7 วิธี สอนลูกรับมือกับความผิดหวัง ปลูกฝังความเข้มแข็งให้ลูกน้อย

ในโลกแห่งการแข่งขัน ความผิดหวัง เป็นสิ่งธรรมดาสำหรับผู้ใหญ่อย่างเรา แต่กับลูกน้อยล่ะ จะเผชิญหน้าได้อย่างไร มาสอนลูกรับมือกับความผิดหวังไปด้วยกันค่ะ

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

“ความผิดหวัง” เป็นสิ่งธรรมดาของชีวิตที่ทุกคน ทุกเพศ ทุกวัย ต้องเผชิญ รวมถึงเด็กๆ ด้วย การสอนลูกรับมือกับความผิดหวัง ได้อย่างเหมาะสมและถูกวิธี จึงเป็นทักษะสำคัญที่คุณพ่อคุณแม่ควรปลูกฝังตั้งแต่ยังเล็ก เพื่อให้ลูกน้อยเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีความเข้มแข็ง สามารถยอมรับความจริงและเผชิญกับอุปสรรคต่างๆ ที่ผ่านเข้ามาในชีวิตได้ในอนาคตได้อย่างมั่นใจ เรามี 7 วิธี สอนลูกรับมือกับความผิดหวัง ปลูกฝังความเข้มแข็งให้ลูกน้อย มาฝากค่ะ

 

สารบัญ

สอนลูกรับมือกับความผิดหวัง สำคัญยังไง?

ถ้ามองในมุมคุณพ่อคุณแม่ที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมายาวนานหลายสิบปี “ความผิดหวัง” อาจเป็นเรื่องที่รับมือได้ไม่ยากนัก แต่ สำหรับลูกน้อยที่เพิ่งเรียนรู้การใช้ชีวิตบนโลกนี้มาเพียงไม่กี่ขวบปี จะให้เขารู้จัก เข้าใจ และยอมรับความผิดหวังได้อย่างดี จึงไม่ใช่เรื่องง่ายนัก แต่ก็เป็นสิ่งจำเป็นยิ่ง

เพราะตลอดเวลาที่ลูกเติบโตมาตั้งแต่ลืมตาดูโลก มีคุณพ่อคุณแม่ ปู่ย่าตายาย คอยดูแลปกป้อง เมื่อโตขึ้นและต้องไปอยู่ในโลกแห่งความจริงลูกจึงอาจตั้งรับกับความผิดหวังได้ลำบาก ซึ่งนี่อาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดโรคซึมเศร้าและโรคทางจิตเวชอื่น ๆ ตามมาได้ ทั้งยังมีแนวโน้มที่ลูกจะไม่เข้มแข็งพอที่จะต่อสู้อุปสรรคต่างๆ ในชีวิต อยู่ได้ยากในสังคมปัจจุบัน

การสอนให้ลูกน้อยรับมือกับความผิดหวังได้จึงเป็นสิ่งจำเป็น เพราะไม่เพียงแต่จะช่วยให้ลูกน้อยมีความแข็งแกร่งทางใจ แต่ยังช่วยพัฒนาทักษะสำคัญอื่นๆ อีกมากมาย ทั้งความอดทน ความมั่นใจ และความสามารถในการแก้ปัญหา

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

ข้อดีที่ลูกได้พบกับ “ความผิดหวัง”

เป็นความจริงที่ต้องยอมรับให้ได้ค่ะว่า “ไม่มีใครสมหวังทุกอย่างบนโลกใบนี้” ย้อนกลับไปมองตั้งแต่เล็กจนโตก็ได้ค่ะว่าคุณพ่อคุณแม่มีเรื่องที่สมหวังและผ่านความผิดหวังกันมาเท่าไร แล้วก็เป็นความจริงเช่นกันว่า “ความผิดหวัง” ได้สร้างภูมิคุ้มกันทางใจ รวมถึงสร้างประสบการณ์ชีวิตให้แก่ตัวเราได้ยังไงบ้าง การให้ลูกน้อยได้เผชิญกับความผิดหวังบ้าง ก็จะช่วยสั่งสมสิ่งเหล่านั้นให้ลูกเช่นกัน ลองมาลิสต์กันดูหน่อยค่ะว่า สิ่งที่ความผิดหวังสามารถสอนลูกน้อยได้มีอะไรบ้าง

  • เรียนรู้ว่าโลกไม่ได้หมุนรอบตัวเอง

สำหรับเด็กๆ แล้ว ความคิดที่ว่าตัวเองเป็นจุดศูนย์กลางมักเกิดขึ้นเสมอ โดยเฉพาะช่วยวัย 2-3 ขวบ ดังนั้น หากคุณพ่อคุณแม่สามารถทำให้ลูกรับรู้และเข้าใจได้ว่าไม่สามารถตามใจลูกได้ในทุกๆ เรื่อง มีบางอย่างที่ลูกจะไม่ได้ตามที่ต้องการ ให้ลูกได้เผชิญกับความผิดหวังบ้าง ลูกจะรับรู้ เรียนรู้ และยอมรับความปกติธรรมดาของความผิดหวัง ที่สามารถเกิดขึ้นได้ และเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตของทุกคน

  • รู้จักเห็นอกเห็นใจผู้อื่น

เมื่อได้สัมผัสความผิดหวัง กระทั่งเสียใจ ร้องไห้ และเข้าใจว่าคนที่ผิดหวังรู้สึกอย่างไร ลูกน้อยจะเรียนรู้ที่จะเห็นอกเห็นใจผู้อื่นมากขึ้น เพราะเข้าใจความรู้สึกผิดหวังนั้นเป็นอย่างดี

เพราะไม่ใช่ทุกสิ่งทุกอย่างที่ต้องการจะผุดขึ้นมาอยู่ในมือลูก ณ ชั่วขณะนั้น ลูกต้องใช้ความมานะพยายาม และมีความอดทนในการข้ามผ่านปัญหาและอุปสรรคที่เจอ โดยไม่ยอมแพ้ง่ายๆ

  • สอนให้ล้มแล้วลุก เรียนรู้จากความผิดพลาด

ความผิดหวังจะสอนให้ลูกน้อยรู้ว่าไม่ใช่ทุกครั้งที่จะสมหวัง และความผิดหวังไม่ได้อยู่กับเราตลอดไป เมื่อเข้าใจสิ่งเหล่านี้ลูกจะพร้อมลุกขึ้นลองใหม่อีกครั้งด้วยตัวเองได้ง่ายขึ้น โดยค่อยๆ เรียนรู้ที่จะก้าวผ่านอุปสรรคทีละขั้นจากประสบการณ์ที่ความผิดหวัง ความล้มเหลว หรือแม้กระทั่งความสมหวังที่เคยได้ให้บทเรียนไว้ และนำไปปรับปรุงตัวเองให้ดีขึ้น

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา
  • เพิ่มความมั่นใจ สามารถปรับตัวได้

เมื่อลูกสามารถผ่านพ้นความผิดหวังไปได้ จะช่วยเพิ่มความมั่นใจในตัวเอง อีกทั้ง การได้รับมือกับความผิดหวังจะช่วยให้ลูกมีจิตใจที่เข้มแข็งและสามารถปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ต่างๆ ได้ดี

7 วิธี สอนลูกรับมือกับความผิดหวัง ปลูกฝังความเข้มแข็งให้ลูกน้อย

ความผิดหวังสามารถมอบบทเรียนสำคัญต่างๆ ให้กับลูกน้อยได้ก็จริง แต่การจะเรียนรู้จากความผิดหวังได้นั้น สิ่งสำคัญคือลูกต้องสามารถเผชิญหน้ากับมันได้อย่างเข้มแข็ง รวมถึงรับมือกับผลลัพธ์ด้านลบที่ความผิดหวังจะนำมาให้ได้อย่างดีด้วย ซึ่งนี่คือภารกิจสำคัญของคุณพ่อคุณแม่ที่จะ สอนลูกรับมือกับความผิดหวัง ปลูกฝังความเข้มแข็งให้ลูกน้อย ลองมานำ 7 วิธีต่อไปนี้ไปใช้กันค่ะ

1. เปิดโอกาสให้ลูกเรียนรู้ด้วยการลงมือทำ

การจะสอนให้ลูกได้เผชิญและรับมือกับความผิดหวังให้ได้นั้น สิ่งแรกที่คุณพ่อคุณแม่ควรทำคือ “การมอบโอกาส” สนับสนุนให้ลูกได้ “ลงมือทำ” กิจกรรมต่างๆ เพื่อสร้างความมั่นใจและเรียนรู้จากประสบการณ์ตรงด้วยตัวเอง โดยเฉพาะการทำกิจกรรมนอกบ้านอย่างเหมาะสมตามช่วงวัย เช่น การไปสวนสัตว์ การได้เล่นกับเพื่อนๆ ที่สนามเด็กเล่น เพื่อเรียนรู้การอยู่ร่วมกันในสังคม สิ่งที่จะเกิดขึ้นเมื่ออยู่กับคนหมู่มากนอกเหนือจากคนในครอบครัว ต้องมีการแก้ไขปัญหา มีสิ่งที่ตัวเองจะได้รับ และพลาดหวังไป

2. ส่งเสริมลูกช่วยเหลือตัวเองให้มากที่สุด

การให้ลูกช่วยเหลือตัวเองได้สามารถดูแลตัวเองได้ตามวัย เช่น บอกความต้องการเข้าห้องน้ำได้ กินอาหารเองได้ ขอความช่วยเหลือได้อย่างถูกต้อง รวมไปได้รับผิดชอบงานบ้านเล็กๆ น้อยๆ โดยมีคุณพ่อคุณแม่ให้กำลังใจอยู่เคียงข้าง จะทำให้ลูกสามารถอยู่ได้โดยไม่ต้องพึ่งพาคุณพ่อคุณแม่ตลอดเวลา ได้เรียนรู้ถูกผิด ความสำเร็จและล้มเหลว ความผิดหวังและสมหวัง รวมถึงอดทนและพยายามช่วยเหลือตัวเองจนผ่านพ้นอุปสรรคต่างๆ ได้ในที่สุด

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

3. พูดคุยในเรื่องที่เกิดขึ้น

เป็นเรื่องปกติที่ลูกจะหงุดหงิด โกรธเคือง เสียใจ หากทำอะไรผิดพลาด ซึ่งเมื่อเกิดเหตุการณ์เหล่านี้ขึ้นควรปล่อยให้ลูกได้แสดงอารมณ์ความรู้สึกเหล่านั้น อย่าห้ามลูกร้องไห้ แต่ต้องยอมรับความรู้สึกของลูก รับฟังอย่างตั้งใจ ให้กำลังใจ รวมถึงพูดคุยและอธิบายให้ลูกเข้าใจว่าความผิดหวังเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นได้กับทุกคน การที่มีคุณพ่อคุณแม่คอยรับรู้และเข้าใจความรู้สึกเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในวันที่ลูกน้อยผิดหวังนะคะ เพราะแสดงให้เห็นว่ามีคนเข้าใจ พร้อมอยู่เคียงข้างและให้การสนับสนุนให้ลูกได้ลุกขึ้นได้อีกครั้ง

4. ชวนคิดวิเคราะห์ถึงสิ่งที่ลงมือทำ

ชี้ให้ลูกเห็นถึงมุมดีๆ จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น และมองหาโอกาสใหม่ๆ เพราะเด็กๆ สามารถเรียนรู้จากสิ่งที่ได้ลงมือทำมากกว่าผลลัพธ์หรือเป้าหมายสุดท้าย หากลูกล้มเหลวหรือผิดหวังในบางสิ่งบางอย่างแทนที่จะบอกลูกว่าต้องทำอะไร คุณพ่อคุณแม่ควรเปลี่ยนเป็นการตั้งคำถามว่า ลูกคิดว่าจะสามารถแก้ไขปรับปรุงอะไรจากสิ่งที่เกิดขึ้นได้บ้าง เพื่อให้เกิดกระบวนการคิดแก้ปัญหาด้วยตัวเอง และจะทำให้ลูกน้อยเห็นคุณค่าของการคิดวิเคราะห์มากกว่าการแพ้หรือชนะ สมหวังหรือผิดหวัง

5. โฟกัสที่ความพยายาม

สิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ควรปลูกฝังให้ลูกตั้งแต่เล็กๆ คือ การให้ความสำคัญกับการพยายามและการได้ลงมือทำ ไม่ว่าผลลัพธ์จะออกมาเป็นอย่างไร สิ่งดีที่สุดที่เกิดขึ้นคือ ลูกได้ใช้ความพยายามอย่างเต็มที่แล้ว การแข่งขัน การเล่น ความต้องการ ทุกอย่างที่เกิดขึ้นมีทั้งเรื่องสมหวังและไม่สมหวังความพยายามคือรางวัลแห่งการเรียนรู้ที่ดีสุด เป็นสิ่งที่พ่อแม่ภูมิใจในตัวลูกมากที่สุด

6. ทำความเข้าใจความรู้สึกที่แท้จริง

ไม่เพียงการพูดคุยเรื่องความผิดหวังเท่านั้น แต่ในกรณีที่ลูก “ชนะ” หรือ “สมหวัง” คุณพ่อคุณแม่ควรตั้งคำถามด้วยค่ะว่า ลูกรู้สึกอย่างไร รวมถึงต้องสอนให้ลูกรู้ว่าชัยชนะที่ได้มาคือสิ่งที่บอกว่าลูกประสบความสำเร็จจากความพยายาม แต่ไม่ได้ตัดสินว่าลูกเก่งกว่าคนอื่น ให้ลูกเข้าใจและรู้จักการวางตัวเมื่อได้รับชัยชนะ แต่เมื่อลูกแพ้หรือผิดหวังควรให้กำลังใจ อธิบายให้ลูกเข้าใจความรู้สึกผิดหวังอย่างมีเหตุผล บอกให้ลูกรู้ว่าความผิดหวังไม่ใช่จุดจบ แต่เป็นจุดเริ่มต้นเพื่อให้เราเรียนรู้จุดบกพร่องและพัฒนาตัวเองให้ดียิ่งขึ้น และลูกมีพ่อแม่คอยสนับสนุนอยู่ที่เดิมเสมอ ไม่ว่าอย่างไรความรักของพ่อกับแม่ไม่เคยลดลงเลย

7. รู้จักแบ่งปันคำชื่นชมและกำลังใจแก่ผู้อื่น

เมื่อลูกน้อยทำความเข้าใจและสามารถรับมือกับความผิดหวังได้แล้ว ลองสอนให้ลูกแบ่งปันความรู้สึกดีๆ ให้กับผู้อื่นมากขึ้นผ่านการชื่นชมและให้กำลังใจ ซึ่งพ่อแม่อาจเป็นแบบอย่างในการชื่นชมในความพยายาม ให้ลูกรู้และเข้าใจว่าคนที่ตั้งใจและพยายามอย่างเต็มที่นั้นสมควรที่จะได้รับการชื่นชม และสามารถให้กำลังใจคนอื่นเมื่อเขารู้สึกผิดหวังหรือเจอกับความพ่ายแพ้ อันเป็นที่มาของคำว่า “น้ำใจนักกีฬา” คือ ยินดีเมื่อผู้อื่นได้รับชัยชนะ ยอมรับในความผิดหวังของตนเองอย่างเข้มแข็ง และพร้อมส่งต่อกำลังใจให้คนอื่นๆ ที่ผิดหวังได้ด้วย

สิ่งสำคัญสำหรับ สอนลูกรับมือกับความผิดหวัง ปลูกฝังความเข้มแข็งให้ลูกน้อย คือ “ครอบครัว” และคนใกล้ชิดที่ “สนับสนุน” มอบความรัก ความสัมพันธ์ที่ดี ทำให้ลูกรู้สึก “อบอุ่น มั่นคง ปลอดภัย” เป็นปราการอันแข็งแกร่งที่พร้อมมอบคำชมเชยเมื่อลูกทำสิ่งต่างๆ ที่ตั้งใจไว้สำเร็จ ปลอบโยนและสนับสนุนทุกการเริ่มต้นพยายามทำสิ่งใหม่ๆ ด้วยความตั้งใจ ซึ่งกระบวนการเหล่านี้ต้องใช้เวลาและความอดทน คุณพ่อคุณแม่ควรเริ่มฝึกสอนลูกตั้งแต่ยังเล็ก และค่อยๆ ปรับวิธีการให้เหมาะสมกับพัฒนาการของลูก เมื่อเติบโตขึ้นลูกก็จะมีทักษะในการรับมือกับความผิดหวังและสามารถเผชิญหน้ากับอุปสรรคต่างๆ ในชีวิตได้อย่างเข้มแข็งค่ะ

 

 

ที่มา : ตามใจนักจิตวิทยา , dmh.go.th , www.brainfit.co.th , insthinklearning.com , www.istrong.co

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

ลูกชอบโยนของ รับมือยังไง ? พร้อมแชร์เคล็ดลับปรับพฤติกรรมลูกน้อย

7 เทคนิค ! ฝึกลูกทำงานบ้าน ช่วยพัฒนา EF ทักษะสำคัญของการใช้ชีวิต

5 เทคนิค สอนลูกให้พอใจในสิ่งที่ตนมี และไม่อิจฉาผู้อื่น ปลูกสุขที่แท้ในหัวใจ

บทความโดย

จันทนา ชัยมี