณ์ที่คนถูกงูกัดอยู่บ่อย ๆ งูได้ชื่อว่าเป็นสัตว์ที่อันตรายต่อมนุษย์
ในประเทศไทย มีความหลากหลายของชนิดงูมาก มีอยู่ประมาณ 200 กว่าชนิด แบ่งออกเป็นงูที่อาศัยอยู่ในป่า และงูที่สามารถอาศัยอยู่ในเมืองได้ด้วย ขึ้นกับลักษณะแวดล้อมในบริเวณนั้น ซึ่งในเมืองก็สามารถพบเจอได้ ทั้งงูมีพิษและไม่มีพิษ ประเภทของงูไม่มีพิษที่พบเจอมาก ได้แก่ งูเหลือม, งูเขียวพระอินทร์, งูสิง, งูปี่แก้ว, งูลายสอ ส่วนงูพิษที่พบเจอได้แก่ งูเห่าไทย, งูเขียวหางไหม้
จากสถิติคร่าว ๆ ของสายด่วน 199 มีการสรุปว่า ในเดือน ๆ หนึ่งจะมีการโทรแจ้ง ให้เจ้าหน้าที่ไปจับงูอยู่ที่ ประมาณ 3-4 พันครั้งต่อเดือน หรือเฉลี่ยกว่าร้อยครั้งต่อวัน เฉพาะในเขตกรุงเทพฯ ซึ่งไม่ใช่ตัวเลขที่น้อยเลย จัดเป็นหนึ่งในสัตว์ที่อยู่ในเมืองเยอะมาก
การป้องกันตัวเองจากงู
การป้องกันตัวเองจากงู ต้องทำความรู้จักงูให้มากขึ้น เพราะงูไม่ได้มีนิสัยก้าวร้าว ไม่ใช่ว่าเจองูมีพิษ จะต้องฆ่ามันเพียงอย่างเดียว เมื่อเผชิญหน้ากับงูที่อยู่ในบ้าน ต้องตั้งสติ รักษาระยะห่างไว้ อย่าไปตีงูโดยไม่จำเป็น เพราะอาจเสี่ยงต่อการถูกงูกัดได้
วิธีการที่ถูกต้องคือ ควบคุมพื้นที่ของงูให้อยู่ในห้องปิด แล้วจึงค่อยเรียกเจ้าหน้าที่มาจับ ถ้าเราไม่กันพื้นที่ไว้ มันอาจจะหายไปจนหาไม่เจอ หรือถ้าเจองูที่นอนอยู่เฉย ๆ ให้ใช้กะละมัง หรือถังใบใหญ่ครอบไว้ แต่ต้องไม่ตากแดด ไม่อย่างนั้นงูอาจร้อนตายได้ แล้วจึงค่อยเรียกเจ้าหน้าที่มาจับ เป็นวิธีที่สะดวกและง่ายที่สุด
ส่วนในกรณีที่พบเจอกับงูพิษอย่าง งูเห่าหรืองูเขียวหางไหม้ มีข้อปฏิบัติดังต่อไปนี้ งูเห่า เป็นงูที่ออกอาการเตือนเราอยู่เสมอด้วยการแผ่แม่เบี้ย พยายามรักษาระยะห่างไว้ อย่าไปตีหรือไล่ เพราะอาจทำให้โดนกัดได้ แต่ถ้าเป็นงูเขียวหางไหม้ ที่มักหลบซ่อนตามพุ่มไม้ โอกาสที่จะพลาดแล้วโดนกัดมีมากกว่า วิธีป้องกันคือ ถ้าจะเข้าพุ่มไม้หรือจุดที่ไม่แน่ใจ ให้หาไม้แหย่หรือเคาะแรง ๆ ก่อน จะทำให้มันขยับตัวออกมาให้เราเห็น
จากสถิติคนโดนงูกัด โดยกระทรวงสาธารณสุขรายงานว่า มีประมาณ 5 – 7 พันรายต่อปีทั้งประเทศ ซึ่งถือว่าน้อยมาก เมื่อเทียบกับปริมาณของงูที่พบเจอ สะท้อนการป้องกันที่ หากทำความเข้าใจธรรมชาติของงูแล้ว ก็สามารถป้องกันอันตรายได้อย่างเห็นผล
ทั้งนี้ทั้งนั้น หากบ้านไหนที่เลี้ยงงู และบ้านนั้นมีเด็กเล็กด้วย การไม่ประมาทและหมั่นใส่ใจเสมอ ก็ไม่ทำให้เกิดอันตรายได้ แต่ถ้าไม่จำเป็นหรือยังไม่ได้เลี้ยง และกำลังวางแผนมีลูก ทางที่ดีไม่ควรหามาเลี้ยงค่ะ เพื่อไม่ให้เกิดเหตุสลด โดยที่ไม่คาดคิดค่ะ
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
เปิดผลงาน งูในจินตนาการของน้อง การบ้านเด็ก ๆ ที่สร้างความน่ารักได้ไม่น้อย
ผัวโหดโยนงูพิษ ใส่เมีย ขณะหลับสบาย สุดท้ายปล่อยเมียนอนตายสุดอนาถ
โรคงูสวัด ภาวะแทรกซ้อนที่ จัสติน บีเบอร์ (Justin Bieber) กำลังเผชิญ
ที่มาบทความและรูปภาพ : sanook, tkpark