วิธีสอนลูกให้ซัพพอร์ทคุณตอนท้อง สอนให้ลูกมีส่วนร่วมกับการตั้งครรภ์

การเป็นผู้ปกครองระหว่างการตั้งท้อง ไม่ใช่เรื่องที่ง่ายเลย ในบางครั้งมันยังเป็นเรื่องที่น่าเครียด สำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ ที่ไม่ได้รับการสนับสนุนจากครอบครัว แต่จะทำอย่างไร ถ้าจะให้ครอบครัวหันมาสนับสนุนคุณแม่ โดยเฉพาะในครอบครัวที่มีเด็ก มาดู วิธีสอนลูกให้ซัพพอร์ทคุณตอนท้อง สอนให้ลูกมีส่วนร่วมกับการตั้งครรภ์ ทำอย่างไรให้ปลอดความเครียด 

เล่าให้ลูกฟังเรื่องการตั้งครรภ์

เริ่มต้นด้วยการเล่าให้ลูกฟัง เรื่องที่คุณกำลังตั้งท้อง แต่อย่าคาดหวังการตอบรับมากเกินไป เพราะเด็กบางคนอาจมีความยินดี ตื่นเต้น แต่เด็กบางคนอาจรู้สึกไม่พอใจ อิจฉา หรือบางคนก็อาจสับสนได้ ดังนั้นสิ่งสำคัญ คือ ให้คุณแม่เลือกสถานการณ์ที่จะบอกกับลูก พร้อมทั้งดูวุฒิภาวะของลูก ว่าพร้อมรับฟังเรื่องราวหรือไม่

ลูกน้อยวัยหัดเดิน (1-3 ขวบ)

ปล่อยใจให้สบาย แล้วเล่าเรื่องที่น่าตื่นเต้น ให้ลูกของคุณฟัง ทำให้พวกเค้ารู้ว่า เรากำลังจะมีสมาชิกใหม่เข้ามาในครอบครัว และนี่เป็นเรื่องที่น่ายินดี มีความสุขมากขนาดไหน เด็กในวัยนี้จะยังมีอารมณ์ ที่ขึ้นอยู่กับคุณแม่ ซึ่งคุณแม่จะเป็นตัวชี้นำอารมณ์ให้กับลูก ดังนั้น หากคุณแสดงออกว่ากำลังมีความสุข ลูกก็จะได้รับ ซึมซับ และรับรู้ถึงความรู้สึกมีความสุข เช่นเดียวกัน

ในระหว่างการเตรียมพร้อมต้อนรับสมาชิกใหม่ คุณแม่ก็อย่าลืมให้ความสำคัญกับลูกน้อยที่บ้านด้วย เพื่อให้เค้ารู้สึกถูกรัก และยินดีที่จะต้อนรับน้องใหม่ไปพร้อม ๆ กัน

ลูกน้อยวัยอนุบาล (3-5 ปี)

เด็กในวัยนี้ จะไม่เหมือนกับเด็กวัยหัดเดิน เพราะจะมีความรู้สึกที่อ่อนไหวมากกว่า การบอกข่าวดีครั้งนี้ จึงอาจค่อนข้างยากสำหรับพวกเค้า ก่อนอื่นให้คุณแม่พยายามให้เวลาลูก และทำให้พวกค้ามั่นใจว่าเค้าเป็นคนพิเศษ และเค้าได้รับความรักจากเรา หากคุณมั่นใจแล้ว หาเวลาที่เหมาะสมที่จะบอกข่าวดีนี้ แต่อย่าคาดหวังว่าพวกเค้าจะยินดีเสมอไป เพราะเค้าอาจมีความคิดที่ว่า กำลังถูกแย่งความรักไป ดังนั้นควรเลือกเวลาที่เหมาะสม ที่จะบอกออกไป เพื่อไม่ให้ลูกต้องมารู้สึกขาด หรือ รู้สึกแย่กับเรื่องที่ต้องรับฟัง

เด็กอายุ 5 ปี เป็นต้นไป

เด็กในวัยนี้ จะมีความเข้าใจต่อสถานการณ์ต่าง ๆ มากขึ้น การบอกว่าคุณกำลังตั้งครรภ์ อาจไม่ใช่เรื่องยากเท่าไหร่นัก แต่คุณควรเตรียมรับมือกับความเปลี่ยนแปลง เมื่อต้องมีสมาชิกใหม่ในบ้าน โดยเฉพาะอารมณ์ของลูก ที่อาจมีความรู้สึกอิจฉา ต่อสมาชิกใหม่ที่เข้ามาในบ้าน

เพื่อป้องกันสถานการณ์เชิงลบ ที่อาจเข้ามาในบ้าน คุณควรพูดคุยกับลูก เพื่อให้เค้าได้เตรียมพร้อมรับมือ ที่จะได้ดูแลน้องใหม่ที่กำลังจะเข้ามาอยู่ในครอบครัว คุณสามารถพูด คุย สอบถาม ถึงความรู้สึกที่เค้ามีต่อการตั้งครรภ์ของคุณ เพื่อให้คุณมีเวลาปรับความเข้าใจ และช่วยให้ลูกมีความคิดเชิงบวกกับน้องได้

4 วิธีช่วยให้ลูกมีส่วนร่วมในการตั้งครรภ์ วิธีสอนลูกให้ซัพพอร์ทคุณตอนท้อง

1. พาลูกไปหาหมอตรวจครรภ์ หรือ ไปช็อปปิ้งของให้น้องบ้าง

คุณแม่สามารถพาลูกน้อย ไปพบแพทย์ตามนัดตรวจครรภ์ หรือพาลูกไปช็อปปิ้งสำหรับน้องในครรภ์ ให้เค้าได้มีส่วนร่วมกับคุณ และให้เค้าได้รู้ถึงกระบวนการต่าง ๆ เมื่อต้องมีสมาชิกใหม่เข้ามาในบ้าน ให้เค้าได้แสดงความคิดเห็น หรือช่วยเลือกสิ่งของให้น้อง เพื่อสร้างความสัมพันธ์ระหว่างกัน

2. ให้ลูกได้มีส่วนร่วมในการตั้งชื่อ

การตั้งชื่อให้ลูก อาจเป็นปัญหาใหญ่สำหรับหลายครอบครัว ทำไมไม่ลองให้ลูกของคุณ ช่วยตั้งชื่อให้น้องดูบ้างล่ะ เพราะนอกจากจะให้เค้าได้ช่วยคิด และมีส่วนร่วมแล้ว คุณอาจจะได้ชื่อสมาชิกใหม่ โดยที่ไม่ต้องเสียแรงให้คิดมากเลยก็ได้

3. อธิบายให้ลูกเข้าใจว่าคุณอาจต้องเหนื่อยบ้าง

แน่นอนว่าลูก ๆ คงต้องสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงของคุณแม่บ้าง ยิ่งในช่วงของการตั้งท้อง ใน 12 สัปดาห์แรก ที่จะเป็นช่วงที่คุณแม่ต้องเหนื่อย และไม่สามารถทำสิ่งต่าง ๆ ที่เคยทำได้ ดังนั้นคุณก็ควรบอกลูกเอาไว้ ว่าคุณอาจไม่สามารถทุ่มเทให้กับลูกได้เท่าเดิม เพื่อไม่ให้ตัวคุณเองเครียดเกินไป และไม่ให้ลูกรู้สึกว่าเค้าขาดอะไรไป แต่อย่างไรก็ตาม วิธีการพูด และการสอนต่าง ๆ ต้องดูว่าลูกอยู่ในวัยไหน และพร้อมรับฟังเรื่องราวเหล่านี้หรือไม่

4. สนใจลูกให้ได้มากที่สุด

เพื่อไม่ให้กดดันตัวเองจนเกินไป คุณแม่ควรทำทุกวันให้ดีที่สุด รวมถึงคุณพ่อเองก็เช่นกัน เพื่อให้มั่นใจว่าลูก ๆ จะได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม และทั่วถึง อย่าให้ลูกต้องรู้สึกว่าเค้าถูกละเลย

สิ่งที่คุณสามีควรทำคืออะไร?

คุณแม่แต่ละคน จะมีประสบการณ์ที่แตกต่างกันออกไปขณะตั้งครรภ์ ซึ่งหากจะให้ลูกเข้าใจถึงสิ่งที่คุณแม่ต้องเจอ คุณอาจจะต้องให้สามีมีส่วนร่วมในตรงนี้ด้วย

ในฐานะสมามี มีหลากหลายวิธีที่จะเป็นส่วนหนึ่งของการช่วยซัพพอร์ทภรรยา สิ่งแรกเลยก็คือ เรียนรู้และพัฒนาตนเอง เพื่อจะได้รู้ว่าคุณจะต้องช่วยภรรยาอย่างไร และยังเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยนำทางให้ลูก มีส่วนร่วมกับการมาของสมาชิกใหม่อีกด้วย

หากคุณแม่ต้องเผชิญกับอาการป่วยในตอนเช้า คุณสามีควรดูแลคุณแม่ และลูกไปพร้อม ๆ กัน ช่วยดูแลเรื่องอาหารการกิน ช่วยเรื่องงานบ้างต่าง ๆ เพื่อให้คุณแม่ ไม่ต้องมีเรื่องกังวลใจ

นอกจากนั้น คุณสามียังต้องทำความเข้าใจ ต่อสิ่งที่คุณภรรยาต้องเผชิญ เพราะการตั้งครรภ์เป็นเรื่องที่อ่อนไหว และคุณสามีต้องทำให้มั่นใจว่า ภรรยามีสุขภาพดีทั้งร่างกาย และสภาพจิตใจนั่นเอง

การได้รับการสนับสนุนจากครอบครัวอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยให้คุณแม่มีสุขภาพครรภ์ที่แข็งแรง และทุกคนมีส่วนร่วมไปพร้อม ๆ กัน เมื่อคุณแม่สบายใจไรักังวล ก็พร้อมที่จะออกเดินทางสู่การต้อนรับสมาชิกใหม่อีกครั้ง

ที่มา : 1

บทความที่น่าสนใจ

100 สิ่งแม่ท้องต้องรู้ ตอนที่ 98 ความเครียดในช่วงแม่ท้อง ส่งผลต่อลูกในท้องอย่างไร

8 วิธีลดความเครียด สำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ เครียดมากส่งผลต่อลูกในท้อง

อาหารช่วยลดความเครียด สารอาหารสร้างสุข 14 อาหารลดความกังวล

คนท้องเครียด ขี้บ่น โมโหร้าย รู้ไหมว่าส่งผลอย่างไรต่อลูกในท้อง