คุณเคยประสบกับปัญหาของการตรวจครรภ์หรือไม่ หลายคนซื้อชุดทดสอบการตั้งครรภ์มาตรวจเอง ซึ่งบางครั้งผลก็ออกมาเพียงขีดเดียว แต่อาการอื่น ๆ กลับเหมือนคนตั้งครรภ์ บางคนตรวจมาได้สองขีด แต่ก็ยังมีประจำเดือนมา การเลือก ตรวจการตั้งครรภ์ที่โรงพยาบาล หรือคลินิค คงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกเพื่อสร้างความมั่นใจว่าตกลงคุณท้อง หรือไม่กันแน่ ส่วนจะมีราคาค่าใช้จ่าย และต้องตรวจแบบไหนนั้น เรามีคำตอบค่ะ
ตรวจการตั้งครรภ์ที่โรงพยาบาล หรือคลินิค มีการตรวจแบบไหนบ้าง?
การตรวจการตั้งครรภ์ตามคลินิค หรือโรงพยาบาล รวมถึงสถานอนามัย จะมีวิธีการตรวจหลัก ๆ ด้วยกัน 4 วิธี นั่นก็คือ
- ตรวจด้วยปัสสาวะด้วยชุดทดสอบการตั้งครรภ์
- ตรวจด้วยปัสสาวะโดยห้องปฏิบัติการ (UPT)
- ตรวจด้วยเลือด
- ตรวจด้วยวิธีอัลตราซาวด์
การตรวจการตั้งครรภ์ที่โรงพยาบาล มีค่าใช้จ่ายเท่าไหร่?
-
ตรวจด้วยปัสสาวะด้วยชุดทดสอบการตั้งครรภ์
โดยมากการตรวจเบื้องต้นตามคลินิค หรือโรงพยาบาล จะทำการตรวจการตั้งครรภ์ผ่านชุดทดสอบการตั้งครรภ์ เหมือนที่เราใช้โดยทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นแบบจุ่ม (Test Strip) แบบหยด (Pregnancy Test Cassette) หรือแบบปัสสาวะผ่าน (Pregnancy Midstream Tests) ขึ้นอยู่กับสถานพยาบาลนั้น ๆ
ตรวจตั้งครรภ์ราคา : 100 – 300 บาท
-
ตรวจด้วยปัสสาวะโดยห้องปฏิบัติการ (UPT)
การตรวจปัสสาวะโดยผ่านห้องปฏิบัติการ เราจะเรียกวิธีนี้ว่า Urine Pregnancy Test หรือ ยูพีที (UPT) จะมีลักษณะการตรวจคล้ายการตรวจด้วยชุดตรวจครรภ์ด้วยตนเอง โดยจะใช้แบบจุ่ม (Test Strip) หรือแบบหยด (Pregnancy Test Cassette)
โดยเมื่อมาถึงติดต่อทำการตรวจกับทางคลินิค หรือโรงพยาบาล เจ้าหน้าที่จะให้ภาชนะเก็บปัสสาวะ เพื่อจะนำไปตรวจในห้องแลบ โดยทั่วไป ค่า sensitive ของการตรวจการตั้งครรภ์ที่โรงพบาบาล แม้จะมีเพียง 20-25 mlU/ml ซึ่งถือว่าเป็นระดับฮอร์โมนที่ต่ำมาก แต่ก็สามารถตรวจพบได้โดยนักเทคนิคการแพทย์ ทำให้เกิดผลทดสอบที่แม่นยำมากกว่าการทดสอบด้วยตนเอง
ตรวจตั้งครรภ์ราคา : 300 บาท ขึ้นไป ขึ้นอยู่กับค่าบริการของแต่ละโรงพยาบาล
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ : ชุดตรวจครรภ์ วิธีใช้ชุดตรวจการตั้งครรภ์ที่ถูกต้อง เครื่องตรวจท้อง อ่านผลอย่างไร
-
ตรวจการตั้งครรภ์ที่โรงพยาบาล ด้วยเลือด
การตรวจด้วยเลือด หรือการเจาะเลือด เพื่อตรวจการตั้งครรภ์ นับว่าเป็นวิธีการตรวจการตั้งครรภ์ที่ได้ผลแม่นยำที่สุด สามารถตรวจพบการตั้งครรภ์ได้ตั้งแต่ช่วง 2 สัปดาห์แรก หลังจากมีการปฏิสนธิเกิดขึ้น ซึ่งในระยะนี้ การตรวจจากปัสสาวะมักจะยังได้ผลทดสอบที่ไม่ชัดเจนเท่า
วิธีการตรวจการตั้งครรภ์ด้วยการเจาะเลือดนี้ จะเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการทราบผลการตั้งครรภ์โดยไว โดยมากจะพบว่านิยมตรวจกันในกลุ่มผู้ที่มีภาวะมีบุตรยาก หรือมีประวัติการแท้งบุตร มาก่อน การตรวจด้วยเลือดนี้ จะสามารถทราบผลฉับไว เพื่อสามารถวางแผนการดูแล การฝากครรภ์ และการให้ฮอร์โมนเสริมต่าง ๆ เพื่อป้องกันการแท้งบุตร
ตรวจตั้งครรภ์ราคา : 800 บาท ขึ้นไป ขึ้นอยู่กับค่าบริการของแต่ละโรงพยาบาล
-
ตรวจการตั้งครรภ์ด้วยวิธีอัลตราซาวด์
การตรวจด้วยอัลตราซาวด์นั้น เป็นการตรวจด้วยวิธีส่งคลื่นเสียงความถี่สูงไปยังเนื้อเยื่อภายในช่องท้อง และทำการสร้างภาพขึ้นมา จะปรากฏให้เห็นสภาวะภายในได้อย่างชัดเจน การตรวจด้วยวิธีนี้ จะทำการตรวจโดยสูตินรีแพทย์โดยตรง แต่ก็สามารถตรวจตามคลินิกก็ได้เช่นกัน
การตรวจด้วยวิธีอัลตราซาวนด์ จะมีข้อกำหนดว่า แพทย์จะสามารถตรวจสอบพบทารกในครรภ์เมื่อทารกมีอายุครรภ์ประมาณ 5-6 สัปดาห์ นับจากวันที่ประจำเดือนมาเป็นวันแรกของครั้งสุดท้าย หรือจำเป็นจะต้องรอให้ประจำเดือนขาดไป 1 – 2 สัปดาห์ จึงสามารถตรวจพบ
การตรวจลักษณะนี้ นอกจากจะทราบว่าตั้งครรภ์หรือไม่แล้ว ยังสามารถบอกถึงตำแหน่งการตั้งครรภ์ได้ด้วยว่า เด็กทารกอยู่นอกมดลูกหรือไม่ รวมถึงอาการร่วมอื่น ๆ ได้อีกด้วย เช่น
- ทราบอายุครรภ์
- ตำแหน่งการตั้งครรภ์ ว่า ในมดลูก หรือนอกมดลูก
- ที่ถุงน้ำ หรือซีสต์รังไข่หรือไม่
- มดลูกมีก้อนเนื้องอกหรือไม่
- ครรภ์แฝด
- หลัง 4 เดือนไปแล้ว สามารถตรวจเพศของลูก และคัดกรองความพิการได้
- ภาวะผิดปกติที่อาจเกิด เช่น รกเกาะต่ำ น้ำคร่ำมากหรือน้อยเกินไปเป็นต้น
ตรวจตั้งครรภ์ราคา : 1,200 บาท ขึ้นไป ขึ้นอยู่กับค่าบริการของแต่ละโรงพยาบาล
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
ราคาที่ตรวจครรภ์ ปี 2566 ยี่ห้อไหนดี รวมหมดทุกแบบไว้ที่นี่!
ตรวจครรภ์ตอนไหน ผลลัพธ์แม่นยำที่สุด บทความนี้มีคำตอบ
ความผิดพลาดของที่ตรวจครรภ์ รู้ตัวอีกทีก็ท้องโตซะแล้ว
ที่มา : ch9airport , raknareeclinic
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!