เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2564 ช่วงเย็น ได้มีการแถลงการณ์จากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ โดยนายแพทย์ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ได้แถลงเรื่อง “การเฝ้าระวังการกลายพันธุ์เชื้อไวรัสซาร์ส-โควี-2 (SAR-CoV-2) ในประเทศไทย” และเรื่องการแพร่กระจายของ โควิดสายพันธุ์อินเดีย พร้อมด้วยศาสตราจารย์เกียรติคุณ ดร.วสันต์ จันทรทิตย์ และ ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ ซึ่งแถลงผ่าน Facebook live กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ณ ห้องประชุม 110 อาคาร 100 ปี การสาธารณสุขไทย จังหวัดนนทบุรี
ซึ่งการแถลงข่าวนั้นได้กล่าวถึงสายพันธุ์ของไวรัสโคโรน่า (Covid-19) ว่ามีสายพันธุ์ที่น่าเป็นห่วงดังต่อไปนี้
- Alpha หรือสายพันธุ์อังกฤษ
- Beta หรือสายพันธุ์แอฟริกาใต้
- Delta หรือสายพันธุ์อินเดีย
- Gamma หรือสายพันธุ์บราซิล
ผู้แถลงข่าว “การเฝ้าระวังการกลายพันธุ์เชื้อไวรัส SAR-CoV-2 ในประเทศไทย” (ขอบคุณภาพจาก กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์)
โดยเมื่อวันที่ผ่านมาของการรายงานเกี่ยวกับผู้ติดเชื้อรายวัน ผลพบว่ามีผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่ติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์อินเดียมากถึง 253 คน และแพร่กระจายไปยังจังหวัดต่าง ๆ ของประเทศไทย 10 จังหวัดแล้ว ซึ่งมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
- กรุงเทพมหานคร 206 ราย
- อุดรธานี 17 ราย
- นนทบุรี 2 ราย
- พิษณุโลก 2 ราย
- สระบุรี 2 ราย
- นครราชสีมา 2 ราย
- ร้อยเอ็ด 1 ราย
- อุบลราชธานี 1 ราย
- สมุทรสงคราม 1 ราย
- บุรีรัมย์ 1 ราย
รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดอุดรธานี นายอุเทน หาแก้ว ซึ่งเป็นจังหวัดลำดับที่ 2 ที่มีผู้ติด โควิดสายพันธุ์อินเดีย จำนวน 17 คน กล่าวว่า การติดเชื้อในครั้งนี้ได้มาจากการคลัสเตอร์งานบายศรีสู่ขวัญที่มีความเชื่อมโยงจากแคมป์คนงานหลักสี่ที่กรุงเทพมหานคร โดยในขณะได้มีการเข้าควบคุมสถานการณ์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และยังไม่มีการแพร่กระจายเชื้อไปยังคนนอกที่ไม่ได้เข้าร่วมงาน ถือว่าอยู่ในระดับที่ควบคุมการติดเชื้อได้เป็นอย่างดี
รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดอุดรธานี นายอุเทน หาแก้ว ออกประกาศเกี่ยวกับสถานการณืการติดเชื้อในจังหวัดอุดรธานี (ขอบคุณภาพจาก สํานักงานสาธารณสุขจังหวัดอุดรธานี)
นอกจากนี้สิ่งน่าเป็นห่วงตามมาก็คือในช่วงภาคใต้ของประเทศไทย อ.ตากใบ จ.นราธิวาสล่าสุดได้มีการตรวจพบประชาชนติดเชื้อโควิดสายพันธุ์แอฟริกาใต้แล้วจำนวน 26 ราย ซึ่งตอนนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนการควบคุมให้อยู่ในพื้นที่ที่จำกัด เชื่อว่าเป็นการติดเชื้อมาจากประเทศเพื่อนบ้าน ไม่ได้เกิดขึ้นเองในประเทศไทย
โควิดสายพันธุ์อินเดีย คืออะไร?
เป็นเชื้อไวรัสโคโรน่าที่พบครั้งแรกในประเทศอินเดีย โดยพบครั้งแรกเมื่อเดือนตุลาคม 2563 ซึ่งสายพันธุ์อินเดียนี้ มีในระบบ Pango Lineage ที่มีรหัสระบุสายพันธุ์ว่า B.1.617 หรือที่หลายคนคงอาจจะเคยได้ยินในชื่อว่า “การกลายพันธุ์คู่” นั่นคือ E484Q และ L452R ทำให้การแพร่กระจายเป็นไปอย่างรวดเร็ว และป้องกันยากมากยิ่งขึ้น เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ประเทศอินเดียนั้นมีผู้ติดเชื้อกันอย่างรวดเร็ว และเสียชีวิตกันเป็นจำนวนมากในเวลาอันสั้น
โควิดสายพันธุ์อินเดีย คือการกลายพันธุ์คู่ ทำให้การแพร่กระจายเป็นไปอย่างรวดเร็ว และป้องกันยาก (ภาพโดย crowf จาก freepik.com)
โดยศาสตราจารย์นายแพทย์ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้กล่าวเกี่ยวกับผลกระทบจากการกลายพันธุ์ของไวรัสโควิด-19 ไว้วว่า การที่ไวรัสได้กลายพันธุ์ หรือพัฒนาตัวเองเป็นสายพันธุ์ต่าง ๆ นั้นก็เพื่อความอยู่รอดของตัวมันเอง ดังนั้นจึงเป็นเหตุทำให้ไวรัสสายพันธุ์ที่พบใหม่ ๆ นั้นมีความแข็งแรง และกระจายเชื้อได้ไวกว่าไวรัสที่พบแรก ๆ โดยสายพันธุ์ที่น่ากลัว และน่าเป็นกังวลว่าจะทำให้มีการติดเชื้อเพิ่มเป็นจำนวนมากขึ้นคือสายพันธุ์ Alpha หรือสายพันธุ์อังกฤษ และ Delta หรือสายพันธุ์อินเดีย
นายแพทย์ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ได้กล่าวเกี่ยวกับผลกระทบจากการกลายพันธุ์ของไวรัสโควิด-19 (ขอบคุณภาพจาก กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์)
ทั้งนี้ หากพูดถึงการติดเชื้อภายในประเทศไทยของเรานั้นได้พบทุกสายพันธุ์แล้ว โดยส่วนใหญ่ผู้ที่ตรวจพบนั้นจะเป็นผู้ที่เดินทางกลับจากประเทศต่าง ๆ จึงทำให้ต้องพัฒนาวิธีการตรวจเฝ้าระวังการกลายพันธุ์ที่แม่นยำ และรวดเร็วมากยิ่งขึ้น รวมถึงการเฝ้าติดตามอาการของผู้ที่อยู่ภายใน State Quarantine และ Alternative state quarantine อย่างต่อเนื่อง และยังเชื่อว่าการติดเชื้อไวรัสภายในประเทศที่ถูกแพร่กระจายจากสนามบินนั้นมีโอกาสที่น้อยมาก เพราะเมื่อมาถึงจะต้องทำการกักตัวในทันที แต่จะให้ไประวังการลักลอบเข้าประเทศทางช่องทางธรรมชาติมากกว่าที่ทำให้เชื้อไวรัสนั้นเข้ามาโดยง่าย และไม่มีการป้องกัน ซึ่งอาจนำไปสู่การระบาดขั้นรุนแรงภายในประเทศได้ หากใครมีเบาะแสให้แจ้งหน่วยงานของรัฐในทันที เพื่อลดความเสี่ยงของคุณ และคนภายในประเทศด้วย
บทความที่น่าสนใจ :
ฟ้าทลายโจรช่วยโควิด ! ประกาศใช้อย่างเป็นทางการในราชกิจจาฯ แล้ว
ผู้ประกันตน ม.33 เตรียมฉีดวัคซีนโควิด ทั่วกรุงเทพฯ กางผังแล้ว 45 จุด
แอฟริกาใต้ เตรียมรับมือโควิด-19 ระลอกสาม พร้อมยกระดับมาตรการคุมเข้ม
ที่มา : sanook, mgronline, facebook, bangkokbiznews
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!