TAP top app download banner
theAsianparent Thailand Logo
theAsianparent Thailand Logo
คู่มือสินค้า
เข้าสู่ระบบ
  • TAP Awards 2025
  • อยากท้อง
  • แม่ท้อง แม่ให้นม
    • ระยะการตั้งครรภ์
    • โภชนาการเเม่ท้อง
    • โภชนาการแม่ให้นม
    • ตั้งชื่อลูก
    • พัฒนาการสมอง
  • แม่ผ่าคลอด
    • พัฒนาการเด็กผ่าคลอด
    • เตรียมตัวผ่าคลอด
    • สุขภาพเด็กผ่าคลอด
    • คู่มือคุณแม่ผ่าคลอด
    • การดูแลหลังผ่าคลอด
    • โภชนาการเด็กผ่าคลอด
  • หลังคลอด
    • คลอดธรรมชาติ
    • ผ่าคลอด
    • การให้นมลูก
  • สุขภาพและโภชนาการ
    • โภชนาการ
    • สุขภาพ
  • ลูก
    • ทารกแรกเกิด
    • ทารก
    • เด็กวัยหัดเดิน
    • เด็กก่อนวัยเรียน
    • เด็ก
    • เด็กก่อนวัยรุ่น และวัยรุ่น
  • ชีวิตครอบครัว
    • ความรักและความสัมพันธ์
    • การเลี้ยงลูก
    • มุมคุณพ่อ
    • ประกันชีวิต
    • การวางแผนการเงิน
    • ความรัก และ เซ็กส์
    • #สอนลูกเรื่องเงิน ฉบับพ่อแม่
    • TAPpedia
  • การศึกษา
    • เด็กวัยประถม
    • โรงเรียนประถม
    • มัธยมศึกษา
    • แบบฝึกหัดและข้อสอบ
    • แนะแนวการศึกษาต่างประเทศ
  • ผู้หญิง
    • แฟชั่น
    • ความงาม
    • ฟิตเนส
  • ไลฟ์สไตล์
    • ที่เที่ยว
    • ที่กิน
    • ดวง
    • ทำนายฝัน
    • สีมงคล
    • บทสวดมนต์
    • ข่าว
    • ดูแลบ้าน
    • แนะนำโดย TAP
    • อีเว้นท์
  • วิดีโอ
    • การตั้งครรภ์
    • ทารก
    • คำแนะนำในการเลี้ยงลูก
    • การให้นมบุตร
    • อาหารเสริมทารก & โภชนาการ
    • เด็กเล็ก
  • ชอปปิง
  • VIP

ทำร้ายลูกบุญธรรมวัย 16 เดือนจนเสียชีวิต จนเกิดแฮสแท็ก #จองอินจ๋า...ขอโทษนะ

13 Jun, 2021
ทำร้ายลูกบุญธรรมวัย 16 เดือนจนเสียชีวิต จนเกิดแฮสแท็ก #จองอินจ๋า...ขอโทษนะ

ย้อนกลับไปเมื่อต้นปี ในช่วงค่ำคืนของวันที่ 3 มกราคมที่ผ่านมา บนแพลตฟอร์มออนไลน์ Naver.co.kr ของประเทศเกาหลีใต้ ได้เกิดแฮชแท็ก #정인아_미안해 #ขอโทษนะจองอิน ขึ้นติดเทรนด์อย่างรวดเร็ว เนื่องจากข่าวการ ทำร้ายลูกบุญธรรมวัย 16 เดือนจนเสียชีวิต ได้ถูกเปิดเผยออกทางรายการ 그것이 알고싶다 (Unanswered Questions) ทางช่อง SBS

 

จองอินจ๋า...ขอโทษนะ

ข่าวการเสียชีวิตของเด็กน้อยวัย 16 เดือน ได้ถูกเปิดเผย

 

เหตุการณ์สลดนี้ เกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงวันที่ 13 ตุลาคม ปี 2563 แต่ได้กลับมาเป็นที่สนใจของผู้คนจำนวนมากอีกครั้งเมื่อรายการดังทางช่อง SBS ของทางเกาหลีใต้ได้นำเสนอเกี่ยวกับคดี ทำร้ายลูกบุญธรรมวัย 16 เดือนจนเสียชีวิต จนเกิดแฮสแท็ก “#ขอโทษนะ_จองอิน” เพื่อแสดงความไว้อาลัย และเรียกร้องให้รื้อคดีนี้ขึ้นมาสอบสวนอีกครั้งหนึ่ง

 

ย้อนรอยจองอินผู้น่าสงสาร

จองอินเกิดเมื่อปี 2562 หลังจากที่เธอเกิดได้เพียง 8 วัน ก็ถูกนำมาทิ้งไว้ที่หน้าโบสถ์แห่งหนึ่ง จนทำให้เธอจะต้องเติบโตมาในสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่จองอินก็เติบโตมา ด้วยความร่าเริงสดใสตามวัย จนเป็นที่รักของทุกคนในสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้า

จนกระทั่งในเดือนกุมภาพันธ์ 2563 จองอินอายุ 7 เดือนก็ได้ถูกครอบครัวสกุลจาง รับเธอไปอุปการะจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าในกรุงโซล เมื่อเดือน มีนาคม 2563 ในขณะที่ครอบครัวของพวกเขาก็มีลูกสาววัย 4 ขวบอยู่แล้ว 1 คน

 

จองอินจ๋า...ขอโทษนะ

ครอบครัวจาง และจองอิน

 

เนื่องจากครอบครัวคุณจางนั้น มีพื้นฐานการศึกษา หน้าที่การงาน และสถานะทางการเงินที่ดี การขอรับเลี้ยงลูกบุญธรรม จึงเป็นไปอย่างราบรื่น การรับเลี้ยงดูจองอินนั้น ทำให้ครอบครัวจาง ได้รับค่าเลี้ยงดูจากทางภาครัฐจำนวน 1 ล้านวอน (ประมาณ 3 หมื่นบาทไทย) ยังได้รับเบี้ยเลี้ยงแต่ละเดือนอีก 250,000 วอน (ประมาณ 7,500 บาท)

อีกทั้งครอบครัวนี้ยังได้รับเชิญให้ไปออกรายการโทรทัศน์ ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับการรับเลี้ยงลูกบุญธรรม และครอบครัวจางก็เป็นอีกหนึ่งครอบครัว ที่ได้รับความชื่นชมว่าเป็นครอบครัวตัวเอย่าง โดยนายจางให้เหตุผลว่า “ลูกสาวของตนรู้สึกเหงา และอยากมีน้องสาวมาโดยตลอด จึงเป็นสาเหตุให้รับเลี้ยงบุตรบุญธรรม”

หลังจากที่ครอบครัวจางได้รับ จองอิน ไปดูแลได้ไม่นาน รอยยิ้มที่สดใสของเด็กน้อย ก็เริ่มจางหายไป จนครูที่สถานรับเลี้ยงเด็กเริ่มสังเกตถึงความผิดปกติที่เกิดขึ้น เนื่องจากจองอินดูไม่ค่อยมีความสุข มีความหวาดระแวง ไม่ค่อยเล่น หรือสนใจทำกิจกรรมในชั้นเรียน

 

จองอินจ๋า...ขอโทษนะ

อ้อมกอดของคุณครู น่าจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุดในชีวิตของจองอิน

 

ก่อนวันที่เกิดเหตุ ครูผู้ดูแลจองอินได้พบว่า ช่วงท้องของจองอินนั้นมีอาการผิดปกติ จึงแนะนำทางคุณพ่อให้นำส่งโรงพยาบาลเพื่อทำการรักษา แต่ก็ไม่ได้รับความสนใจจากนายจางผู้เป็นพ่อแต่อย่างใด

โดยตลอดมา ทางครูผู้ดูแลสันนิษฐานว่า น่าจะมีการทารุณกรรมเด็ก จึงได้เข้าแจ้งความกับทางตำรวจท้องที่ แต่ก็ไม่มีการดำเนินคดีแต่อย่างใด เนื่องจากทางพ่อแม่บุญธรรมได้อ้างว่า รอยแผลที่เกิดขึ้นนั้น เป็นร่องรอยที่เกิดจากการเล่นของพี่สาวคนโต และจองอิน ทำให้ทางตำรวจไม่ได้ใส่ใจมากนัก

 

การจากไปของจองอิน

เวลาล่วงเลยมาถึงช่วงเดือนตุลาคม 2563 ขณะนี้จองอินมีอายุได้ 1 ขวบ 4 เดือน จองอินได้ถูกนำส่งโรงพยาบาลฝั่งตะวันตกของกรุงโซล ในสภาพบอบช้ำทั้งตัว กระดูกแตกหัก และอวัวยะภายในเสียหาย

และผลการชันสูตรก็ถูกเปิดเผยว่า จองอิน เสียชีวิตด้วยภาวะเลือดตกภายในช่องท้อง กระดูกหัก กระโหลกศีรษะได้รับการกระแทกอย่างรุนแรง อีกทั้งอวัยวะภายในหลายส่วนได้รับความเสียหาย โดยทางผู้ก่อเหตุได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาทั้งหมด โดยอ้างว่า “มันเป็นเพียงแค่อุบัติเหตุ” แต่ทางเจ้าหน้าที่ชันสูตร และบุคลากรทางการแพทย์ ต่างลงความเห็นเป็นเสียงเดียวกันว่า “สิ่งที่เกิดขึ้นนี้ เป้นการทำร้ายร่างกายเด็ก และมันคือการฆาตกรรม”

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ : คิดให้ดีก่อนมีสามีใหม่ อุทาหรณ์คดีพ่อเลี้ยงทำร้ายลูกจนดับ แถมแม่แท้ๆ กลับไม่เอาเรื่อง

 

3 โอกาสทางรอดของจองอิน

จองอินจ๋า...ขอโทษนะ
บทความจากพันธมิตร
สถาบันอาทิตย์ อุไรรัตน์ ร่วมกับแสนสิริ สร้างมิติใหม่ให้วงการศึกษาไทย เชื่อมโยงนักเรียนสู่โลกการทำงานจริง
สถาบันอาทิตย์ อุไรรัตน์ ร่วมกับแสนสิริ สร้างมิติใหม่ให้วงการศึกษาไทย เชื่อมโยงนักเรียนสู่โลกการทำงานจริง
ก้าวไปอีกขั้น! PalFish Thailand จัดงานอลัง “ฉลองรับการขยายออฟฟิศใหม่”
ก้าวไปอีกขั้น! PalFish Thailand จัดงานอลัง “ฉลองรับการขยายออฟฟิศใหม่”
แพ็ลฟิชฯ จัดอลัง!! ประชันแข่งขันสุนทรพจน์ภาษาอังกฤษ “PalFish English Speech Contest” - ดัน “UN” ส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs 17)
แพ็ลฟิชฯ จัดอลัง!! ประชันแข่งขันสุนทรพจน์ภาษาอังกฤษ “PalFish English Speech Contest” - ดัน “UN” ส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs 17)
สร้างความแข็งแกร่งของฮีโร่ตัวน้อย ด้วย LPR โพรไบโอติก ตัวดัง
สร้างความแข็งแกร่งของฮีโร่ตัวน้อย ด้วย LPR โพรไบโอติก ตัวดัง

ภาพการเปลี่ยนแปลงของจองอิน

 

ครั้งที่-1 วันที่ 25 พฤษภาคม 2563 คุณครูที่โรงเรียน ได้ถ่ายรูปร่างกายของจองอิน ที่มีอาการฟกช้ำตามร่างกาย และนำไปแจ้งความ แต่หลังจากนั้น นายจางได้แจ้งกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า รอยช้ำต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น น่าจะเกิดจากที่เด็ก ๆ เล่นกัน และรอยฟกช้ำหลายจุด เป็นเพียงแค่โรคผิวหนัง จึงทำให้ตำรวจไม่ทำการสอบสวนเพิ่มเติมแต่อย่างใด

 

จองอินจ๋า...ขอโทษนะ

แม่เลี้ยงเข็นรถกระแทก และกระฉากอย่างแรง จนจองอินต้องพยายามจับยึดรถเอาไว้เพื่อความปลอดภัยของตัวเอง

 

ครั้งที่-2 วันที่ 29 มิถุนายน 2563 เพื่อนของครอบครัวจาง ได้แจ้งความกับทางเจ้าหน้าที่ ว่ามีเหตุสงสัยว่าครอบครัวจาง น่าจะทารุณกรรมเด็ก เนื่องจากหลายครั้งที่พบเห็นการกักขังจองอินไว้ในรถเพียงลำพังเป็นเวลาหลายชั่วโมง และมีการเข็นรถเข็นกระแทกอย่างแรง แต่ก็ไม่มีหลักฐานชี้ชัด จึงไม่สามารถดำเนินคดีได้

 

จองอินจ๋า...ขอโทษนะ

ทางแพทย์ได้แจ้งกับทางตำรวจ แต่ก็ไม่เป็นผล

 

ครั้งที่-3 วันที่ 23 กันยายน 2563 น้ำหนักตัวจองอินลดลงอย่างมากจนครูที่สถานรับเลี้ยงเด็กประหลาดใจ เนื่องจากจองอินไม่ได้มาที่โรงเรียนเป็นเวลา 2 เดือน จนต้องพาไปโรงพยาบาลเด็ก และแพทย์ได้ทำการวินิจฉัยว่า เด็กมีภาวะขาดสารอาหารขั้นรุนแรง จนไม่สามารถพยุงตัวเองให้เดินได้ รวมถึงรอยแผลฟกช้ำขนาดใหญ่ที่ปรากฎขึ้นตามตัวของจองอิน จึงทำให้ต้องแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกครั้ง

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ : บุ๋ม ปนัดดา เปิดตัวลูกสาวบุญธรรม เผยเคยถูกครูทำโทษหนักจนหัวเป็นรู

 

แต่ทุกครั้งที่ตำรวจเรียกครองครัวจางเพื่อทำการสอบสวน ทางด้านนายจาง ก็ได้ปฏิเสธข้อกล่าวหามาโดยตลอด โดยเฉพาะครั้งหลังสุดที่ตัวนายจางได้อ้างว่า จองอิน มีโรคทางช่องปาก และเลือกกิน ทำให้ตัวเด็กมีน้ำหนักที่ลดลง และตำรวจจึงไม่ได้สอบสวน และติดตามต่อแต่อย่างใด จนทำให้ จองอิน ต้องเสียโอกาสที่จะรอดพ้นจากครอบครัวนี้ไปอย่างน่าเสียดาย

12 ตุลาคม 2563 ที่สถานรับเลี้ยงเด็ก จองอินมีอาการเหม่อลอยอยู่ตลอดเวลา เก็บตัว ใบหน้าไร้ความรู้สึก ไม่กินอะไรเลย เมื่อครูพี่เลี้ยงป้อนนมให้ ก็อาเจียนออกมาจนหมด ซึ่งต่อมา แพทย์ได้วินิจฉัยอาการของจองอินในขณะนั้นว่าเป็น “ภาวะตัดขาดความรู้สึกจากโลกภายนอก” ซึ่งเกิดจากการถูกทรมานจนถึงขีดสุด

13 ตุลาคม 2563 จองอินถูกนำตัวส่งไปที่โรงพยาบาล และเข้าห้องฉุกเฉินทันที หัวใจจองอินหยุดเต้นไปถึง 3 ครั้ง และจากไปอย่างสงบในที่สุด

 

วันเกิดเหตุ

ในช่วงเช้าวันเกิดเหตุ มีเพียงนางจาง และลูกสาว เพียงสองคน โดยในช่วง 09:40 น. เพื่อนบ้านที่อาศัยอยู่ชั้นล่าง ได้ยินเสียงดัง เหมือนมีของตกกระแทกพื้นอยู่หลายครั้ง จึงไปต่อว่าที่ห้องเกิดเหตุ และนางจางก็ได้ออกมาขอโทษ และปรากฎข้อความทางแชทในเวลา 09:54 น. ส่งถึงนายจางว่า “ต้องพาไปตรวจที่โรงพยาบาลหรือเปล่า อาจจะแสร้าทำว่าเป็นห่วง” จึงสันนิษฐานได้ว่า จองอิน น่าจะมีอาการที่ไม่สู้ดีตั้งแต่ช่วงเวลานั้นแล้ว

10:19 น. ของวันเดียวกัน นางจางพาลูกสาวของเธอไปส่งที่โรงเรียน หลังจากนั้นจึงค่อยพาจองอินที่หมดสติไปแล้วไปส่งโรงพยาบาลในเวลา 11:06 น. แพทย์จึงเร่งช่วยชีวิตจองอินโดยทันที แต่ก็ไม่สามารถช่วยชีวิตเธอเอาไว้ได้ แต่หลังจากการเสียชีวิตของจองอิน ครอบครัวจาง ยังคงไปเลี้ยงฉลองวันเกิดให้กับพ่อของแม่บุญธรรม มีการเปิดไวน์ฉลองกัน เสมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

ศพของจองอิน ถูกฝังไว้ในสุสานของสวนสาธารณะ ซึ่งเป็นสุสานสำหรับฝังเด็กที่เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งโดยเฉพาะ เป็นสุสานที่ไม่จำเป็นจะต้องเสียค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด ครอบครัวจางจ่ายเงินเพียง 3,000 วอน (90 บาท) เพื่อซื้อกรอบรูปมาใส่รูปของจองอินเพียงเท่านั้น และจองอิน ก็ถูกลบเลือนออกไปจากความทรงจำของพวกเขาโดยสิ้นเชิง

 

สรุปผลการชันสูตร

เด็กน้อยจองอินวัย 16 เดือน แต่มีน้ำหนักเพียง 8.5 กิโลกรัม ปรากฎแผลฟกช้ำทั่วร่างกาย พบว่ามีกระดูกหักหลายจุดด้วยกัน มีเลือดออกมากบริเวณช่องท้อง อวัยวะภายในได้รับบาดเจ็บอย่างรุนแรง

ภาพซีทีสแกนบ่งบอกให้เห็นว่า ตับอ่อนของจองอินแตก ซึ่งการที่ตับอ่อนจะแตกได้นั้น จะต้องได้รับการกระแทกอย่างรุนแรง หรือที่เรียกว่า AIS อยู่ในระดับ 3 ขึ้นไป หรือการกระแทกที่มากกว่า 4,000 นิวตัน หรือแรงหมัดของนักมวยที่ออกมัดอย่างเต็มแรง จึงเป็นข้อสงสัยว่า แม่บุญธรรมเป็นเพียงแค่ผู้หญิงคนหนึ่ง จะมีแรงกระทำเช่นนั้นได้อย่างไร

แต่เมื่อทางรายการ Unanswered Questions : คำถามที่ยังไม่มีคำตอบ ได้ทำการทดลอง ก็พบว่าความเป็นได้มีเพียงอย่างเดียวคือ การตกจากที่สูงและถูกเหยียบซ้ำอย่างแรง ทำให้ข้อสันนิษฐานนี้ มีความสัมพันธ์กับการให้การของเพื่อนบ้านที่กล่าวถึงวันเกิดเหตุเป็นอย่างมาก

 

คำตัดสิน

นางจางแม่บุญธรรม ได้ถูกตัดสินประหารชีวิต ข้อหาทารุณกรรมเด็กจนเสียชีวิต ในขณะที่ตัวพ่อเลี้ยงนั้น มีโทษติดคุก 7 ปี ข้อหาทอดทิ้ง และทารุณกรรมตามอำเภอใจ

 

จองอินจ๋า...ขอโทษนะ

ภาพการจับกุมแม่เลี้ยงใจร้าย เพื่อนำตัวไปดำเนินคดี

 

ผู้คนจำนวนมากที่ทราบข่าว ต่างพากันเรียกร้องให้เพิ่มโทษ เนื่องจากกฎหมายเกาหลี เกี่ยวการทารุณกรรมเด็กนั้น มีโทษสูงสุดคือการจำคุกเพียงแค่ 15 ปี และเรียกร้องข้อหา “การทารุณกรรมจนถึงแก่ชีวิต” ให้เป็น “เจตนาฆ่า”

ในขณะที่ ทางสถานีตำรวจยังชอน และเจ้าหน้าที่ ก็ถูกตั้งคณะกรรมการสอบสวนเช่นกัน เนื่องจากตลอดมา ได้มีการแจ้งความจากทั้งครูพี่เลี้ยง แพทย์ที่ดูแลจองอิน ถึง 3 ครั้ง แต่เจ้าหน้าที่กลับเพิกเฉย แต่ก็ได้รับโทษเพียงแค่การตักเตือนเท่านั้น

 

จองอินจ๋า...ขอโทษนะ

ภาพความสดใสของจองอิน

 

ผู้คนมากมายได้นำของขวัญ และของเล่นมากมายไปวางไว้ที่หลุมศพของจองอิน เพียงเพื่อหวังว่า จองอินจะไม่เหงา และอ้างวางอีกต่อไป และเกิดแฮสแท็ค #จองอินจ๋า_ขอโทษนะ #정인아_미안해 จากเพียงแค่เกาหลีใต้ แฮสแท็คนี้ ก็ถูกกระจายออกไปทั่วโลกอย่างรวดเร็ว และทุกคนก็หวังว่า จะไม่เกิดเหตุการณ์สลดเช่นนี้เกิดขึ้นอีก

 

 

ที่มา : บันทึกพิศวง

 

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :

แรงงานเด็ก เพิ่มขึ้นครั้งแรกในรอบ 20 ปี จากพิษโควิด-19

เด็กโดนทำร้ายร่างกาย สังเกตอย่างไร? ทำอย่างไรถึงจะรู้ว่าลูกโดนทำร้ายร่างกาย

ผู้คุมบังคับให้นักโทษยืนฟัง เพลงสำหรับเด็ก ‘ เบบี้ชาร์ค ’ ซ้ำ ๆ จนถูกตั้งข้อหาทารุณกรรม

มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!

Follow us on:
facebook-logo instagram-logo tiktok-logo
img
บทความโดย

Arunsri Karnmana

  • หน้าแรก
  • /
  • ข่าว
  • /
  • ทำร้ายลูกบุญธรรมวัย 16 เดือนจนเสียชีวิต จนเกิดแฮสแท็ก #จองอินจ๋า...ขอโทษนะ
แชร์ :
  • สุดสลด! เด็กหญิงวัย 2 ขวบเสียชีวิต หลังถูก พ่อแม่ขังไว้ในห้องกับพิตบูล

    สุดสลด! เด็กหญิงวัย 2 ขวบเสียชีวิต หลังถูก พ่อแม่ขังไว้ในห้องกับพิตบูล

  • ออสเตรเลีย คุมเข้ม! ห้ามเด็กใช้โซเชียลมีเดีย จนกว่าจะอายุ 16 ปี! พ่อแม่ Gen Alpha ว่าไง?!

    ออสเตรเลีย คุมเข้ม! ห้ามเด็กใช้โซเชียลมีเดีย จนกว่าจะอายุ 16 ปี! พ่อแม่ Gen Alpha ว่าไง?!

  • DKSH ชูแนวทาง "ดูแลเชิงรุก" สู้ HPV ป้องกันมะเร็งปากมดลูก ให้ผู้หญิงไทย

    DKSH ชูแนวทาง "ดูแลเชิงรุก" สู้ HPV ป้องกันมะเร็งปากมดลูก ให้ผู้หญิงไทย

  • สุดสลด! เด็กหญิงวัย 2 ขวบเสียชีวิต หลังถูก พ่อแม่ขังไว้ในห้องกับพิตบูล

    สุดสลด! เด็กหญิงวัย 2 ขวบเสียชีวิต หลังถูก พ่อแม่ขังไว้ในห้องกับพิตบูล

  • ออสเตรเลีย คุมเข้ม! ห้ามเด็กใช้โซเชียลมีเดีย จนกว่าจะอายุ 16 ปี! พ่อแม่ Gen Alpha ว่าไง?!

    ออสเตรเลีย คุมเข้ม! ห้ามเด็กใช้โซเชียลมีเดีย จนกว่าจะอายุ 16 ปี! พ่อแม่ Gen Alpha ว่าไง?!

  • DKSH ชูแนวทาง "ดูแลเชิงรุก" สู้ HPV ป้องกันมะเร็งปากมดลูก ให้ผู้หญิงไทย

    DKSH ชูแนวทาง "ดูแลเชิงรุก" สู้ HPV ป้องกันมะเร็งปากมดลูก ให้ผู้หญิงไทย

ลงทะเบียนรับคำแนะนำเรื่องการตั้งครรภ์พัฒนาการลูกในท้องได้ที่นี่
  • เตรียมตัวเป็นผู้ปกครอง
  • พัฒนาการลูก
  • ชีวิตครอบครัว
  • ระยะการตั้งครรภ์
  • โภชนาการ
  • ไลฟ์สไตล์
  • TAP สังคมออนไลน์
  • ติดต่อโฆษณา
  • ติดต่อเรา
  • Influencer Marketing (KOL)
  • มาเข้าร่วมกับเรา


  • Singapore flag Singapore
  • Thailand flag Thailand
  • Indonesia flag Indonesia
  • Philippines flag Philippines
  • Malaysia flag Malaysia
  • Vietnam flag Vietnam
© Copyright theAsianparent 2025. All rights reserved
เกี่ยวกับเรา |ทีม|นโยบายความเป็นส่วนตัว |ข้อกำหนดการใช้ |แผนผังเว็บไซต์
  • เครื่องมือ
  • บทความ
  • ฟีด
  • โพล

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว