อาการ กรดไหลย้อนในทารก อันตรายหรือไม่? มีสาเหตุเกิดจากอะไรบ้าง

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

อีกหนึ่งปัญหาสุขภาพของทารกที่พ่อแม่ควรรู้ เพื่อดูแลลูกน้อยให้เหมาะสม ป้องกันอาการกรดไหลย้อนที่ทำให้ทารกไม่สบายตัว ที่ส่งผลให้เกิดปัญหาสุขภาพตามมามากมาย หากมีอาการรุนแรงทารกจะกินได้น้อยลงอีกด้วย ในวันนี้ เราจะมาพูดถึงอาการของ กรดไหลย้อนในทารก รวมไปถึงวิธีในการดูแล เมื่อลูกน้อยเป็นกรดไหลย้อนกัน ไปดูกันเลย!

 

กรดไหลย้อนในทารก คืออะไร

การไหลย้อน เป็นคำที่ใช้กล่าวถึงอาการที่ สิ่งที่อยู่ในกระเพาะของลูกไหลย้อนออกมายังหลอดอาหาร หรือในปาก จนทำให้ลูกน้อยมีอาหารแหวะนม แหวะอาหารออกมา ซึ่งทำให้ทารกไม่สบายตัว และเกิดอาการเหล่านี้ตามมา ไม่ว่าจะเป็น

  • คลื่นไส้ อาเจียน หลังกินนม
  • กระสับกระส่าย ทุกครั้งที่กินนม
  • น้ำหนักไม่ค่อยขึ้น
  • นอนไม่หลับ ร้องงอแง
  • กินได้น้อยลงหากมีอาการหลอดลมอักเสบจากการเป็นกรดไหลย้อน

แต่ก็มีในบางกรณี ที่คุณแม่อาจจะต้องปรึกษากับกุมารแพทย์ร่วมด้วย เพราะมีอาการที่รุนแรง เช่น

  • มีอาการไหลย้อนมากกว่า 5 ครั้ง/วัน
  • ลูกน้อยร้องไห้บ่อยครั้งมาก ๆ ในระหว่างการกินนม
  • ลูกน้อยอาเจียนบ่อยครั้ง แทบทุกครั้งหลังทานอาหาร
  • ลูกน้อยมีอาการไอตลอดเวลา หรือบ่อยครั้งมาก ๆ

บทความที่เกี่ยวข้อง : แม่ท้องเป็นกรดไหลย้อน อันตรายมากแค่ไหน? ทำยังไงดี รักษายังไง?

 

 

สังเกตอย่างไร ว่าลูกเป็นกรดไหลย้อนหรือเปล่า

พ่อแม่ต้องหมั่นสังเกตบ่อย ๆ หากพบว่าลูกน้อยมักบ้วนอาหาร หรือแหวะอาหาร ออกมาบ่อย ๆ หลังจากการนอน และมีอาการที่ร้องไห้แบบไม่ทราบสาเหตุบ่อย ๆ จนทำให้คุณพ่อคุณแม่ไม่ได้พักผ่อนไปตาม ๆ กัน หรือกับในเด็กที่เป็นช่วงวัยที่เติบโตพอที่จะพูดสื่อสารให้เข้าใจได้ ก็มักจะบ่นว่า แสบท้องหรือปวดท้องอยู่บ่อยครั้ง

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

แต่โดยปกติแล้ว อาการส่วนใหญ่ในเด็กเล็ก ก็คือ มักจะบ้วนอาหาร หรือแหวะนมออกมา แต่นั่นก็อาจจะยังไม่สามารถตัดสินได้อย่างชัดเจน ว่าลูกเป็นกรดไหลย้อนหรือเปล่า หรือแค่สำลักอาหารเฉย ๆ ดังนั้น เราจึงสามารถสังเกตอาการของลูกน้อยได้โดยวิธีดังนี้

  • ถ้าไม่ได้เป็นโรคกรดไหลย้อน

เมื่อลูกมีอาการบ้วนอาหารออกมา ลูกจะไม่รู้สึกทรมานมาก และยังสามารถหัวเราะและยังเล่นต่อได้ แบบไม่มีอาการที่บ่งบอกถึงความเจ็บปวด

  • ถ้าเป็นกรดไหลย้อน

จะสังเกตเห็นว่าหลังจากเด็กบ้วนอาหาร หรือแหวนนมออกมาแล้ว เด็กจะแสดงอาการที่บ่งบอกถึงความเจ็บปวดออกมา เช่น ร้องไห้ แอ่นตัวไปมา เสียงแหบ และในบางครั้งหากอาการมีความรุนแรง ก็อาจแหวะอาหารออกมาโดยที่มีเลือดปนออกมากับเศษอาหารด้วย อาการเหล่านี้ มักจะเกิดอาการดังกล่าวหลังรับประทานอาหารไปแล้วประมาณครึ่งชั่วโมง หรือคุณแม่ก็อาจจะสังเกตเพิ่มเติมได้ว่า หากเด็ก ๆ ไม่ยอมกลืนอาหาร ไม่ยอมทานอาหาร ดื้อแบบผิดปกติ มีอาการไอ สัญญาณเหล่านี้ก็สามารถแสดงได้ว่า ลูกน้อยของเรามีอาการกรดไหลย้อนได้เช่นกันค่ะ

 

ปัจจัยการเกิด กรดไหลย้อนในทารก

  • หูรูดหลอดอาหารส่วนปลายต่อกับกระเพาะอาหารยังไม่แข็งแรง

เพราะร่างกายและอวัยวะต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับระบบย่อยอาหารยังไม่แข็งแรง จึงทำให้เกิดการไหลย้อนกลับของนม เมื่อลูกน้อยทาน ขึ้นมาทางหลอดอาหาร

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

 

  • กินนมในท่านอน

เพราะท่านอนทำให้อาหารไหลเข้าสู่ร่างกายได้ยาก จึงทำให้มีโอกาสไหลย้อนกลับขึ้นมาในหลอดอาหารได้ง่ายมากขึ้น

 

อาหารที่ควรเลี่ยง เพื่อป้องกันกรดไหลย้อนในเด็ก

ในเด็กหรือทารก มักจะหงุดหงิดง่าย หรือมีอาการหลังงอ ซึ่งมักจะเป็นหลังจากการรับประทานอาหาร โดยการช่วยทำให้ทารกเรอบ่อย ๆ หลังทานอาหาร จะสามารถลดภาวะกรดไหลย้อนได้เป็นอย่างดี ส่วนถ้าเป็นในเด็กโตขึ้นมาหน่อย ที่เลือกทานอาหารได้หลากหลายมากขึ้น เราจะแนะนำให้ปรับพฤติกรรมการทานอาหารให้มีปริมาณน้อยลง แต่ถี่ขึ้น และควรหลีกเลี่ยงอาหารเหล่านี้

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา
  • น้ำอัดลม หรือน้ำที่มีคาเฟอีน
  • ช็อกโกแลต
  • อาหารที่มีมินต์ (Peppermint)
  • อาหารรสจัด
  • อาหารที่มีความเป็นกรดสูง เช่น พิซซ่า

บทความที่เกี่ยวข้อง : กรดไหลย้อนในทารก ทำให้ทารกเป็นโคลิค อาการแบบไหนเสี่ยง

 

 

วิธีป้องกันกรดไหลย้อนให้ลูกน้อยอย่างง่าย ๆ

เราสามารถป้องกันกรดไหลย้อนให้ลูกน้อยได้ ด้วยวิธีการง่าย ๆ ดังนี้

  • ปรับท่าการให้นม ให้ลูกกินนมในท่าที่ยกศีรษะสูงขึ้นกว่าเดิม เพื่อให้ย่อยง่าย
  • พยายามอุ้มลูกเพื่อให้เรอทุกครั้ง หลังกินนม การเรอ จะช่วยให้ลูกน้อยลดกรดในกระเพาะอาหารได้ดี และทำให้ย่อยอาหารได้ดีขึ้น
  • ไม่ให้ลูกกินนมแล้วนอนราบทันที เมื่อเราจะให้ลูกทานนม ลองอุ้มให้ตัวลูกตั้งตรง หรือจับลูกนอนเอนให้ศีรษะตั้งขึ้นประมาณ 30 องศา แล้วป้อนนม หลังจากนั้น เราแนะนำให้ลูกน้อยอยู่ท่านี้สักพัก เพื่อให้น้ำนมไหลผ่านไปได้ดี ไม่ย้อนกลับขึ้นมา เมื่อร่างกายทำการย่อยอาหาร
  • ให้ลูกกินนมทีละน้อย แต่บ่อยมื้อขึ้น การกินปริมาณน้อยแต่บ่อย จะช่วยให้การย่อยทำงานได้ดีมากขึ้น

 

การรักษากรดไหลย้อนในทารก

ตามปกติแล้ว เมื่อลูกน้อยโตขึ้นหูรูดหลอดอาหารส่วนล่างจะทำงานเป็นปกติ และระบบย่อยอาหารก็จะดีมากขึ้น ซึ่งจะช่วยจัดการกับโรคกรดไหลย้อนได้ อีกหนึ่งวิธีที่แนะนำคือ ให้ทานอาหารมื้อเล็ก ๆ แต่บ่อยครั้งมากขึ้น เพื่อให้ย่อยอาหารได้ง่าย นอกจากนี้ การให้ลูกน้อยทานนมแม่ก็มีประโยชน์เช่นกัน เพราะสามารถย่อยได้ง่าย และเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพร่างกายของลูกน้อย

อีกวิธีก็คือ ควรประคองลูกน้อยให้ศีรษะสูงขึ้น 30 องศา และให้ลูกนั่งประมาณ 30 นาทีหลังรับประทานอาหาร เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอาการกรดไหลย้อน

 

โดยสรุปแล้ว อาการกรดไหลย้อนในทารก เป็นอาการที่ทำให้ทารกไม่สบายตัว ที่ส่งผลให้เกิดปัญหาสุขภาพตามมามากมาย หากมีอาการรุนแรงทารกจะกินได้น้อยลงอีกด้วย โดยเรามีวิธีในการป้องกันกรดไหลย้อนที่หลากหลาย เช่น ที่นอนกันกรดไหลย้อน ที่จะทำให้เด็ก ๆ ลดความเสี่ยงที่จะเป็นกรดไหลย้อนได้ หากแม่ ๆ สนใจ อย่าลืมนำบทความของเราไปพิจารณาเลือกซื้อกันด้วยนะคะ

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :

10 วิธีแก้ไขเมื่อลูกน้อยเป็นกรดไหลย้อน

10 ยาลดกรด เคลือบแผล บรรเทาอาการจุกเสียด จากกรดไหลย้อน

ยาลดกรดไหลย้อน มีอะไรบ้าง ทานยาเพิ่มความเสี่ยงมะเร็งกระเพาะอาหารหรือไม่?

ที่มา : mahidol

บทความโดย

Woraya Srisoontorn