รู้หรือไม่!! MFGM คือ สารอาหารในนมแม่ ช่วยพัฒนาสมองของลูกรัก ให้พร้อมเรียนรู้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

น้ำนมแม่ คือ สุดยอดสารอาหารของลูกน้อย ที่อุดมไปด้วยสารอาหารที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตและพัฒนาการด้านต่าง ๆ ของลูก ซึ่งมีงานวิจัยหลายชิ้นแสดงให้เห็นว่า นมแม่มีส่วนสัมพันธ์กับพัฒนาการทางสมองของลูกโดยตรง และยังพบว่า ในน้ำนมแม่มี MFGM อยู่ในปริมาณมากอีกด้วย และเราจะมาไขความลับว่า เพราะอะไรเด็กที่ดื่มนมแม่ส่วนใหญ่จึงเป็นเด็กฉลาดและมีพัฒนาการดี? ไปพร้อมกัน

 

ความฉลาดสัมพันธ์กับ สารอาหารในนมแม่ จริงหรือ?

เพื่อค้นหาคำตอบ เราจำเป็นต้องทำความรู้จักกับ MFGM (Milk Fat Globule Membrane) สารอาหารในน้ำนมแม่ที่มีงานวิจัยหลายชิ้นกล่าวว่ามีความความสัมพันธ์กับพัฒนาการทางสมองและสติปัญญาของลูกน้อย 

 

MFGM คืออะไร?

 

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

MFGM (Milk Fat Globule Membrane) หรือเยื่อหุ้มอนุภาคไขมันในน้ำนม เป็นสารอาหารที่พบได้ในน้ำนมแม่ ทำหน้าที่ห่อหุ้มอนุภาคไขมันนมให้คงรูปอยู่ได้ ใน MFGM ประกอบไปด้วยโปรตีนและไขมันกว่า 150 ชนิด เช่น สฟิงโกไมอิลีน ฟอสโฟไลปิด แกงกลิโอไซต์ เป็นต้น 

มีงานวิจัยบ่งชี้ว่า สารอาหารที่พบใน MFGM มีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมพัฒนาการทางด้านสติปัญญาของลูก เพราะมีส่วนช่วยในการเสริมสร้างเส้นใยประสาท (Myelin Sheath) ช่วยส่งเสริมการสร้างเซลล์สมอง และเพิ่มประสิทธิภาพในการส่งสัญญาณประสาทเชื่อมต่อระหว่างเซลล์สมอง ช่วยให้สมองทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถเรียนรู้และจดจำได้ดียิ่งขึ้น หากลูกได้รับ MFGM อย่างเพียงพอ จะช่วยเสริมสร้าง IQ และ EQ ของลูกน้อยให้เหนือกว่าตั้งแต่ 5 ขวบปีแรก

จากการค้นพบ MFGM ทำให้เรารู้ว่า สฟิงโกไมอีลินเป็นเพียงหนึ่งในส่วนประกอบของ MFGM ซึ่งเป็นสารอาหารที่ช่วยเสริมสร้างเส้นใยประสาทให้เแข็งแรง และเพิ่มประสิทธิภาพในการส่งสัญญาณกระแสประสาทได้อย่างรวดเร็ว ดังนั้นสฟิงโกไมอีลินจึงมีส่วนช่วยในการเสริมสร้างสมองและเซลล์ประสาทให้ทำงานและตอบสนองได้ดีขึ้นควบคู่ไปกับสารอาหารอื่น ๆ ใน MFGM

นอกจาก MFGM จะช่วยเสริมสร้างพัฒนาการทางสมองของลูกแล้ว ยังมีส่วนสำคัญในการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับลูกวัยทารก และช่วยส่งเสริมการทำงานของระบบขับถ่ายอีกด้วย

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

มีผู้เชี่ยวชาญกล่าวเกี่ยวกับ MFGM ไว้อีกจำนวนมาก อาทิ ศาสตราจารย์เกียรติคุณ นพ.เจฟฟรีย์ เคลกฮอร์น มหาวิทยาลัยควีนส์แลนด์ ประเทศออสเตรเลีย กล่าวว่า มีผลวิจัยเกี่ยวกับ MFGM หลายชิ้น ระบุว่า MFGM คือ สิ่งที่มีบทบาทในการเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ช่วยสร้างสมดุลของจุลินทรีย์ในลำไส้ ส่งเสริมการเชื่อมต่อเซลล์สมอง โดยมีการศึกษาในเด็กก่อนวัยเรียน ที่มีอายุตั้งแต่ 2 ขวบครึ่ง – 6 ขวบ พบว่า เด็กที่ได้รับนมเสริม MFGM จะมีระยะเวลาในการป่วย หรือใช้ยาปฏิชีวนะน้อยกว่าเด็กที่ทานนมที่ไม่มีส่วนผสมของ MFGM ซึ่งผลการศึกษาชี้ให้เห็นว่า MFGM คือ สารอาหารในนมแม่ที่มีบทบาทโดยตรงต่อการเจริญเติบโต และการพัฒนาการสมองของลูกน้อย

ส่วน รศ.นพ.สรายุทธ สุภาพรรณชาติ หัวหน้าภาควิชากุมารแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี ได้กล่าวไว้ในหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ฉบับที่ 21593 ตีพิมพ์วันที่ 5 มีนาคม 2560 หน้า 14 ว่า สมองของเด็กพัฒนาสูงสุดในช่วงตั้งครรภ์ถึง 3 ขวบปีแรก เรียกได้ว่าเป็นช่วงเวลาสำคัญอย่างมากต่อการพัฒนาทางสมอง MFGM ช่วยในกระบวนการเชื่อมต่อระหว่างเซลล์สมอง ยิ่งเซลล์สมองมีการเชื่อมต่อมากขึ้น และเร็วขึ้นเท่าไร การพัฒนาสมองของเด็กก็จะเพิ่มขึ้นมากตามลำดับ

ทางด้าน รศ.นพ. พงษ์ศักดิ์ น้อยพยัคฆ์ กุมารแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านพัฒนาการและพฤติกรรม รองอธิการบดี มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช กล่าวไว้ในหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ฉบับที่ 21593 ตีพิมพ์วันที่ 5 มีนาคม 2560 หน้า 14 ว่า ในน้ำนมแม่มีไขมันเป็นส่วนประกอบสูงที่สุด และสมองก็ประกอบไปด้วยไขมันถึง 60% ดังนั้นเยื่อหุ้มอนุภาคไขมันที่พบในนมแม่อย่าง MFGM จึงมีความสำคัญต่อการพัฒนาสมองของลูก 

ด้วยข้อมูลข้างต้นทำให้เราได้รู้ว่า ความฉลาดมีความสัมพันธ์กับสารอาหารในนมแม่อย่างไม่ต้องสงสัย

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

 

ความสัมพันธ์ระหว่าง MFGM กับ IQ, EQ ในช่วง 5 ปีแรก

ช่วง 1,000 วันแรกของลูก เป็นช่วงเวลาที่สำคัญต่อพัฒนาการทางสมองและสติปัญญาของลูกน้อยอย่างมาก เพราะ 80% ของสมองเติบโตสูงสุดใน 2 ขวบปีแรก และ 90% เติบโตสูงสุดใน 5 ปีแรก เพราะเหตุนี้การดูแลให้ลูกได้รับสารอาหารอย่างครบถ้วนจึงมีความสำคัญอย่างมาก คุณแม่ควรให้ลูกดื่มนมแม่อย่างน้อย 6 เดือน หลังจากนั้นควรให้นมแม่ต่อเนื่องควบคู่ไปกับอาหารตามวัยจนอายุ 2 ปี 

โดย รศ.นพ. พงษ์ศักดิ์ น้อยพยัคฆ์ ยังได้กล่าวเสริมไว้ในหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ฉบับที่ 21593 ตีพิมพ์วันที่ 5 มีนาคม 2560 หน้า 14 อีกว่า มีงานวิจัยทางการแพทย์ยืนยันว่าเด็กที่ได้รับนมที่เสริม MFGM และ DHA จะมีการพัฒนาความฉลาดได้อย่างเต็มระบบ นอกเหนือจากด้านสติปัญญานั่น คือ ความฉลาดทางอารมณ์ บทบาทของโภชนาการช่วยส่งผลในการเชื่อมต่อเซลล์สมองมีประสิทธิภาพ เมื่อสมองทำงานได้ดี เด็กมีสมาธิจดจำประมวลข้อมูลต่าง ๆ ได้ดี ซึ่งจะเป็นพื้นฐานสู่การพัฒนาที่ดีในแง่ทัศนคติและพฤติกรรมของเด็กในอนาคต ซึ่งเราต้องยอมรับว่า ในสังคมปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา เด็กที่ทั้งคิดเก่งและคิดดีมีความก้าวล้ำทั้งความคิดและอารมณ์ปรับตัวตามสภาพแวดล้อมได้ดี โดยมีคุณพ่อคุณแม่สนับสนุนอย่างเหมาะสมทั้งด้านโภชนาการและการเลี้ยงดู รวมถึงการปฏิบัติตัวให้เป็นแบบอย่างที่ดี จะช่วยให้เด็กประสบความสำเร็จในชีวิตและก้าวไปไกลกว่าในโลกอนาคต

 

พันธุกรรมสำคัญ แต่แม่สามารถสนับสนุนให้ลูกมี IQ และ EQ ที่เหนือกว่า ด้วยสารอาหารในนมแม่

ถึงแม้ปัจจัยหนึ่งของความฉลาดจะขึ้นอยู่กับ “พันธุกรรม” แต่ยังมีทฤษฎี “กระบวนการเหนือพันธุกรรม” หรือ Epigenetic อธิบายว่า โภชนาการและสิ่งแวดล้อม มีผลต่อการแสดงออกของเด็กๆ ให้ต่างจากพ่อแม่ได้ ทั้งในด้านพัฒนาการและพฤติกรรม

 

 

คุณหมอพงษ์ศักดิ์ อธิบายเพิ่มเติมว่า เด็กแรกเกิดจะมีเซลล์สมองกว่า 100,000 ล้านเซลล์ แต่จะค่อยๆ ลดลงหากขาดการเชื่อมต่อของเซลล์สมอง หากเด็กๆ ได้รับนมแม่ ซึ่งเป็นโภชนาการที่ดีที่สุด ก็จะมีพัฒนาการที่ดีได้ เนื่องจากนมแม่มีสารอาหาร ครบถ้วนทั้ง 3 กลุ่ม คือ

  • สารอาหารหลัก (Macronutrients) ได้แก่ โปรตีน คาร์โบไฮเดรต และไขมัน ร่างกายต้องการในปริมาณมาก
  • สารอาหารรอง (Micronutrients) ได้แก่ วิตามิน และเกลือแร่ ร่างกายต้องการน้อย แต่จำเป็นและขาดไม่ได้ เพราะช่วยให้กลไกการทำงานต่างๆ คงความสมดุล
  • สารอาหารชีวภาพ (Bioactive Compounds) ได้แก่ MFGM คือ สารอาหารในนมแม่ และนมวัว มีส่วนช่วยในการสร้างเซลล์สมองและการเชื่อมต่อประสาท ส่วนทอรีนมีความสำคัญต่อพัฒนาการของระบบประสาท ช่วยในการมองเห็น ป้องกันจอประสาทตาเสื่อม เป็นตัวควบคุมน้ำในเซลล์สมอง และเชื่อว่าเป็นตัวนำกระแสประสาทในสมองอีกด้วย

 

อยากให้ลูกฉลาด เสริมประสิทธิภาพสมองด้วย MFGM

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

 

ในช่วงขวบปีแรก เด็ก ๆ ต้องการสารอาหารในนมแม่ เพื่อเสริมสร้างร่างกายให้เติบโตสมวัย และเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับภูมิคุ้มกัน หลังจาก 1 ขวบ ร่างกายจะต้องการสารอาหารมากขึ้น เด็ก ๆ จำเป็นต้องทานอาหารที่มีความหลากหลาย และเสริมด้วยนมที่มี MFGM เพราะในช่วง 1,000 วันแรก สมองของเด็ก ๆ จะมีการพัฒนามากที่สุด คุณแม่ควรดูแลโภชนาการของลูกน้อย ควบคู่ไปกับการสนับสนุนให้ลูกทำกิจกรรมตามช่วงวัย เพื่อกระตุ้นให้สมองมีการพัฒนาตลอดเวลา

ดังนั้น หากอยากให้ลูกรัก เฉลียวฉลาด ก้าวล้ำทั้งความคิดและอารมณ์ สามารถเรียนรู้ได้อย่างไร้ขีดจำกัด ลูกควรได้รับ MFGM คือ สารอาหารในนมแม่ ควบคู่ไปกับการหมั่นฝึกฝนสมองให้เกิดการคิดวิเคราะห์ เพื่อกระตุ้นให้เซลล์สมองเกิดการเชื่อมตลอดเวลา

เรียนรู้เพิ่มเติมว่า MFGM คืออะไร คลิกที่นี่

 

 

 

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :

MFGM คืออะไร มีส่วนช่วยในพัฒนาการเด็กได้อย่างไร

มัดรวมประโยชน์ของ “แลคโตเฟอร์ริน” สารอาหารยืนหนึ่ง เรื่องสร้างภูมิคุ้มกันให้ลูกรัก

ผลวิจัยล่าสุด MFGM สุดยอดสารอาหาร เพื่อ IQ /EQ ที่เหนือกว่าของลูกน้อยในวัย 5 ขวบ

10 อาหารบำรุงสมองใน 1,000 วันแรก ให้ลูกกินอะไร แล้วลูกฉลาด พัฒนาการสมองไว

 

ที่มา : pubmed.ncbi, rama.mahidol

บทความโดย

theAsianparent Editorial Team