แม่ป่วยทางจิต เอาสากกะเบือทุบหน้าลูก จนตาย ยายสุดช็อค!มาพบศพ

ในวันที่ 5 พฤศจิกายน มีข่าวรายงานว่า เจ้าหนาที่ตำรวจ ได้รับแจ้งเหตุร้ายว่า มีการทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเสียชีวิต ภายในห้องเช่า อ.สะเดา จ.สงขลา ที่เกิดเหตุเป็นบ้านห้องแถวชั้นเดียว โดยภายในห้องพบร่าง ด.ญ.อายุ 6 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ภายในห้องนอน ในสภาพศพที่ใบหน้าถูกตีด้วยของแข็งจนช้ำทั้งหน้า เลือดออกทางปาก จมูกเปราะที่นอน สภาพศพเพิ่งถูกทำร้าย และบริเวณหน้าห้องนอน พบสากกะเบือเปื้อนเลือดตกอยู่โดยสันนิษฐานว่าจะเป็นอาวุธที่ใช้ทำร้าย โดยใกล้กับศพ พบแม่ของผู้ตายซึ่งเป็นผู้ก่อเหตุที่ยังคงนิ่ง ไม่ยอมพูดคุยกับใคร คาดว่าเป็น แม่ป่วยทางจิต ที่ เอาสากกะเบือทุบหน้าลูก จนตาย

จากการสอบสวนพบว่าคนที่ก่อเหตุ คือแม่แท้ๆ ที่เป็นแม่ป่วยทางจิตหลังจากเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ไปสอบถาม ผู้เป็นยาย เผยว่า เมื่อเวลาประมาณ 23.00 น. ของวันที่ 3 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ยายได้กลับจากทำงานที่โรงงานแห่งหนึ่งใน อ.สะเดา แต่เมื่อกลับมาถึงบ้านได้ก็เคาะประตูเรียกลูกสาว ได้เดินออกมาเปิดประตูให้ จากนั้นจึงเดินกลับเข้าไปนอนภายในห้องนอนเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

แต่ยายรู้สึกผิดสังเกต เนื่องจากไม่ได้ยินเสียงหลานสาว จึงเดินเข้าไปดูภายในห้องนอน ทีแรกก็เห็นหลานสาวนอนห่มผ้าคลุมหัวอยู่ โดยมีแม่นอนกอดแอบแนบอก ตนจึงได้เรียกหลานเพื่อให้ลุกไปฉี่เหมือนทุกคืน แต่ก็ไม่มีเสียงตอบ โดยเรียกอยู่หลายครั้ง แต่หลานก็ไม่ตื่น ตนจึงเดินไปดึงผ้าห่มออกจากตัว หลังจากนั้นก็แทบช็อก เพราะที่ใบหน้าหลานถูกตีจนและเลือดอาบ เมื่อถามลูกสาวก็ไม่ยอมพูดอะไรได้นั่งนิ่งอย่างเดียว จึงได้ออกไปเรียกเพื่อนบ้านให้มาดูและแจ้งตำรวจมาดูที่เกิดเหตุ

ยายเผยว่า หลานสาวกำลังจะเข้าโรงเรียนในชั้นอนุบาล3 เมื่อวานนี้ (4 พฤศจิกายน) เป็นวันแรกหลังจากที่ได้ไป สมัครเรียนไว้เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา เนื่อจากน้องแองเจิ้ล(นามสมมุติ) และแม่เพิ่งเดินทางมาอยู่กับตนที่ห้องเช่าเมื่อประมาณวันที่ 24-25 กันยายนที่ผ่านมาและอาศัยอยู่ด้วยกันในห้องเช่า 3 คน ตนเป็นคนทำงานหาเลี้ยงเนื่องจากลูกสาวมีอาการป่วยทางจิต ไม่สามารถทำงานได้ และก่อนหน้านี้ก็อาศัยอยู่กับตาที่ จังหวัดนครพนม แต่เมื่อตาเสียชีวิตทั้งสองคนเพราะไม่มีใครดู โดยมีการคาดว่าสาเหตุที่ทำร้ายน่าจะมาจากอาการป่วยทางจิตกำเริบและขาดยาเนื่องจากไม่กินยาต่อเนื่องมาหลายวัน

สำหรับศพได้ตั้งบำเพ็ญกุศลอยู่ที่วัดหัวถนน ซึ่งเป็นวัดที่ตั้งอยู่ฝั่งตรงกันข้ามกับบ้านเกิดเหตุ และจะทำพิธีสวดอภิธรรมศพแค่คืนเดียวและในวันนี้ (5 พฤศจิกายน) จะทำพิธีฌาปณกิจศพ เพราะครอบครัวยังลำบากและไม่มีญาติพี่น้องมีแต่เพื่อนบ้านและเพื่อนคนงานที่ร่วมกันเรี่ยไรเงินมาช่วยทำศพ

โดยอาการทางจิตที่พบบ่อยสำหรับแม่ไทยที่หลังคลอด นั้นก็คือ โรคซึมเศร้าหลังคลอด หลายคนมักสับสนระหว่างอาการเศร้า ๆ ของผู้หญิงหลังคลอด (Baby blue) ซึ่งเกิดขึ้นกับหญิงไทยร้อยละ 85 กับโรคซึมเศร้าหลังคลอด อาการเศร้าเล็กน้อยของผู้หญิงหลังคลอดมักจะทำให้ผู้หญิงรู้สึกไม่มีความสุข ร้องไห้บ่อย เหนื่อยล้าและเครียดในช่วง 2-3 วันแรกหลังคลอด ว่ากันว่าอาการเหล่านี้เกิดขึ้นเนื่องจากฮอร์โมนในร่างกายเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก หากได้รับคำแนะนำและการดูแลที่ถูกต้อง อาการเศร้าหลังคลอดก็จะหายไปในเวลาไม่กี่วัน ในขณะที่โรคซึมเศร้าหลังคลอดจะไม่หายหากไม่ได้รับการรักษา อาการที่รุนแรงที่สุดของโรคซึมเศร้าหลังคลอดคือการอยากฆ่าตัวตาย ซึ่งตามสถิติปี 2554 เกิดขึ้น 6 คนจากจำนวนแสนประชากร

สัญญาณของโรคซึมเศร้าหลังคลอด

ผู้หญิงหลังคลอดแต่ละคนก็จะมีอาการและสัญญาณของโรคที่ต่างกันออกไป แต่จะครอบคลุมอาการต่อไปนี้

• รู้สึกสิ้นหวัง
• รู้สึกผิด
• เหนื่อยล้า
• ไม่มีความสุข
• รู้สึกโดดเดี่ยว
• รู้สึกวิตกกังวล
• รู้สึกสิ้นหวังหาทางออกไม่ได้

วิธีคลายความซึมเศร้าหลังคลอด

คุณแม่ควรที่จะดูแลตัวเอง ตั้งแต่ตั้งครรภ์ พยายามลดระดับความเครียดลง และยินดีให้คนรอบข้าง ช่วยแบ่งเบาภาระ เมื่อคุณรู้สึกว่า มีคนรอบข้าง คอยดูแล และ ให้ความช่วยเหลือ เวลาที่คุณมีลูก คุณก็จะมั่นใจว่า มีคนรอบข้าง ที่คอยอยู่เคียงข้างคุณ แต่ ถ้าหากคุณรู้สึก วิตกกังวล หรือ รู้สึกว่า ตัวเองกำลังแย่ ก็ควรปรึกษา คุณหมอ นะคะ

จะเห็นได้ว่า อาการซึมเศร้าหลังคลอด นั้น เป็นเรื่องปกติ สำหรับคุณแม่ ที่เพิ่งคลอดลูก ส่วนใหญ่แล้ว จะเป็นโรคนี้ เมื่อลูกมีอายุได้ ประมาณ 4-6 สัปดาห์ หรือ ไม่ก็หลังจาก ที่ลูกมีอายุหลายเดือนแล้วก็ได้ ดังนั้น นอกจากคุณแม่ จะต้องคอยสังเกตอาการของตัวเองแล้ว คนในครอบครัว โดยเฉพาะ คุณสามี ก็ควรสังเกตอาการดังกล่าว ของภรรยา ด้วยเช่นกันนะคะ

โดยปกติแล้วแม่ทุกคนจะมีอาการแบบนี้บ้าง แต่จะหายไปได้เอง แต่ถ้าหากไม่ดีขึ้นก็เข้าข่ายว่าจะเป็นโรคซึมเศร้าหลังคลอดแล้วล่ะค่ะ

โดยปกติแล้วผู้หญิงมักจะเป็นโรคซึมเศร้าหลังคลอดเมื่อลูกอายุได้ประมาณ 4-6 อาทิตย์ หรือไม่ก็หลังจากลูกอายุหลายเดือนแล้ว คุณอาจจะรู้สึกดีที่ได้ดูแลลูก แต่ก็ไม่วายพบว่าเป็นโรคซึมเศร้าหลังคลอด หากว่าคุณเป็นโรคซึมเศร้าขณะตั้งครรภ์ เวลาคลอดลูกแล้วก็จะไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้น

_________________________________________________________________________________________

Source : 1

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :

อารมณ์ร้าย หลังคลอด อาการร้ายแรงที่อาจนำไปสู่การเป็นโรคซึมเศร้า

ซึมเศร้าตอนท้อง หรือแม่ท้องคิดไปเอง อาการซึมเศร้าระหว่างตั้งครรภ์ ภาวะซึมเศร้าในคนท้องเป็นอย่างไร

ภาวะซึมเศร้าหลังคลอด อาการ เป็นอย่างไร แม้แต่แม่ชมพู่ก็เป็นซึมเศร้าหลังคลอด ทำไมเป็นกันเยอะ