ฟิลิปปินส์เจ๋ง เริ่มใช้ วัคซีนไข้เลือดออก เข็มแรกของโลกแล้ว
เด็ก ๆ ใน ฟิลิปปินส์ ตั้งแต่อายุ 9 ขวบขึ้นไป ได้รับการฉีด วัคซีนไข้เลือดออก
วัคซีนไข้เลือดออก เข็มแรกของโลก
เด็กนักเรียนฟิลิปปินส์ ที่มีอายุตั้งแต่ 9 ขวบ หรือชั้นเกรด 4 ขึ้นไป ได้รับการฉีด วัคซีนไข้เลือดออก ตามโครงการและนโยบาย ของนางเจนเน็ท พี. โลเรโต การิน รัฐมนตรีสาธารณสุขของฟิลิปปินส์ ซึ่งเป็นประธานในการเปิดโครงการ โดยมีเป้าหมายที่จะฉีดวัคซีนให้แก่เด็ก จำนวน 1 ล้านโดส นับว่าเป็นชาติแรก ที่มีนโยบาย ให้มีการฉีดวัดซีนดังกล่าวแก่เด็ก เข็มแรกของโลก
รัฐบาลได้บรรจุแผนการให้ วัคซีนไข้เลือดออก แก่เด็กนักเรียนนั้น เป็นวาะแห่งชาติ โดยทำงานร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการ และกระทรวงมหาดไทย และท้องถิ่น โดยในเฟสแรกนั้น จะนำร่องฉีดให้กับเด็กนักเรียนในสามเขตหลัก ๆ ที่มีการระบาดของโรคไข้เลือดออกสูงกว่าเขตอื่น ๆ โดยมีการตั้งเป้าที่จะฉีดให้กับเด็กจำนวนทั้งสิ้น 1 ล้านโดส
และการฉีดวัคซีนนั้น แบ่งเป็นการฉีดทั้งหมด 3 เข็ม โดยรัฐบาลตั้งเป้าฉีดวัคซีนเข็มแรกให้แก่เด็กนักเรียน ตั้งแต่เดือนเมษายน – เดือนมิถุนายน 2559 และอีก 6 เดือนหลังจากฉีดเข็มแรก จะฉีดเข็มที่สองให้กับเด็กคนเดิมที่ได้รับวัคซีนไปก่อนหน้านี้ในช่วงเดือนตุลาคม – ธันวาคม 2559 และฉีดเข็มสุดท้ายในช่วงเดือน เมษายน – มิถุนายน 2560
โดยโครงการนี้ มีเป้าหมายที่จะฉีดวัคซีนให้แก่เด็ก จำนวน 1 ล้านโดส
วัคซีนไข้เลือดออกเข็มแรกของโลกนั้น มีชื่อว่า “เด็งว่าเซีย” ผลิตโดยบริษัทซาโนฟี่ปลาสเตอร์ของฝรั่งเศส โดยเป็นการนำเอาเทคโนโลยีจากการวิจัยร่วมกันของ 5 ประเทศคือ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย มาเลเซีย และไทย โดยการทดลองจากอาสาสมัครกว่าสองหมื่นราย และการทดลงในอีก 5 ประเทศในละตินอเมริกา พบว่า สามารถป้องกันไข้เลือดออกได้ถึง 4 สายพันธุ์
“แม้จะเป็นเรื่องน่าเสียดาย ที่ไทยไม่สามารถเป็นชาติแรกในโลกที่ได้ฉีดวัคซีนเข็มนี้ ทั้ง ๆ ที่เราก็เป็นหนึ่งในทีมวิจัย แต่ก็เป็นเรื่องที่น่ายินดีให้กับการตัดสินใจของรัฐบาลฟิลิปปินส์เช่นเดียวกัน” รศ.พญ.อุษา ทิสยากร ที่ปรึกษาคณะเวชศาสตร์เขตร้อน มหาวิทยาลัยมหิดล ในฐานะหัวหน้าโครงการวิจัยวัคซีนไข้เลือดออกของประเทศไทยกล่าว
ถึงแม้ว่าเราจะไม่ยังไม่สามารถประกาศใช้วัคซีนไข้เลือดออกได้ในตอนนี้ แต่เราก็สามารถป้องกันไว้ก่อนได้ ดังนั้น เรามาทำความรู้จักกับโรคไข้เลือดออกกันได้จากข้อมูลถัดไปเลยค่ะ
โรคไข้เลือดออก เกิดจากเชื้อไวรัสชื่อว่าเดงกี่ (Dengue) ซึ่งมีทั้งหมด 4 สายพันธุ์
โรคไข้เลือดออกเกิดจากอะไร ?
โรคไข้เลือดออก เกิดจากเชื้อไวรัสชื่อว่าเดงกี่ (Dengue) ซึ่งมีทั้งหมด 4 สายพันธุ์ด้วยกัน โดยมียุงลายเป็นพาหะนำโรค คือ เมื่อยุงลายไปกัดคนที่เป็นไข้เลือดออก ก็จะดูดเชื้อโรคไว้ และเพิ่มจำนวนในตัวของยุง จากนั้นยุงไปกัดคนอื่น ก็จะถ่ายทอดเชื้อเดงกี่ให้ต่อไป
ไข้ จะเป็นลักษณะไข้สูงลอย ทานยาแล้วไข้ไม่ค่อยลด
อาการของไข้เลือดออกเป็นอย่างไร ?
อาการของโรคไข้เลือดออก คุณพ่อคุณแม่อาจสังเกตได้ง่าย ๆ ตามชื่อโรคคือ มีไข้ และมีเลือดออก นอกจากนั้นคือมีอาการร่วมอื่น ๆ และอาจมีอาการรุนแรงได้
ไข้ จะเป็นลักษณะไข้สูงลอย ทานยาแล้วไข้ไม่ค่อยลด มีอาการปวดศีรษะเวลามีไข้
เลือดออก คือ มีอาการเลือดออกตามอวัยวะต่าง ๆ ที่สังเกตได้ชัดเจน เช่น จุดเลือดออก เลือดออกตามไรฟัน เลือดกำเดาไหล อาเจียนเป็นเลือด ถ่ายดำ
อาการร่วมอื่น ๆ คือ คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง เบื่ออาหาร
และบางคนอาจมีอาการรุนแรง ได้แก่ ช็อค หมดสติ
ทราบได้อย่างไรว่าลูกเป็นไข้เลือดออก ?
หากลูกมีอาการที่เข้าได้กับอาการของไข้เลือดออก คุณพ่อคุณแม่ควรพาลูกไปพบคุณหมอ เพื่อตรวจวินิจฉัยจากอาการ การตรวจร่างกาย และการตรวจเลือดเพื่อวินิจฉัย โดยดูจากปริมาณเกร็ดเลือดที่ต่ำกว่าปกติ ความเข้มข้นของเลือดที่สูงกว่าปกติ นอกจากนี้ยังมีการตรวจเลือดเพื่อหาเชื้อไวรัสเดงกี่ และการตรวจเลือดเพื่อหาภูมิคุ้มกันต่อการติดเชื้อไวรัสเดงกี่อีกด้วยค่ะ
คุณพ่อคุณแม่อาจสังเกตได้ง่าย ๆ ตามชื่อโรคคือ มีไข้ มีเลือดออก และอาการอื่น ๆ ร่วม
วิธีปกป้องลูกน้อยจากการติดเชื้อไข้เลือดออก
การป้องกันการติดเชื้อไข้เลือดออกมี 2 หลักการใหญ่ ๆ ด้วยกันคือ การป้องกันไม่ให้ยุงกัดและการกำจัดยุงลายค่ะ
การป้องกันไม่ให้ยุงกัด ทำได้โดยนอนกางมุ้ง หรือในห้องที่มีมุ้งลวด ทายากันยุง โดยเลือกใช้ยาชนิดที่สามารถใช้ได้อย่างไม่เป็นอันตรายในเด็ก ส่วนการกำจัดยุงลายควรเริ่มตั้งแต่กำจัดลูกน้ำด้วยทรายอะเบท ปิดภาชนะใส่น้ำให้มิดชิด คว่ำภาชนะที่ไม่ใช้ ล้างภาชนะใส่น้ำเช่นแจกันและเปลี่ยนน้ำบ่อยๆ นอกจากนี้บางบ้านอาจกำจัดยุงด้วยการฉีดพ่นสารเคมี หรือใช้สารเคมีกำจัดยุง ซึ่งต้องระมัดระวังอย่างมากในบ้านที่มีเด็กเล็ก ๆ นะคะ
The Asianparent Thailand เว็บไซต์ข้อมูลคุณภาพและสังคมคุณแม่ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศและเอเชีย เรามีผู้เชี่ยวชาญด้านกุมารแพทย์ แหล่งความรู้แม่และเด็ก รวมถึงแอพพลิเคชั่น The Asianparent ที่ติดตามการตั้งครรภ์ให้คุณแม่ได้ลงทะเบียนใช้งานฟรี เพื่อติดตามพัฒนาการทารกตั้งแต่ตั้งครรภ์ จนถึงติดตามหลังคลอดที่ครอบคลุมที่สุดและผู้ใช้งานสูงสุดในประเทศไทย นอกจากความรู้ยังมีไลฟ์สไตล์และสื่อมัลติมีเดียหลากหลาย ไม่ว่าสุขภาพแม่และเด็ก โภชนาการแม่และเด็ก กิจกรรมสำหรับครอบครัว
การวางแผนครอบครัวไปจนถึง การดูแลลูก การศึกษา และจิตวิทยาเด็ก The Asianparent เราพร้อมสนับสนุนพ่อแม่ทุกท่าน ให้มีความรู้และมีสุขภาพกายใจเข้มแข็ง เพื่อเสริมสร้างครอบครัวอย่างแข็งแรง
เพราะเราเชื่อว่า “พ่อแม่เข้มแข็ง ครอบครัวแข็งแรง”
ที่มา : สำนักข่าวไทยรัฐ
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
สำเร็จแล้ว! วัคซีนไข้เลือดออก จ่อขึ้นทะเบียนอย.
ยาต้องระวัง! อย่าให้ลูกกินตอนเป็นไข้เลือดออก
วิธีสังเกตลูกเป็นไข้เลือดออก อาการไข้เลือดออก ลูกเป็นไข้เลือดออก แม่จะรู้ได้อย่างไร
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!