X
TAP top app download banner
theAsianparent Thailand Logo
theAsianparent Thailand Logo
คู่มือสินค้า
เข้าสู่ระบบ
  • อยากท้อง
  • ระยะการตั้งครรภ์
    • โภชนาการ เเม่ท้อง เเม่ให้นม
    • ไตรมาส 1
    • ไตรมาส 2
    • ไตรมาส 3
    • ตั้งชื่อลูก
  • แม่ผ่าคลอด
    • พัฒนาการเด็กผ่าคลอด
    • เตรียมตัวผ่าคลอด
    • สุขภาพเด็กผ่าคลอด
    • คู่มือคุณแม่ผ่าคลอด
    • การดูแลหลังผ่าคลอด
    • โภชนาการเด็กผ่าคลอด
  • หลังคลอด
    • คลอดธรรมชาติ
    • ผ่าคลอด
    • การให้นมลูก
  • สุขภาพและโภชนาการ
    • โภชนาการ
    • สุขภาพ
  • ลูก
    • ทารกแรกเกิด
    • ทารก
    • เด็กวัยหัดเดิน
    • เด็กก่อนวัยเรียน
    • เด็ก
    • เด็กก่อนวัยรุ่น และวัยรุ่น
  • ชีวิตครอบครัว
    • ความรักและความสัมพันธ์
    • การเลี้ยงลูก
    • มุมคุณพ่อ
    • ประกันชีวิต
    • การวางแผนการเงิน
    • ความรัก และ เซ็กส์
  • การศึกษา
    • เด็กวัยประถม
    • โรงเรียนประถม
    • มัธยมศึกษา
    • แบบฝึกหัดและข้อสอบ
    • แนะแนวการศึกษาต่างประเทศ
  • ผู้หญิง
    • แฟชั่น
    • ความงาม
    • ฟิตเนส
  • ที่เที่ยว
    • เที่ยวไทย
    • เที่ยวต่างประเทศ
    • ที่พัก และ โรงแรม
  • ที่กิน
    • ร้านอร่อย
    • ร้านอร่อยสำหรับเด็ก
    • คาเฟ่
    • เมนูอาหาร
  • ไลฟ์สไตล์
    • ดวง
    • ทำนายฝัน
    • สีมงคล
    • บทสวดมนต์
    • ข่าว
    • ดูแลบ้าน
    • แนะนำโดย TAP
    • อีเว้นท์
  • TAPpedia
  • วิดีโอ
    • การตั้งครรภ์
    • ทารก
    • คำแนะนำในการเลี้ยงลูก
    • การให้นมบุตร
    • อาหารเสริมทารก & โภชนาการ
    • เด็กเล็ก
  • ชอปปิง
  • #สอนลูกเรื่องเงิน ฉบับพ่อแม่
  • VIP

วิธีพูดคุยกับเด็ก ๆ เกี่ยวกับสงครามโลกครั้งที่สามที่เกิดขึ้นในยูเครน 

28 Feb, 2022
วิธีพูดคุยกับเด็ก ๆ เกี่ยวกับสงครามโลกครั้งที่สามที่เกิดขึ้นในยูเครน 

พ่อแม่ควรรู้ วิธีพูดคุยกับเด็ก ๆ เนื่องจากการพูดคุยถือเป็นสิ่งสำคัญ เมื่อข่าวการรุกรานยูเครนของรัสเซียเพิ่มมากขึ้น ความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ก็เริ่มเพิ่มเช่นกัน ชาวยูเครนหลายร้อนคนกลัวที่จะต้องเสียชีวิต บอริส จอห์นสัน พูดถึง คลื่นแห่งความรุนแรง ได้เตือนผู้นำโลกคนอื่น ๆ ว่า พวกเขาจะต้องเผชิญกับผลที่ตามมามากกว่าที่อื่น ๆ ในประวัติศาสตร์ หากพวกเขาทำไม่สำเร็จ 

 

วิธีพูดคุยกับเด็ก ๆ เกี่ยวกับการรุกรานยูเครนของรัสเซีย

สำหรับผู้ที่อยู่กับความรุนแรงและการโจมตี และสำหรับผู้ที่มีความรู้สึกกลัวและไม่สามารถช่วยเหลือได้อาจเยอะมากขึ้น และสำหรับเด็ก ๆ ที่ต้องมารับรู้เรื่องราวพวกนี้ยิ่งน่ากลัวมากกว่าเดิม 

 

การได้ยินคำพูด เช่น ระเบิด การบุกรุก และสงครามโลกครั้งที่สาม เป็นเรื่องน่าเป็นห่วงสำหรับพวกเราทุกคน และเด็ก ๆ พวกนี้ไม่สามารถเลี่ยงได้ เด็ก ๆ เป็นเหมือนฟองน้ำ และพวกเขากำลังซึมซับทุกอย่าง Tania Taylor นักสะกดจิตบำบัด นักจิตอายุรเวทและผู้ให้คำปรึกษาที่ได้รับรางวัลมากมาย อธิบายว่า ไม่ว่าจะเป็นข่าว มีคนคุยกับผู้หญิงที่จ่ายเงินในร้าน พ่อแม่คุยกันในสนามเด็กเล่น หรือวิดีโอที่ลง TikTok ล่าสุดสิ่งที่พวกเขาได้ยินส่วนใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่ออยู่ที่โรงเรียน อยู่เหนือการควบคุมจากผู้ใหญ่ 

 

รวมถึงปัจจัยภายนอก ที่สามารถกระตุ้นให้เกิดความกลัวเกี่ยวกับสงครามมากขึ้น เด็กจำนวนมากอยู่กับผู้ใหญ่ หรือพี่น้องที่นั่งเล่นคอมพิวเตอร์ และเห็นสงครามต่าง ๆ บนโลกออนไลน์ Tania กล่าว และเธอได้กล่าวต่อว่า คำว่า ระเบิด การบุกรุก อาจไม่คุ้นเคยกับลูกหลานอย่างที่เราคิด ดังนั้นควรระวังคำพูดให้มากขึ้นเมื่ออยู่กับเด็ก ๆ แต่สิ่งที่ดีที่สุด คือคุณสามารถอธิบายให้เด็ก ๆ เข้าใจได้ว่า มีเรื่องราวอะไรเกิดขึ้น และคุณเองก็จะต้องสร้างความมั่นใจให้กับพวกเขา เพื่อที่พวกเขาจะได้รู้สึกอุ่นใจ 

 

ในฐานะพ่อแม่และผู้ปกครอง เราสามารถให้ข้อมูลข้อเท็จจริงทั้งหมดและบอกให้เด็ก ๆ รู้ แต่วิธีนี้บางครั้งก็อาจจะทำให้เด็ก ๆ รู้สึกหนักใจ Tania กล่าว เด็ก ๆ มักจะเก่งเรื่องของการตั้งคำถามที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ถ้าพวกเขาต้องการรู้อะไรบางอย่าง พวกเขาก็จะถาม แต่ถ้าพวกเขาถาม คุณก็จะต้องตอบเขาด้วยความมั่นใจ 

 

Advertisement

ทาเนียแนะนำว่า ก่อนอื่นคุณจะต้องพิจารณาสภาพจิตใจของตัวเองเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้น สิ่งนี้เป็นสิ่งสำคัญแม้ว่าจะโดนเด็ก ๆ ถาม แต่อย่างน้อยคุณก็ต้องเริ่มต้นด้วยการตระหนักรู้ว่าตัวคุณเองกำลังรู้สึกอย่างไร และจะต้องการไปที่ไหน หากคุณกำลังกังวลเกี่ยวกับเรื่องทั้งหมดเป็นพิเศษ อาจเป็นเพราะคุณเลือกที่จะรอจนกว่าถึงเวลาที่คุณรู้สึกกังวลน้อยลงที่จะพูดถึงเรื่องนี้ หรืออาจจะมีการพูดคุยกับผู้ใหญ่คนอื่น ๆ ทาเนียแนะนำอีกว่า คุณจะต้องเริ่มต้นด้วยคำถามที่ไม่เจาะจงจนเกินไป เช่น ลูกได้ยินเรื่องเกี่ยวกับสงครามในโรงเรียนบ้างไหม ? สิ่งที่คุณทำคือการเปิดโอกาสให้บุตรหลานที่กำลังพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้ 

 

ถ้าลูกของคุณสนใจ พวกเขาจะบอกคุณเอง และไม่จำเป็นต้องสนทนาต่อ หากเด็ก ๆ เคยได้ยินเรื่องราวพวกนี้ที่โรงเรียน พวกเขาจะรู้ว่าคุณเองก็รู้เรื่องราวพวกนี้ และมีแนวโน้มที่จะเข้าหาคุณเมื่อพวกเขามีคำถาม และเป็นความคิดที่ดีที่จะสอนให้เด็ก ๆ รู้ว่า หากพวกเขามีคำถาม พวกเขาก็สามารถถามพ่อแม่ได้เช่นกัน 

วิธีพูดคุยกับเด็ก ๆ

พ่อแม่สามารถอธิบายได้ แต่อย่าทำท่าทีตกใจ ! 

การพูดเกี่ยวกับสงคราม มันเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นตามจุดต่าง ๆ ของทั่วโลก การรู้สิ่งนี้สามารถช่วยให้ลูก ๆ ของคุณมีโอกาสได้รับผลกระทบที่ค่อนข้างน้อย แม้ว่าพวกเขาอาจจะต้องพูดคุยกับคุณเกี่ยวกับคนที่ได้รับผลกระทบโดยตรง 

 

การตั้งใจฟัง จะช่วยให้เด็ก ๆ สนใจข้อมูลมากขึ้น 

ทาเนียนกล่าวว่า เทคนิคที่เรียกว่า การฟังอย่างกระตือรือร้น จะช่วยให้เด็ก ๆ สนใจและต้องการข้อมูลมากขึ้น สิ่งที่คุณทำก็คือการให้ความสนใจอย่างเต็มที่กับลูกตลอดการสนทนา ละเลยสิ่งรบกวนต่าง ๆ โฟกัสทั้งหมด ไปที่การพูดของเด็ก ๆ และถ้าคุณไม่รู้คำตอบทั้งหมด อย่ากลัวที่จะพูดคำว่าไม่รู้ 

 

วิธีพูดคุยกับลูกวัยต่าง ๆ 

ทาเนียกล่าวต่อว่า ช่วงนี้อาจเป็นเรื่องน่ากลัวสำหรับเด็ก ๆ หากไม่ได้รับการจัดการอย่างถูกวิธี และมันจะแตกต่างกันไปตามวัย เนื่องจากเด็กทุกคนมีความแตกต่างกัน แต่สิ่งสำคัญคือต้องได้รับการปฏิบัติด้วยความอ่อนโยน และเข้าใจในสิ่งที่เด็กจำเป็นต้องรู้ เด็กวัยนี้จะรู้สึกวิตกกังวลเป็นอย่างมาก พ่อแม่ส่วนใหญ่คิดว่าไม่ควรพูดเรื่องเหล่านี้ เพราะจะยิ่งสร้างความกังวล และทำให้พวกเด็ก ๆ กลัวมากขึ้น 

 

เด็กอายุต่ำกว่า 7 ปี 

เคิร์สตี้กล่าวว่า ฉันคิดว่าไม่น่าเป็นไปได้ที่เด็ก ๆ กลุ่มนี้จะเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างถูกต้อง แต่พวกเขาได้ยินการพูดหรือเห็นข่าวต่าง ๆ สิ่งสำคัญคือ จะต้องทำให้เด็ก ๆ รู้สึกว่าพวกเขาปลอดภัย และสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ได้อยู่ในประเทศเรา อาจจะทำการโชว์พื้นที่ที่เกิดเหตุเพื่ออธิบายให้พวกเขาเข้าใจมากขึ้น 

 

Jacqui O’Connell เป็นผู้นำเยาวชนและผู้ร่วมก่อตั้งมูลนิธิ Spiritus ซึ่งสนับสนุนเด็กโฮมสคูลในลอนดอนตะวันตก สำหรับเด็กเล็ก แนะนำให้อ่านหนังสือเกี่ยวกับความกังวลทั่วไปและวิธีจัดการกับปัญหา เช่น Scared and Worried โดยจิตแพทย์ James J Crist, PhD. จากนั้นคุณพ่อคุณแม่ก็จะสามารถใช้สิ่งนี้กับความกังวลของเด็ก ๆ เกี่ยวกับสถานการณ์กับยูเครนและรัสเซีย

 

บทความจากพันธมิตร
ก้าวไปอีกขั้น! PalFish Thailand จัดงานอลัง “ฉลองรับการขยายออฟฟิศใหม่”
ก้าวไปอีกขั้น! PalFish Thailand จัดงานอลัง “ฉลองรับการขยายออฟฟิศใหม่”
แพ็ลฟิชฯ จัดอลัง!! ประชันแข่งขันสุนทรพจน์ภาษาอังกฤษ “PalFish English Speech Contest” - ดัน “UN” ส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs 17)
แพ็ลฟิชฯ จัดอลัง!! ประชันแข่งขันสุนทรพจน์ภาษาอังกฤษ “PalFish English Speech Contest” - ดัน “UN” ส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs 17)
สร้างความแข็งแกร่งของฮีโร่ตัวน้อย ด้วย LPR โพรไบโอติก ตัวดัง
สร้างความแข็งแกร่งของฮีโร่ตัวน้อย ด้วย LPR โพรไบโอติก ตัวดัง
วันเด็กแห่งชาติ ปี 2565 กระทรวง อว. ชวนเจ้าตัวเล็ก ร่วมกิจกรรม Online “ถนนสายวิทยาศาสตร์” ลุ้นเปิด “กล่องสุ่มของเล่น” กระจายความสนุกพร้อมกันทั่วประเทศ
วันเด็กแห่งชาติ ปี 2565 กระทรวง อว. ชวนเจ้าตัวเล็ก ร่วมกิจกรรม Online “ถนนสายวิทยาศาสตร์” ลุ้นเปิด “กล่องสุ่มของเล่น” กระจายความสนุกพร้อมกันทั่วประเทศ

เด็กอายุ 8 – 2 ปี 

เคิร์สตี้ กล่าวว่า เด็กเหล่านี้จะได้รับการเรียนรู้เกี่ยวกับสงครามและความขัดแย้งในบทเรียนประวัติศาสตร์ที่โรงเรียน ดังนั้นพวกเขามีความคิดเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น เธอจึงแนะนำให้ดูข่าวNewsround ที่มุ่งเป้าไปที่เด็กอายุ 6-12 ปี ซึ่งอธิบายสิ่งต่างๆ ในลักษณะที่เหมาะสม Newsround ที่มุ่งเป้าไปที่เด็กอายุ 6-12 ปี ซึ่งอธิบายสิ่งต่างๆ ในลักษณะที่เหมาะสม ‘ถ้าคุณกังวลว่าจะทำอย่างไรกับสิ่งต่าง ๆ ให้ดูกับลูกของคุณแล้วสนทนาเกี่ยวกับสิ่งที่คุณได้ดู 

 

การพูดคุยกับเด็กอายุ 8 – 12 ปี อย่าถามว่าพวกเขากังวลอะไร เด็กมักจะพยายามทำความเข้าใจอารมณ์ของตัวเอง ซึ่งอาจทำให้เกิดความกังวลมากขึ้น ให้ถามคำถามเพื่อช่วยให้เด็ก ๆ ได้หาทางแก้ไขความกังวลแทนจะดีว่า นอกจากนี้สิ่งสำคัญเลยที่ผู้ปกครองควรทราบคือ เกี่ยวกับสถานการณ์ยูเครนและรัสเซียว่าเด็ก ๆ ได้ยินเรื่องรอบตัวมาว่าอย่างไร 

 

เด็ก 12 ปีขึ้นไป 

เคิร์สตี้แนะนำว่า ให้ถามพวกเขาเกี่ยวกับสิ่งที่รู้มา และให้ความมั่นใจว่าพวกเขาจะไม่เป็นอันตราย ไม่ต้องกังวล ให้เด็ก ๆ รับรู้ว่า คุณจะอยู่ที่นี่เพื่อพูดคุยเรื่องราวต่าง ๆ เพราะเด็กวัยนี้มักเห็นข่าวต่าง ๆ ผ่านสื่อโซเชียล และไม่ได้เป็นข่าวที่ถูกต้องทั้งหมด สำหรับวัยรุ่นนั้น การวิจัยปัญหาระหว่างรัสเซียและยูเครนเป็นสิ่งสำคัญในการศึกษาประวัติศาสตร์ของสงครามในยุโรป และอภิปรายว่าทำไมเราถึงมีสงคราม’ Gemma Eni Cherish ผู้สนับสนุนและผู้ก่อตั้งร่วมของ Spiritus กล่าว 

 

เราได้มีการอภิปรายกลุ่มเพื่อให้ทุกคนมีโอกาสแบ่งปันข้อมูล หลังจากสำรวจสิ่งที่เกิดขึ้นจากสาเหตุซึ่งช่วยบรรเทาความกังวลของพวกเราได้ นอกจากนี้จะยิ่งเพิ่มความมั่นใจให้กับเด็ก ๆ ไม่รู้สึกวิตกกังวล และกล้าที่จะพูดคุยมากขึ้น 

 

การสำรวจความคิดเห็นของเด็ก ๆ ที่มูลนิธิเพื่อการศึกษาที่บ้าน Spiritus 

  • เด็ก 11 ขวบ : ฉันไม่อยากรู้อะไรเกี่ยวกับมัน
  • เด็กอายุ 14 ปี : ฉันสนใจด้านการเมือง ถ้ามันอยู่ใกล้บ้านฉันก็อยากจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
  • เด็กชายอายุ 8 ปี : เขารู้แค่เกี่ยวกับสงครามโลกครั้งที่หนึ่งและครั้งที่สอง เขาพบว่ามันน่ากลัวมากที่จะคิดว่าสงครามจะเกิดขึ้นอีกครั้ง
  • เด็กหญิงโปแลนด์วัย 14 ปี : รัสเซียเป็นเพื่อนบ้านของเราและต้องการเป็นที่หนึ่งมาโดยตลอด พวกเขาโลภที่ดิน และถ้าคุณเป็นศัตรู พวกเขาจะพยายามที่จะทำลายคุณ
  • เด็กชายอายุ 12 ปี : นี่เป็นเรื่องที่น่ากลัวสำหรับทุกคน
  • เด็กนักเรียนผู้ลี้ภัยชาวซีเรียวัย 14 ปี : ฉันต้องหนีออกจากประเทศเพราะความตายและสงคราม ฉันรู้สึกปลอดภัยในสหราชอาณาจักร แต่ตอนนี้ รัสเซียจะทำสงครามกับยูเครน ฉันไม่รู้ว่าที่ไหนจะปลอดภัยอีกต่อไป ฉันรู้สึกกลัวกับครอบครัวและฉัน
  • เด็กหญิงอายุ 11 ขวบ : รัสเซียบุกยูเครนแล้ว แต่รัสเซียไม่ต้องการให้ยูเครนเข้าร่วม NATO เพราะถ้าเป็นเช่นนั้น ยูเครนจะได้รับความช่วยเหลือจากส่วนที่เหลือของยุโรปและสหรัฐอเมริกา ทำให้ฉันรู้สึกกังวลในกรณีที่รัสเซียบุกสหราชอาณาจักร รัสเซียวางแผนที่จะทำลายฐานทัพทหารของยูเครนทั้งหมด’
  • เด็กหญิงอายุ 13 ปี : ไม่ใช่เรื่องน่าหัวเราะ ฉันไม่เห็นว่าทำไมพวกเขาถึงต้องบุกประเทศในเมื่อพวกเขามีเป็นของตัวเอง

 

บทความอื่น ๆ ที่คุณอาจจะสนใจ :

5 วิธีปราบคนที่ชอบใช้ คำพูดทำร้ายจิตใจ จนความสัมพันธ์ย่ำแย่

20 คำปลอบลูก ทำอย่างไรให้ลูกหายโกรธ ง่าย ๆ ด้วยคำพูด

14 คำที่ไม่ควรพูดกับพ่อแม่ คำพูดเล็กน้อย แต่ทำร้ายจิตใจไปทั้งชีวิต

ที่มา : metro

มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!

Follow us on:
facebook-logo instagram-logo tiktok-logo
img
บทความโดย

Nanticha Phothatanapong

  • หน้าแรก
  • /
  • ข่าว
  • /
  • วิธีพูดคุยกับเด็ก ๆ เกี่ยวกับสงครามโลกครั้งที่สามที่เกิดขึ้นในยูเครน 
แชร์ :
  • คนไทยไม่ปั๊มลูกแล้วจ้า! ไทยติดโผประเทศที่มี อัตราการเกิดลดลง อันดับ 3 ของโลก ในรอบ 74 ปี

    คนไทยไม่ปั๊มลูกแล้วจ้า! ไทยติดโผประเทศที่มี อัตราการเกิดลดลง อันดับ 3 ของโลก ในรอบ 74 ปี

  • สลด! เด็ก 2 ขวบหัวติดราวเตียง ดิ้นรนนาน 26 นาที ก่อนดับกลางเนอสเซอรี่

    สลด! เด็ก 2 ขวบหัวติดราวเตียง ดิ้นรนนาน 26 นาที ก่อนดับกลางเนอสเซอรี่

  • เคาะ! ร่าง พ.ร.บ.ความรุนแรงในครอบครัว ฉบับแก้ไข เพิ่มโทษปรับ 10 เท่า!

    เคาะ! ร่าง พ.ร.บ.ความรุนแรงในครอบครัว ฉบับแก้ไข เพิ่มโทษปรับ 10 เท่า!

  • คนไทยไม่ปั๊มลูกแล้วจ้า! ไทยติดโผประเทศที่มี อัตราการเกิดลดลง อันดับ 3 ของโลก ในรอบ 74 ปี

    คนไทยไม่ปั๊มลูกแล้วจ้า! ไทยติดโผประเทศที่มี อัตราการเกิดลดลง อันดับ 3 ของโลก ในรอบ 74 ปี

  • สลด! เด็ก 2 ขวบหัวติดราวเตียง ดิ้นรนนาน 26 นาที ก่อนดับกลางเนอสเซอรี่

    สลด! เด็ก 2 ขวบหัวติดราวเตียง ดิ้นรนนาน 26 นาที ก่อนดับกลางเนอสเซอรี่

  • เคาะ! ร่าง พ.ร.บ.ความรุนแรงในครอบครัว ฉบับแก้ไข เพิ่มโทษปรับ 10 เท่า!

    เคาะ! ร่าง พ.ร.บ.ความรุนแรงในครอบครัว ฉบับแก้ไข เพิ่มโทษปรับ 10 เท่า!

ลงทะเบียนรับคำแนะนำเรื่องการตั้งครรภ์พัฒนาการลูกในท้องได้ที่นี่
  • เตรียมตัวเป็นผู้ปกครอง
  • พัฒนาการลูก
  • ชีวิตครอบครัว
  • ระยะการตั้งครรภ์
  • โภชนาการ
  • ไลฟ์สไตล์
  • TAP สังคมออนไลน์
  • ติดต่อโฆษณา
  • ติดต่อเรา
  • Influencer Marketing (KOL)
  • มาเข้าร่วมกับเรา


  • Singapore flag Singapore
  • Thailand flag Thailand
  • Indonesia flag Indonesia
  • Philippines flag Philippines
  • Malaysia flag Malaysia
  • Vietnam flag Vietnam
© Copyright theAsianparent 2025. All rights reserved
เกี่ยวกับเรา |ทีม|นโยบายความเป็นส่วนตัว |ข้อกำหนดการใช้ |แผนผังเว็บไซต์
  • เครื่องมือ
  • บทความ
  • ฟีด
  • โพล

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว