คุณแม่ตั้งครรภ์หลายคนมักเผชิญกับปัญหา เหนื่อยง่าย หายใจไม่ทัน หรือหายใจไม่สะดวก ซึ่งเป็นอาการที่พบได้บ่อยในช่วงร่างกายเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างมาก อาจทำให้คุณแม่หลายคนรู้สึกกังวลและไม่สบายตัว บทความนี้จะมาไขข้อข้องใจให้คุณแม่เข้าใจถึงสาเหตุของ คนท้องเหนื่อยง่าย หายใจไม่ทัน หายใจไม่สะดวก จะมีอันตรายไหม แล้วมีวิธีรับมือยังไง เพื่อให้แม่ท้องมีสุขภาพที่ดีและมีความสุขตลอดการตั้งครรภ์
สารบัญ
ไขข้อข้องใจ สาเหตุที่ทำให้ คนท้องเหนื่อยง่าย
คนท้องเหนื่อยง่าย หายใจไม่ทัน หายใจไม่สะดวก อ่อนเพลีย มีภาวะหายใจไม่อิ่ม เป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นได้ทุกช่วงของการตั้งครรภ์ค่ะ ซึ่งเป็นผลมาจากสาเหตุต่างๆ ดังต่อไปนี้
- มดลูกโตขึ้น การเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนในร่างกายทำให้ผนังทรวงอกและขนาดของมดลูกขยายใหญ่ขึ้น ซึ่งไปกดทับอวัยวะภายใน ทำให้ปอดทำงานได้ไม่เต็มที่ คุณแม่จึงรู้สึกหายใจไม่สะดวก
- ปริมาณเลือดเพิ่มขึ้น ร่างกายของแม่ท้องทำงานหนักมากขึ้น และต้องผลิตเลือดเพิ่มขึ้นเพื่อเลี้ยงลูกน้อย ทำให้หัวใจที่ทำงานหนักมากขึ้นถึง 50% ทำให้คุณแม่มีอาการเหนื่อยง่าย
- การเผาผลาญสูงขึ้น ร่างกายต้องใช้พลังงานมากขึ้นในการผลิตฮอร์โมน และเลี้ยงลูกน้อยในครรภ์
- ฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน ซึ่งมีระดับที่เพิ่มสูงขึ้นกระตุ้นให้สมองต้องการออกซิเจนมากขึ้นเพื่อให้ทารกในครรภ์ได้รับออกซิเจนเพียงพอต่อการหายใจด้วย จึงอาจทำให้คนท้องเหนื่อยง่าย รู้สึกเหมือนอากาศไม่พอหายใจ ต้องสูดหายใจเข้าลึกๆ เสมอ
คนท้องเหนื่อยง่าย หายใจไม่ทัน หายใจไม่สะดวก อันตรายไหม
แม้ภาวะที่ คนท้องเหนื่อยง่าย หายใจไม่ทัน หายใจไม่สะดวก หายใจไม่อิ่ม นั้นนับเป็นอาการปกติที่เกิดขึ้นได้เนื่องจากร่างกาย ฮอร์โมน และระบบต่างๆ มีการเปลี่ยนแปลงไปในระหว่างที่คุณแม่กำลังตั้งครรภ์ แต่บางครั้งการที่แม่ท้องเหนื่อยง่าย หายใจไม่อิ่ม ก็อาจเป็นสัญญาณที่บ่งบอกถึงปัญหาสุขภาพที่ร้ายแรงสำหรับแม่ท้องได้เช่นกัน
1 โรคหืด
กรณีแม่ท้องมีประวัติป่วยเป็นโรคหืดมาก่อน อาจจะมีปัญหาเรื่องการหายใจที่รุนแรงขึ้นขณะตั้งครรภ์ และอาจร้ายแรงจนกระทบต่อชีวิตคุณแม่และทารกในครรภ์ได้ ดังนั้น หากทราบว่าตนเองเป็นผู้ป่วยโรคหอบหืด ควรเข้ารับคำปรึกษาจากแพทย์ เนื่องจากในช่วงการตั้งครรภ์ไตรมาสที่ 3 อาการเหนื่อยง่าย หายใจไม่ทัน หายใจไม่สะดวก หายใจไม่อิ่ม อาจรุนแรงขึ้นได้ ทั้งนี้ หากปล่อยให้โรคหอบหืดกำเริบ ออกซิเจนในเลือดแม่จะลดลง ทำให้ทารกในครรภ์ได้รับออกซิเจนน้อยลงตามไปด้วย เมื่อเป็นบ่อยๆ นานเข้า ลูกอาจตัวเล็ก น้ำหนักน้อย คลอดก่อนกำหนด หรือเสียชีวิตได้
2 โลหิตจาง
ในระหว่างการตั้งครรภ์หากคุณแม่พบว่าตนเองเหนื่อยง่าย หายใจไม่สะดวก หายใจไม่อิ่ม ร่วมกับอาการเหนื่อยล้า ปวดศีรษะ ริมฝีปากและปลายนิ้วซีดหรือมีสีออกม่วงคล้ำ อาจเป็นไปได้ว่าคุณแม่มีภาวะโลหิตจาง ซึ่งมักส่งผลต่อการเจริญเติบโตของทารกในครรภ์ ทำให้เติบโตช้า คลอดก่อนกำหนด หรือมีน้ำหนักน้อยกว่าเกณฑ์ปกติ
3 ปอดบวม ปอดอักเสบ
หากมีปัญหาเกี่ยวกับการหายใจ อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย หรืออาการที่เกิดจากโรคในระบบทางเดินหายใจ เช่น ไข้หวัดใหญ่ ควรแจ้งแพทย์ที่ดูแลครรภ์ เนื่องจากมีโอกาสเกิดโรคแทรกซ้อนที่รุนแรงอื่น ๆ ตามมาได้ เช่น ปอดบวม ปอดอักเสบ การติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ โดยหากปล่อยไว้นาน อาการไอหนักๆ จะเป็นการเพิ่มแรงดันและแรงกระตุ้นให้มดลูกบีบตัว เป็นผลให้คลอดก่อนกำหนดหรือเกิดภาวะแท้งได้
4 โรคลิ่มเลือดอุดกั้นในปอด
เมื่อไรก็ตามที่แม่ท้องรู้สึกเจ็บขณะสูดหายใจเข้าลึกๆ หรือรู้สึกว่าหัวใจเต้นเร็วขึ้น เป็นไปได้ว่าอาจเป็นสัญญาณของโรคลิ่มเลือดอุดกั้นในปอด คุณแม่ควรรีบไปพบแพทย์ทันที เพราะเป็นอาการป่วยอาจรุนแรงถึงชีวิตได้
รับมือยังไง เมื่อแม่ท้องมีอาการหายใจไม่สะดวก หายใจไม่อิ่ม
เมื่ออาการหายใจไม่ทัน หายใจไม่สะดวก คนท้องเหนื่อยง่าย หายใจไม่อิ่ม คุณแม่สามารถลองนำวิธีการต่อไปนี้ไปใช้รับมือและบรรเทาภาวะเหนื่อยง่าย หรือระบบทางเดินหายใจมีปัญหาให้ดีขึ้นได้ค่ะ
- นั่งหลังตรง การนั่งหลังตรง ไหล่ผายออก วางเท้าบนที่สูงเล็กน้อย จะช่วยให้ปอดของคุณแม่ขยาย และมีความจุอากาศภายในปอดมากขึ้น ช่วยให้หายใจสะดวกขึ้นได้ค่ะ และควรหลีกเลี่ยงการนั่งหลังค่อม หรือนั่งไขว้ขา
- ใช้หมอนหนุนสูงขึ้นขณะนอน การใช้หมอนหนุนศีรษะให้สูงขึ้นขณะนอนหลับจะช่วยให้หายใจได้สะดวกขึ้น โดยเฉพาะในขณะที่กระบังลมถูกดันให้สูงขึ้น
- ไม่เร่งรีบเกินไป ไม่หักโหม คุณแม่ท้องควรลองทำอะไรให้ช้าลง ทำกิจกรรมต่างๆ แบบค่อยเป็นค่อยไป ไม่เร่งรีบ หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ทำให้เหนื่อยง่าย เช่น การเดินติดต่อกันเป็นเวลานาน การช้อปปิ้งนานๆ จะช่วยบรรเทาอาการเหนื่อยง่าย หายใจไม่ทัน หายใจไม่อิ่มขณะตั้งครรภ์ได้
- ออกกำลังกายเบาๆ อย่างการเล่นโยคะ และการออกกำลังกายแบบแอโรบิก เช่น ว่ายน้ำ ช่วยพัฒนาการหายใจและอัตราการเต้นของหัวใจให้ดีขึ้น ซึ่งแม่ท้องสามารถปรึกษาแพทย์เพื่อวางแผนการออกกำลังกายอย่างเหมาะสมและปลอดภัยได้ ซึ่งการได้ยืดเส้นยืดสาย จะช่วยให้ร่างกายคุณแม่หลั่งสารเอ็นดอร์ฟินออกมา ทำให้ร่างกายรู้สึกดี กระปรี้กระเปร่าขึ้นได้
- หายใจให้ลึก การหายใจลึกๆ ช้าๆ จะช่วยให้ร่างกายได้รับออกซิเจนมากขึ้น ที่สำคัญคือควรอยู่ในที่ที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก หลีกเลี่ยงสถานที่อากาศร้อนเพราะจะทำให้อาการเหนื่อยล้าของคุณแม่รุนแรงขึ้น และหายใจลำบากมากขึ้นได้
- อดทน ภาวะคนท้องเหนื่อยง่าย หายใจไม่ทัน หายใจไม่สะดวก หายใจไม่อิ่ม อาจทำให้คุณแม่รู้สึกอึดอัดและไม่สะดวกสบาย แต่ขอให้อดทนค่ะ เพราะระบบการหายใจของคุณแม่จะกลับมาเป็นปกติอีกครั้งหลังคลอด แถมมาพร้อมกับลูกน้อยที่แข็งแรงที่จะทำให้คุณแม่ใจฟู หายใจอิ่มปอด หัวใจอิ่มสุขด้วย
เทคนิคฝึกหายใจ แก้อาการ คนท้องเหนื่อยง่าย หายใจไม่สะดวก |
1. ฝึกสูดหายใจเข้าทางจมูกลึกๆ ช้าๆ นับ 1-4 ยกหน้าท้องขึ้น เพื่อให้ปอดสามารถรับออกซิเจนได้เต็มที่ |
2. กลั้นหายใจไว้ นับ 1-7 |
3. หายใจออกทางปากช้าๆ ยาวๆ นับ 1-8 |
ในระหว่างตั้งครรภ์ อย่าลืมนะคะว่า การกินและการพักผ่อนของคุณแม่จะส่งผลต่อคน 2 คน ทั้งตัวคุณแม่เองและลูกน้อยในครรภ์ ดังนั้น ต้องกินอาหารให้ครบ 5 หมู่ โดยเฉพาะอาหารที่มีธาตุเหล็ก เช่น ตับหมู ไก่ หมู ผักกาดหอม มะเขือพวง มะเขือเทศเมล็ดฟักทอง ควบคู่กับการนอนหลับให้เพียงพอ ไม่นอนดึก พยายามนอนหลับให้ได้อย่างน้อย 8 ชั่วโมงต่อคืน หรืออาจนอนกลางวันเพิ่มเติมประมาณครึ่งชั่วโมง – 2 ชั่วโมง หากไม่สามารถหลับยาวตอนกลางคืนได้นะคะ
หากอาการเหนื่อยล้าของคุณแม่รุนแรงมาก หรือมีอาการอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น เจ็บหน้าอก หายใจลำบากขณะนอน มีอาการบวมที่เท้าและขา มีอาการเวียนหัว ไอเรื้อรังควรรีบปรึกษาแพทย์
ที่มา : www.pobpad.com , www.phyathai.com
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ
ทายเพศลูกตามความเชื่อ จริงไหม ท้องแหลมได้ลูกชาย ท้องกลมได้ลูกสาว
Do & Don’t คนท้องอ่อน ไม่ควรทำอะไร และเรื่องไหนแม่ท้องต้องใส่ใจ
ท่านอนคนท้อง แบบสบายๆ แต่ละไตรมาส