รักลูก อย่าขู่ลูก
พ่อแม่ทุกบ้าน มักจะต้องหาวิธีมาเพื่อควบคุมให้ลูกเชื่อฟัง แต่สิ่งที่หลาย ๆ บ้านใช้ ก็คือการขู่ลูกให้กลัว ซึ่งต้องบอกเลยว่า วิธีนี้เป็นวิธีที่ล้าหลังไปแล้ว ถึงแม้ว่าจะทำให้ลูกเชื่อฟังได้ ณ ขณะนั้น แต่ก็เป็นแค่เพียงระยะสั้น ๆ เท่านั้นแหละค่ะ พ่อแม่ยุคใหม่ควรรู้ไว้ว่า รักลูก อย่าขู่ลูก ยิ่งขู่ลูก ยิ่งส่งผลเสียต่อพัฒนาการเด็ก ทำให้กลายเป็นคนไม่มั่นใจในตัวเอง ขี้กลัว ไม่กล้าตัดสินใจ ขาดความคิดสร้างสรรค์ และยิ่งไปกว่านั้น นาน ๆ เข้าพวกเขาจะไม่เชื่อฟังพ่อแม่อีกต่อไป
คำขู่ของผู้ปกครอง ส่งผลร้ายต่อเด็ก
อย่างที่ได้บอกไปแล้วว่า การขู่เด็กไม่ได้ส่งผลดีเลย ถือเป็นวิธีที่ผิด เพราะจะทำให้เด็กไม่มีเหตุผล จมอยู่แต่กับความกลัว ไม่กล้าตัดสินใจ พอโตไปจะกลายเป็นคนไม่มั่นใจในตัวเองเอาซะเลย ซึ่งคำขู่หลาย ๆ คำ เป็นสิ่งที่เราได้ยินกันมาอยู่เสมอ ถ้าหากใครที่ยังขู่ลูกแบบนี้อยู่ รีบเลิกซะก่อนจะสายเกินไป
- ขู่ว่าถ้าดื้อมาก จะให้หมอจับฉีดยา
คำขู่ว่าถ้าหากลูกดื้อ จะให้หมอจับฉีดยา ถือเป็นคำขู่ยอดนิยมของพ่อแม่หลาย ๆ บ้านเลยล่ะ ซึ่งสร้างความหนักใจให้กับเหล่าแพทย์พอสมควรเลย เนื่องจากการขู่ลูกแบบนี้ เด็กจะรู้สึกหวาดกลัว มากกว่าที่จะเข้าใจว่าพ่อแม่ต้องการอะไร ดังนั้นถ้าหากเขาหยุดดื้อ ก็จะแค่เพราะกลัวเท่านั้นแหละ
ยิ่งไปกว่านั้นพอถึงเวลาที่ต้องหาหมอฉีดยาจริง ๆ เด็กจะกลัวฝังใจกับการฉีดยามาก ๆ และจะเกิดความสับสนว่าตัวเองทำอะไรผิด ทำไมถึงโดนจับให้หมอฉีดยา ทั้ง ๆ ที่ยังไม่ได้เล่นซนอะไรเลย เกิดเป็นความสับสนทางความคิด เนื่องจากไม่เข้าใจเหตุผลที่แท้จริงของพ่อแม่ว่าต้องการอะไรกันแน่
- ขู่ว่าถ้าซนมาก ตำรวจจะมาจับ
อีกหนึ่งเรื่องที่ทำให้เด็กเกิดความหวาดกลัวตำรวจฝังใจ ก็คือการถูกขู่ตั้งแต่เด็ก ๆ ว่า ถ้าเล่นซน ตำรวจจะมาจับ หรือพ่อแม่จะส่งให้ตำรวจจับ การขู่แบบนี้จะทำให้เด็กรู้สึกกลัว มากกว่าเข้าใจว่าพ่อแม่อยากให้หยุดเล่นซน ไม่เข้าใจหลักเหตุและผล และจะเป็นความกลัวที่ฝังใจ ส่งผลให้กลัวตำรวจ ทั้ง ๆ ที่ตำรวจยังไม่ได้เข้ามาทำอะไรให้เลย
- ขู่ว่าอย่าไปที่มืด ๆ เดี๋ยวผีออกมาหลอก
เด็ก ๆ หลายคนกลัวผี บางครั้งอาจเกิดจากพ่อแม่เนี่ยแหละที่เป็นสาเหตุ บางบ้านมักจะชอบขู่เด็กว่า อย่าไปที่มืด ๆ เดี๋ยวผีออกมาหลอก หรือถ้าหากไม่ยอมรีบเข้านอน ผีจะมาหลอก นั่นถือเป็นการสร้างความหวาดกลัวในจิตใจให้กับเด็ก เด็กจะกลัวมากกว่าเข้าใจเหตุผลว่าทำไมพ่อแม่ไม่อยากให้ทำแบบนั้น และพอโตมา เขาจะกลายเป็นคนกลัวผี กลัวความมืด เนื่องจากฝังใจมาตั้งแต่สมัยเด็ก ๆ ที่โดนขู่อยู่ตลอดเวลา
- ขู่ว่าถ้าดื้อ เดี๋ยวตุ๊กแกหรือกระสือจะมากินตับ
อีกหนึ่งเรื่องที่ทำให้เด็กกลัวผีและตุ๊กแกขึ้นมาอย่างไม่มีเหตุผล เพราะถูกผู้ใหญ่ขู่มาว่า ถ้าหากดื้อ ตุ๊กแก หรือบางบ้านก็จะบอกว่า กระสือจะมากินตับ ทำให้เด็กกลัวสิ่งเหล่านี้ขึ้นมา มากกว่าจะเข้าใจว่าพ่อแม่นั้นเป็นห่วง ซึ่งอาการกลัวของเด็กบางคน อาจส่งผลรุนแรงจนกลายเป็นอาการทางประสาทได้เลย
ข้อเสียของการขู่ลูก
การขู่ลูกบ่อย ๆ จะไปสร้างความกลัวในใจเด็ก ทำให้เด็กฝังใจกับความกลัว เป็นปมติดตัวไปจนโต กลายเป็นคนกลัวนู่นกลัวนี่แบบไม่มีเหตุผล และอาจกลายเป็นความเครียด ไปจนถึงอาการทางประสาท เช่น ถ้าหากโดนหลอกผีมาก ๆ เวลาอยู่ในที่มืด ๆ จะกลัวจัดจนตัวสั่น
การโดนพ่อแม่ขู่บ่อย ๆ เวลาเด็กทำตามคำสั่งของพ่อแม่นั้น เขาก็จะทำตามแค่เพราะกลัวในคำขู่ จะไม่เข้าใจว่าพ่อแม่ต้องการอะไร รู้สึกอะไร รวมไปถึงสับสนด้วยว่าที่โดนขู่บ่อย ๆ นี่พ่อแม่ไม่รักเขาหรือเปล่า ส่งผลต่อการเรียนรู้และพัฒนาการของเด็ก กลายเป็นคนไม่มีเหตุผล คิดวิเคราะห์ไม่ค่อยได้ และอารมณ์ไม่มั่นคง
- เข้าใจผิดว่าการใช้กำลังคือการแก้ปัญหา
สำหรับบ้านไหนที่ขู่ลูกว่า ถ้าหากดื้อมาก ๆ จะโดนตี อยู่บ่อยครั้งล่ะก็ อาจนำไปสู่ความเข้าใจผิดว่า การใช้กำลังคือการแก้ปัญหา การตีบางเมื่อทำผิดอาจไม่ได้ส่งผลร้ายมาก แต่ถ้าหากขู่เป็นประจำ เอะอะตีแบบไม่มีเหตุผล เด็กจะเข้าใจผิด แล้วคิดว่า ถ้าหากเกิดปัญหาอะไร ให้ใช้คำขู่หรือใช้กำลังเนี่ยแหละ แก้ไขปัญหาเหล่านั้นไปก็แล้วกัน
- เด็กเริ่มไม่เชื่อฟังพ่อแม่
การใช้คำขู่กับเด็ก แรก ๆ อาจจะทำให้เขาทำตามสิ่งที่พ่อแม่ต้องการได้สักระยะหนึ่ง แต่นาน ๆ ไปเข้า เขาจะเริ่มไม่เชื่อกับคำขู่เหล่านั้น เริ่มไม่สนใจ ไม่ใส่ อยากขู่อะไรก็ขู่ไป เขาจะไม่กลัวอีกต่อไปแล้ว กลายเป็นคนที่ไม่ฟังพ่อแม่ และจะควบคุมยากกว่าเดิมอีกนะ
การถูกขู่บ่อย ๆ เป็นเหมือนการตีกรอบให้เด็กกลาย ๆ บังคับให้เขาทำในสิ่งที่พ่อแม่ต้องการเท่านั้น ซึ่งอาจส่งผลให้เด็กขาดความคิดสร้างสรรค์ กลายเป็นกลัวทุกสิ่งทุกอย่าง โตมาขี้กลัวมาก ๆ ไม่กล้าคิดอะไรที่แปลกใหม่ ไม่กล้าพูดหรือเสนอความคิดเห็นใดใด รวมไปถึงไม่กล้าแสดงออก เพราะกลัวว่าถ้าหากทำอะไรผิด ก็จะโดนขู่ให้กลัวหรือโดนลงโทษอีก
วิธีสอนลูกแบบไม่ใช่คำขู่
การขู่ลูกเป็นการใช้เรื่องของอารมณ์และความหวาดกลัว มักจะขู่อะไรที่เป็นไปไม่ได้ หรือเป็นสิ่งเหนือธรรมชาติต่าง ๆ ดังนั้นให้ลองปรับ เอาหลักเหตุและผลเข้ามาใช้แทน เปลี่ยนจากคำขู่ มาอธิบายถึงเหตุผลว่าทำไมพ่อแม่ถึงไม่อยากให้ลูกทำสิ่งเหล่านั้น ทำแล้วจะเกิดผลเสียตามมากยังไง และที่พ่อแม่ต้องดุหรือตักเตือนลูกบ้าง ทำไปเพราะอะไร ต้องทำให้ลูกรู้สึกว่าพ่อแม่รักและเป็นห่วง มากกว่าที่จะแค่ทำให้พวกเขากลัวและต้องทำตามคำสั่งเฉย ๆ
คำชมถือเป็นสิ่งที่ใคร ๆ ก็ชอบ ลูกของคุณก็เช่นเดียวกัน นอกจากการดุเมื่อทำผิดแล้ว ควรชื่นชมพวกเขาเวลาทำดีด้วย เขาจะได้เข้าใจว่าอันไหนคือสิ่งที่ถูกต้อง ควรทำต่อไป และอันไหนคือสิ่งที่ผิด สิ่งที่ไม่ดี ไม่ควรทำอีกแล้ว
เด็ก ๆ มักจะเลียนแบบสิ่งใกล้ตัว ไม่ว่าจะเป็นการกระทำ รวมไปถึงคำพูดของผู้ปกครอง ดังนั้นถ้าหากอยากให้ลูกเป็นอย่างไร พ่อแม่ก็ควรเป็นตัวอย่างที่ดีให้ลูกเห็นด้วย อะไรที่ห้ามเด็ก ๆ ทำ พ่อแม่ก็ไม่ควรทำสิ่งเหล่านั้นให้ลูกเห็น หรือถ้าหากอยากให้เด็กทำตามเรื่องอะไร พ่อแม่ก็ควรเป็นตัวอย่างที่ดี ทำเป็นต้นแบบให้เขาก่อน อาจจะเริ่มจากอะไรง่าย ๆ อย่างการเก็บของเล่น หรือการทิ้งขยะให้ลงถังขยะก็ได้
ที่มา : wowparenting ,keepingyourcoolparenting ,huffpost
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
ลูกงอแงระหว่างเที่ยว มีสาเหตุจากอะไร และคุณแม่ควรรับมืออย่างไร
ลูกดูดนิ้ว กัดเล็บ ข้อดีของการดูดนิ้ว ทารกดูดนิ้ว ดีอย่างไร ต้องจับลูกเลิกหรือไม่ วิธีเลิกดูดนิ้ว วิธีเลิกกัดเล็บ
เรื่องที่แม่ต้องสอนลูก การเลี้ยงลูกที่ดี วิธีการสอนลูก เลี้ยงลูกอย่างไรให้เป็นผู้ใหญ่ที่ดี
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!