เรื่องของความรัก ไม่ว่าใครก็ห้ามไม่ได้ ช่วงวัยเด็ก วัยรุ่น หรือผู้ใหญ่ ก็เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ เพียงแต่ว่าการมีความรักนั้น ต้องมีการทำความเข้าใจกันก่อน รวมไปถึงเรื่องของการมีเพศสัมพันธ์ พ่อแม่ควรที่จะปลูกฝัง หรือสอนลูกตั้งแต่ยังเล็ก เพื่อไม่ให้ต้องเจอเรื่องสุดช็อกดังครอบครัวนี้ เมื่อแม่ได้ยินเสียงแปลก ๆ จากห้องนอนของ ลูกสาววัย 14 ปี
เว็บไซต์ CTWANT ได้รายงานข่าว ลูกสาววัย 14 ปี ในเทศมณฑลหนานโถว ประเทศจีน พบรักกับชายคนหนึ่ง ผ่านแอปพลิเคชันหาคู่ ซึ่งหลังจากที่ทั้งสองได้เจอกัน ด้วยการแอบพบกันกลางดึก เด็กหญิงคนดังกล่าว ได้ปล่อยให้ชายคนนั้นเข้าไปในบ้าน และทำออรัลเซ็กซ์ให้กับเขา ซึ่งผู้เป็นแม่รู้เรื่อง เนื่องจากว่าได้ยินเสียงแปลก ๆ ออกมาจากห้องนอนของลูกสาว จึงได้เปิดประตูเข้าไป เจอเข้ากับภาพช็อกคาตา ก่อนที่จะโทรแจ้งตำรวจ เพื่อให้จัดการตามกฎหมาย
ชายคนดังกล่าว ออกเดทกับเด็กหญิงต่อไป แม้จะรู้ว่าเด็กสาวยังไม่บรรลุนิติภาวะ หลังจากที่ทั้งคู่นัดเจอกัน จึงเกิดเหตุการณ์ที่แม่ พบลูกสาวกับชายแปลกหน้าในห้องนอน ภายหลังชายคนดังกล่าว ได้สารภาพความผิดทั้งหมด และจากคำให้การของเด็กสาว รวมไปถึงภาพจากกล้องวงจรปิด และแชตการสนทนาของทั้งคู่ อัยการได้ดำเนินคดีตามกฎหมาย
ศาลแขวงหนานโถวพิจารณาว่า ชายคนนี้ยังเด็ก และเต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น เกี่ยวกับความสัมพันธ์ทางเพศ และเมื่อพิจารณาถึงแรงจูงใจและจุดประสงค์ของอาชญากรรมแล้ว เขาถูกตัดสินจำคุก 6 เดือน ในข้อหามีเพศสัมพันธ์กับผู้หญิงที่มีอายุ มากกว่า 14 ปี แต่อายุต่ำกว่า 16 ปี อย่างไรก็ดี คดีทั้งหมดยังคงอยู่ภายใต้การอุทธรณ์
บทความที่เกี่ยวข้อง : เปิดใจสอนเรื่อง เซ็กส์กับลูก ที่กำลังก้าวสู่วัยรุ่นดีกว่าให้ลูกเรียนรู้แบบผิด ๆ
เมื่อลูกใช้เว็บ หรือโซเชียลมีเดีย เพื่อหาคู่ ควรทำอย่างไร ?
จริงอยู่ที่การใช้โซเชียลมีเดียเดี๋ยวนี้ พ่อแม่บางคนอาจจะไม่ทันลูก แต่ถ้าหากรู้แล้วว่า แอปพลิเคชันดังกล่าวมีไว้ทำอะไร หรือเมื่อรู้ว่าใช้แอปหาคู่ พ่อแม่ควรใช้โอกาสนี้ ในการพูดคุยกับลูก และสอนให้มีภูมิต้านทานในการรับมือ มากกว่าการสั่งห้าม
รวมไปถึงควรอธิบายให้ลูกเข้าใจว่า ไม่มีทางรู้ได้เลยว่าคนที่คุยเป็นใคร มาจากไหน นิสัยเป็นอย่างไร ข้อมูลที่ลงไว้ก็อาจจะไม่ใช่ของจริง เมื่อลูกต้องการเล่นแอปหาคู่แบบนี้ ไม่ควรเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวจนมากเกินไป หากต้องการที่จะนัดเจอ ควรบอกพ่อแม่ไว้ด้วย ไม่ว่าจะเป็นที่ไหน เวลาไหน หรือทางที่ดีไม่ควรไปคนเดียว และควรเลือกที่เจอในสาธารณะ เพื่อไม่ให้เกิดอันตรายต่อตัวเอง
ข้อสำคัญคือพ่อแม่ควรที่จะชวนลูกคุย เมื่อลูกเข้าสู่วัยที่เริ่มมีความรัก เพื่อให้ลูกหัดประเมินสถานการณ์ ว่าแบบไหนเหมาะสม แบบไหนปลอดภัย และแค่ไหนที่ควรเลิกคุย พร้อมทั้งบอกให้รู้ว่าอินเทอร์เน็ต ไม่ใช่พื้นที่ส่วนตัว เพราะเมื่อโพสต์ข้อมูลตัวเองออกไปแล้ว อาจจะมีมือดีแคปเก็บไว้ก็ได้
ในทางเดียวกันพ่อแม่ก็ควรปล่อยให้ลูก ใช้ชีวิตในโซเชียลส่วนตัวของตัวเอง ไม่ควรต่อว่าหรืออบรมสั่งสอนให้คนอื่นเห็น เพราะสำหรับวัยรุ่นช่วงนี้ โซเชียลถือเป็นพื้นที่ของเขา เพื่อให้คนอื่นเห็น และการต่อว่าทำให้เด็กรู้สึกอับอาย อาจจะยิ่งทำให้เตลิด หรือไปใช้โซเชียลอื่นแทนได้
บทความที่เกี่ยวข้อง : อายุก็เป็นแค่ตัวเลข! สาวใหญ่วัย 85 ยังแซ่บ โหลดแอปหาคู่ออกเดทสุดปัง!
วัยรุ่นเป็นช่วงอยากรู้อยากลอง อาจมีเรื่องเซ็กซ์เข้ามาได้
เมื่อลูกโตขึ้น ในช่วงที่อยู่มัธยม เป็นโอกาสดีที่พ่อแม่จะสร้างความรู้ความเข้าใจ ด้วยการให้ข้อมูลเรื่องเพศกับลูก อย่างตรงไปตรงมา อธิบายให้ลูกเข้าใจว่าเมื่อถูกปลุกเร้า ให้เกิดอารมณ์ทางเพศควรทำอย่างไร หากไม่ต้องการลูกควรจะหลีกเลี่ยงแบบไหน
การอธิบายให้ลูกเข้าใจอย่างตรงไปตรงมา พร้อมทั้งบอกวิธีรับมือก็เพื่อ ถ้าวันหนึ่งลูกต้องเผชิญกับสถานการณ์เสี่ยง ที่จะต้องมีเพศสัมพันธ์ ลูกจะได้มีข้อมูลในการคิดและตัดสินใจ พ่อแม่ควรแนะนำให้ลูกรู้จักประเมินความพร้อม ในการมีเพศสัมพันธ์ เช่น ชวนให้ลูกคิดว่าเพศสัมพันธ์ที่ดีต้องประกอบด้วยอะไรบ้าง อาทิ ความรัก ความยินยอมพร้อมใจของสองฝ่าย ต้องเป็นเพศสัมพันธ์ที่ปลอดภัยเท่านั้น เป็นต้น
การที่พ่อแม่แนะนำหรือให้ความรู้ที่ถูก หรืออธิบายให้ลูกเข้าใจว่า เมื่อมีอารมณ์ทางเพศเกิดขึ้น ไม่จำเป็นต้องจบที่การมีเซ็กซ์เสมอไปเป็นข้อดีกว่าข้อเสีย เพราะอารมณ์ดังกล่าวสามารถหายไปได้เอง ลูกจึงสามารถปฏิเสธการมีเพศสัมพันธ์ ถ้าเห็นว่าเป็นเพศสัมพันธ์ที่ไม่ปลอดภัย หรือไม่พร้อม ในขณะเดียวกัน หากถูกปฏิเสธ ลูกต้องเคารพการตัดสินใจของคนอื่นด้วย
สิ่งที่พ่อแม่ไม่ควรทำ เมื่อลูกสงสัยเรื่องเพศ
1. พ่อแม่ไม่ควรเลือกไม่คุยกับลูกถึงเรื่องเซ็กซ์ เพียงเพราะคิดว่าลูกยังเล็กไม่มีความสนใจเรื่องเพศ
ในความเป็นจริงแล้ว เด็กรับรู้และเติบโตเกินกว่าที่พ่อแม่คิดเสมอ โดยเฉพาะถ้าพ่อแม่คิดว่า ลูกยังเด็ก ปฏิบัติต่อลูกเหมือนเป็นเด็กอยู่ตลอดเวลา เด็กก็จะแสดงออกให้ตรงกับความคาดหวังของพ่อแม่ เพื่อไม่ให้พ่อแม่ผิดหวัง
2. เมื่อลูกพูดคุยหรือขอคำปรึกษา พ่อแม่กลับตอบสนองด้วยการว่า กล่าวตำหนิหรือขู่ปราม
การกระทำด้วยการดุด่า หรือข่มให้กลัว จะทำให้เด็กรับรู้ว่า พ่อแม่ไม่ยอมรับเรื่องเหล่านี้ หากมีข้อสงสัย ลูกจะไม่ถามพ่อแม่อีก แต่อาจหาข้อมูลเองจากอินเทอร์เน็ต หรือถามเพื่อน ซึ่งเสี่ยงที่จะได้รับข้อมูล และความเข้าใจที่ผิดพลาดคลาดเคลื่อน และเกิดเรื่องที่เกินควบคุม
3. พ่อแม่คิดว่าถ้าสอน จะเป็นการชี้โพรงให้กระรอก ถ้าสอนจะทำให้ลูกทดลอง
การเลือกที่จะไม่พูดคุย หรือไม่สอนเรื่องเพศ เพราะคิดว่าจะเป็นการชี้นำหรือชี้โพรงให้กระรอก ชุดความคิดนี้ของพ่อแม่หรือครอบครัว จะทำให้ลูกขาดข้อมูลความเข้าใจ และหากต้องเผชิญสถานการณ์ ลูกจะไม่รู้ว่าควรรับมือ หรือแก้ปัญหาอย่างไร
4. พ่อแม่คิดว่าคิดว่าครูที่โรงเรียนสอน ก็เพียงพอแล้ว
จริงอยู่ที่เรื่องของเพศศึกษา มีการเรียนการสอนในโรงเรียน แต่ในความเป็นจริง เด็กต้องการข้อมูลมากกว่าในห้องเรียนเสมอ อีกทั้งบรรยากาศในการเรียนการสอน มักไม่เอื้อให้เกิดการซักถาม ลูกอาจไม่ไว้วางใจครูมากพอ หรืออาจจะมีการล้อเลียนได้ในกลุ่มเพื่อน ดังนั้นพ่อแม่ควรเป็นคนที่ทำหน้าที่นี้มากกว่าใคร
เมื่อพบถุงยางอนามัย หรือยาคุมกำเนิดของลูก
- พ่อแม่ควรตั้งสติก่อนเป็นอันดับแรก ลูกอาจใช้อุปกรณ์เหล่านี้ในการเรียน หรือแม้ว่าลูกจะไปมีเพศสัมพันธ์มาจริง ๆ อย่างน้อย ลูกก็รู้จักการมีเพศสัมพันธ์ที่ปลอดภัย
- พ่อแม่ควรพูดคุย หรือสอบถามด้วยท่าทีปกติ ถือเป็นโอกาสที่จะสื่อสาร เพื่อสร้างความไว้วางใจ ว่าพ่อแม่พร้อมจะพูดคุย ให้คำแนะนำ และช่วยเหลือลูกในทุกเรื่อง ชวนลูกพูดคุยเรื่องความรักความสัมพันธ์ และเพศสัมพันธ์ที่ปลอดภัย
- หากลูกบอกว่า ใช้เพื่อมีเพศสัมพันธ์จริง ให้กล่าวชื่นชมที่ลูกรู้จักใช้อุปกรณ์คุมกำเนิด และสอบถามถึงวิธีการ เพื่อเช็กว่า ลูกใช้อย่างถูกวิธีหรือไม่ หากลูกยังมีความเข้าใจคลาดเคลื่อน พ่อแม่สามารถให้ข้อมูลเพิ่มเติม หรือหากพ่อแม่ไม่รู้ไม่เข้าใจ ก็สามารถชักชวนลูกให้หาข้อมูลด้วยกันได้
อย่าลืมว่าการมีความรัก เมื่อถึงจุดหนึ่งอาจจะมีเรื่องของเพศสัมพันธ์เข้ามาเกี่ยวข้อง การสอนลูกให้รู้ตั้งแต่เนิ่น ๆ เพื่อประเมินสถานการณ์ หรือการตัดสินใจที่เหมาะกับตัวเอง ย่อมเป็นเรื่องดีกว่าการดุด่าหรือโวยวายแน่นอนค่ะ เพราะการต่อว่าลูก จะยิ่งเป็นการปิดกั้นการสื่อสาร ทำให้ลูกเกิดความไม่ไว้วางใจ คิดไปเองว่าพ่อแม่ไม่เข้าใจ พ่อแม่คุกคามความเป็นส่วนตัว อาจส่งผลให้ในอนาคต ลูกเลือกที่จะปิดบังไม่ให้พ่อแม่ รับรู้ว่าตัวเองไปไหน ทำอะไร หรือกำลังคบกับใครอยู่ และหากยิ่งอยู่ด้วยความไม่รู้ไปเรื่อย ๆ ในอนาคตอาจจะเกิดพลาดท่า มีปัญหาท้องวัยเรียน หรือติดโรคจากเพศสัมพันธ์ได้ค่ะ
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
ถุงยางแตกทำไง ปัญหาข้องใจวัยรุ่น รับมืออย่างไรเมื่อถุงยางเกิดรั่ว?
คุมกำเนิด แบบไหนดี วิธีคุมกำเนิดอย่างมีประสิทธิภาพ ที่วัยรุ่นควรรู้!
ลูกวัยรุ่น เสียงเล็ก ๆ ที่ต้องรับฟังด้วยหัวใจที่ยิ่งใหญ่
ที่มา : sanook
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!