รวมราคาวัคซีนโควิด-19 และเทียบประสิทธิภาพ ต่างกันอย่างไร?

วัคซีนโควิด 19

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

นับว่าเป็นอีกหนึ่งความร่วมมือของคนทั่วโลก ที่มีเป้าหมายเดียวกัน คือการผลิตวัคซีนป้องกันเชื้อไวรัสโควิด 19 ออกมาให้ได้เร็วที่สุด และมีประสิทธิภาพมากที่สุด ซึ่งถือว่าเป็นการแข่งขันกับเวลา และชีวิตของพวกเรา ซึ่งในปัจจุบัน มีวัคซีนถูกผลิตออกมาหลายยี่ห้อมาก จนทำให้เราต้องทำการ รวมราคาวัคซีนโควิด-19 และเทียบประสิทธิภาพ ต่างกันอย่างไร?

แม้ว่าประเทศไทยของเรา จะยังไม่มีวัคซีนทางเลือกหลากหลายในเราได้เลือกมากนัก แต่การที่เราจะรับรู้ข้อมูลเบื้องต้นของวัคซีนแต่ละชนิด แต่ละยี่ห้อ ที่มีอยู่ในปัจจุบัน ก็ไม่ใช่เรื่องแย่ และอาจจะเป็นการดีสำหรับการศึกษาข้อมูลเบื้องต้นไว้อีกด้วย เราจึง รวมราคาวัคซีนโควิด-19 และเทียบประสิทธิภาพ ต่างกันอย่างไร? ให้ได้เปรียบเทียบกันอย่างตรงไปตรงมา

 

ตารางราคา และระยะเวลาในการฉีด

 

1. Sinopharm (ซิโนฟาร์ม)

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

เป็นอีกหนึ่งยี่ห้อวัคซีน ที่มีโครงการ จะอนุมัตินำเข้ามาในไทยเพื่อให้เป็นอีกหนึ่งทางเลือก สำหรับผู้ที่ต้องการรับวัคซีนยี่ห้อนี้

  • ซิโนฟาร์ม (BBIBP-CorV) เป็นวัคซีนชนิดเชื้อตาย ผลิตโดยบริษัทซิโนฟาร์ม สัญชาติจีน
  • จะต้องฉีด 2 เข็ม โดยมีระยะห่างกัน 21 วัน
  • ราคาอยู่ที่ 1,776 บาท ต่อ 2 โดส
  • ประสิทธิภาพการสร้างภูมิคุ้มกันโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 79 – 86%
  • ผู้ที่สามารถรับวัคซีนนี้ได้ จะต้องมีอายุตั้งแต่ 18 ปีขั้นไป
  • สามารถเก็บไว้ได้ในอุณหภูมิตู้เย็นที่ 2 – 8 องศาเซลเซียส

โดยปัจจุบัน ประเทศที่เลือกใช้วัคซีนจากซิโนฟาร์มนี้ มีทั้งประเทศจีน กัมพูชา ลาว โมร็อคโก สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ บาห์เรน เซเนกัล

 

2. Moderna (โมเดอร์นา)

เชื่อว่าหลายคนต่างก็รอคอยวัคซีนชนิดนี้ เพราะเนื่องจาก หลายประเทศทั่วโลก มีการยอมรับถึงประสิทธิภาพ โดยเฉพาะบางประเทศ ได้มีการบรรจุชื่อของวัคซีนโมเดอร์นาเอาไว้ในลิส ของวัคซีนสำหรับผู้ที่จะสามารถเข้าประเทศได้ จะต้องมีการฉีดวัคซีนตัวนี้แล้วเท่านั้น

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา
  • วัคซีนโมเดอร์นา (mRNA-1273) เป็นวัคซีนชนิด mRNA ผลิตโดยบริษัทโมเดอร์นา ประเทศสหรัฐอเมริกา
  • จำนวนที่จะต้องฉีดคือ 2 เข็ม โดยจะต้องเว้นระยะห่างกัน 28 วัน
  • ราคาอยู่ที่ 1,984 บาท – 2,294 บาท ต่อ 2 โดส
  • ซึ่งประสิทธิภาพของวัคซีนตัวนี้อยู่ที่ 94.5% สำหรับการป้องกันทั่วไป และ 100% สำหรับการป้องกันอาการรุนแรง
  • ผู้ที่สามารถรับวัคซีนยี่ห้อนี้ได้จะต้องมีอายุมากกว่า 18 ปีขึ้นไป
  • จะต้องเก็บรักษาในอุณหภูมิที่ต่ำกว่า -20 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นอุณหภูมิของช่องแช่แข็งตู้เย็นปกติ และสามารถเก็บในอุณหภูมิที่ 2 – 8 องศาเซลเซียส ได้ในช่วงเวลา 30 วัน

ปัจจุบันประเทศที่เลือกนำเข้า และใช้วัคซีนยี่ห้อนี้ได้แก่ สหรัฐอเมริกา แคนาดา กาตาร์ สิงคโปร์ เวียดนาม ไอซ์แลนด์ นอร์เวย์ ซึ่งอนาคต ประเทศไทย ก็จะเป็นอีกหนึ่งประเทศที่นำเข้ามาใช้ด้วยเช่นกัน

 

3. Pfizer/BioNTech (ไฟเซอร์)

ดูเหมือนคนไทย หลาย ๆ คนต่างจับจ้องกับวัคซีนตัวนี้เป็นพิเศษ เพราะเชื่อว่า ประสิทธิภาพการป้องกันนั้นน่าจะดีที่สุดในเวลานี้ และบางคนถึงกับยอมบินไปยังต่างประเทศ เพื่อเข้ารับการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ เพราะไม่อยากรอการนำเข้าของประเทศไทย

  • วัคซีนไฟเซอร์ (BNT162b2) เป็นวัคซีนชนิด mRNA ซึ่งเป็นชนิดเดียวกันกับ โมเดอร์นา เป็นการร่วมมือกันระหว่าง สหรัฐอเมริกา และเยอรมนี
  • จะต้องฉีดจำนวน 2 เข็ม โดยมีระยะเวลาห่างกัน 21 วัน
  • ราคาวัคซีนอยู่ที่ 1,096 – 1,208 ต่อ 2 โดส
  • โดยเชื่อว่าสามารถป้องกันการติดเชื้อแบบมีอาการได้ถึง 95%
  • ผู้ที่สามารถรับวัคซีนตัวนี้ได้ จำเป็นจะต้องมีอายุตั้งแต่ 16 ปีขึ้นไป (ทั้งนี้ทางสหรัฐอเมิรกา ได้อนุญาตให้ใช้ในเด็กอายุ 12 – 15 ปีได้แล้ว)
  • จำเป็นจะต้องเก็บรักษาไว้ที่อุณหภูมิต่ำกว่า -70 องศาเซลเซียส จึงทำให้เป็นอุปสรรคอย่างมากกับการขนส่ง เพราะหากเก็บในอุณหภูมิที่ 2-8 องศาเซลเซียส จะสามารถเก็บไว้ได้เพียง 120 ชั่วโมง หรือประมาณ 5 วันไม่เกิน

ประเทศที่ใช้วัคซีนไฟเซอร์แล้ว คือ สหรัฐอเมริกา แคนาดา อังกฤษ นอร์เวย์ เซอร์เบีย สวิตเซอร์แลนด์ สหรัฐอาหรับเอมิเตส์ ซาอุดีอาระเบีย อิสราเอล สิงคโปร์ เป็นต้น

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ : WHO องค์กรอนามัยโลกรองรับ วัคซีนซิโนแวค อนุมัติให้ใช้ในกรณีฉุกเฉิน

 

 

4. Sinovac Biotech (ซิโนแวค)

เป็นวัคซีนตัวแรกที่ทางไทยได้ติดต่อนำเข้ามาเพื่อกู้วิกฤติจากการติดเชื้อไวรัสโควิด 19 ซึ่งวัคซีนนี้ ได้รับการจ่ายแจกให้กับทางเจ้าหน้าที่ หรือผู้ปฏิบัติงาน ที่มีความเสี่ยง รวมถึงผู้สูงอายุ และกลุ่มผู้ที่มีโรคอยู่ในกลุ่มเสี่ยงก่อนอันดับแรก

  • วัคซีนซิโนแวค (Corona Vac) เป็นวัคซีนชนิดเชื้อตาย ผลิตจากประเทศจีน
  • จะต้องได้รับการฉีด 2 เข็ม โดยมีระยะเวลาห่างกัน 2 – 4 สัปดาห์
  • ราคาอยู่ที่ 1,054 บาท ต่อ 2 โดส
  • โดยประสิทธิภาพของซิโนแวคสามารถป้องกันการติดเชื้อที่มีอาการได้ถึง 65.3 – 91.5% และป้องกันอาการรุนแรงได้ถึง 100%
  • ผู้ที่สามารถเข้ารับการฉีดวัคซีนนี้ได้ จะต้องมีอายุระหว่าง 18 – 59 ปี ซึ่งล่าสุดคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อแห่งชาติ ได้อนุมัติให้ฉีดในคนที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไปได้แล้ว
  • สามารถเก็บรักษาไว้ในอุณหภูมิตู้เย็นที่ 2 – 8 องศาเซลเซียส และเก็บได้นานถึง 3 ปี

ประเทศที่ใช้วัคซีนตัวนี้ได้แก่ จีน ตุรกี ไทย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย บราซิล ชิลี

 

5. Novavax (โนวาแวกซ์)

เป็นอีกหนึ่งวัคซีนที่มีประสิทธิภาพ แม้ว่าเราจะไม่ค่อยคุ้นชื่อเจ้าวัคซีนยี่ห้อนี้มากสักเท่าไหร่ แต่ถ้าให้กล่าวถึงประสิทธิภาพการป้องกันนั้นไม่เป็นสองรองจากวัคซีนตัวอื่น ๆ เลยทีเดียว

  • วัคซีนโนวาแวกซ์ (NVX-CoV2373) เป็นวัคซีนที่ผลิตจากโปรตีนส่วนหนึ่งของเชื้อ ผลิตโดยประเทศสหรัฐอเมริกา
  • จะต้องฉีดทั้งหมด 2 เข็ม โดยมีระยะเวลาห่างกัน 21 วัน
  • ราคาอยู่ที่ 1,054 บาท ต่อ 2 โดส
  • โดยประสิทธิภาพเฉลี่ย จะอยู่ที่ 96.4% และสามารถป้องกันอาการรุนแรงได้ถึง 100%
  • สามารถเก็บรักษาไว้ได้ในอุณหภูมิที่ 2 – 8 องศาเซลเซียส

ประเทศที่ใช้อยู่ ณ ปัจจุบัน ได้แก่ สหรัฐอเมริกา แคนาดา สหราชอาณาจักรออสเตรเลีย

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

 

6. Johnson & Johnson (จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน)

เป็นอีกหนึ่งวัคซีนที่มีความน่าสนใจ เพราะในขณะที่วัคซีนอื่น ๆ จำเป็นจะต้องฉีดที่ 2 โดสขั้นต่ำ แต่ทาง Johnson & Johnson นั้น สามารถฉีดเพียงแค่ โดสเดียวก็สามารถสร้างภูมิคุ้มกันได้ทันที

  • วัคซีนจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน (Ad26.COV2.S หรือ JNJ-78436735) เป็นวัคซีนชนิดไวรัสเวกเตอร์ ผลิตจากสหรัฐอเมริกา
  • จำนวนที่ต้องฉีดเพียงแค่ 1 โดส เท่านั้น
  • ราคาอยู่ที่ 310 บาท ต่อ 1 โดส
  • สำหรับประสิทธิภาพนั้นสามารถป้องกันในระดับปานกลาง ถึงรุนแรงได้ 66 – 72% และป้องกันอาการป่วยหนักได้ถึง 85% โดยมีบางกระแสอ้างอิงว่า วัคซีนตัวนี้สามารถป้องกันการติดเชื้อไวรัสกลายพันธุ์ที่พบในแอฟริกาได้อีกด้วย
  • สามารถเก็บไว้ได้ในอุณหภูมิที่ 2 – 8 องศาเซลเซียส

ประเทศที่ใช้วัคซีนตัวนี้ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา แคนาดา บาห์เรน

 

7. Gamaleya or Sputnik V (วัคซีนสปุตนิก 5)

หากจะพูดชื่อกามาเลยา คงไม่มีใครรู้จัก แต่ถ้าบอกว่ามันคือชื่อหนึ่งของวัคซีน สปุตนิก 5 หลายคนจะต้องร้องอ๋อขึ้นมาทันที เพราะเป็นวัคซีนเชื้อสายรัสเซีย ที่น่าสนใจอีกตัวหนึ่ง

  • วัคซีนสปุตนิก 5 (Gam-COVID-Vac) เป็นวัคซีนชนิดไวรัสเวกเตอร์ ที่ถูกพัฒนาโดยสถาบันวิจัย และพัฒนากามาเลยา ประเทศรัสเซีย
  • จะต้องฉีดจำนวน 2 โดส โดยจำเป็นจะต้องเว้นระยะห่างที่ 14 – 21 วัน
  • ราคาค่าวัคซีนอยู่ที่ 620 บาท ต่อ 2 โดส
  • สามารถป้องกันได้ถึง 91.6% และป้องกันอาการรุนแรงได้ถึง 100%
  • ผู้ที่รับวัคซีนชนิดนี้ได้ จำเป็นจะต้องมีอายุมากกว่า 18 ปีขึ้นไป
  • สามารถเก็บไว้ที่อุณหภูมิ 2 – 8 องศาเซลเซียส

ประเทศที่เลือกใช้วัคซีนตัวนี้ ได้แก่ รัสเซีย เบลารุส อาร์เจนตินา ซีเรีย อุซเบกิสถาน และ ฮังการี

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ : ราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์ สรุปผลการใช้ยาคุมกำเนิดกับการรับวัคซีนโควิด-19

 

8. AstraZeneca (แอสตราเซเนกา)

เป็นวัคซีนทางเลือกที่ทางรัฐบาลไทย ได้นำเข้ามาเป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้กับคนไทย นอกจาก ซิโนแวค ทำให้คนไทยหลาย ๆ คน หันมาสนใจ ในวัคซีนตัวนี้ไม่ใช่น้อย

  • วัคซีนแอสตราเซเนกา (ChAdOx1 nCoV-19 vaccine (AZD1222)) เป็นวัคซีนชนิดไวรัสเวกเตอร์ที่แบ่งตัวไม่ได้ ได้รับการพัฒนาจากมหาวิทยาลัยออกซฟอร์ด ร่วมกับบริษัทแอสตราเซเนกา
  • จำเป็นจะต้องฉีดจำนวน 2 โดส โดยแต่ละโดสจะต้องเว้นห่างกันประมาณ 4 – 12 สัปดาห์ (และมีการศึกษาพบว่า วัคซีนจะมีประสิทธิภาพมากขึ้นเมื่อฉีดห่างกัน 8 สัปดาห์ขึ้นไป – 12 สัปดาห์)
  • ราคาของวัคซีนอยู่ที่ 186 – 310 ต่อ 2 โดส
  • ประสิทธิภาพในการป้องกันโดยรวมอยู่ที่ 70.4% และสามารถป้องกันอาการรุนแรงได้ถึง 100%
  • ผู้ที่เข้ารับการฉีดวัคซีน จะต้องมีอายุมากกว่า 18 ปีขึ้นไป
  • สามารถเก็บรักษาไว้ได้ในอุณหภูมิที่ 2 – 8 องศาเซลเซียส

ประเทศที่ใช้วัคซีนนี้ได้แก่ สหราชอาณาจักร บราซิล ไทย เวียดนาม ไต้หวัน มาเลเซีย เกาหลีใต้

การที่เราศึกษาข้อมูลพื้นฐานของวัคซีนแต่ละตัว จะทำให้เราสามารถเข้าใจในประสิทธิภาพได้เป็นอย่างดี ทำให้เราไม่วิตกกังวล หรือกังวลตามข่าวเล่าลือต่าง ๆ ในโซเชียล ซึ่งก่อนเข้ารับการฉีดวัคซีนแต่ละชนิดนั้น ผู้ที่เข้ารับการฉีด จำเป็นจะต้องดูแลตัวเองให้ดี พักผ่อนให้เพียงพอ ดื่มน้ำเยอะ ๆ ทำใจให้สบาย และทางเพจ TheAsianparentThailand ก็เชื่อและหวังว่า พวกเราจะผ่านพ้นวิกฤติโควิดนี้ไปด้วยกันได้เร็ววันค่ะ

 

ที่มา : dailynews

 

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :

วัคซีนโควิด-19 แบบสูดดม นวัตกรรมใหม่จากจีน ได้ผลกว่าแบบเดิม

แพ้วัคซีน Astrazeneca ขั้นรุนแรง ตั้งแต่เข็มแรก

“ยาไมเกรน” กินก่อนฉีดวัคซีนได้ ไม่จำเป็นต้องหยุดกิน

บทความโดย

Arunsri Karnmana