ช่วงเวลาประมาณ 07.00 น. มีรายงานว่า โรงงานกิ่งแก้วไฟไหม้ ไฟสงบแล้วเช้านี้ แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่อนุญาตให้เข้าพื้นที่ ต้องรอยืนยันอีกทีว่าไฟจะไม่ปะทุขึ้นมาอีกครั้ง หลังจากที่เมื่อคืนช่วงหัวค่ำมีไฟโหมหนักอีกครั้ง จนเจ้าหน้าที่จะต้องถอยกำลังออกมา ก่อนเริ่มปฏิบัติการอีกครั้งในช่วงกลางดึก เจ้าหน้าที่เร่งเข้าปิดวาล์วจนทำให้ไฟสงบลง
ล่าสุดที่มีการอัปเดตเมื่อเวลา 07.30 น. ของเช้าวันที่ 6 ก.ค. มีรายงานว่าจากสำนักข่าวรีพอร์ทเตอร์ว่ามีการดับไฟขึ้นอีกครั้งหลังจากที่มีการปะทุขึ้นอีกครั้งในตอนเช้า พบว่ามีเปลวไฟและควันจำนวนมากลอยขึ้นมาเหนืออากาศก่อนที่เจ้าหน้าที่จะเร่งกำลังดับไฟได้ในที่สุด ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ยังไม่มีการยืนยันว่าจะเกิดเพลิงไหม้อีกหรือไม่ โดยจะต้องเฝ้าระวังกันต่อไป
โรงงานกิ่งแก้วไฟไหม้ ไฟปะทุอีกครั้ง แต่ดับได้แล้ว (ขอบคุณภาพจาก The Reporters)
โดยเมื่อคืนช่วงเวลาประมาณ 23.59 ของวันที่ 5 ก.ค หรือเกือบจะ 10 ชั่วโมงหลังจากทีการไฟไหม้โรงงานกิ่งแก้ว เจ้าหน้าที่เข้าควบคุมเพลิงได้แล้วหลังจากปิดวาล์วของบ่อสารเคมีที่เป็นต้นเหตุของไฟได้สำเร็จ และมีการฉีดโฟมเพื่อระงับไฟอีกครั้ง เพื่อป้องกันการปะทุอีกครั้ง แต่ยังไม่มีการประกาศให้ประชาชนที่อยู่ในรัศมี 5 กิโลเมตรกลับเข้ามาในพื้นที่ เพื่อความปลอดภัยของประชาชน
โรงงานกิ่งแก้วไฟไหม้ กลางดึกวันที่ 5 ก.ค. (ขอบคุณภาพจาก sanook.com)
ทามไลน์ของการเกิดโรงงานกิ่งแก้วไฟไหม้
เสียงระเบิดดังสนั่น โรงงานกิ่งแก้วไฟไหม้ เมื่อเวลา 03.10 ของวันที่ 5 ก.ค. ที่ผ่านมา ทำเอาประชาชนแตกตื่น ซึ่งเหตุเกิดที่บริเวณถนนกิ่งแก้ว บางพลี ชาวบ้านละแวกใกล้เคียงได้ยินเสียง และแรงสั่นสะเทือนเป็นวงกว้าง บ้านเรือน อาคารให้บริเวณโดยรอบได้รับความเสียหาย กระจกแตก หลังคาพังกันเป็นแถบ ๆ
บริษัทหมิงตี้ เคมีคอล จำกัด ในซอยกิ่งแก้ว 21 ต.ราชาเทวะ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ เกิดเหตุระเบิดกลางดึก เจ้าหน้าที่รีบเข้าควบคุมเพลิง แต่ขณะนี้ยังไม่สามารถควบคุมเพลิงได้ เนื่องจากเป็นโรงงานผลิตเม็ดโฟม และเม็ดพลาสติกขนาดใหญ่ เจ้าหน้าที่เร่งคุมเพลิงตั้งแต่ช่วงตีสาม จนตอนนี้มากกว่า 6 ชั่วโมงแล้วก็ยังไม่สามารถควบคุมได้ จึงได้มีการแจ้งเตือนประชาชนในรัศมี 5 กิโลเมตรอพยพออกจากพื้นที่โดยเร็ว เนื่องจากมีรายงานว่าด้านใต้ของพื้นโรงงานมีถังสารเคมีขนาดใหญ่น้ำหนัก 20,000 ลิตรอยู่ ซึ่งถ้ายังไม่มีการดับไฟได้อาจมีการปะทุและเกิดระเบิดขึ้นอีกครั้ง
สถานที่สำคัญในพื้นที่รัศมี 5 กิโลเมตรจากจุดเกิตเหตุ (ขอบคุณภาพจาก one31)
เนื่องจากสถานที่เกิดเหตุอยู่ใกล้กับสนามบินสุวรรณภูมิ ยังไม่มีรายงานว่าสนามบินยังให้บริการบินขึ้น และลงอย่างปกติ เนื่องจากกลุ่มควันที่เกิดขึ้นไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อการบิน แต่ตอนนี้ก็ยังอยู่ในช่วงของการเฝ้าระวัง ถ้าหากมีการระเบิดเกิดขึ้นอีกครั้งอาจส่งผลทำให้จะต้องหยุดการบินทั้งหมด และแรงสั่นสะเทือนจากการระเบิดอาจทำให้รันเวย์นั้นแตกหรือร้าวได้ ซึ่งในขณะนี้นายกิตติพงศ์ กิตติขจร รองผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ สายปฏิบัติการ 1 บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด มหาชน (ทอท. ได้ร่วมกับบริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทยจำกัด (บวท.) ซึ่งเป็นหน่วยให้บริการจราจรทางอากาศ ทำการเฝ้าระวังและประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
ความเสียหายของบ้านเรือนประชาชน (ขอบคุณภาพจาก sanook.com)
ความคืบหน้าของเหตุ โรงงานกิ่งแก้วไฟไหม้ ในช่วงเวลา 12.00 ที่ผ่านมา ไฟโหมหนักอีกครั้งจากการระเบิดจากสารเคมีที่รั่วไหลออกมาทำให้มีเจ้าหน้าที่ดับเพลิงที่ปฏิบัติหน้าที่ถูกไฟคลอก ทำให้มีเจ้าหน้าที่จำนวน 3 รายบาดเจ็บสาหัส และเสียชีวิตจำนวน 1 ราย ทั้งนี้เจ้าหน้าที่บาดเจ็บได้ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลเพื่อทำการรักษาตัวเรียบร้อยแล้ว ส่วนเจ้าหน้าที่ได้เร่งประสานงานให้ผู้ไม่เกี่ยวข้องออกจากพื้นที่โดยเร็ว และในช่วงเวลา 12.45 มีรายงานว่า “หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ดับเพลิง ซึ่งปฏิบัติงานในพื้นที่โรงงานถอนกำลังออกแล้ว เรื่องจากไฟกำลังเข้าใกล้ถังน้ำมัน”
ข้อมูลอัปเดตสำหรับความเสียหาย โรงงานกิ่งแก้วไฟไหม้ เวลา 13.00 มีดังต่อไปนี้
- เจ้าหน้าที่บาดเจ็บ 11 ราย
- เจ้าหน้าที่เสียชีวิต 1 ราย
- พลเรือนบาดเจ็บ 15 ราย
- บ้านพักเสียหาย 70 หลัง
- รถยนต์เสียหาย 15 คัน
เพื่อความสบายใจของประชาชนสามารถเช็กรัศมีของการระเบิด และพื้นที่อันตรายได้ที่
https://mapdemo.longdo.com/fire-soi-king-kaew/
บทความที่น่าสนใจ :
ไฟไหม้!!! รู้วิธีเอาตัวรอด ก่อนจะถูกไฟคลอกทั้งแม่ทั้งลูก
ทริค เอาตัวรอด จากเหตุการณ์อันตราย สอนให้ลูกรักปลอดภัยจากเหตุการณ์ร้าย
วิธีสอนลูกเอาตัวรอดเมื่อติดอยู่ในรถ พ่อแม่อย่ารอให้สายเกินไปแล้วค่อยคิดได้ (มีคลิป)
ที่มา : sanook, one31, facebooknakonyod45, facebookTheReportersTH
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!