อีกหนึ่งเรื่องราวสลด ของสาววัย 38 ปี ได้กระโดดจากสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสพระโขนง เซ่นพิษโควิด โดยเจ้าตัวได้เขียนจดหมายลาตายไว้ 2 ฉบับ ตัดพ้อชีวิตตั้งแต่ติดโควิด ทำให้ตกงาน และหมดอนาคต เป็นอีกหนึ่งชีวิตที่ต้องจากไป เซ่นพิษโควิด ที่ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ สถานการณ์แบบนี้จะจบลง
เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 21 มิ.ย. ได้มีการแจ้งเหตุว่ามีหญิงสาวกระโดดลงมาจากสถานีรถไฟฟ้า BTS พระโขนง ถนนสุขุมวิท แขวงพระโขนง เขตคลองเตย โดยมี ร.ต.อ.พลากร ถนอมพันธ์ รอง สว.(สอบสวน) สน.คลองตัน เป็นผู้รับเรื่อง
เซ่นพิษโควิด สาวตกงานกระโดดจาก BTS ดับชีวิต
เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพร้อมกับมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ก็ได้พบร่างของหญิงสาวรายหนึ่ง นอนแน่นิ่งอยู่บริเวณพื้นถนน โดยเธอสวมใส่เสื้อเสื้อยืดสีดำ และมีแจ็กเก็ตยีนสีเทาสวมทับ กางเกงขายาวสีดำ และรองเท้าผ้าใบสีดำ และมีบาดแผลฉกรรจ์บริเวณศีรษะ ซึ่งคาดว่าเกิดจากการที่เธอกระโดดลงมาจากลานบีทีเอส
ผู้ที่พบเห็นเหตุการณ์ ได้พยายามเข้าไปช่วยเหลือ โดยการทำก CPR แต่เนื่องจากผู้บาดเจ็บมีอาการสาหัส จึงรีบประสานรถรพ.จุฬาฯ เพื่อมารับตัวผู้บาดเจ็บนำส่ง รพ.ตำรวจ ก่อนจะเสียชีวิตในเวลาต่อมา
จากการตรวจสอบ ได้พบจดหมายลาตายของ นส.นงนุช อยู่ที่ตัว 2 ฉบับ โดยฉบับหนึ่งได้กล่าวถึงพ่อแม่ของตนและขออโหสิกรรม ส่วนอีกฉบับ ได้กล่าวถึงตำรวจนายหนึ่ง ซึ่งคาดว่าจะเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดเรื่องราวนี้ขึ้น
โดยเนื้อหาใจความหลักได้กล่าวว่าตนเองนั้นได้ติดเชื้อโควิด จนทำให้ส่งผลกระทบถึงหน้าที่การงาน จนเกิดความท้อแท้ ซึ่งน่าจะเป็นเหตุจูงใจหลัก ให้เกิดโศกนาฎกรรมในครั้งนี้
จดหมายลาตาย 2 ฉบับ ที่อยู่ติดตัวผู้เสียชีวิต
เบื้องต้นทางตำรวจ ได้ทำการตรวจสอบกล้องวงจรปิด แล้วจึงติดต่อประสานญาติให้รับทราบ และทำการสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง
นอกจากนี้ทางเจ้าหน้าที่ยังคงเป็นห่วงผู้คนที่เข้าไปช่วยเหลือ และมุงดูเหตุการณ์ว่าอาจจะมีความเสี่ยงในการติดเชื้อโควิด จึงแนะนำให้ไปทำการตรวจสอบหาเชื้อโควิด-19 เพื่อความปลอดภัย
แม้ว่าภายหลังจะพบว่า ผู้ตายเคยติดเชื้อโควิด และทำการรักษาอาการตามขั้นตอน จนกระทั่งแพทย์ได้อนุญาตให้กลับบ้านได้ ส่วนจะหายดีหรือไม่นั้น ยังคงต้องรอผลตรวจชันสูตรพลิกศพ ยืนยันอีกครั้งหนึ่ง
ทางด้านญาติของทางฝ่ายน.ส.นงนุช ไม่ได้ติดใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะคาดว่า ผู้เสียชีวิต อาจจะเกิดความเครียดสะสม อีกทั้งน่าจะมีปัญหาส่วนตัวรุมเร้า จนทำให้เกิดความกดดัน ส่วนสาเหตุหลัก จะมาจากการติดเชื้อโควิด-19 หรือไม่นั้น ไม่มีใครสามารถยืนยันได้
ในกรณี ผู้หมวด ที่ถูกอ้างชื่อในจดหมายลาตายนั้น หลังจากสืบสวนแล้วพบว่า เป็นตำรวจในสังกัดกองบัญชาการตำรวจนครบาลแห่งหนึ่ง ที่ยังคงปฏิบัติหน้าที่ตามปกติทุกวัน และยังได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ครบแล้วทั้ง 2 เข็ม แต่จากข้อมูลข้างต้น ทำให้ทางผู้บังคับบัญชา มีคำสั่งให้นายตำรวจคนดังกล่าว เข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 อีกครั้งหนึ่ง และขณะนี้ยังคงอยู่ระหว่างการรอผล
ที่มา : dailynews
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
เด็กอนุบาลติดเชื้อโควิด -19 โรงเรียนสั่งกักตัวเพื่อนร่วมห้อง ปิดโรงเรียนด่วน
สุดกลั้น! นร. ติดโควิด หลังเปิดเทอม 2 วัน ต้องโบกมือลาพ่อแม่
เฝ้าระวัง หลังพบ ผู้ติดเชื้อโควิดสายพันธุ์อินเดีย 10 ราย ที่โรงพยาบาลในกรุงเทพฯ
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!