เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2564 นางสาว ไตรศุลิ ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักงานนายกรัฐมนตรี ได้ทำการโพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว กล่าวถึงวัคซีนโควิดในไทยที่กำลังพัฒนา โดยมีประสิทธิภาพเทียบเท่ากับ Pfizer-Moderna ซึ่งขณะนี้กำลังมีการเปิดรับสมัครหาตัวแทนทดลองอยู่โดยระบุไว้ว่า
วัคซีน ChulaCov19 ใกล้ความจริง เทียบชั้น Pfizer-Moderna เริ่มทดลองกับมนุษย์ มิ.ย.นี้
และวารสารวิทยาศาสตร์ชื่อดังของโลกอย่าง naature ได้ยกย่องนักวิทย์ไทย พัฒนาวัคซีนโคควิด 19 ด้วยเทคโนโลยี และคุณภาพระดับโลก เทียบชั้น Pfizer-Moderna เพื่อที่จะนำมาให้คนไทย และประเทศเพื่อนบ้านได้ใช้ในประเทศไทยในราคาที่ถูกกว่ามาก
วัคซีน ChulaCov19 ที่ถูกพัฒนาขึ้นโดย ศ.นพ.เกียรติ รักษ์รุ่งธรรม จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นี้ถือเป็นอีกหนึ่งในไม่กี่แห่งของโลกที่สามารถพัฒนาเองขึ้นมาโดยใช้เทคโนโลยี mRNA เช่นเดียวกับ Pfizer และ Moderna และยังเป็นวัคซีนที่ต่อยอดขึ้นมาเพื่อรับมือกับไวรัสโควิด 19 สายพันธุ์แอฟริกา (B.1.351) และ สายพันธุ์อังกฤษ (B.1.1.7) รวมถึงยังอาจพัฒนาให้รับมือกับสายพันธุ์อินเดีย (B.1.617) ได้อีกด้วย
วัคซีน ChulaCov19 ตัวนี้จะเริ่มการทดสอบเฟสแรกในกับมนุษย์ในเดือน มิถุนายนนี้ โดยที่จพะใช้อาสาสมัครจำนวน 100 คน เพื่อที่จะหาจะนวนที่เหมาะสมในการสร้างภูมิคุ้มกัน โดยที่จะใช้บริษัทในสหรัฐอเมริกา เป็นผู้ผลิตที่ผลิตวัคซีนทดลองในล๊อตแรกนี้ และหลังจากนั้นในเดือนกันยายน ก็จะเริ่มผลิตในประเทศไทยเอง โดยบริษัท BioNet-Asia
การทดสอบความสามารถของวัคซีน ChulaCov19 ตัวนี้ จะใช้ผลการทดสอบเทียบกับตัวอย่างเลือด จากผู้ที่ได้ฉีดวัคซีน Pfizer ในต่างประเทศ และ AstraZeneca จากประเทศไทย หากผลการทดสอบพบว่าภูมิคุ้มกันของผู้ที่ได้รับวัคซีน ChulaCov19 เทียบเท่า หรือดีกว่าภูมิคุ้มกันของผู้ที่ได้รับวัคซีน Pfizer และ AstraZeneca ก็น่าที่จะขออนุมัติเป็นการพิเศษเพื่อให้วัคซีนถูกนำมาใช้ในประเทศโดยเร่งด่วนได้
ทางห้องปฏิบัติการวัคซีนของ ศ.นพ.เกียรติ รักษ์รุ่งธรรม ได้ถูกก่อตั้งมากว่า 10 ปีแล้ว โดยเริ่มต้นพัฒนาวัคซีนป้องกันโรคไข้เลือดออก และโรคฉี่หนู ซึ่งก็ได้มีการพัฒนาศักยภาพให้มีคุณภาพที่ก้าวล้ำนำสมัยอยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะเทคโนโลยีการพัฒนาวัคซีนชนิด mRNA นี้ได้เริ่มต้นมาได้เมื่อ 4 ปีที่แล้ว โดยได้ร่วมมือกับมหาวิทยาลัยแห่ง Pennsylvania ที่เป็นผู้ได้ริเริ่มวัคซีนชนิดนี้ พัฒนาวัคซีนโรคภูมิแพ้ขึ้น เมื่อมีการระบาดของไวรัส โควิด-19 ก็ได้หันมาพัฒนาวัคซีนเพื่อที่จะได้รับมือกับการระบาดของไวรัสโควิ-19 นี้
วัคซีน ChulaCov19 มีผลกับการทดสอบในห้องปฏิบัติการที่ดีเยี่ยมมาตั้งแต่เดือนพฤษภาคมปีที่แล้ว ด้วยเรื่องศักยภาพและความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยชั้นนำของอเมริกาที่ได้มีอยู่แล้ว แต่ก็ต้องประสบกับปัญหาเรื่องการสนับสนุนของรัฐบาลในเรื่องทุนวิจัย และการอนุมัติให้สามารถทดลองในมนุษย์ได้ ซึ่งก็เพิ่งได้รับการอนุมัติให้มีการทดสอบในมนุษย์ในเดือนมิถุนายนนี้
หากว่าผลการทดสอบเป็นไปได้ด้วยดีละก็ ประเทศไทยก็จะสามารถพัฒนาขึ้นมาเป็นแหล่งผลิตวัคซีนชนิด mRNA ที่สำคัญประเทศหนึ่งในทวีปเอเชีย แบะเป็นประเทศแรกในเอเชียที่สามารถพัฒนาวัคซีนชนิดนี้ขึ้นมาเองได้
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
วัวยังได้ฉีด!! วัคซีนสกัดลัมปีสกิน “6 หมื่นโดส” ลอตแรก กระจายทั่ว 35 จังหวัด
ห้าม!! กินยาคุมกำเนิดก่อนไปฉีดวัคซีนโควิด
เบลเยียมระงับใช้วัคซีน โควิด “Johnson & Johnson” กับคนอายุต่ำกว่า 41 ปี
ขอขอบคุณข้อมูลจาก : ch3plus , springnews
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!
