สมองแต่ละซีก มีการควบคุมการทำงานที่ต่างกัน คุณคงจะเคยได้ยิน ได้อ่าน หรือเคยได้รับการทดสองสมองซีกซ้าย ซีกขวา มาบ้างแล้ว ว่าแต่เรื่องนี้หมายถึงอะไร และทำไมถึงได้สำคัญนัก? มา ฝึกใช้สมองซีกขวา กัน
ฝึกใช้สมองซีกขวา ให้ลูก เริ่มต้นอย่างไรดี
- เปิดภาพให้ลูกดูเร็ว ๆ จดจำ แล้วนำมาตอบคำถาม
- การคิดเลขเร็ว
- การจำคำศัพท์ภาษาอังกฤษ
- การเล่นเกมส์ เช่น โหนบาร์แล้วนับจำนวนว่าโหนไปกี่ครั้ง
การพัฒนาสมองทั้งสองซีกมีความสำคัญอย่างไร ติดตามได้ในบทความนี้เลยค่ะ
ฝึกใช้สมองซีกขวา เมื่อไหร่ดี ?
พื้นฐานความรู้เรื่อง “สมอง” สมองซีกซ้าย ซีกขวา
สมองซีกซ้าย เป็นที่รู้จักกันว่าเป็นสมองซีกการใช้เหตุผล การควบคุมจิตสำนึก ความสามารถในการใช้ตรรกะ และเหตุผล มีการประมวลข้อมูลอย่างเป็นระบบช้า ๆ ในปริมาณทีละน้อย คนที่ถนัดใช้สมองซีกซ้าย จะเป็นคนที่ใช้เหตุผล และวิเคราะห์สิ่งต่าง ๆ ได้ดี ส่วนสมองซีกขวา เป็นสมองแห่งการสร้างมโนภาพ การควบคุมจิตใต้สำนึก ความสามารถในการจินตนาการ การพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ การหยั่งรู้โดยสัญชาตญาณ สมองซีกขวา โดยทั่วไปแล้วจะประมวลผลข้อมูลขนาดใหญ่อย่างรวดเร็ว และมีความสามารถในการจดจำได้อย่างดีเยี่ยม คนที่ถนัดใช้สมองซีกขวามักจะเป็นคนที่แสดงออก มีความคิดสร้างสรรค์ และใช้สัญชาติญาณได้ดีโดยธรรมชาติ
สมองซีกซ้ายใช้เหตุผล สมองซีกขวาใช้จินตนาการ
พัฒนาการของสมองลูก ซีกซ้าย ซีกขวา บอกได้ว่าลูกถนัดอะไร
คุณทราบหรือไม่ว่าในช่วงปีแรก ๆ เด็กจะมีการเติบโต และพัฒนาการทางสมอง ระบบประสาท และโครงสร้างที่เกี่ยวข้องอย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นตา ส่วนบนของหน้า และบางส่วนของกะโหลก ตอนแรกเกิด ทารกมีเซลล์ประสาทกว่าแสนล้านเซลล์ในสมอง สิ่งที่ขาดก็คือ การเชื่อมต่อเซลล์เหล่านี้เข้าด้วยกัน ซึ่งสุดท้ายแล้ว ก็จะได้รับการเติมเต็มด้วยความรู้ และทักษะต่าง ๆ เมื่อลูกได้เรียนรู้โลกรอบตัว
งานวิจัยได้แสดงให้เห็นแล้วว่าเมื่อเด็กอายุได้ 6 ปี มากกว่าร้อยละ 80 ของสมองก็ได้รับการพัฒนาแล้ว ความจริงในข้อนี้เป็นเหตุผลว่าทำไมคุณต้องใช้ประโยชน์จากช่วงเวลาสั้น ๆ นี้ ตั้งแต่ลูกแรกเกิดจนอายุ 6 ขวบเพื่อกระตุ้น และพัฒนาความสามารถของสมองลูก โครงการเสริมสร้างต่าง ๆ สามารถช่วยค้นหาความสามารถของสมองซีกขวา (เช่น การประมวลผลข้อมูลด้วยความเร็วสูง ความทรงจำแบบถ่ายภาพ และการสร้างรูปภาพ) และการพัฒนาความสามารถการวิเคราะห์ของสมองซีกซ้าย
ความสามารถของสมองซีกขวานั้น ทั้งแข็งแรง และมีความสามารถในการสร้างภาพ การใช้สมาธิที่ดี และความรับรู้สิ่งแวดล้อมที่มากขึ้น คนที่ใช้สมองซีกขวาเป็นหลัก จะมีทักษะในการเรียนรู้ภาษาใหม่ ๆ และสามารถพัฒนาทักษะการคิดแบบมีเหตุผล รวมทั้งส่งเสริมการแสดงออกอย่างสร้างสรรค์ คุณสามารถช่วยลูกได้ โดยการสร้างสิ่งแวดล้อมการเรียนรู้ที่สนุกสนาน เพื่อให้ลูกได้ใช้จินตนาการ และคิดวิเคราะห์
สิ่งสำคัญคือการสร้างสภาพแวดล้อม ที่เอื้อต่อการเรียนรู้ให้กับลูก
ชวนลูกเล่นเกมส์ เพื่อฝึกสมองซีกขวา
ธรรมชาติของสมองซีกขวา คือการรับข้อมูลข่าวสารได้ทีละมาก ๆ การพัฒนาสมองซีกขวา สามารถทำได้ ด้วยการเปิดภาพให้ลูกดูเร็ว ๆ จดจำ แล้วนำมาตอบคำถาม เพื่อให้สมองซีกขวาได้ทำงานก่อน การคิดเลขเร็ว การจำคำศัพท์ภาษาอังกฤษ การเล่นเกมส์ เช่น โหนบาร์แล้วนับจำนวนว่าโหนไปกี่ครั้ง ก็ช่วยพัฒนาสมองซีกขวาได้
อาชีพที่เหมาะกับสมองซีกซ้าย
คนที่ใช้สมองซีกซ้ายเป็นหลัก จะมีทักษะในการใช้ตรรกะ และเหตุผลมาก ดังนั้น อาชีพที่เหมาะกับคนที่ใช้สมองซีกซ้ายคือ อาชีพที่ใช้เหตุผล ใช้ตรรกะ อย่างอาชีพที่เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ นักกฎหมาย เป็นต้น
อาชีพที่เหมาะกับสมองซีกขวา
คนที่ใช้สมองซีกขวาเป็นหลัก จะมีความคิดสร้างสรรค์ มีความเข้าใจเกี่ยวกับศิลปะ ความสุนทรีย์ ดนตรี และการใช้จินตนาการ คุณอาจจะเห็นศิลปินชื่อดังหลาย ๆ คน อย่าง โมสาร์ท บีโธเฟ่น เป็นคนถนัดซ้าย (เนื่องจากสมองซีกขวาจะมีหน้าที่ควบคุมร่างกายซีกซ้าย) ดังนั้น อาชีพที่เหมาะกับคนที่ใช้สมองซีกขวาเป็นหลัก ก็คือ อาชีพที่เกี่ยวกับจินตนาการ ศิลปะ และการสร้างสรรค์ นั่นเอง
การพัฒนาสมองซีกขวา เป็นการเสริมสร้างจินตนาการให้ลูก ซึ่งจะช่วยในเรื่องของความฉลาดทางอารมณ์ด้วย
ความถนัดของลูกที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิด แตกต่างกัน คุณพ่อคุณแม่ไม่ควรจะบังคับ หรือคาดหวังกับลูกมากเกินไป อย่างไรก็ตาม การฝึกให้ลูกใช้สมองทั้งสองด้าน ด้วยการเล่นกับลูก ก็เป็นสิ่งที่จะช่วยให้ลูกมีพัฒนาการที่ก้าวไกล อีกทั้งยังช่วยส่งเสริมความสัมพันธ์ในครอบครัวระหว่าง พ่อ แม่ ลูก อีกด้วยล่ะค่ะ
_________________________________________________________________________________________
อ้างอิง : postjung
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
ลูกคุณเป็นไอน์สไตน์คนต่อไปหรือไม่?
เมนูปลาพัฒนาสมอง เมนูอาหารเด็ก 1 ขวบเพิ่มพัฒนาการสมอง ฉลาดยิ่งขึ้น
5 ทริคพัฒนาสมอง ลูกเล่นคนเดียว ไม่ต้องเสียว วิจัยเผยเล่นคนเดียวก็ฉลาดได้
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!