เด็กทารกบอบบาง น่ารัก น่าทะนุถนอม แต่การดูแลทารกให้ถูกวิธี และการเข้าใจว่าทารกกำลังรู้สึกอย่างไรนั้น มันไม่ได้ง่าย แต่ก็ไม่ได้ยากขนาดนั้นเช่นกัน
ถ้าลูกร้องโดยไม่ทราบสาเหตุ อย่าเพิ่งเรียกหมอผี เพราะคนเป็นแม่รู้ดีกว่าใคร ด้วยความรู้ที่เรากำลังจะบอกคุณต่อไปนี้ กับเวลาสักเล็กน้อย คุณก็จะรู้วิธีแก้ปัญหาแบบที่ไม่มีใครทำได้แน่นอน
อาการป่วยที่พบบ่อยในทารก
อาการป่วย: สิ่งที่ทำให้ลูกไม่สบายตัว
มี “อาการป่วย” หลายอย่างที่จะทำให้ลูกผิดปกติหรือเจ็บปวด บ้างก็เห็นได้ชัด แต่บ้างก็ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญในการวินิจฉัย อาการป่วยที่พบบ่อยในเด็กทารก มีดังต่อไปนี้:
- โคลิค
- ผื่นผ้าอ้อม
- ปวดฟันงอก
- ปวดหู
- ท้องอืด
- ท้องผูก
โคลิค
โคลิค (โบราณเรียกอาการ “ร้องร้อยวัน”) คืออาการปวดท้องที่เกิดในเด็กทารก มีสาเหตุจากลมในช่องท้อง อาการที่เห็นได้ชัดคือ ร้องไห้เป็นช่วง ๆ และยกขาขึ้นมาบริเวณท้อง สามารถช่วยบรรเทาอาการได้โดยการพยายามทำให้เด็กระบายลม ที่แย่คือยิ่งเด็กร้องมาก ยิ่งกลืนลมเข้าไปมาก และยิ่งทำให้ปวดท้อง
โชคร้ายที่ไม่มีวิธีป้องกันหรือรักษาอาการโคลิค ถ้ามี 75% ของทารกที่เป็นโรคนี้ในช่วงสองสามเดือนแรกคงจะลุกขึ้นมาเต้นกังนัมกันแน่ ๆ (พ่อแม่ก็เหมือนกัน!) แต่อย่าเพิ่งเสียกำลังใจไป มีวีธีที่จะลดความเสี่ยง หรืออย่างน้อยก็ลดความถี่ของอาการได้
- ในช่วงให้นมลูก คุณควรงดคาเฟอีน อาหารรสจัด และอาหารที่ทำให้เกิดลม (เช่นถั่ว, กระหล่ำปลี, บร็อกโคลี ฯลฯ) อาจงดอาหารที่มีผลิตภัณฑ์จากนม เพราะโคลิคอาจเกิดจากการที่ร่างกายย่อยแล็คโตส (น้ำตาลในนม) ไม่ได้
- ถ้าให้นมชง ลองเปลี่ยนนมเป็นสูตรที่ทำจากถั่วเหลืองแทน
- อย่าปล่อยให้ลูกถูกกระตุ้นมากเกินไป ความตื่นเต้นเกินขนาดมักทำให้เด็กมีอาการโคลิค อาการนี้มักหายไปเองในเดือนที่ 4-5 ดังนั้น การสร้างบรรยากาศผ่อนคลาย สบาย ๆ ในบ้านอาจช่วยลดอาการได้
วิธีที่เราแนะนำไม่ได้แก้ปัญหาได้ร้อยเปอร์เซนต์ แม้คุณจะพยายามอย่างดีที่สุดแล้วก็ตาม เจ้าตัวน้อยก็อาจมีอาการนี้ได้เป็นครั้งคราว คุณอาจลองใช้วิธีที่เรากำลังจะแนะนำต่อไปนี้ เพื่อช่วยบรรเทาอาการให้ลูกได้
- ทำให้ลูกเรอ ถ้าวิธีบ้าน ๆ แบบการพาดไหล่ไม่ได้ผล ลองจับลูกนอนคว่ำไว้บนตัก และนวดหลังเบา ๆ แต่หนักแน่น เริ่มจากก้นกบไล่ขึ้นไปถึงกระดูกสะบัก
- ห่อลูกไว้ด้วยผ้าห่ม
- โยกเยกเจ้าตัวน้อยไปมา และนวดท้องและ/หรือหลังไปพร้อมกัน
- ให้ยาบรรเทาอาการท้องอืดท้องเฟ้อสำหรับเด็ก ซึ่งมักได้ผลดี แต่ไม่ควรให้บ่อย และต้องได้รับการแนะนำจากแพทย์เท่านั้น
- จับลูกอาบน้ำอุ่น น้ำอุ่นจะช่วยคลายกล้ามเนื้อท้องและช่วยระบายลมได้
- จับขาลูกปั่นจักรยานอากาศ การขยับขาท่านี้จะช่วยขับลมออกจากช่องท้อง
ผื่นผ้าอ้อม
ผื่นผ้าอ้อมไม่ใช่เรื่องเหนือธรรมชาติ แต่เกิดจากความบอบบางของผิวทารกต่อฉี่และอึ วิธีแก้คือ อย่าปล่อยให้ก้นของลูกน้อยหมักหมมในของเสียนานเกินไป พยายามทำความสะอาดและเช็ดให้แห้ง ง่ายนิดเดียวค่ะ
คุณยังสามารถโรยแป้งข้าวโพดสำหรับทารกทุกครั้งหลังเปลี่ยนผ้าอ้อม แต่ถ้าลูกของคุณยังเป็นผื่น (ซึ่งแทบจะรับรองได้ว่าต้องเป็นอย่างน้อยสักครั้ง) เราแนะนำให้ลองใช้ขี้ผึ้งสำหรับผื่นผ้าอ้อมโดยเฉพาะ มีผลิตภัณฑ์ให้เลือกหลายตัวในท้องตลาด ลองใช้สักสองสามยี่ห้อเพื่อดูว่าอันไหนดีที่สุดสำหรับเจ้าตัวน้อย (หมายเหตุ: ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบของสังกะสี อาจทำให้เกิดอาการแพ้ โปรดใช้อย่างระมัดระวัง)
ถ้าลูกกินยาปฏิชีวนะต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน อาจทำให้เกิดเชื้อราตามบริเวณขาหนีบและรอบก้น ซึ่งต้องใช้ยาทาตามแพทย์สั่งเท่านั้น
ฟันงอก
ฟันขึ้นเป็นเรื่องธรรมชาติไม่ต่างจากการหายใจ และมันก็เจ็บซะด้วย เด็กที่กำลังจะมีฟันงอกมักจะหยุกหยิก อยู่ไม่สุข และจับทุกอย่างที่คว้าได้ใส่ปาก แต่กลับไม่อยากกินอาหาร เด็กบางคนอาจมีไข้ต่ำ ๆ ท้องเสีย หรือเป็นผื่นรอบ ๆ ปากด้วย ผู้ปกครองสามารถช่วยบรรเทาอาการเจ็บฟันได้จนกว่าฟันจะขึ้นครบทุกซี่
เพื่อช่วยบรรเทาอาการให้ลูก (และตัวคุณเอง) เรามีคำแนะนำดังต่อไปนี้
- ให้เจ้าตัวเล็กเคี้ยวอะไรก็ได้ที่เขาชอบ ตราบใดที่มันสะอาดและเคี้ยวได้อย่างปลอดภัย
- ยางกัดสำหรับเด็กแช่เย็นหรือแช่แข็งคืออุปกรณ์ชั้นเลิศ ความเย็นจะทำให้เหงือกชา และทำให้เจ้าตัวเล็กหายปวดได้ชั่วคราว ความแข็งของมันจะช่วยกระตุ้นให้ฟันงอกได้ดีขึ้น
- ยาแก้ปวดและยาชาก็ช่วยได้เช่นกัน แต่ควรให้ด้วยความระมัดระวัง โดยเฉพาะยาแก้ปวด คุณอาจจะอยากลองยาแก้ปวดประเภทจากธรรมชาติ 100% ที่มีขายในท้องตลาด
อาการปวดหูของทารก
ปวดหู
ถ้าคุณเคยมีอาการปวดหู คุณน่าจะรู้ว่ามันทรมานแค่ไหน แค่คิดก็ปวดแล้ว แล้วลองคิดดูว่าเจ้าตัวเล็กจะปวดแค่ไหน
ถ้าเจ้าตัวเล็กหยุกหยิก (หรือแย่กว่านั้น) ดึงหู ป้องหู หูแดงหรือมีสิ่งผิดปกติใด ๆ กับหู พาไปหาหมอโดยด่วน แพทย์จะสั่งยาฆ่าเชื้อและยาแก้ปวดสำหรับเด็ก แต่อย่างที่รู้กันว่าอาการเหล่านี้มักไม่เกิดในเวลาราชการ ดังนั้นคุณอาจต้องช่วยบรรเทาอาการเจ็บปวดให้ลูกก่อนโดยการ
- ให้ยาแก้ปวดสำหรับเด็กตามขนาดที่แนะนำ
- โปะแผ่นประคบอุ่น หรือ ถุงน้ำอุ่นไว้บนหู ระวังอย่าให้ร้อนเกินไป
- อุ้มลูกไว้ใกล้ ๆ แต่อย่าพยายามโยกไปมา เพราะจะยิ่งทำให้ปวด
- อย่าพยายามทำความสะอาดในหูด้วยสำลีเช็ดหูหรือหยดอะไรเข้าไป ควรให้หมอจัดการจะดีกว่า
ท้องอืด
วิธีแก้อาการท้องอืดก็เหมือนกับการแก้โคลิค ความแตกต่างเพียงอย่างเดียว (รู้นะว่าคุณกำลังจะถาม) ก็คือเรียกไม่เหมือนกันแค่นั้นเอง บางคนเรียกท้องอืด บางคนเรียกโคลิค แต่ปกติท้องอืดจะใช้เรียกอาการชั่วคราว ส่วนโคลิคใช้เรียกอาการเรื้อรัง เกิดนานเป็นเดือน ๆ
ท้องผูก
ท้องผูกเป็นเรื่องปกติสำหรับเด็กทารก เพราะการเปลี่ยนอาหารบ่อยในช่วงปีแรก เด็กแต่ละคนไม่เหมือนกัน ซึ่งหมายรวมถึงพฤติกรรมการอึด้วย อึของเด็กที่กินนมแม่อาจมีลักษณะเหลวกว่าและเป็นก้อนเล็กกว่าเด็กที่กินนมชง อยากรู้ว่าลูกท้องผูกหรือไม่ สังเกตได้จากอาการต่อไปนี้
- ช่วงท้องไม่ได้เคลื่อนไหวเลยใน 24 ชั่วโมง
- ท้องแข็ง
- หยุกหยิกและเตะถีบตลอดเวลา
- ดูเครียดเมื่อต้องเข้าห้องน้ำ
- อุจจาระเป็นก้อนแข็ง
คุณแม่ควรทำอย่างไร?
- ลองเปลี่ยนอาหารแบบค่อยเป็นค่อยไป ค่อย ๆ ป้อนอาหารใหม่ทีละอย่าง
- เสริมอาหารหลักด้วยแอปเปิ้ลเหลว พรุน หรือน้ำองุ่นเล็กน้อยในแต่ละวัน จนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น
- เพิ่มกากใยลงไปในอาหารถ้าลูกเริ่มกินอาหารแข็ง พยายามเลี่ยงกล้วยบด ข้าว และขนมปัง
- ลองเปลี่ยนสูตรอาหารเป็นสูตรทำจากถั่วเหลืองแทนสูตรนม
คุณแม่มือใหม่หลายคนรู้สึกไม่มั่นใจเวลาลูกมีอาการเจ็บป่วย แต่อย่าลืมว่าอาการเหล่านี้เป็น อาการ “ที่พบบ่อย” ดังนั้นเราขอให้คุณใจเย็น ๆ ใคร ๆ ก็รับมือได้ คุณเองก็เช่นกัน
บทความที่น่าสนใจอื่นๆ
ไขข้อข้องใจ ยาสีฟันผสมฟลูออไรด์ให้ลูกเริ่มใช้ได้เมื่อไร
วิธีดูแลเมื่อลูกวัยทารกหรือวัยเตาะแตะเป็นไข้
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!