คุณแม่ตั้งครรภ์หลานท่านอาจคิดว่าดวงตาของคุณแค่แดงก่ำจากการเหนื่อยล้า แต่ความเป็นจริงแล้วอาจเป็น “ตาแดง” ซึ่งเป็นภาวะที่พบบ่อยและไม่เป็นอันตรายนัก แต่เนื่องจากการตั้งครรภ์อาจทำให้เกิดโรคแทรกซ้อนได้ คุณแม่จึงอาจกังวล วันนี้เราจึงได้รวบรวมข้อมูลที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับ คนท้องตาแดง ทำอย่างไรดี รักษาและป้องกันอย่างไรมาไว้ให้ที่นี่ ไปดูกันเลย
โรคตาแดง (Pink Eye / Conjunctivitis)
โรคตาแดง หรือ เยื่อบุตาอักเสบ เป็นการอักเสบของเยื่อบุตา ซึ่งเป็นเยื่อบางใสที่คลุมอยู่ด้านในของเปลือกตาและบนตาขาว โรคตาแดงเป็นโรคติดต่อที่พบได้บ่อย มักระบาดในช่วงฤดูฝน โดยมักมีสาเหตุมาจาก
- การติดเชื้อไวรัส: เป็นสาเหตุที่พบบ่อยที่สุด มักเกิดจากเชื้อไวรัส Adenovirus ซึ่งอาจเกิดพร้อมกับโรคหวัดหรือการติดเชื้อของระบบทางเดินหายใจ อาการของตาแดงจากไวรัสจะรวมถึงตาแดง คัน ตาเยิ้ม น้ำตาไหล อาจมีอาการเจ็บคอหรือไอร่วมด้วย
- การติดเชื้อแบคทีเรีย: มักทำให้เกิดตาแดงที่มีขี้ตาสีเหลืองหรือสีเขียว อาจมีอาการตาบวม เปลือกตาแดง และรู้สึกเจ็บแสบตา
- การติดเชื้อรา: พบน้อยกว่าการติดเชื้อไวรัสและแบคทีเรีย อาการของตาแดงจากเชื้อราจะคล้ายกับตาแดงจากแบคทีเรีย แต่จะมีขี้ตาสีดำหรือสีน้ำตาล
- ภูมิแพ้: มักทำให้เกิดอาการคันตา ตาแดง น้ำตาไหล อาจมีอาการคัดจมูก จาม น้ำมูกไหล
- สารระคายเคือง: เช่น ควัน ฝุ่น ควันบุหรี่ สารเคมี สระว่ายน้ำ อาจทำให้เกิดอาการตาแดง ระคายเคือง น้ำตาไหล
- ตาแห้ง: มักเกิดจากการใช้งานสายตามาก พักผ่อนไม่เพียงพอ หรือมีปัญหาเกี่ยวกับต่อมน้ำตา
- การใส่คอนแทคเลนส์: การใส่คอนแทคเลนส์ที่ไม่สะอาดหรือใส่เป็นเวลานาน
- โรคประจำตัว: เช่น โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ โรคสะเก็ดเงิน โรคไทรอยด์
บทความที่น่าสนใจ: ตาแดงเป็นอาการCovid-19 อาการตาแดง ก็อาจจะบอกว่าคุณเป็นโควิดได้
คนท้องตาแดง เกิดจากสาเหตุอะไร
สาเหตุของอาการตาแดงนั้นไม่แตกต่างไปจากคนทั่วไป แต่หญิงตั้งครรภ์จะมีโอกาสเป็นหวัดหรือติดเชื้อง่ายกว่าปกติ ดังนั้น อาจจะมีอาการตาแดงมากกว่าเดิม โดยสาเหตุที่พบบ่อยของเยื่อบุตาอักเสบ (Conjunctivitis) หรือตาแดงในคนท้อง ได้แก่
-
โรคติดเชื้อไวรัส
หวัด ไข้หวัดใหญ่ หรือแม้กระทั่ง COVID-19 ก็สามารถทำให้เยื่อบุตาอักเสบได้ เนื่องจากไวรัสกระตุ้นการอักเสบในร่างกาย คุณอาจสังเกตเห็นอาการตาแดงก่อน ระหว่าง หรือหลังการติดเชื้อไวรัส
-
การติดเชื้อแบคทีเรีย
มักเกิดขึ้นในผู้ที่ใส่คอนแทคเลนส์ไม่ถูกวิธี นอกจากนี้ ยังอาจเกิดจากการสัมผัสตาตัวเองหลังจากสัมผัสอุจจาระ น้ำมูกของผู้ติดเชื้อ หรือแบคทีเรียที่ทำให้เกิดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์บางชนิด เช่น หนองในแท้ และ คลามีเดีย
-
ภูมิแพ้
ภูมิแพ้อากาศตามฤดูกาล รวมถึงภูมิแพ้ต่อฝุ่น ละอองสัตว์เลี้ยง และเชื้อรา สามารถทำให้เยื่อบุตาอักเสบชั่วคราว โดยอาการมักไม่รุนแรง มีน้ำตาไหล ตาแดง ระคายเคือง และคัน แต่ไม่มีลักษณะเป็นคราบหรือเยื่อ
-
สิ่งระคายเคืองจากสิ่งแวดล้อม
ลมพัดทรายเข้าตา หรือเศษเล็ก ๆ เข้าตา อาจทำให้เกิดอาการแพ้หรือได้รับบาดเจ็บที่ดวงตา ซึ่งนำไปสู่เยื่อบุตาอักเสบ หรือตาแดงได้
-
รอยถลอกและแผล
การเกาตาแรง ๆ จนกระจกตาเป็นรอย หรือโดนกระแทกบริเวณใบหน้า อาจทำให้เกิดการอักเสบ แดง และน้ำตาไหล นอกจากนี้แผลดังกล่าวอาจเป็นช่องทางให้สิ่งสกปรกหรือแบคทีเรียเข้ามาทำให้ระคายเคืองหรือติดเชื้อที่ดวงตาได้
การรักษาโรคตาแดงระหว่างตั้งครรภ์
ยาหยอดตาฆ่าเชื้อแบคทีเรีย
- โรคตาแดงจากแบคทีเรีย ต้องใช้ยาหยอดตาฆ่าเชื้อแบคทีเรียเพื่อกำจัดการติดเชื้อ ยาเหล่านี้มักจะช่วยให้คุณรู้สึกดีขึ้นค่อนข้างเร็ว ภายในไม่กี่วัน แต่กว่าจะกลับมาเป็นปกติอาจใช้เวลาประมาณหนึ่งสัปดาห์
- ยาหยอดตาฆ่าเชื้อแบคทีเรียส่วนใหญ่ปลอดภัยสำหรับคุณและลูกน้อยของคุณ แต่ควรแจ้งให้แพทย์ที่สั่งยาของคุณทราบว่าคุณกำลังตั้งครรภ์ และถ้าหากไม่แน่ใจ ควรปรึกษาสูตินรีแพทย์ของคุณ
- ยาหยอดตาฆ่าเชื้อแบคทีเรียสำหรับโรคตาแดงที่พบบ่อย ได้แก่ tobramycin, erythromycin และ ofloxacin จากการศึกษาที่น่าเชื่อถือในปี 2015 ยาหยอดตาฆ่าเชื้อเหล่านี้มักปลอดภัยสำหรับการใช้ระหว่างตั้งครรภ์ แต่ถึงอย่างไรก็ตามควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนทุกครั้ง
ยาหยอดตาแก้แพ้
- โรคตาแดงจากภูมิแพ้ คุณอาจใช้ยาหยอดตาแก้แพ้ เช่น ketotifen (Zaditor, Alaway) ได้ในปริมาณจำกัด แต่ยาประเภทนี้จัดเป็นยาประเภท C ตามระบบการจัดหมวดหมู่ยาขององค์การอาหารและยา (FDA) ซึ่งเป็นระบบเก่าที่หลายคนยังคงใช้อยู่ ดังนั้นคุณควรปรึกษาแพทย์ก่อน
ยาแก้ปวด
- หากคุณมีอาการปวดมากจากโรคตาแดง คุณสามารถทานยาพาราเซตามอลเพื่อบรรเทาอาการได้ ควรระวังว่ายา ibuprofen โดยทั่วไปไม่แนะนำสำหรับสตรีตั้งครรภ์
- ยาแก้แพ้ชนิดรับประทานอาจช่วยบรรเทาอาการตาแดงที่เกิดจากภูมิแพ้ได้ โดยทั่วไปแล้ว ยา Claritin และ Zyrtec ถือว่าปลอดภัยสำหรับการใช้ระหว่างตั้งครรภ์
น้ำตาเทียม
- น้ำตาเทียมเป็นวิธีที่ดีในการช่วยบรรเทาอาการตาอักเสบหรือระคายเคือง และไม่มีส่วนผสมของยา รวมถึงสามารถใช้กับคอนแทคเลนส์ได้ และสามารถใช้ได้บ่อยเท่าที่จำเป็นเพื่อบรรเทาอาการตาแห้ง คัน หรือระคายเคือง
- หากคุณเป็นโรคตาแดงที่ไม่ใช่แบคทีเรียและต้องการบรรเทาอาการระหว่างการพักฟื้น ปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับการใช้น้ำตาเทียมเพื่อบรรเทาอาการบางอย่างของคุณ เนื่องจากเป็นเพียงยาหยอดตาเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น จึงปลอดภัยสำหรับการใช้ระหว่างตั้งครรภ์
บทความที่น่าสนใจ: 7 น้ำตาเทียม สำหรับคนท้อง ยี่ห้อไหนดี? เพิ่มความชุ่มชื้น ลดการระคายเคือง
วิธีป้องกันอาการตาแดงระหว่างตั้งครรภ์
วิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันอาการตาแดงคือการรักษาสุขอนามัยของมือ การไม่สัมผัสใบหน้าของคุณ โดยเฉพาะดวงตาของคุณฝนขณะที่มือจับสิ่งสกปรกจนกว่าคุณจะล้างมือด้วยสบู่และน้ำจะช่วยลดปริมาณของสิ่งสกปรกและเชื้อโรคที่คุณสามารถถ่ายเทไปยังดวงตาของคุณ ซึ่งอาจนำไปสู่การติดเชื้อ
หากคุณกำลังตั้งครรภ์ คุณอาจต้องการทำตามขั้นตอนเพิ่มเติมอีกสองสามขั้นตอนเพื่อหลีกเลี่ยงอาการตาแดง โปรดจำไว้ว่าคุณมีแนวโน้มที่จะติดเชื้อได้ง่ายขึ้น รวมถึงป้องกันจนเองจากสิ่งแวดล้อมอื่น ๆ ที่จะนำไปสู่การทำให้เกิดโรคตาแดง ดังต่อไปนี้
- คุณสามารถหลีกเลี่ยงการใช้สิ่งของร่วมกับผู้อื่น เช่น ผ้าเช็ดตัวและเครื่องนอน
- หลีกเลี่ยงสารระคายเคืองในสิ่งแวดล้อมที่กระตุ้นอาการแพ้ของคุณ
- ดูแลคอนแทคเลนส์เป็นพิเศษหากคุณใส่คอนแทคเลนส์
- อยู่ห่างจากผู้ป่วยที่เป็นโรคตาแดง
บทความที่น่าสนใจ: 7 น้ำตาเทียม สำหรับคนท้อง ยี่ห้อไหนดี? เพิ่มความชุ่มชื้น ลดการระคายเคือง
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการติดเชื้อที่ตาระหว่างตั้งครรภ์
คนท้องตาแดง เสี่ยงต่อลูกน้อยในครรภ์หรือไม่
- จากข้อมูลทางการแพทย์ โดยทั่วไป โรคตาแดง ไม่ส่งผลต่อลูกน้อยในครรภ์ อย่างไรก็ตาม เพื่อความปลอดภัย คุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์และมีอาการตาแดง ควรไปพบแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและการรักษาที่ถูกต้อง
การตั้งครรภ์ส่งผลต่อการติดเชื้อที่ตาได้หรือไม่
- ใช่ การตั้งครรภ์อาจส่งผลต่อระบบภูมิคุ้มกันของคุณ ทำให้คุณเสี่ยงต่อการติดเชื้อต่าง ๆ ได้มากขึ้น รวมถึงการติดเชื้อที่ดวงตาด้วย
อาการทั่วไปของการติดเชื้อที่ตาในระหว่างตั้งครรภ์มีอะไรบ้าง?
- อาการอาจรวมถึงรอยแดง คัน ระคายเคือง มีของเหลวไหล บวม ปวด ไวต่อแสง และมองเห็นไม่ชัด
คนท้องมีแนวโน้มที่จะเป็นตาแดงมากกว่าคนทั่วไปใช่หรือไม่
- หญิงตั้งครรภ์อาจมีความไวต่อการติดเชื้อไวรัส เช่น เยื่อบุตาอักเสบ (โรคตาแดง) และโรคผิวหนังอักเสบจากไวรัสเริม (HSV) มากกว่า เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของระบบภูมิคุ้มกัน
ยาหยอดตาปลอดภัยกับคุณแม่ตั้งครรภ์หรือไม่
- การใช้ยาทุกครั้งมีความจำเป็นต้องปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนทุกครั้ง รวมถึงการใช้ยาหยอดตาหรือยาที่จำหน่ายหน้าเคาน์เตอร์ เนื่องจากยาบางชนิดอาจไม่ปลอดภัยในระหว่างตั้งครรภ์
ที่มา: www.healthline.com, www.centreforsight.net
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
7 ความเชื่อของคนท้อง ข้อห้ามคนท้องตามความเชื่อโบราณมีอะไรบ้าง ความจริงคืออะไร
จับตา 5 โรคติดต่อ ที่มีแนวโน้มระบาดปี 2567 เด็กเล็ก-คนท้องต้องระวัง!
แม่ขอแชร์! ผื่นคนท้อง คันตามแขนขา ผดผื่นขณะตั้งครรภ์ หายในสองเดือน