เมื่อคนใกล้ตัวล่วงละเมิดลูกสาว ภัยร้ายของสังคมที่ต้องระวังให้ดี
เมื่อคนใกล้ตัวล่วงละเมิดลูกสาว เมื่อวันที่ 28 มกราคมที่ผ่านมามีเรื่องราวเกิดขึ้นในทวิตเตอร์ จนกลายเป็นที่ถูกพูดถึงกันในวงกว้าง เมื่อมีแอคเคาท์ ทวิตเตอร์รายหนึ่ง ที่ใช้ชื่อว่า หลานของผม ออกมาโพสรูป หลานสาวของตัวเอง ที่ได้มาจากกล้องที่ตัวเองแอบถ่าย แค่นั้นไม่พอ ยังมีคนมาเชียร์อีกเยอะมาก นอกจากจะบอกว่าให้มอมหลานสาวตัวเอง แล้วข่มขืนแล้ว ยังมีการแสดงความคิดเห็น ไปในเชิงเสียหายอีกมากมาย ทำให้มีคนออกมาวิจารณ์เรื่องนี้กันเป็นจำนวนมาก
เมื่อคนใกล้ ตัวล่วงละเมิดลูกสาว
จากการที่อ่านข้อความที่ผู้คนได้โพสลงใน ทวิตเตอร์ ทำให้พบว่า มีผู้หญิงจำนวนมาก ที่ออกมาเปิดเผยเรื่องราวของตัวเอง ว่าเคยถูกลวนลามจากคนใกล้ชิด ไม่ว่าจะเป็น พ่อ ลุง หรือ ญาติใกล้ชิด เพื่อนคนในครอบครัว ก็มีเต็มไปหมด เรื่องราวที่ทุกคนออกมาเปิดเผย ล้วนแต่สร้าคำถามให้ทุกคนว่า เกิดอะไรขึ้นในสังคมทุกวันนี้ เมื่อคนใกล้ตัวยังทำร้ายเราได้ แล้วเรายังจะไว้ใจใครได้อีก
การแต่งตัวของผู้หญิงไม่ใช่ปัญหา
เมื่อคนใกล้ตัว ล่วงละเมิดลูกสาว
แม้ว่าเหตุการณ์ครั้งนี้จะบอกอะไรได้หลายอย่าง แต่ก็ยังมีกลุ่มคนจำนวนหนึ่ง ที่ออกมาโทษผู้หญิงว่า แต่งตัวล่อแหลม หรือ ไปทำอะไรให้ยั่วยุเองหรือไม่ การโทษเหยื่อนอกจากจะไม่ได้ช่วยอะไรแล้ว ยังทำให้ความเชื่อผิดๆ ส่งต่อกันได้โดยง่ายอีกด้วย วัฒนธรรมที่ผู้หญิงต้องระวังตัว ผู้หญิงต้องรับเคราะห์กรรมทุกอย่างนั้นควรจะมีจำนวนที่น้อยลง เพราะปัญหาที่เกิดขึ้นนั้นไม่ได้เกิดจากตัวผู้หญิงเลย
เมื่อเกิดเหตุการณ์อะไรที่เสียหายผู้หญิงมักจะถูกประนาม หรือ กล่าวหาเสมอ มีเรื่องราวอีกหลายประเด็นที่คุณไม่ควรทำเมื่อพบเจอว่าลูก หรือ คนใกล้ชิดได้รับผลกระทบจากการล่วงละเมิดทางเพศ
ไม่ยอมรับ ทำให้เป็นเรื่องเล็ก
เมื่อคนใกล้ตั วล่วงละเมิดลูกสาว
มีเหยื่อการล่วงละเมิดหลายคนที่ไม่กล้าบอกใคร ไม่กล้าเล่าเรื่องนี้ให้ใครฟัง ยิ่งเป็นการล่วงละเมิดที่ถูกกระทำโดยคนในครอบครัวแล้วด้วย เหยื่ออาจจะถูกกล่าวหาว่าโกหก จำผิดไปเอง คิดมากไปเอง การที่คนใกล้ชิดพูดออกไปแบบนี้จะทำให้ความรู้สึกของเหยื่อแย่ไปยิ่งกว่าเดิม เพราะมันขะทำให้เหตุการณ์ร้ายๆย้อนกลับมาทำร้ายตัวเขา เขาจะรู้สึกว่าพูดอะไรไปก็ไม่มีใครฟัง ไม่มีใครปกป้อง และ ไร้พลัง
การที่คุณยอมรับฟังว่าเรื่องทุกอย่างเกิดขึ้นจริง ไม่ใช่การตอกย้ำ แต่เป็นการแสดงความเข้าใจ ว่าผลกระทบคืออะไร จะได้รู้ว่าควรจะเดินไปทางไหนต่อ แม้ว่าผู้กระทำจะขอโทษแล้ว แต่จิตใจของเหยื่อก็ใช่ว่าจะโอเคขึ้นมาในเร็ววัน คนใกล้ชิดควรที่จะเข้าใจ และ ให้เวลาเหยื่อได้พัก เป็นกำลังใจให้เหยื่อ
โทษเหยื่อว่าไม่ระวังตัวเอง
เมื่อคนใก ล้ตัวล่วงละเมิดลูกสาว
อย่างที่เราบอกไปข้างต้น ว่าปัญหานี้ เป็นปัญหาใหญ่ที่เกิดขึ้นในสังคมไทย การโทษเหยื่อไม่ได้ช่วยอะไรเลย การโทษเหยื่อ จะสร้างบาดแผลในใจเหยื่อ ให้เงียบต่อไป เพราะพอพูดออกมาแล้ว ก็ไม่มีใครฟัง แถมยังมาโทษอีก ความกลัวนี้จะทำให้เหยื่อรู้สึก มืดแปดด้าน นอกจากนั้นมันยังเปิดโอกาสให้คนที่เป็นผู้กระทำได้ใช้โอกาสนี้ กลับมาก่อเหตุในลักษณะเดิมอีก
ด้วยสภาพสังคม และ มายาคติที่สังคมสร้างขึ้น เหยื่อมักจะโทษตัวเองอยู่แล้วว่านี่เป็นความผิดของพวกเขาเอง ในที่สุดแล้ว ผู้ที่เป็นเหยื่อต้องเข้าใจว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่ใช่ความผิดของเหยื่อเลยแม้แต่น้อย ไม่ว่าใครก็ไม่ควรจะต้องมาเจอกับเหตุการณ์แบบนี้
บอกให้เหยื่อลืมๆเรื่องต่างๆไปซะ
เมื่อค นใกล้ตัวล่วงละเมิดลูกสาว
การบอกให้เหยื่อลืมและปล่อยทิ้งไป เป็นวิธีที่ไม่ได้ผล และ จะทำให้เหยื่อถอยหลังลงคลองมากกว่าจะเดินไปข้างหน้าได้ วิธีที่จะช่วยให้เหยื่อรักษาตัวเองได้ดีที่สุดก็คือ การให้การสนับสนุน และให้กำลังใจให้เหยื่อผ่านเหตุการณ์นี้ไปได้ เมื่อเหยื่อผ่านเหตุการณ์นี้ไปแล้ว
ทำให้เขารู้สึกเหมือนตัวเองไม่มีเสียง
มีคนหลายคนเลือกที่จะปฏิเสธ หรือ เลือกที่จะไม่สนใจเหยื่อที่พึ่งผ่านเหตุการณ์อันเลวร้ายมา เหตุการณ์ที่เหยื่อเจอนั้นมันส่งผลกับความรู้สึก ความต้องการ ความคิดเห็น และสิ่งที่อยู่ในหัวเป็นอย่างมาก บางคนอาจจะถูกต่อว่า ว่าการแสดงอารมณ์โกรรธ โมโห เสียใจ เพื่อเรียกร้องความสนใจ ในบางกรณีเหยื่ออาจจะเก็บกด กลายเป็นโรคซึมเศร้า
บงการชีวิตเหยื่อ
ในมุมของคนในครอบครัวบางคนอาจจะไม่เชื่อ แต่นั้นยังไม่พอ ยังจะบงการ จัดการ ให้เหยื่อได้ใกล้ชิดกับคนที่ถูกกระทำมากขึ้นไปอีก การกระทำแบบนี้ จะทำให้เหยื่ออึดอัด และ รู้สึกไม่โอเคได้ ในบางครอบครัวอาจจะตรงกันข้ามตรงที่ มองว่าเหงื่อเป็นเหมือนเชื้อโรค เป็นอะไรที่รับไม่ได้ ไม่กล้าไปสู้หน้าคนอื่น และ ปล่อยให้เหยื่ออยู่คนเดียว ไม่ให้ออกไปพบปะหรือเจอผู้คนเลย
คนใกล้ชิดควรที่จะสอบถามสภาพจิตใจของผู้เป็นเหยื่อ ว่าพร้อมแค่ไหน อยากทำอะไรบ้าง จิตใจโอเครึยังจะดีกว่า
ไม่เลือกข้าง
ครอบครัวบางครอบครัว อาจจะพูดว่าตัวเองไม่อยากเลือกข้าง เพราะคนทั้งคู่ก็เป็นคนในครอบครัวทั้งสิ้น แต่การไม่เลือกข้างนี่แหละ อาจจะทำอันตรายให้กับเหยื่อได้มากกว่าที่คิด เหยื่อก็รู้สึกอยู่แล้วว่าตัวเองจะไม่ได้รับการปกป้องที่มากเพียงพอ ผู้ที่อยู่ใกล้ชิด พ่อ แม่ ผู้ปกครอง ควรที่จะอยู่ข้างของเหยื่อ สนับสนุน ปกป้องเหยื่อมากกว่าที่จะไม่เลือกข้าง
ผู้ที่เป็นคนกระทำ ควรจะได้รู้ว่าสิ่งที่ตนทำไปนั้นอันตราย และ สร้างบาดแผลให้กับเหยื่ออย่างมาก ไม่ใช่แค่ทางร่างกาย แต่เป็นทางจิตใตด้วย และ บาดแผลแบบนี้ใช่ว่าจะหายง่ายๆ มันต้องใช้เวลานาน และ คนหลายส่วนในการช่วยเหลือ สภาพจิตใจของเหยื่อ
ปัญหาที่เจอในสังคมปัจจุบัน ไม่ได้มีแต่เรื่องการล่วงละเมิดทางเพศ แต่มีการทำร้ายร่างกาย ในแบบที่ตั้งใจ และ ไม่ตั้งใจด้วย พ่อแม่ ควรที่จะดูแลลูกให้ดี เพื่อไม่ให้เขาต้องเจอกับเหตุการณ์แบบนี้ รวมไปถึง ต้องถามตัวเองด้วยว่า ตัวผู้ปกครอง เคยทำร้ายลูกโดยไม่ได้ตั้งใจบ้างหรือไม่
Source : psychcentral
บทความอื่นๆที่น่าสนใจ :
เหยื่อความแค้น แม่โกรธพ่อเอากรรไกรตัดจู๋ลูก ประชดอดีตสามี ?
การกลั่นแกล้งกัน ภัยร้ายที่อาจจะนำไปสู่ความตาย ไม่ใช่แค่เรื่องเด็กๆ
ทำไมพ่อแม่ในญี่ปุ่นถึงทำร้ายลูกมากขึ้น? เกิดอะไรขึ้นในสังคมชาวญี่ปุ่น
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!