เด็กชายวัย 10 ปี หมอจ่ายยาผิดเตียง ภายหลังฟื้นแล้ว โดยแม่วัย 35 ปี เล่าเหตุการณ์ ลูกชายวัย 10 ขวบ นอนรักษา รพ.ด้วยโรคไต เจอหมอจ่ายยากินรวดเดียว 14 เม็ด หลับยาวเกือบไม่ฟื้น โรงพยาบาลยอมรับผิดทั้งหมดจ่ายยาผิดเตียง พร้อมปรับปรุง
ด้าน แม่ เผย ครอบครัวไม่ติดใจ จากกรณีคุณแม่ชาว อ.ปะคำ จ.บุรีรัมย์ โดยโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ว่าลูกชายวัย 10 ปี นอนรักษาอาการป่วยด้วยโรคไตที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง เป็นวันที่ 5 แต่เกิดเหตุหมอจ่ายยาผิด กินรวดเดียว 14 เม็ด จนทำให้นอนหลับไม่รู้สึกตัวทั้งวัน กระทั่ง ทราบว่ายาที่เพิ่มมาเป็นยานอนหลับ ซึ่งเป็นของคนไข้เตียงข้างกัน
ดช.10 ขวบ ถูกสั่งกินยา 14 เม็ด เกือบหลับยาว
โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นเพราะ คุณแม่โพสต์ข้อความผ่านเฟสบุ๊กส่วนตัว พร้อมเขียนข้อความระบุว่า “หมิงซันกินยานอนหลับไป 8 เม็ด รวมยาลดความดันและอื่นๆ อีกรวม 14 เม็ด คุณยายเป็นคนเฝ้าหลาน กินยาหลังอาหาร ไป 14 เม็ด ยายก็ไม่แน่ใจก็ถามพยาบาลอีกครั้งว่าต้องกินทั้งหมดเลยเหรอ หมอก็บอกต้องกินทั้งหมด
หมิงซันนอนหลับตั้งแต่ 3 โมงครึ่งกระทั่งถึงตอนนี้ไม่ตื่นเลย หมอกลับโทษยายที่ไม่ถามหมอ กลับว่าเราทำไมไม่ทักท้วง ถ้าเห็นยามันเยอะ หมอไม่โทษตัวเองเลยเหรอ มันเป็นความสะเพร่าของหมอไหม แล้วหมิงซันเป็นโรคไต ความดันสูงขึ้นมา ทั้งๆ ที่เมื่อเช้าความดันปกติแล้วแบบนี้ใครผิดเหรอ”
โดย รายการเรื่องเล่าเช้านี้ ทางช่อง 3 รายงานว่า นางสาวสุพัตร อายุ 35 ปี เป็นแม่ของ ด.ช.ธีรโชติ หรือ น้องหมิงซัน อายุ 10 ปี เรียนอยู่ชั้น ป.4 เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ลูกชายมีอาการแน่นหน้าอก จึงพาไปหาหมอ และพบว่าป่วยเป็นโคไต จึงนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลดังกล่าว ในแต่ละวันหมอจะเอายามาให้ลูกชายกินเวลาละประมาณ 6 เม็ด
ซึ่งเป็นวันที่ 5 ของการนอนโรงพยาบาล ตนกลับบ้านให้แม่ตัวเองเป็นคนเฝ้าหลาน พอกลับไปที่โรงพยาบาล เวลาประมาณบ่าย 2 โมง พบว่าลูกชายนอนหลับสนิทไม่มีท่าทีจะตื่น จึงถามแม่ซึ่งเป็นยายของเด็กว่า ทำไมหลานไม่ตื่น
แม่ตนบอกว่าไม่รู้ รู้เพียงว่าวันนี้หมอเอายามาให้หลานกินมากกว่าทุกวันคือ 14 เม็ด ด้วยความแปลกใจแม่ของตนจึงเดินไปถามหมอว่า “วันนี้ทำไมยาเยอะจังต้องกินหมดเหรอ” ได้รับคำตอบจากพยาบาลว่า “กินให้หมด” จึงเอายาให้หลานกินหลังอาหารเช้าทั้งหมด 14 เม็ด
จากนั้นกลับไปถามหมออีกครั้ง หมอจึงยอมรับว่า “จ่ายยาผิดเตียง” แล้วมาถามแม่ตัวเองว่าทำไมไม่แจ้ง เท่ากับลูกชายกินยาของตัวเอง 6 เม็ด แล้วกินยานอนหลับของเตียงข้างกันอีก 8 เม็ด แต่ตอนนี้ลูกชายฟื้นแล้ว ถือเป็นความโชคดี โดยทั้งนี้ การโพสต์ในครั้งนี้ ทางด้านคุณแม่ไม่ได้จะเอาผิดหมอและรพ. แต่อยากให้เป็นการแจ้งเตือน หากจ่ายผิดในลักษณะนี้อีก แล้วมีผลข้างเคียงถึงชีวิต จะเกิดผลร้ายมากกว่านี้ จึงขอแจ้งไว้เป็นอุทาหรณ์ค่ะ
ที่มา : sanook khaosod.
บทความประกอบ: เล็บสุขภาพดี มีลักษณะอย่างไร? สิ่งใกล้ตัวที่ไม่ควรมองข้าม
ประกันสุขภาพ แบบนอนโรงพยาบาล แบบไหนคุ้มค่าที่สุด
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!