X
theAsianparent Thailand Logo
theAsianparent Thailand Logo
คู่มือสินค้าเข้าสู่ระบบ
  • อยากท้อง
  • ตั้งครรภ์
    • คำนวณวันคลอด
    • ฉันกำลังตั้งครรภ์
    • ไตรมาสที่ 1
    • ไตรมาสที่ 2
    • ไตรมาสที่ 3
    • Project Sidekicks
    • ตั้งชื่อลูก
    • การให้นมลูก
  • สุขภาพและโภชนาการ
    • โภชนาการ
    • สุขภาพ
  • ลูก
    • ทารกแรกเกิด
    • ทารก
    • เด็กวัยหัดเดิน
    • เด็กก่อนวัยเรียน
    • เด็ก
    • เด็กก่อนวัยรุ่น และวัยรุ่น
  • ชีวิตครอบครัว
    • ความรักและความสัมพันธ์
    • การเลี้ยงลูก
    • มุมคุณพ่อ
    • ประกันชีวิต
    • การวางแผนการเงิน
    • ความรัก และ เซ็กส์
  • การศึกษา
    • เด็กวัยประถม
    • โรงเรียนประถม
    • มัธยมศึกษา
    • แบบฝึกหัดและข้อสอบ
    • แนะแนวการศึกษาต่างประเทศ
  • ไลฟ์สไตล์
    • ดวง
    • ทำนายฝัน
    • สีมงคล
    • บทสวดมนต์
    • ข่าว
    • ดูแลบ้าน
    • แนะนำโดย TAP
    • อีเว้นท์
  • ที่เที่ยว
    • เที่ยวไทย
    • เที่ยวต่างประเทศ
    • ที่พัก และ โรงแรม
  • ที่กิน
    • ร้านอร่อย
    • ร้านอร่อยสำหรับเด็ก
    • คาเฟ่
    • เมนูอาหาร
  • ผู้หญิง
    • แฟชั่น
    • ความงาม
    • ฟิตเนส
  • TAPpedia
  • วิดีโอ
    • การตั้งครรภ์
    • ทารก
    • คำแนะนำในการเลี้ยงลูก
    • การให้นมบุตร
    • อาหารเสริมทารก & โภชนาการ
    • เด็กเล็ก
  • ชอปปิง
  • อีเว้นท์
    • TAP Awards Winners
    • TAP idol
    • TAP x Safari Largest Treasure Hunt
  • #สอนลูกเรื่องเงิน ฉบับพ่อแม่
  • VIP

วิธีพูดคุยกับเด็ก ๆ เกี่ยวกับสงครามโลกครั้งที่สามที่เกิดขึ้นในยูเครน 

28 Feb, 2022
วิธีพูดคุยกับเด็ก ๆ เกี่ยวกับสงครามโลกครั้งที่สามที่เกิดขึ้นในยูเครน 

พ่อแม่ควรรู้ วิธีพูดคุยกับเด็ก ๆ เนื่องจากการพูดคุยถือเป็นสิ่งสำคัญ เมื่อข่าวการรุกรานยูเครนของรัสเซียเพิ่มมากขึ้น ความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ก็เริ่มเพิ่มเช่นกัน ชาวยูเครนหลายร้อนคนกลัวที่จะต้องเสียชีวิต บอริส จอห์นสัน พูดถึง คลื่นแห่งความรุนแรง ได้เตือนผู้นำโลกคนอื่น ๆ ว่า พวกเขาจะต้องเผชิญกับผลที่ตามมามากกว่าที่อื่น ๆ ในประวัติศาสตร์ หากพวกเขาทำไม่สำเร็จ 

 

วิธีพูดคุยกับเด็ก ๆ เกี่ยวกับการรุกรานยูเครนของรัสเซีย

สำหรับผู้ที่อยู่กับความรุนแรงและการโจมตี และสำหรับผู้ที่มีความรู้สึกกลัวและไม่สามารถช่วยเหลือได้อาจเยอะมากขึ้น และสำหรับเด็ก ๆ ที่ต้องมารับรู้เรื่องราวพวกนี้ยิ่งน่ากลัวมากกว่าเดิม 

 

การได้ยินคำพูด เช่น ระเบิด การบุกรุก และสงครามโลกครั้งที่สาม เป็นเรื่องน่าเป็นห่วงสำหรับพวกเราทุกคน และเด็ก ๆ พวกนี้ไม่สามารถเลี่ยงได้ เด็ก ๆ เป็นเหมือนฟองน้ำ และพวกเขากำลังซึมซับทุกอย่าง Tania Taylor นักสะกดจิตบำบัด นักจิตอายุรเวทและผู้ให้คำปรึกษาที่ได้รับรางวัลมากมาย อธิบายว่า ไม่ว่าจะเป็นข่าว มีคนคุยกับผู้หญิงที่จ่ายเงินในร้าน พ่อแม่คุยกันในสนามเด็กเล่น หรือวิดีโอที่ลง TikTok ล่าสุดสิ่งที่พวกเขาได้ยินส่วนใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่ออยู่ที่โรงเรียน อยู่เหนือการควบคุมจากผู้ใหญ่ 

 

รวมถึงปัจจัยภายนอก ที่สามารถกระตุ้นให้เกิดความกลัวเกี่ยวกับสงครามมากขึ้น เด็กจำนวนมากอยู่กับผู้ใหญ่ หรือพี่น้องที่นั่งเล่นคอมพิวเตอร์ และเห็นสงครามต่าง ๆ บนโลกออนไลน์ Tania กล่าว และเธอได้กล่าวต่อว่า คำว่า ระเบิด การบุกรุก อาจไม่คุ้นเคยกับลูกหลานอย่างที่เราคิด ดังนั้นควรระวังคำพูดให้มากขึ้นเมื่ออยู่กับเด็ก ๆ แต่สิ่งที่ดีที่สุด คือคุณสามารถอธิบายให้เด็ก ๆ เข้าใจได้ว่า มีเรื่องราวอะไรเกิดขึ้น และคุณเองก็จะต้องสร้างความมั่นใจให้กับพวกเขา เพื่อที่พวกเขาจะได้รู้สึกอุ่นใจ 

 

ในฐานะพ่อแม่และผู้ปกครอง เราสามารถให้ข้อมูลข้อเท็จจริงทั้งหมดและบอกให้เด็ก ๆ รู้ แต่วิธีนี้บางครั้งก็อาจจะทำให้เด็ก ๆ รู้สึกหนักใจ Tania กล่าว เด็ก ๆ มักจะเก่งเรื่องของการตั้งคำถามที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ถ้าพวกเขาต้องการรู้อะไรบางอย่าง พวกเขาก็จะถาม แต่ถ้าพวกเขาถาม คุณก็จะต้องตอบเขาด้วยความมั่นใจ 

 

ทาเนียแนะนำว่า ก่อนอื่นคุณจะต้องพิจารณาสภาพจิตใจของตัวเองเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้น สิ่งนี้เป็นสิ่งสำคัญแม้ว่าจะโดนเด็ก ๆ ถาม แต่อย่างน้อยคุณก็ต้องเริ่มต้นด้วยการตระหนักรู้ว่าตัวคุณเองกำลังรู้สึกอย่างไร และจะต้องการไปที่ไหน หากคุณกำลังกังวลเกี่ยวกับเรื่องทั้งหมดเป็นพิเศษ อาจเป็นเพราะคุณเลือกที่จะรอจนกว่าถึงเวลาที่คุณรู้สึกกังวลน้อยลงที่จะพูดถึงเรื่องนี้ หรืออาจจะมีการพูดคุยกับผู้ใหญ่คนอื่น ๆ ทาเนียแนะนำอีกว่า คุณจะต้องเริ่มต้นด้วยคำถามที่ไม่เจาะจงจนเกินไป เช่น ลูกได้ยินเรื่องเกี่ยวกับสงครามในโรงเรียนบ้างไหม ? สิ่งที่คุณทำคือการเปิดโอกาสให้บุตรหลานที่กำลังพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้ 

 

ถ้าลูกของคุณสนใจ พวกเขาจะบอกคุณเอง และไม่จำเป็นต้องสนทนาต่อ หากเด็ก ๆ เคยได้ยินเรื่องราวพวกนี้ที่โรงเรียน พวกเขาจะรู้ว่าคุณเองก็รู้เรื่องราวพวกนี้ และมีแนวโน้มที่จะเข้าหาคุณเมื่อพวกเขามีคำถาม และเป็นความคิดที่ดีที่จะสอนให้เด็ก ๆ รู้ว่า หากพวกเขามีคำถาม พวกเขาก็สามารถถามพ่อแม่ได้เช่นกัน 

วิธีพูดคุยกับเด็ก ๆ

พ่อแม่สามารถอธิบายได้ แต่อย่าทำท่าทีตกใจ ! 

การพูดเกี่ยวกับสงคราม มันเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นตามจุดต่าง ๆ ของทั่วโลก การรู้สิ่งนี้สามารถช่วยให้ลูก ๆ ของคุณมีโอกาสได้รับผลกระทบที่ค่อนข้างน้อย แม้ว่าพวกเขาอาจจะต้องพูดคุยกับคุณเกี่ยวกับคนที่ได้รับผลกระทบโดยตรง 

 

การตั้งใจฟัง จะช่วยให้เด็ก ๆ สนใจข้อมูลมากขึ้น 

ทาเนียนกล่าวว่า เทคนิคที่เรียกว่า การฟังอย่างกระตือรือร้น จะช่วยให้เด็ก ๆ สนใจและต้องการข้อมูลมากขึ้น สิ่งที่คุณทำก็คือการให้ความสนใจอย่างเต็มที่กับลูกตลอดการสนทนา ละเลยสิ่งรบกวนต่าง ๆ โฟกัสทั้งหมด ไปที่การพูดของเด็ก ๆ และถ้าคุณไม่รู้คำตอบทั้งหมด อย่ากลัวที่จะพูดคำว่าไม่รู้ 

 

วิธีพูดคุยกับลูกวัยต่าง ๆ 

ทาเนียกล่าวต่อว่า ช่วงนี้อาจเป็นเรื่องน่ากลัวสำหรับเด็ก ๆ หากไม่ได้รับการจัดการอย่างถูกวิธี และมันจะแตกต่างกันไปตามวัย เนื่องจากเด็กทุกคนมีความแตกต่างกัน แต่สิ่งสำคัญคือต้องได้รับการปฏิบัติด้วยความอ่อนโยน และเข้าใจในสิ่งที่เด็กจำเป็นต้องรู้ เด็กวัยนี้จะรู้สึกวิตกกังวลเป็นอย่างมาก พ่อแม่ส่วนใหญ่คิดว่าไม่ควรพูดเรื่องเหล่านี้ เพราะจะยิ่งสร้างความกังวล และทำให้พวกเด็ก ๆ กลัวมากขึ้น 

 

เด็กอายุต่ำกว่า 7 ปี 

เคิร์สตี้กล่าวว่า ฉันคิดว่าไม่น่าเป็นไปได้ที่เด็ก ๆ กลุ่มนี้จะเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างถูกต้อง แต่พวกเขาได้ยินการพูดหรือเห็นข่าวต่าง ๆ สิ่งสำคัญคือ จะต้องทำให้เด็ก ๆ รู้สึกว่าพวกเขาปลอดภัย และสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ได้อยู่ในประเทศเรา อาจจะทำการโชว์พื้นที่ที่เกิดเหตุเพื่ออธิบายให้พวกเขาเข้าใจมากขึ้น 

 

Jacqui O'Connell เป็นผู้นำเยาวชนและผู้ร่วมก่อตั้งมูลนิธิ Spiritus ซึ่งสนับสนุนเด็กโฮมสคูลในลอนดอนตะวันตก สำหรับเด็กเล็ก แนะนำให้อ่านหนังสือเกี่ยวกับความกังวลทั่วไปและวิธีจัดการกับปัญหา เช่น Scared and Worried โดยจิตแพทย์ James J Crist, PhD. จากนั้นคุณพ่อคุณแม่ก็จะสามารถใช้สิ่งนี้กับความกังวลของเด็ก ๆ เกี่ยวกับสถานการณ์กับยูเครนและรัสเซีย

 

บทความจากพันธมิตร
วันเด็กแห่งชาติ ปี 2565 กระทรวง อว. ชวนเจ้าตัวเล็ก ร่วมกิจกรรม Online “ถนนสายวิทยาศาสตร์” ลุ้นเปิด “กล่องสุ่มของเล่น” กระจายความสนุกพร้อมกันทั่วประเทศ
วันเด็กแห่งชาติ ปี 2565 กระทรวง อว. ชวนเจ้าตัวเล็ก ร่วมกิจกรรม Online “ถนนสายวิทยาศาสตร์” ลุ้นเปิด “กล่องสุ่มของเล่น” กระจายความสนุกพร้อมกันทั่วประเทศ
ดีแทค ขอชวนน้อง ๆ มา #เปลี่ยนโลกช่วงปิดเทอม กับ dtac Young Safe Internet Leader Cyber Camp ซีซั่น 3
ดีแทค ขอชวนน้อง ๆ มา #เปลี่ยนโลกช่วงปิดเทอม กับ dtac Young Safe Internet Leader Cyber Camp ซีซั่น 3
ครั้งแรกในไทยฟิลิปส์ เปิดตัวโคมUVCยับยั้งเชื้อโรคแบบตั้งโต๊ะ รองรับตลาดการใช้งานในครัวเรือนและธุรกิจบริการ
ครั้งแรกในไทยฟิลิปส์ เปิดตัวโคมUVCยับยั้งเชื้อโรคแบบตั้งโต๊ะ รองรับตลาดการใช้งานในครัวเรือนและธุรกิจบริการ
จะดีแค่ไหนหากโลกนี้มีของเล่นที่เด็กทุกคนสนุกด้วยกันได้อย่างเท่าเทียม มารู้จักกับ BLIX POP กันเถอะ
จะดีแค่ไหนหากโลกนี้มีของเล่นที่เด็กทุกคนสนุกด้วยกันได้อย่างเท่าเทียม มารู้จักกับ BLIX POP กันเถอะ

เด็กอายุ 8 - 2 ปี 

เคิร์สตี้ กล่าวว่า เด็กเหล่านี้จะได้รับการเรียนรู้เกี่ยวกับสงครามและความขัดแย้งในบทเรียนประวัติศาสตร์ที่โรงเรียน ดังนั้นพวกเขามีความคิดเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น เธอจึงแนะนำให้ดูข่าวNewsround ที่มุ่งเป้าไปที่เด็กอายุ 6-12 ปี ซึ่งอธิบายสิ่งต่างๆ ในลักษณะที่เหมาะสม Newsround ที่มุ่งเป้าไปที่เด็กอายุ 6-12 ปี ซึ่งอธิบายสิ่งต่างๆ ในลักษณะที่เหมาะสม 'ถ้าคุณกังวลว่าจะทำอย่างไรกับสิ่งต่าง ๆ ให้ดูกับลูกของคุณแล้วสนทนาเกี่ยวกับสิ่งที่คุณได้ดู 

 

การพูดคุยกับเด็กอายุ 8 - 12 ปี อย่าถามว่าพวกเขากังวลอะไร เด็กมักจะพยายามทำความเข้าใจอารมณ์ของตัวเอง ซึ่งอาจทำให้เกิดความกังวลมากขึ้น ให้ถามคำถามเพื่อช่วยให้เด็ก ๆ ได้หาทางแก้ไขความกังวลแทนจะดีว่า นอกจากนี้สิ่งสำคัญเลยที่ผู้ปกครองควรทราบคือ เกี่ยวกับสถานการณ์ยูเครนและรัสเซียว่าเด็ก ๆ ได้ยินเรื่องรอบตัวมาว่าอย่างไร 

 

เด็ก 12 ปีขึ้นไป 

เคิร์สตี้แนะนำว่า ให้ถามพวกเขาเกี่ยวกับสิ่งที่รู้มา และให้ความมั่นใจว่าพวกเขาจะไม่เป็นอันตราย ไม่ต้องกังวล ให้เด็ก ๆ รับรู้ว่า คุณจะอยู่ที่นี่เพื่อพูดคุยเรื่องราวต่าง ๆ เพราะเด็กวัยนี้มักเห็นข่าวต่าง ๆ ผ่านสื่อโซเชียล และไม่ได้เป็นข่าวที่ถูกต้องทั้งหมด สำหรับวัยรุ่นนั้น การวิจัยปัญหาระหว่างรัสเซียและยูเครนเป็นสิ่งสำคัญในการศึกษาประวัติศาสตร์ของสงครามในยุโรป และอภิปรายว่าทำไมเราถึงมีสงคราม' Gemma Eni Cherish ผู้สนับสนุนและผู้ก่อตั้งร่วมของ Spiritus กล่าว 

 

เราได้มีการอภิปรายกลุ่มเพื่อให้ทุกคนมีโอกาสแบ่งปันข้อมูล หลังจากสำรวจสิ่งที่เกิดขึ้นจากสาเหตุซึ่งช่วยบรรเทาความกังวลของพวกเราได้ นอกจากนี้จะยิ่งเพิ่มความมั่นใจให้กับเด็ก ๆ ไม่รู้สึกวิตกกังวล และกล้าที่จะพูดคุยมากขึ้น 

 

การสำรวจความคิดเห็นของเด็ก ๆ ที่มูลนิธิเพื่อการศึกษาที่บ้าน Spiritus 

  • เด็ก 11 ขวบ : ฉันไม่อยากรู้อะไรเกี่ยวกับมัน
  • เด็กอายุ 14 ปี : ฉันสนใจด้านการเมือง ถ้ามันอยู่ใกล้บ้านฉันก็อยากจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
  • เด็กชายอายุ 8 ปี : เขารู้แค่เกี่ยวกับสงครามโลกครั้งที่หนึ่งและครั้งที่สอง เขาพบว่ามันน่ากลัวมากที่จะคิดว่าสงครามจะเกิดขึ้นอีกครั้ง
  • เด็กหญิงโปแลนด์วัย 14 ปี : รัสเซียเป็นเพื่อนบ้านของเราและต้องการเป็นที่หนึ่งมาโดยตลอด พวกเขาโลภที่ดิน และถ้าคุณเป็นศัตรู พวกเขาจะพยายามที่จะทำลายคุณ
  • เด็กชายอายุ 12 ปี : นี่เป็นเรื่องที่น่ากลัวสำหรับทุกคน
  • เด็กนักเรียนผู้ลี้ภัยชาวซีเรียวัย 14 ปี : ฉันต้องหนีออกจากประเทศเพราะความตายและสงคราม ฉันรู้สึกปลอดภัยในสหราชอาณาจักร แต่ตอนนี้ รัสเซียจะทำสงครามกับยูเครน ฉันไม่รู้ว่าที่ไหนจะปลอดภัยอีกต่อไป ฉันรู้สึกกลัวกับครอบครัวและฉัน
  • เด็กหญิงอายุ 11 ขวบ : รัสเซียบุกยูเครนแล้ว แต่รัสเซียไม่ต้องการให้ยูเครนเข้าร่วม NATO เพราะถ้าเป็นเช่นนั้น ยูเครนจะได้รับความช่วยเหลือจากส่วนที่เหลือของยุโรปและสหรัฐอเมริกา ทำให้ฉันรู้สึกกังวลในกรณีที่รัสเซียบุกสหราชอาณาจักร รัสเซียวางแผนที่จะทำลายฐานทัพทหารของยูเครนทั้งหมด'
  • เด็กหญิงอายุ 13 ปี : ไม่ใช่เรื่องน่าหัวเราะ ฉันไม่เห็นว่าทำไมพวกเขาถึงต้องบุกประเทศในเมื่อพวกเขามีเป็นของตัวเอง

 

บทความอื่น ๆ ที่คุณอาจจะสนใจ :

5 วิธีปราบคนที่ชอบใช้ คำพูดทำร้ายจิตใจ จนความสัมพันธ์ย่ำแย่

20 คำปลอบลูก ทำอย่างไรให้ลูกหายโกรธ ง่าย ๆ ด้วยคำพูด

14 คำที่ไม่ควรพูดกับพ่อแม่ คำพูดเล็กน้อย แต่ทำร้ายจิตใจไปทั้งชีวิต

ที่มา : 1 

มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!

Follow us on:
facebook-logo instagram-logo tiktok-logo
img
บทความโดย

Nanticha Phothatanapong

  • หน้าแรก
  • /
  • ข่าว
  • /
  • วิธีพูดคุยกับเด็ก ๆ เกี่ยวกับสงครามโลกครั้งที่สามที่เกิดขึ้นในยูเครน 
แชร์ :
  • หมอหดหู่ใจ! แม่ติดยาเสพติดมาคลอดลูก น้ำหนักตัวออกมาแค่ 1.5 กิโล

    หมอหดหู่ใจ! แม่ติดยาเสพติดมาคลอดลูก น้ำหนักตัวออกมาแค่ 1.5 กิโล

  • ครูสั่งนักเรียนถอดรองเท้ายืนตากแดด จนเท้าพอง ! เหตุไม่เชื่อนักเรียนเจ็บเล็บขบ

    ครูสั่งนักเรียนถอดรองเท้ายืนตากแดด จนเท้าพอง ! เหตุไม่เชื่อนักเรียนเจ็บเล็บขบ

  • เจอแล้ว! ภรรยา ตามหาสามีพร้อมลูก หลังเครียดถูกหลอกไปทำงาน ตปท.

    เจอแล้ว! ภรรยา ตามหาสามีพร้อมลูก หลังเครียดถูกหลอกไปทำงาน ตปท.

  • หมอหดหู่ใจ! แม่ติดยาเสพติดมาคลอดลูก น้ำหนักตัวออกมาแค่ 1.5 กิโล

    หมอหดหู่ใจ! แม่ติดยาเสพติดมาคลอดลูก น้ำหนักตัวออกมาแค่ 1.5 กิโล

  • ครูสั่งนักเรียนถอดรองเท้ายืนตากแดด จนเท้าพอง ! เหตุไม่เชื่อนักเรียนเจ็บเล็บขบ

    ครูสั่งนักเรียนถอดรองเท้ายืนตากแดด จนเท้าพอง ! เหตุไม่เชื่อนักเรียนเจ็บเล็บขบ

  • เจอแล้ว! ภรรยา ตามหาสามีพร้อมลูก หลังเครียดถูกหลอกไปทำงาน ตปท.

    เจอแล้ว! ภรรยา ตามหาสามีพร้อมลูก หลังเครียดถูกหลอกไปทำงาน ตปท.

ลงทะเบียนรับคำแนะนำเรื่องการตั้งครรภ์พัฒนาการลูกในท้องได้ที่นี่
  • เตรียมตัวเป็นผู้ปกครอง
    • ก่อนตั้งครรภ์
    • การคลอด
    • ระยะการตั้งครรภ์
    • การคลอด
  • พัฒนาการลูก
    • ทารก
    • เด็กก่อนเข้าเรียน
    • ช่วงวัยของเด็ก
    • เด็กก่อนวัยรุ่น
  • ชีวิตครอบครัว
    • การวางแผนการเงิน
    • การเลี้ยงลูก
    • ความรัก และ เซ็กส์
  • ระยะการตั้งครรภ์
    • ไตรมาส 1
    • ไตรมาส 2
    • ไตรมาส 3
    • นมแม่และนมผง
  • โภชนาการ
    • สินค้าเด็ก
    • นมผง
    • เมนูอาหาร
    • สินค้าแม่
  • เพิ่มเติม
    • TAP สังคมออนไลน์
    • ติดต่อโฆษณา
    • ติดต่อเรา
    • Influencer Marketing (KOL)
    • มาเข้าร่วมกับเรา


  • Singapore flag Singapore
  • Thailand flag Thailand
  • Indonesia flag Indonesia
  • Philippines flag Philippines
  • Malaysia flag Malaysia
  • Sri-Lanka flag Sri Lanka
  • India flag India
  • Vietnam flag Vietnam
  • Australia flag Australia
  • Japan flag Japan
  • Nigeria flag Nigeria
  • Kenya flag Kenya
© Copyright theAsianparent 2023. All rights reserved
เกี่ยวกับเรา |ทีม|นโยบายความเป็นส่วนตัว |ข้อกำหนดการใช้ |แผนผังเว็บไซต์
  • เครื่องมือ
  • บทความ
  • ฟีด
  • โพล

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว

theAsianparent heart icon
เราต้องการส่งแจ้งเตือนข้อมูลข่าวสารไลฟ์สไตล์ที่น่าสนใจไปให้กับคุณ