เมื่ออากาศเริ่มเปลี่ยนแปลง เรื่องของสุขภาพร่างกายก็เป็นอะไรที่น่าเป็นห่วงมาก ๆ วันนี้เราเลยถือโอกาสพาคุณพ่อคุณแม่มาทำความรู้จักกับโรคต่าง ๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นในช่วงฤดูร้อนว่า แต่ละโรคสาเหตุเกิดจากอะไรได้บ้างและมีอาการแตกต่างกันอย่างไร เพื่อที่เราจะได้ดูแลและรู้จักวิธีการรับมือกับสิ่งที่เกิดขึ้นได้ ส่วนจะเป็นอย่างไรนั้น มาทำความรู้จักกับ โรคหน้าร้อน กันเลยดีกว่า
โรคหน้าร้อนที่ควรระมัดระวัง
อย่างที่รู้กันว่าทุกครั้งที่มีอากาศเปลี่ยนแปลง ไม่ว่าจะเป็นฤดูไหน ๆ หากเราไม่รู้จักดูแลรักษาสุขภาพของตัวเองและเด็ก ๆ สิ่งนี้ก็อาจจะทำให้เขารู้สึกไม่สบายและเจ็บป่วยได้เลย ส่วนโรคอะไรบ้างที่มักเกิดขึ้นบ่อยในช่วงหน้าร้อน มาดูไปพร้อมกัน
1. โรคอุจจาระร่วง
โรคนี้เกิดขึ้นจากเชื้อแบคทีเรีย ไวรัส และ พยาธิ ที่จะมากับอาหาร และเครื่องดื่มถ้าที่ไม่สะอาด ข้อสังเกตของโรคนี้ คือจะมีไข้ต่ำ ๆ เป็นหวัด มีอาการคลื่นไส้ และถ่ายอุจจาระเหลว โรคอุจจาระร่วงเกิดขึ้นง่ายมากถ้าคุณไม่ดูแลเรื่องสุขอนามัยที่ดี โดยเฉพาะเรื่องอาหาร ควรรับประทานตอนที่ทำสุกใหม่ ๆ หลีกเลี่ยงอาหารดิบและห่างไกลจากอาหารที่มีแมลงต่าง ๆ มาตอม ข้อสำคัญคือควรล้างมือก่อนและหลังเข้าห้องน้ำ
2. โรคอาหารเป็นพิษ
เป็นโรคที่มีสาเหตุมาจากเชื้อแบคทีเรีย ไวรัส และพยาธิ ถ้าเป็นโรคนี้ก็จะมีไข้ต่ำ ๆ รวมถึงอาการอาเจียน และคลื่นไส้ บางคนอาจมีอุจจาระร่วงด้วย หากเป็นหนักก็อาจถ่ายออกมาเป็นมูกเลือดอีกด้วย โรคอาหารเป็นพิษจะเกิดขึ้นเพียงชั่วคราว และเป็นโรคที่จะเกิดขึ้นพร้อมกันหลาย ๆ คนจากการร่วมโต๊ะอาหารเดียวกัน วิธีป้องกันง่าย ๆ ก็คือ การรักษาความสะอาดหรือและสุขอนามัยที่ดี
3. โรคอหิวาตกโรค
โรคนี้มีอาการคล้ายกับโรคอุจจาระร่วง สาเหตุนั้นมาจากแบคทีเรียที่ชื่อว่า Vibrio Cholerae ที่เข้าสู่ร่างกายของเรา ซึ่งเกิดขึ้นจากการรับประทานอาหาร แบคทีเรียนี้จะเข้าไปอยู่ในบริเวณลำไส้ และสร้างสารพิษขึ้นมาทำปฏิกิริยากับเยื่อบุผนังลำไส้ ทำให้เกิดอาการถ่ายออกมาเป็นจำนวนมาก มีเนื้ออุจจาระน้อยหรือเป็นน้ำ และจะทำให้ร่างกายขาดน้ำอย่างรุนแรง บางครั้งอาจจะมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน แต่ส่วนใหญ่ถ้าคนเป็นโรคนี้จะไม่มีไข้และไม่ปวดท้อง แต่เราก็ควรระมัดระวังความสะอาดของอาหารที่เรารับประทานเช่นกัน
4. โรคไข้ไทฟอยด์
โรคไข้ไทฟอยด์มีสาเหตุมาจากร่างกายที่ได้รับแบคทีเรีย Salmonellra Typhi ที่มักจะเจือปนอยู่ในน้ำและอาหาร โดยจะเริ่มแสดงอาการเมื่อมีแบคทีเรียชนิดนี้อยู่ในตัวหลังจาก 1-2 สัปดาห์ จากนั้นจะตามมาด้วยอาการปวดหัว ปวดตามตัว และมีไข้สูง มีอาการท้องร่วง ผื่นขึ้นตามตัว ใครที่เป็นโรคนี้มักจะหายเองภายใน 3-4 สัปดาห์ แต่ทางที่ดีเมื่ออาการของโรคนี้เกิดขึ้นแนะนำให้รีบไปหาหมอดีกว่ามานอนซมรอเวลาเกือบเดือนเพื่อหายเอง
5. โรคบิด
โรคนี้จะเกิดขึ้นจากไวรัสที่ชื่อว่า เรบีส์ไวรัส (บิดไม่มีตัว) และ ดะมีบยา (บิดมีตัว) ถ้าหากติดเชื้อแบบไม่มีตัว ช่วงแรกจะมีอาการรุนแรง มีไข้สูง อาเจียน ถ่ายเป็นเลือดและมีหนองปน ถ่ายน้อยแต่บ่อยมาก ถ้าปล่อยให้อ่อนแอ อาจจะเกิดอาการชักได้ หากติดเชื้อแบบมีตัว มักจะไม่ค่อยมีอะไรช่วงแรก แต่อาจจะมีอาการบิดเฉียบพลัน มีไข้สูง หนาวสั่น อุจจาระร่วง เชื้อแพร่ไปตามกระแสโลหิต ซึ่งอาจจะเกิดฝีที่ตับ ปอดหรือสมอง และต้องรีบไปหาหมอเมื่อรู้สึกมีอาการไม่ดี
6. โรคพิษสุนัขบ้า
โรคนี้มาจากไวรัส Rabies ในประเทศไทยมักมีรายงานเกี่ยวกับการเป็นโรคพิษสุนัขบ้าจากการถูกสุนัขกัดเป็นสาเหตุส่วนใหญ่ ในหน้าร้อนจึงควรระมัดระวังโรคนี้ให้ดี อย่าพยายามไปใกล้กับสุนัขที่ไม่คุ้นเคยหรือเล่นกับสุนัขเวลาอากาศร้อนจัด ซึ่งหากเป็นโรคนี้ขึ้นมาจะมีอาการสมองอักเสบ ปวดเมื่อยตามตัว มีไข้ คันบริเวณที่ถูกกัด หงุดหงิด กระสับกระส่าย ตื่นเต้นและไวต่อสิ่งรอบตัว ไม่ชอบแสง ไม่ชอบลม มีน้ำลายไหล กล้ามเนื้อเกร็งและกระตุก ต่อมาจะเริ่มเพ้อ คลั่ง ชัก กลัวน้ำ หมดสติ และเสียชีวิตในที่สุด
7. โรคผิวหนัง
โรคนี้เกิดมาจากอากาศที่ร้อนชื้น รวมถึงการไม่รักษาให้ผิวกายให้สะอาด ก็มีส่วนที่ทำให้เสี่ยงเป็นโรคนี้ได้ง่าย อาการของโรคนี้จะออกมาในรูปแบบ กลาก เกลื้อน ผดร้อน เป็นต้น การรักษาที่ดีนั้นคือเราควรทำให้ร่างกายสะอาด ไม่ทำให้ร่างกายเปียกชื้น ควรอาบน้ำเป็นประจำ และไม่ใส่เสื้อผ้าที่หนาจนทำให้เกิดการอับชื้น เป็นต้น
8. โรคเครียด
โรคนี้เกิดขึ้นง่ายในอากาศร้อน เพราะความร้อนจะเป็นเหตุซึ่งมักจะทำให้เกิดอาการหงุดหงิด ปวดหัว นอนไม่หลับ ฉุนเฉียว โมโหง่าย ซึ่งในระยะยาวอาจจะส่งผลต่อสุขภาพจิต ทำให้ภาวะอารมณ์เปลี่ยนไป ดังนั้นควรหาอะไรที่สบาย ๆ ทำในห้องแอร์เย็น ๆ หรือไม่ก็หาวิธีผ่อนคลายด้วยวิธีอื่น ๆ จะดีที่สุด
9. โรคลมแดด
โรคลมแดดหรือฮีทสโตรกจะเกิดขึ้นได้ง่ายในหน้าร้อนเช่นกัน โดยเฉพาะคนที่ไม่ค่อยกินน้ำ การที่เรานั้นอยู่ในบริเวณอุณหภูมิที่ร้อนจัด อบอ้าว ถึงแม้จะไม่โดนแสงแดดก็สามารถเกิดอาการนี้ได้เช่นกัน เพราะฉะนั้นเราควรดื่มน้ำเยอะ ๆ และหลีกเลี่ยงจากสถานที่ที่มีความอบอ้าว ตากแดดเป็นเวลานาน หรือที่ที่มีอุณหภูมิสูง ๆ
โรคต่าง ๆ ที่เกิดมาจากอากาศร้อนนั้น หากไม่ระวัง ป้องกันก็สามารถทำให้ทุกคนมีอาการได้เหมือนๆ กัน นอกจากการป้องกันแล้ว ก็ควรดูแลสุขภาพให้แข็งแรงอยู่เสมอด้วย ไม่ว่าจะเป็นความสะอาดสะอ้านของตัวเอง หรือการดื่มน้ำให้มาก ๆ และพยายามอยู่ในสถานที่ที่มีอากาศถ่ายเท รวมไปถึงอยู่ห่างไกลจากสัตว์ที่จรจัดก็มีส่วนในการป้องกันโรคที่มาจากหน้าร้อนได้
วิธีการดูแลลูกไม่ให้ป่วยในช่วงหน้าร้อน
เมื่อเริ่มเข้าสู่ช่วงฤดูร้อน นอกจากจะทำให้เด็ก ๆ รู้สึกไม่สบายตัวแล้วสิ่งนี้ยังอาจส่งผลทำให้เด็ก ๆ รู้สึกป่วยและไม่สบายขึ้นมาได้ เพราะฉะนั้นหากคุณพ่อคุณแม่คนไหนที่กำลังกังวลในเรื่องนี้ และไม่รู้ว่าเราควรมีวิธีการป้องกันยังไงเพื่อที่ลูกของเราจะได้มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงไม่ป่วยง่าย เรามาดูวิธีการดูแลลูกในช่วงหน้าร้อนกันได้เลย
1. ให้ลูกพักผ่อนอย่างเพียงพอ
การพักผ่อนเป็นอะไรที่สำคัญมาก โดยเฉพาะเด็ก ๆ หากเราไม่อยากให้ลูกของเราป่วยง่าย และเป็นเด็กที่มีความร่าเริงแจ่มใสอยู่ตลอดเวลา เราก็อาจจะต้องให้เด็ก ๆ เข้านอนเป็นเวลา ไม่ควรที่จะปล่อยให้เด็ก ๆ นอนดึกจนเกินไป ถ้าเมื่อไหร่ที่เขาพักผ่อนไม่เพียงพอ นอกจากจะส่งผลไม่ดีต่อสุขภาพของเขาแล้ว สิ่งนี้ก็อาจจะส่งผลทำให้เด็ก ๆ รู้สึกงอแงหรือหงุดหงิดทั้งวันได้เลย
2. หลีกเลี่ยงแสงแดด
อย่างที่รู้กันดีว่าในช่วงหน้าร้อนนี้ แสงแดดค่อนข้างที่จะรุนแรงมาก ๆ เพราะฉะนั้นเราอาจจะต้องพยายามให้ลูกงดทำกิจกรรมกลางแจ้งในช่วงที่มีแดดจ้า ๆ เพราะถ้าเมื่อไหร่ที่เด็ก ๆ เขาโดนแสงแดดนาน ๆ ก็อาจจะทำให้เขารู้สึกป่วยหรือไม่สบายขึ้นมาได้เช่นกัน ดังนั้นเราก็อาจจะพาเด็ก ๆ เล่นในบ้าน หรือสถานที่ที่มีความร่มรื่น อากาศถ่ายเทสะดวกจะดีที่สุดค่ะ
3. ใส่ใจเรื่องอาหารการกิน
ข้อนี้ก็เป็นอะไรที่คุณพ่อคุณแม่หลายคนไม่ควรมองข้ามเลยทีเดียว ก่อนที่เราจะให้เด็ก ๆ ทานอะไรก็ตามเราอาจจะต้องดูว่าอาหารที่เราจะให้เด็ก ๆ ทานนั้นมีประโยชน์หรือไม่ เพราะหากลูกของเราได้ทานอาหารที่ดีและมีประโยชน์ แน่นอนว่าสุขภาพร่างกายของเขาก็จะแข็งแรงตามไปด้วย ในทางกลับกันหากเราให้ลูกทานอาหารจำพวกของหวาน ของมัน หรือของทอดมากจนเกินไป สิ่งนี้ก็อาจจะส่งผลไม่ดีต่อสุขภาพของเด็ก ๆ ได้เหมือนกัน ทางที่ดีพยายามเลือกอาหารที่ตอบโจทย์ในแต่ละช่วงวัยของเด็ก ๆ นะคะ
4. ทำความสะอาดบ้านสม่ำเสมอ
เรื่องของความสะอาดก็เป็นอะไรที่เราควรต้องใส่ใจมาก ๆ เพราะฉะนั้นหากคุณพ่อคุณแม่อยากจะให้เด็ก ๆ รู้สึกปลอดภัยและเป็นเด็กที่มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงสมบูรณ์ เราจะต้องคอยดูแลรักษาความสะอาดบริเวณรอบ ๆ และภายในบ้านให้สะอาดอยู่เสมอ ไม่ควรปล่อยบ้านให้สกปรกเพราะสิ่งนี้อาจจะเป็นแหล่งสะสมของเชื้อแบคทีเรียได้ง่าย ๆ
5. ฉีดวัคซีนป้องกันโรค
สิ่งที่จะช่วยป้องกันไม่ให้ลูกของเราป่วย และมีสุขภาพที่แข็งแรงอีกอย่างหนึ่งเลยคือ การฉีดวัคซีนป้องกันโรคต่าง ๆ นั่นเอง หากคุณพ่อคุณแม่คนไหนสงสัยว่าลูกของเราสามารถฉีดวัคซีนได้ไหม หรือถ้าฉีดจะมีผลข้างเคียงอะไรหรือเปล่า ก่อนทำการฉีดเราก็อาจจะขอคำแนะนำ หรือคำปรึกษาจากคุณหมอได้ เพราะวิธีนี้เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีที่จะช่วยป้องกันโรคต่าง ๆ ให้กับเด็ก ๆ ได้ค่ะ
theAsianparent Thailand เว็บไซต์ข้อมูลคุณภาพและสังคมคุณแม่ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศและเอเชีย เรามีผู้เชี่ยวชาญด้านกุมารแพทย์ แหล่งความรู้แม่และเด็ก รวมถึงแอปพลิเคชัน theAsianparent ที่ติดตามการตั้งครรภ์ให้คุณแม่ได้ลงทะเบียนใช้งานฟรี เพื่อติดตามพัฒนาการทารกตั้งแต่ตั้งครรภ์ จนถึงติดตามหลังคลอดที่ครอบคลุมที่สุดและผู้ใช้งานสูงสุดในประเทศไทย นอกจากความรู้ยังมีไลฟ์สไตล์และสื่อมัลติมีเดียหลากหลาย ไม่ว่าสุขภาพแม่และเด็ก โภชนาการแม่และเด็ก กิจกรรมสำหรับครอบครัว
การวางแผนครอบครัวไปจนถึง การดูแลลูก การศึกษา และจิตวิทยาเด็ก theAsianparent เราพร้อมสนับสนุนพ่อแม่ทุกท่าน ให้มีความรู้และมีสุขภาพกายใจเข้มแข็ง เพื่อเสริมสร้างครอบครัวอย่างแข็งแรง
เพราะเราเชื่อว่า “พ่อแม่เข้มแข็ง ครอบครัวแข็งแรง”
ขอบคุณข่าวอสังหาฯ-บทความจาก DDproperty.com เว็บไซต์สื่อกลางอสังหาริมทรัพย์อันดับ 1 ของไทย
ขอบคุณภาพประกอบจาก vcharkarn.com
บทความที่น่าสนใจอื่น ๆ :
ระวัง ! 9 ของใช้ในบ้าน ตัวการ ก่อมะเร็ง
แค่จัดบ้านใหม่ ลูกน้อยก็ห่างไกล โรคภูมิแพ้
พ่อแม่ต้องอ่าน 20 โรคหน้าร้อน ในเด็ก 2020 เตรียมพร้อมรับมือ ดูแลลูก ให้ดีกว่าเดิม
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!