สำหรับพ่อแม่มือใหม่ การฝึกลูกสาวเข้าห้องน้ำนั้นถือเป็นเรื่องที่ไม่ง่าย แต่ขอบอกเลยว่า ฝึกลูกสาวเข้าห้องน้ำ ก็ไม่ได้เป็นเรื่องยากอย่างที่คิดแน่นอนค่ะ เพราะว่าวันนี้ theAsianparent มีเทคนิคดี ๆ มาฝากคุณพ่อคุณแม่ค่ะ กับการสอนลูกสาวให้เข้าห้องน้ำเอง รับรองว่าสามารถทำตามได้อย่างแน่นอนค่ะ
ฝึกลูกสาวเข้าห้องน้ำ ต้องเริ่มตอนไหน
การฝึกเข้าห้องน้ำของเด็ก อายุ 2 – 4 ขวบ เป็นช่วงที่เด็กพร้อมที่จะเรียนรู้เรื่องการใช้ห้องน้ำแล้ว โดยให้คุณพ่อคุณแม่สังเกตจากสัญญาณที่บ่งบอกว่า ลูกของคุณพร้อมแล้วที่จะฝึกการเข้าห้องน้ำ มีดังนี้
- ลูกน้อยไม่ฉี่บ่อย ๆ มีเว้นระยะอย่างน้อย 2 – 3 ชั่วโมง ระหว่างวัน หรือ หลังตื่นนอน หรือ ช่วงกลางวัน
- เมื่อลูกน้อยไม่สามารถควบคุมกระเพาะปัสสาวะ หรือการเคลื่อนไหวของลำไส้ได้ บางคนจะนั่งพับเพียบเมื่อปวดท้องเข้าห้อง หรือยืนบิดไปมา
- การควบคุมกระเพาะปัสสาวะ กลั้นปัสสาวะได้เป็นชั่วโมง แสดงให้รู้ว่าลูกไม่ชอบอะไรเลอะเทอะ
- ลูกน้อยสามารถทำตามคำสั่งง่าย ๆ ได้ เช่น กินข้าวเองได้ เก็บของเล่นเองได้ ช่วยเหลืองานบ้านเล็ก ๆ น้อย ได้แล้ว เป็นต้น
- ลูกน้อยขอเข้าห้องน้ำด้วยตัวเอง
- ลูกน้อยสามารถไปและกลับห้องน้ำเองได้
ซึ่งทั้งหมดนี้สามารถบ่งบอกได้ว่าลูกสาวของคุณแม่นั้นพร้อมแล้ว ที่จะเรียนรู้และฝึกการเข้าห้องน้ำเมื่อเวลาที่เขาต้องการ ไม่ว่าปวดฉี่ หรือปวดอึก็ตาม
เทคนิคในการ ฝึกลูกสาวเข้าห้องน้ำ ฝึกนั่งชักโครก
ฝึกให้ลูกทำความคุ้นเคยกับการนั่งขับถ่ายในห้องน้ำ
ในช่วงแรกของการฝึก ควรเริ่มด้วยการบอกให้ลูกรู้ว่าบันไดชักโครก หรือฝารองนั่ง นั้นเป็นของเธอเอง โดยตกแต่งด้วยการเขียนชื่อลูกเอาไว้ หรือให้ลูกตกแต่งด้วยสติกเกอร์เอง จากนั้นให้ลูกลองนั่งโดยยังสวมเสื้อผ้าอยู่
หลังจากที่ฝึกแบบนี้ประมาณ 1 สัปดาห์ ให้ลองนั่งขับถ่ายจริง ๆ ดูค่ะ ถ้าสาวน้อยดูต่อต้าน แปลว่าลูกยังไม่พร้อม ให้คุณแม่อดทนและรอไปอีกระยะ
หากลูกของคุณมีตุ๊กตาตัวโปรดหรือตุ๊กตาสัตว์ต่าง ๆ ให้ลองใช้มันเพื่อสาธิตการนั่งขับถ่าย เด็กส่วนใหญ่ชอบดูของเล่นชิ้นโปรดเคลื่อนไหว และอาจชอบเรียนรู้ด้วยวิธีนี้มากกว่า ทำให้เป็นเรื่องสนุก เด็ก ๆ จะต้องยอมนั่งขับถ่ายแน่นอนค่ะ
บทความที่เกี่ยวข้อง : แนะนำ 10 ฝารองชักโครกเด็ก นั่งสบาย ปลอดภัย ทนทานต่อการใช้งาน
ถามลูกบ่อย ๆ ว่าอยากเข้าห้องน้ำไหม
ผู้ปกครองลองถามหนูน้อยว่าอยากเข้าห้องน้ำไหม ปวดฉี่ไหมคะ หนูปวดอึหรือเปล่า ให้แม่พาไปห้องน้ำไหม ช่วงแรกเด็ก ๆ อาจจะยังไม่กล้าบอก แต่ถ้าเราถามบ่อย ๆ เข้า เค้าก็จะกล้าบอกค่ะ หลังจากนั้นเมื่อลูกน้อยปวดท้องอยากเข้าห้องน้ำ ก็จะกล้าบอกผู้ปกครองเองค่ะ
ทำให้ดูเป็นตัวอย่าง
อีกอย่างนึงที่สำคัญเลยก็คือ ผู้ปกครองลองทำท่านั่งให้ดูเป็นตัวอย่าง เพราะเด็ก ๆ วัยนี้ มีพฤติกรรมเลียนแบบผู้ใหญ่ ดังนั้น การที่จะสอนให้เด็ก ๆ จะเข้าใจได้ง่ายที่สุดเลยก็คือการทำให้ดูเป็นตัวอย่างนั่นเองค่ะ ถ้าหากว่าลูกไปโรงเรียนแล้ว เห็นว่าเด็กผู้ชายยืนฉี่ แล้วลูกของเราอยากทำตาม คุณพ่อคุณแม่ก็ต้องเริ่มสอนเรื่องการฉี่ของชายหญิงที่แตกต่างกันควบคู่ไปด้วยค่ะ
สอนลูกนั่งขับถ่าย
- อันดับแรกให้ลูกนั่งบนโถส้วมที่มีแผ่นรองก้นขนาดพอดีกับก้นของลูก โดยเท้าต้องเหยียบเต็มพื้นและระดับหัวเข่าสูงกว่าสะโพก กรณีนี้อาจต้องใช้ที่รองเหยียบมาวางเสริมเท้าของเด็กเพื่อไม่ให้เท้านั้นแกว่งไปมา
- จากนั้นสอนให้ลูกนั่งในท่าข้อศอกแตะหัวเข่า และเอนตัวมาด้านหน้าเล็กน้อย ซึ่งการนั่งในท่านี้จะทำให้ลำไส้ส่วนปลายตั้งตรงกับรูทวาร ทำให้อุจจาระจึงไหลลงมาได้ง่ายขึ้น
- ฝึกให้ลูกหายใจเข้าเต็มท้อง เน้นว่าลมต้องเข้าท้อง โดยให้เด็กวางมือไว้บริเวณท้องและหายใจเข้าจนท้องป่องก่อนจะกลั้นลมหายใจเอาไว้
- เบ่งลงก้นและคลายหูรูดทวารหนัก ลมจากท้องจะช่วยดันอุจจาระให้ผ่านรูทวารลงสู่โถส้วมได้อย่างง่ายดาย
ฝึกลูกสาวเข้าห้องน้ำ อย่างสม่ำเสมอ
การให้เจ้าตัวน้อยเข้าห้องน้ำเองได้ ขึ้นอยู่กับตารางเวลาประจำวัน พาลูกเข้าไปนั่งชักโครกเป็นเวลา และทำแบบนั้นให้สม่ำเสมอ เพื่อฝึกให้สาวน้อยขับถ่ายเป็นเวลา ซึ่งดีต่อร่างกายและทำให้เคยชินกับการเข้าห้องน้ำมากขึ้นอีกด้วย
ชื่นชมเมื่อลูกทำได้
คำชมหรือรางวัลปลอบใจเพียงเล็กน้อย จะช่วยให้เด็ก ๆ มีกำลังใจมากยิ่งขึ้น และสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง คือการดุเมื่อลูกทำไม่ได้ ลองให้กำลังใจเค้าบ่อย ๆ เดี๋ยวเด็ก ๆ จะเข้าใจและทำได้อย่างแน่นอนค่ะ
บทความที่เกี่ยวข้อง : ลูกฉี่ไม่ออกทําไงดี ฉี่น้อย ไม่ฉี่เลยทั้งวัน อั้นฉี่หรือเปล่า ปัสสาวะของทารกน้อย แบบใดจึงผิดปกติ?
วิธีเลือกฝารองชักโครกอย่างเหมาะสม
- ฝารองชักโครกสำหรับเด็ก ต้องมีขนาดที่เหมาะสม พอดีกับสรีระของลูก
- มีความแข็งแรง ไม่แตกหักได้ง่าย เพราะหากแตกง่าย อาจเกิดอุบัติเหตุอย่างเช่น บาดนิ้ว หรือหนีบก้น ทำให้ลูกไม่กล้าเข้าห้องน้ำ
- ให้ลูกเลือกสีหรือลายที่ชอบเอง ข้อนี้จะยิ่งทำให้เด็ก ๆ อยากที่จะนั่งขับถ่ายมากยิ่งขึ้น
- ผลิตจากวัสดุที่ปลอดภัย เหมาะสำหรับเด็กเล็ก
- น้ำหนักกำลังดี พกพาสะดวกหากต้องย้ายไปเข้าห้องน้ำห้องอื่น
- ทำความสะอาดได้ง่าย หากมีช่องเยอะ อาจจะทำให้มีสิ่งสกปรกติดค้าง และล้างออกได้ยาก ทำให้ส่งกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้
จากข้อมูลทั้งหมดนี้ อยากให้คุณพ่อคุณแม่หรือผู้ปกครองที่กำลังเลี้ยงสาวน้อยวัย 2-4 ขวบอยู่ ลองนำวิธีการสอนลูกให้เข้าห้องน้ำไปใช้กันดูค่ะ อาจจะต้องใช้เวลาสักหน่อย แต่ผลที่ได้ย่อมคุ้มค่าแน่นอนค่ะ ที่สำคัญถ้าเด็ก ๆ เข้าห้องน้ำเป็นแล้ว ยังช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายพวกผ้าอ้อมสำเร็จรูปได้อีกด้วยนะคะ
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
วิธีเลิกผ้าอ้อมสำเร็จรูปตอนกลางคืน ฝึกอย่างไร ไม่ให้ฉี่รดที่นอน
ลูกโตแล้วยังฉี่รดที่นอน ทำอย่างไรดี? สาเหตุ และวิธีแก้ฉี่รดที่นอน
สอนให้ลูกนั่งกระโถน 7 ขั้นตอน ที่จะทำให้การ สอนลูกขับถ่าย เป็นเรื่องง่ายขึ้น