อย่าลืมดูแลสุขภาพจิต ช่วงนี้มีข่าวให้เครียดเยอะมากอย่าลืมหันมาดูแลสุขภาพจิต
ในช่วงเหตุการณ์ไวรัส โคโรน่า หรือ Covid-19 ระบาด เราเชื่อว่าคุณพ่อ คุณแม่ ผู้ปกครองหลายคน คงจะเริ่มมีความกังวลมากขึ้น กว่าเดิม ไม่มากก็น้อย เนื่องจากสถานการณ์เริ่มใกล้ตัวเข้ามาเรื่อยๆ ณ วันนี้มีผู้ป่วยในประเทศไทย เพิ่มมากขึ้นเกิน 300 รายแล้ว ผู้ปกครองหลายๆคนคงจะเริ่ม มีอาการขนลุก ตาโตกันแล้วใช่ไหมล่ะ ครับ? การติดตามข่าวทุกวันเพื่ออัพเดท สถานการณ์ ก็เป็นเรื่องที่ดี แต่ในบางครั้ง ถ้าเครียดมากเกินไปก็ไม่ดี อย่าลืมดูแลสุขภาพจิต กันบ้าง
เพราะเรื่องจิตใจเอง ก็เป็นเรื่อง ที่สำคัญไม่แพ้ กับเรื่องสุขภาพทางร่างกาย ยิ่งเป็นแม่ท้อง ที่กำลังตั้งครรภ์ อยู่ด้วยล่ะก็ ความเครียดอาจจะส่งผลไม่ดีมากมายตามมาโดยไม่รู้ตัว เมื่อแม่มีอาการเครียด หรือ วิตกกังวล สิ่งที่จะตามมาคือ อาการนอนไม่หลับ นอนพักผ่อนไม่เพียงพอ กินข้าวไม่ลง อาการต่างๆ ล้วนแล้ว แต่จะส่งผลแย่ในระยะยาว ให้กับตัวคุณแม่เอง รวมไปถึงตัวเด็ก ลูกน้อยที่อยู่ในท้องด้วย
รู้ว่าเราต้องเจอกับอะไร
คนทุกคนย่อมมีความเครียดอยู่แล้ว ในชีวิตประจำ แต่ความเครียดแบบไหน ที่ปลอดภัย หรือ น่าวิตก ก็จะแตกต่างกันไปตามเรื่อง และ ตามบุคคล บางคนอาจจะสามารถจัดการกับความเครียดนั้นได้ด้วยตัวเอง เช่น ไปดูทีวี ฟังเพลง หาอะไรทาน นักจิตวิทยา Dr. Richa Bhatia กล่าวว่า สิ่งแรกที่เราควรทำก่อนจะจัดการ กับความเครียดก็คือ เราต้องรู้ก่อนว่าตัวเองเครียด
เธอบอกเพิ่มเติมอีกว่า ความเครียดและวิตกกังวล เหล่านี้ ไม่ได้บ่งบอกถึงตัวตนของเรา แต่เป็นเรื่องความคิดที่ผ่านเข้ามาในสมอง
จัดการแบ่งเวลา
ถ้าความเครียด และ ความกังวลมันมากเกินกว่าที่จะรับมือไหว นักจิตวิทยาแนะนำว่า เราควรจะให้เวลาตัวเอง วันละ 30 นาที เพื่อจัดการความรู้สึกเหล่านี้ มันอาจจะดูแย่ที่ให้เวลาตัวเอง ได้คิดอะไรไปเรื่อยๆ 30 นาที แต่ในความเป็นจริงแล้ว มันเป็นอะไรที่เวิร์คมาก มันจะทำให้เราได้กลับมาคิดถึงปัจจุบันได้มากขึ้น เราจะได้แบ่งแยกสิ่งที่ควรกังวล สิ่งที่เราควบคุมไม่ได้ บางทีก็ตัดความกังวลไปบ้างก็ได้
คุณอาจจะลดเวลาเสพข่าวลงไป อย่างที่เราบอกไปว่า ช่วงนี้ มีข่าว Covid-19 เป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะมองไปทางไหน ก็มีแต่ โคโรน่า ไวรัส โคโรน่า เต็มไปหมด ทุกที่ ถ้าคุณเสพข่าวมากจนเกินไป จนถึงระดับที่ว่า คุณรู้สึกไม่ไหวแล้ว อะไรมันจะเครียดขนาดนี้ ให้ลดการอ่านข่าวลง ก็จะช่วยได้เยอะเลยทีเดียว มันมีอแอปที่ชื่อว่า Freedom ที่ช่วยบล๊อกเว็บ หรือ แอปอะไรบางอย่างได้ในชั่วขณะ
ใช้เวลาว่างทำกิจกรรมที่จรรโลงใจ
ในช่วงที่หลายต่อหลายคน ในหลายประเทศ ต่างก็จะต้อง กักตัวอยู่ในบ้านตัวเอง ไม่ออกไปไหน เพราะกลัวไวรัส โคโรน่า Covid-19 คุณควรที่จะแบ่งเวลาหาอะไร ที่ทำแล้วสบายใจทำด้วย เช่น การพูดคุย กับเพื่อน คนในครอบครัว อ่านหนังสือ ดูหนัง การที่อุดอู้อยู่คนเดียว เสพแต่ข่าว ก็อาจจะทำให้สถานการณ์รอบตัวดูแย่ และ น่าวิตกกังวล มากขึ้นไปกว่าเดิมอีก
ออกกำลังกาย
การออกกำลังกาย เป็นตัวช่วยอีกอย่างหนึ่งที่ดี ในช่วงปิดเมืองนี้ เราอาจจะไม่สามารถออกไป ฟิตเนส หรือ ยิมได้ แต่สิ่งที่เราทำได้คือ การออกกำลังกายในห้อง เช่นเต้นตามวีดีโอในยูปทูป หรือ เล่นโยคะ ก็ช่วยได้เช่นกัน มันจะทำให้สมองของเราปลอดโปร่ง และทำให้เรารู้สึก แฮปปี้ กระปรี้ประเปร่า มีความสุข ตลอดเวลา และลืมเรื่องเครียดๆไปได้
ทำเรื่องดีๆ
แม้ว่าตัวเราจะออกจากบ้านไม่ได้ เพราะมีความเสี่ยง เวลาออกไปข้างนอก แต่เราก็สามารถหาเรื่องทำดีได้ เช่น การตัดเย็บ หน้ากากผ้า การแพ็กหน้ากากอนามัย หรือ เจลส่งให้ ผู้ที่ด้อยโอกาสกว่าเรา หรือจะบริจาค ให้หน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการช่วยเหลือ ผู้ป่วย ก็สามารถทำได้ แม้ว่าเราจะนั่งอยู่ในห้อง การทำความดีนั้น จะทำให้เรารู้สึกดีขึ้น เหมือนเราได้มีส่วนในการ ช่วยแก้ปัญหา ที่เกิดขึ้นได้ ไม่มากก็น้อย หรือ ถ้าใครอยากจะออกไปทำดีด้านนอก ก็สามารถทำได้ โดยการออกไปบริจาคเลือด ซึ่งตอนนี้กำลังกลายเป็นที่ต้องการเป็นอย่างมาก
ตัวอยู่ไกล แต่ใจอย่าห่างกัน
ในช่วงนี้มีคนหลายคน ที่ต้องอยู่ห่างกัน ไม่ได้เจอกัน แต่การที่ตัวอยู่ห่างกัน ไม่ได้แสดงว่าคุณจะต้องห่างเหินกันไปด้วย ลองใช้เทคโนโลยี ติดต่อกัน ความรู้สึกที่เหมือนกับว่าเราไม่ต้องอยู่คนเดียว มีเพื่อนอยู่ด้วย เป็นความรู้สึกที่ดีมากๆ ที่เราจะได้รู้ว่า เราจะผ่านเหตุการณ์ร้ายๆ ครั้งนี้ไปได้ด้วยกัน
ที่มา: theguardian
บทความอื่นๆที่น่าสนใจ :
วิจัยเผย สุขภาพจิตหญิงตั้งครรภ์ สำคัญ แม่ท้องซึมเศร้ามีผลต่อลูกน้อยในครรภ์!
8 วิธีลดความเครียด สำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ เครียดมากส่งผลต่อลูกในท้อง
แม่ท้องห้ามเครียด วิจัยเผยแม่เครียดมี ผลเสียต่อลูก น้อยในครรภ์