โรคออฟฟิศซินโดรม รุนแรงหรือไม่ หากคุณมีอาการปวดหลัง ปวดบ่า อาจเป็นสัญญาณบอกว่าคุณอาจเป็นออฟฟิศซินโดรม วันนี้เรานำวิธีการสังเกตอาการและป้องกัน ไปดูกันเลย
โรคออฟฟิศซินโดรมคือโรคอะไร ?
ออฟฟิศซินโดรม Office syndrome คือ อาการปวดของกล้ามเนื้อ เนื่องจากใช้งานหนักหรือใช้งานกล้ามเนื้อบริเวณนั้นเป็นประจำ ทำให้เกิดอาการปวดสะสมเรื่อย ๆ จนส่งผลให้เกิดอาการปวดเรื้อรัง การที่ปล่อยไว้นาน ๆ ทำให้ร่างกายเกิดการชาบริเวณ แขน มือ เมื่อปล่อยไว้นานจะทำให้เส้นประสาทถูกกดทับกันอย่างต่อเนื่อง
โรคออฟฟิศซินโดรม อันตรายหรือไม่
ออฟฟิศซินโดรม เป็นโรคที่คนส่วนใหญ่รู้จักกันเป็นอย่างดี ข้อมูลเชิงสถิติโดยโรงพยาบาลสมิติเวช พบว่า สถิติผู้ป่วยที่เป็นออฟฟิศซินโดรม คือคนที่ทำงานในออฟฟิศ ซึ่งโรคออฟฟิศซินโดรมส่วนใหญ่เกิดขึ้นกับคนทำงานที่ต้องนั่งหน้าคอมพิวเตอร์อยู่กับที่เป็นเวลานาน ๆ หลายชั่วโมงต่อวัน และเป็นพฤติกรรมที่ทำเป็นประจำทั้งวัน เมื่อมีอาการปวดหรือเมื่อยชาตามร่างกายนาน ๆ ใครที่เป็นออฟฟิศซินโดรมอาจส่งผลอันตรายเกี่ยวกับระบบกระดูกและกล้ามเนื้อได้ ดังนี้
- เอ็นรัดข้อมืออักเสบกดทับเส้นประสาท
- กล้ามเนื้ออักเสบเรื้อรัง
- เส้นประสาทผิดปกติมีความตึงของเส้นประสาท
- นิ้วล็อก
- เอ็นกล้ามเนื้ออักเสบ
- ปวดหลังจากท่าทางที่ผิดปกติ
- หลังยึดติดในท่าแอ่น
- กล้ามเนื้อแขนท่อนล่างด้านนอกอักเสบ
บทความที่เกี่ยวข้อง : 100 สิ่งที่คุณแม่หลังคลอดต้องรู้ ตอนที่ 31 ออกกำลังกายหลังคลอด ทำได้แค่ไหน ?
อาการออฟฟิศซินโดรม เป็นอย่างไร
ออฟฟิศซินโดรมอาการ ที่พบได้บ่อย มีดังนี้
-
มีอาการปวดหัวเรื้อรัง
ออฟฟิศซินโดรมอาการ ที่พบเจอทั่วไป คือ มีอาการปวดหัวเรื้อรัง หรือมีอาการปวดหัวไมเกรนร่วมด้วย สาเหตุมาจากการเครียด หรือใช้สายตาเป็นเวลานาน หรือในการทำงานที่มีสภาพแวดล้อมที่วุ่นวาย สาเหตุเหล่านี้อาจทำให้เกิดความเครียดสะสมไม่รู้ตัว
-
มีอาการปวดตึงที่คอ บ่า และไหล่ เรื้อรัง
วิธีสังเกตง่าย ๆ เลยก็คือ หากเป็นคนที่ทำงานอยู่แต่กับหน้าคอมพิวเตอร์มากกว่า 8 ชั่วโมง แล้วมีอาการปวดคอ ปวดบ่า มีอาการตึงอยู่บ่อย ๆ หันแล้วรู้สึกลำบากไม่สบายตัว แสดงว่าเป็นอาการของโรคออฟฟิศซินโดรมแล้ว
-
มีอาการปวดหลัง
เป็นอาการแรก ๆ เลยก็ว่าได้ เนื่องจากสาเหตุของโรคนี้คือการที่เรานั่งอยู่ในท่าเดิมเป็นเวลานาน หรือต้องยืนเป็นเวลานาน และผู้หญิงคนไหนที่ใส่ส้นสูงเป็นเวลานาน ๆ ก็คงหลีกเลี่ยงได้ยาก
-
ปวดแขน มีอาการมือชา นิ้วล็อก
อาการเหล่านี้เกิดจากการอักเสบของปลอกหุ้มเอ็นข้อมือ เส้นเอ็นนิ้วมือ เกิดจากการที่ใช้คอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน ทำให้กล้ามเนื้อกดทับเส้นประสาทจนเกิดพังผืด เมื่อทิ้งไว้นาน ๆ จะทำให้ปวดปลายประสาท นิ้วล็อก หรือข้อมือล็อกได้
-
มีอาการปวดตึงที่ขา เหน็บชา
อาการออฟฟิศซินโดรม ให้ลองสังเกตว่าเป็นเหน็บชาบ่อยหรือไม่ หรือขาไม่ค่อยมีแรง อาการเหล่านี้สาเหตุเกิดจากการนั่งท่าเดิมเป็นเวลานาน ๆ ทำให้เส้นเลือดไหลเวียนผิดปกติ ส่งผลให้ขาไม่มีแรง และอาจทำให้ทรุดเดินไม่ได้
โรคออฟฟิศซินโดรมมีกี่ระยะ
- ระยะที่ 1 : เป็นอาการแรก ๆ ที่ทำงานไปสักระยะแล้วจะปวดตึง ๆ แต่เมื่อลุกเดินหรือพักก็จะหายได้เอง
- การแก้ไข : เดินพักผ่อนเป็นระยะ ๆ , ออกกำลังกายหรือขยับเพื่อผ่อนคลายกล้ามเนื้อ , นวดผ่อนคลายกล้ามเนื้อ
- ระยะที่ 2 : อาการปวดจะดีขึ้น หลังจากที่นอนพัก แต่สักพักก็อาจจะมีอาการปวดตึง ๆ อยู่
- การแก้ไข : เปลี่ยนท่าทางการนั่ง หรือยืน ในการทำงาน , เข้ารับการรักษาที่ถูกต้อง
- ระยะที่ 3 : มีอาการปวดมากถึงแม้จะแทบไม่ได้ทำงาน หรือใช้กล้ามเนื้อส่วนที่ปวด พักแล้วอาการก็ไม่ทุเลาลง
- การแก้ไข : เข้ารับการรักษาที่ถูกต้อง ปรึกษาแพทย์ที่เชี่ยวชาญ
บทความที่เกี่ยวข้อง : ท่าออกกำลังกายคนท้อง ลดอาการปวดหลัง ท่าบริหารง่ายๆ ทำได้บนที่นอน (มีคลิป)
วิธีการรักษาโรคออฟฟิศซินโดรม
-
การฝังเข็ม
ใช้เข็มที่เล็กปักลงไปในกล้ามเนื้อที่หดเกร็ง ใช้วิธีปลายเข็มสะกิดกล้ามเนื้อ เพื่อให้กล้ามเนื้อบรรเทาอาการลง
-
กระตุ้นด้วยแม่เหล็กความเร็วสูง
กระตุ้นบริเวณที่มีอาการปวดด้วยคลื่นแม่เหล็ก เพื่อลดอาการปวดกล้ามเนื้อ ลดอาการตึงของกล้ามเนื้อ เพื่อให้กล้ามเนื้อมีความแข็งแรงต่อการใช้งาน
-
ทำกายภาพบำบัด และการออกกำลังกาย
ใช้อุปกรณ์กายภาพบำบัด ร่วมกับการออกกำลังกาย โดยมีนักกายภาพบำบัดสอนและออกกำลังกาย เพื่อฟื้นฟูร่างกาย ให้เหมาะสมของร่างกาย เพื่อบรรเทาอาการปวดในแต่ละคน
ออฟฟิศซินโดรมมีวิธีการป้องกันอย่างไร
- ปรับเปลี่ยนท่านั่งให้เหมาะสมเวลาทำงาน
- ไม่ทำงานในท่าเดิมเกิน 50 นาที – 1 ชั่วโมง ถ้าหากหลีกเลี่ยงไม่ได้แนะนำให้หยุดเดินพักเพื่อผ่อนคลายประมาณ 10 – 15 นาที
- เปลี่ยนอุปกรณ์ในการทำงาน เพื่อลดอาการเจ็บปวดในเวลาทำงาน อาจจะหาหมอนมาดันหลังเพื่อให้นั่งหลังตรงขึ้น หรือปรับเก้าอี้ให้ต่ำลงไม่ให้ก้มดูคอมพิวเตอร์มากเกินไป
- ออกกำลังกายเพื่อคลายกล้ามเนื้อบริเวณที่ใช้งานหนัก
- ยืดกล้ามเนื้อก่อนทำงาน ระหว่างทำงาน และหลังจากการทำงาน
- ลุกเดินเพื่อผ่อนคลายกล้ามเนื้อ
บทความที่เกี่ยวข้อง :Lockdown Brain Fog อยู่บ้านนานจนสมองตื้อ ส่งผลต่อสุขภาพสมองและจิตใจ
จุดเด่นของประกัน ครอบคลุมออฟฟิศซินโดรมหรือไม่
ประกันสังคม ครอบคลุมโรคออฟฟิศซินโดรม
การใช้สิทธิ์ประกันสังคมก็สามารถใช้ในการรักษาโรคออฟฟิศซินโดรมได้เช่นกัน หากได้รับการตรวจว่าเป็นโรคออฟฟิศซินโดรม จะได้เข้ารับการรักษาตามที่แพทย์สั่ง
- ยื่นแบบ กท. 16 ต่อสำนักงานประกันสังคมในพื้นที่ที่ทำงาน หรือภูลำเนาของนายจ้าง
- เข้ารับการรักษาตามโรงพยาบาลที่เลือกได้เลย
เมื่อคิดจะเลือกประกันเกี่ยวกับสุขภาพของตัวเองทั้งที ก็ควรเลือกประกันสุขภาพที่เหมาะสมกับตัวเอง และครอบคลุมต่อการรักษาสุขภาพร่างกายมากที่สุด
ประกันเพราะห่วงใย คุ้มครองสุขภาพ
- เหมาจ่ายสูงสุด 3 แสนบาท
- ครอบคลุมทั่วโลก
- คุ้มครองจนถึงอายุ 80 ปี
- คุ้มครองชีวิต อุบัติเหตุ สุขภาพ
ประกันเพราะห่วงใย Health Supreme
- เหมาจ่ายสูงสุดถึง 100 ล้านบาท
- ครอบคลุมทั่วโลก
- คุ้มครองจนถึงอายุ 80 ปี
- เบี้ยประกันหักลดหย่อนภาษีได้
ที่มา : samitivejchinatown.com , bumrungrad.com, , thaiinterhospital.com
บทความที่เกี่ยวข้อง :
เหตุผลที่ไม่ควรทำงานจากบนที่นอน 6 ผลกระทบเมื่อ Work From Home บนเตียง
เยียวยาจิตใจ Healing Mind กับการปรึกษาสุขภาพจิตออนไลน์ เทรนด์ที่กำลังมาแรง
14 ประกันสุขภาพเด็ก เปรียบเทียบประกันสุขภาพให้ลูก เลือกตัวไหนดี ตัวไหนคุ้ม