"แสงแดดยามเช้า" ดีกับทารกอย่างไร ทารกไม่ควรตากแดดจริงหรือ ?

แม้แม่ ๆ จะคิดว่าผิวของทารกนั้นบอบบาง ไม่ควรพาทารกไปตากแดด แต่ความจริงแล้ว แสงแดดยามเช้า มีประโยชน์ทารกไม่น้อย การที่ให้ทารกอยู่ห่างจากแสงแดดเป็นสิ่งที่ดี การให้ลูกน้อยสัมผัสกับแสงแดดอ่อน ๆ ในช่วงเช้ามีประโยชน์อย่างมาก แสงแดดมีประโยชน์ต่อทารกอย่างไรบ้าง ไปดูกันเลย

ทำไมแสงแดดถึงดีกับทารก ?

มีวิตามินดี

ประโยชน์ของแสงแดดที่ดีที่สุดกับลูกน้อยของคุณจะได้รับนั่นก็คือ วิตามินดี เนื่องจากร่างกายต้องการรังสียูวีอย่างน้อย 15 นาทีเป็นประจำทุกวัน ขึ้นอยู่กับโทนสีผิวของทารก ทารกผิวคล้ำใช้เวลาในการโดนแสงแดดมากกว่า แต่ไม่ควรเกิน 30 นาที วิตามินดีจะช่วยในการดูดซับแคลเซียม ที่จะช่วยเสริมสร้างกระดูกและฟัน ระบบภูมิคุ้มกันทำงานอย่างมีประสิทธิภาพและร่างกายได้รับการปกป้องจากโรคต่าง ๆ

บทความที่เกี่ยวข้อง :

ระดับเซโรโทนินดีขึ้น

แสงแดดช่วยเพิ่มการผลิตเซโรโทนินเมื่อทารกได้รับในปริมาณที่จำเป็น เซโรโทนินซึ่งมักถูกเรียกว่า ‘ฮอร์โมนแห่งความสุข’ ช่วยเพิ่มความรู้สึกมีความสุขและความปลอดภัย Serotonin ควบคุมการนอนหลับและการย่อยอาหารในทารก 

ระดับอินซูลินเพิ่มขึ้น

การได้รับแสงแดดตั้งแต่อายุยังน้อยสามารถช่วยป้องกันภาวะต่างๆ เช่น โรคเบาหวานได้ในระดับหนึ่ง แม้ว่าจะไม่ได้เป็นเพียงตัวอำนวยความสะดวกของระดับอินซูลินที่ดี แต่ก็เป็นข้อดีที่แน่นอน เนื่องจากวิตามินดีในร่างกายช่วยควบคุมระดับอินซูลิน การรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพและการออกกำลังกายในช่วงวัยเจริญพันธุ์ของเด็กจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการรักษาโรคเบาหวาน

จัดการอาการตัวเหลืองของทารก

แสงแดดช่วยสลายบิลิรูบิน ซึ่งเป็นสารประกอบสีเหลืองที่เกิดขึ้นในวิถี catabolic ตามธรรมชาติ เพื่อให้ตับของทารกประมวลผลได้ง่ายขึ้น การเจริญเติบโตของบิลิรูบินที่ไม่ได้ตรวจสอบอาจทำให้ผิวของทารกแรกเกิดเป็นสีเหลือง การให้ลูกน้อยได้รับแสงแดดตอนเช้าเป็นเวลา 15 ถึง 20 นาทีโดยไม่ได้แต่งตัวทุกวันสามารถช่วยแก้โรคดีซ่านเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม กรณีที่รุนแรงจะต้องได้รับการดูแลเอาใจใส่มากกว่านี้

ระดับพลังงานสูงขึ้น

เมื่อทารกแรกเกิดได้รับแสงแดดธรรมชาติจะช่วยควบคุมการผลิตเมลาโทนิน ระดับเมลาโทนินในทารกอาจส่งผลต่อรูปแบบการนอน ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อทารกแรกเกิด แสงแดดทำให้ระดับเมลาโทนินลดลงและเพิ่มเซโรโทนินซึ่งจะเป็นการเพิ่มระดับพลังงาน

ช่วงอายุทารกที่ควรได้รับแสงแดด

ทารก 0-6 เดือน

• ทารกอายุต่ำกว่า 6 เดือนควรเก็บให้พ้นแสงแดดโดยตรง
• หลีกเลี่ยงการใช้ครีมกันแดด ผิวเด็กของทารกไม่มีความสามารถในการเผาผลาญและขับสารเคมีที่มักพบในครีมกันแดด
• แต่งกายให้ทารกสวมเสื้อผ้าที่กันแดดน้ำหนักเบาซึ่งช่วยหายใจและคลุมแขนและขา
• ปกป้องศีรษะ ใบหน้า หู และคอของลูกน้อยด้วยหมวกปีกกว้าง ทารกที่สวมหมวกในช่วงสองสามเดือนแรกจะชินกับการสวมหมวก
• ใช้ร่มและร่มของรถเข็นเด็ก
• ใช้ที่บังหน้าต่างตาข่ายแบบถอดได้เพื่อป้องกันไม่ให้แสงแดดส่องเข้ามาทางหน้าต่างรถของคุณโดยตรง หรือลงทุนในฟิล์มหน้าต่างยูวีซึ่งสามารถกรองรังสีอัลตราไวโอเลตได้เกือบ 100% โดยไม่ลดการมองเห็น
• ใช้แว่นกันแดดที่มีการป้องกัน UVA/UVB ดวงตาได้รับผลกระทบจากการสัมผัสกับรังสียูวี การได้รับแสงยูวีมากเกินไปจะทำให้เกิดต้อกระจก จอประสาทตาถูกทำลาย และปัญหาดวงตาอื่น ๆ ผู้เชี่ยวชาญรายงานว่าความเสียหายจากรังสียูวีในดวงตาถึง 80% เกิดขึ้นก่อนอายุ 18 ปี ทำให้เราทุกคนต้องเริ่มปกป้องดวงตาตั้งแต่อายุยังน้อย
• เดินเล่นในตอนเช้าก่อนเวลา 10.00 น. หรือหลัง 16.00 น. และใช้รถเข็นเด็กที่มีผ้าคลุมกันแดด

ทารก 6-12 เดือน

• ตอนนี้ปลอดภัยแล้วที่จะใช้ครีมกันแดดกับเด็กทารก เลือกครีมกันแดดสำหรับผิวทารกและครีมกันแดดที่ไม่แสบตาของทารก
• วิธีการป้องกันทั้งหมดที่อธิบายข้างต้นยังคงใช้อยู่ อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ควรใช้ครีมกันแดดรวมเข้าไว้ด้วย
• ทาครีมกันแดดในวงกว้างโดยมีค่า SPF ขั้นต่ำที่ 30 โดยมีการป้องกันรังสี UVA/UVB โดยเฉพาะในบริเวณที่ไม่ได้เปิดไว้ เช่น มือของทารก เด็กบางคนมีอาการแพ้ส่วนผสมของครีมกันแดดหลายชนิด ทดสอบผลิตภัณฑ์ก่อนโดยใช้ปริมาณเล็กน้อยกับผิวบริเวณที่จำกัด เลือกผลิตภัณฑ์ที่ไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้และปราศจากน้ำหอม
• สิ่งสำคัญที่สุดคือต้องทาครีมกันแดด 30 นาทีก่อนออกไปข้างนอก และทาซ้ำทุกๆ สองชั่วโมง หรือหลังว่ายน้ำหรือมีเหงื่อออกมากเกินไป ผลิตภัณฑ์ไม่สามารถกันน้ำได้อีกต่อไป ต้องกันน้ำได้เท่านั้น และฉลากต้องระบุเวลาไว้ที่ 40 หรือ 80 นาทีก่อนที่ครีมกันแดดจะไม่ได้ผล

เคล็ดลับในการได้รับประโยชน์สูงสุดจาก แสงแดดยามเช้า

เลือกเวลาที่เหมาะสม

ตรวจสอบให้แน่ใจว่าลูกน้อยของคุณถูกแสงแดดเป็นเวลา 10 ถึง 15 นาทีระหว่าง 7.00 ถึง 10.00 น. เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด หนึ่งชั่วโมงหลังจากพระอาทิตย์ขึ้นและหนึ่งชั่วโมงก่อนพระอาทิตย์ตกถือเป็นเวลาที่ดีที่สุดที่จะทำให้ลูกน้อยของคุณได้รับแสงแดด เนื่องจากผิวของทารกบอบบาง การสัมผัสกับแสงแดดจึงไม่ควรเกิน 30 นาที การได้รับรังสียูวีเป็นเวลานานสามารถทำลายเยื่อหุ้มผิวหนังของทารกได้ ทำให้เกิดรอยแดง แสบร้อน และระคายเคือง

สวมใส่เสื้อผ้า

เป็นสิ่งสำคัญที่ร่างกายของทารกทั้งหมด รวมทั้งหน้าอกและหลัง จะต้องโดนแสงแดดในปริมาณที่พอเหมาะ ดังนั้นตรวจสอบให้แน่ใจว่าลูกของคุณไม่ได้แก้ผ้า และควรหาอะไรมาปกป้องดวงตาของลูกน้อยหากเป็นไปได้ เพื่อหลีกเลี่ยงความอันตรายที่จะก่อผลเสียกับดวงตา

เลือกสถานที่ที่เหมาะสม

ไม่จำเป็นที่ลูกน้อยของคุณจะอาบแดดในที่โล่งแจ้ง เพียงเปิดหน้าต่างก็สามารถรับแสงแดดได้แล้ว หรือวางทารกไว้ในห้องที่มีแสงแดดธรรมชาติส่องถึง หากมีลมแรง ควรให้ทารกอยู่ในบ้านเพื่อหลีกเลี่ยงฝุ่นละอองหรือสิ่งแปลกปลอมอื่น ๆ ที่ส่งผลต่อดวงตาของเขา ลูกน้อยของคุณสามารถอาบแดดผ่านหน้าต่างกระจกใสได้เช่นกัน

ทารกที่คลอดก่อนกำหนดต้องใส่ใจเป็นพิเศษ

ในกรณีที่ลูกน้อยของคุณคลอดก่อนกำหนด อย่าให้เขาถูกแสงแดดในช่วงสองสามสัปดาห์แรก ทารกอาจไม่สามารถปรับให้เข้ากับอุณหภูมิที่อบอุ่นได้ และอาจพิสูจน์ได้ว่าไม่ปลอดภัยสำหรับทารกที่คลอดก่อนกำหนด เนื่องจากทารกคลอดก่อนกำหนดต้องมีอุณหภูมิร่างกายคงที่ ดังนั้น ควรเก็บให้ห่างจากแสงแดดโดยตรงในช่วงแรก ทารกที่อยู่ในช่วงน้ำหนักที่ดีต่อสุขภาพสามารถพาลูกไปโดนแสงแดดบริเวณหน้าต่างได้

ผิวบอบบางต้องการการดูแล

หากลูกน้อยของคุณมีผิวบอบบาง ให้ปรึกษาแพทย์ว่า สามารถปล่อยให้เขาถูกแสงแดดโดยตรงหรือไม่ เพราะคุณแม่อาจสร้างความเสียหายให้กับผิวของทารกได้ เนื่องจากอาจทำให้ผิวแห้ง ทำให้เกิด  ผื่นลอก หรือระคายเคืองได้

สามารถอาบแดดได้ทุกช่วงวัย

คุณแม่ทราบหรือไม่ว่า กระบวนการสร้างกระดูกเกิดขึ้นจนถึงวัยรุ่น เนื่องจาก วิตามินดีมีความสำคัญต่อการสร้างกระดูก การได้รับแสงแดดจึงเป็นสิ่งจำเป็นในทุกช่วงอายุ สำหรับทารกแรกเกิด จะช่วยในการจัดการระดับบิลิรูบิน หากทำได้ในช่วงสองสามสัปดาห์แรก จำไว้ว่าคุณต้องมีวิตามินดีมากพอ ๆ กับที่ลูกน้อยของคุณต้องการ ดังนั้นอย่ารีรอที่จะเผชิญกับแสงแดดเมื่อทำร่วมกับลูกน้อย

สามารถดูรายละเอียดการทำความสะอาดก่อนอาบน้ำได้

เจ้าตัวน้อยสามารถได้รับแสงแดดทุกวันก่อนอาบน้ำ วิธีนี้จะช่วยคุณทำความสะอาดบริเวณที่มองข้ามไป เช่น พับท้อง ต้นขา เท้า และส่วนหลังใบหู

ดูอุณหภูมิร่างกาย

อุณหภูมิร่างกายที่เพิ่มขึ้นอย่างผิดปกติของทารก เนื่องจากการได้รับแสงแดดเป็นเวลานาน ควรเป็นสาเหตุของความกังวล ร่างกายและการทำงานของสมองของทารกอาจได้รับผลกระทบจากอุณหภูมิสูง ดังนั้นจึงต้องตรวจสอบระยะเวลาและอุณหภูมิอย่างระมัดระวัง

ใช้เวลาอย่างชาญฉลาด

ในขณะที่ลูกน้อยของคุณกำลังเพลิดเพลินกับแสงแดดอ่อน ๆ คุณสามารถใช้โอกาสนี้เพื่อคุยเล่น หรือบำรุงผิวให้กับทารก คุณแม่สามารถนวดทารกเบา ๆ ด้วยเบบี้ออยล์เพื่อป้องกันปัญหาผิวเพิ่มเติม การกอดทารกทำให้เกิดความรู้สึกปลอดภัยและอบอุ่น และส่งเสริมสุขภาพที่ดี ให้แน่ใจว่าคุณพูดคุยกับทารกตลอดเวลา และสร้างรากฐานสำหรับการสื่อสารในอนาคตระหว่างแม่กับลูก เวลาที่ใช้อย่างเหมาะสมนี้มีประโยชน์มากมาย ทั้งทางร่างกายและทางอารมณ์สำหรับทั้งทารกและแม่

บทความอื่น ๆ ที่คุณอาจจะสนใจ :

ครีมกันแดดเด็ก 10 ตัว สูตรอ่อนโยน ชวนแม่ชอปปิ้งต้อนรับซัมเมอร์นี้

100 สิ่งแม่ท้องต้องรู้ ตอนที่ 93 แสงแดด ดีต่อแม่ท้องอย่างไร

โรคมะเร็งผิวหนัง ภัยร้ายที่มากับแสงแดด อาการและสัญญาณเตือนที่ควรรู้

ที่มา : parenting