ผ่าคลอด กี่เดือนท้องยุบ
ปัญหาที่คาใจคุณแม่หลังคลอดหลาย ๆ คน คือทำไมคลอดลูกแล้วท้องไม่ยุบลงสักที แล้วจริง ๆ ผ่าคลอด กี่เดือนท้องยุบ ทำไมคนอื่นผอมเร็ว แต่ของเราพุงคนท้องยุบช้า ทำยังไงให้หน้าท้องหลังคลอดยุบเร็ว ๆ วิธีลดพุงคนท้องมีอะไรบ้าง เรามีวิธีที่ช่วยให้พุงยุบเร็วมาฝากกัน

โดยปกติแล้ว หน้าท้องของ คุณแม่ หลังคลอดแต่ละคนจะยุบเร็วยุบช้าไม่เท่ากัน แล้วแต่ปัจจัยอื่น ๆ อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นหน้าท้องก่อนตั้งครรภ์ ไลฟ์สไตล์ของ คุณแม่ หลังคลอด การออกกำลังกาย รวมไปถึงน้ำในร่างกายของ คุณแม่
ส่วนใหญ่แล้ว คุณแม่ หลังคลอดจะเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงประมาณช่วงหนึ่งเดือนหลังคลอด จะเริ่มเห็นว่าพุงค่อย ๆ ยุบลงเรื่อย ๆ ซึ่งคุณแม่ หลังคลอดหลายคนต่างบอกว่า ประมาณหนึ่งปีถึงสองปี หุ่นก็จะเริ่มกลับมาเป๊ะปังเหมือนปกติแล้วล่ะ
แต่ถ้าหาก คุณแม่ บ้านไหนหน้าท้องหลังคลอดยังไม่ยุบลงสักที ก็อย่าเพิ่งตกใจไป เพราะจริง ๆ แล้วขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่น ๆ ด้วย ถ้าหาก แม่คนไหนให้นมลูก น้ำหนักจะยิ่งลดลงไปอย่างรวดเร็ว ภายในเวลาประมาณสองเดือนถึงสี่เดือน หรือ คุณแม่ บางคนที่เลี้ยงลูกเอง บางครั้งก็จะทำให้น้ำหนักลดลงเร็วไปเองโดยอัตโนมัติ
อย่างไรก็ตาม ถ้าหากให้ลูกกินนมแม่ก็แล้ว เลี้ยงลูกก็แล้ว หน้าท้องของ คุณแม่ หลังคลอดก็ยังไม่ยอบยุบสักที บางครั้งอาจจะเกิดจากการที่มดลูกยังไม่เข้าอู่ อาจจะต้องใช้เวลาอีกสักระยะหนึ่ง หรือ สามารถหาวิธีออกกำลังกายเบา ๆ สำหรับ คุณแม่ หลังคลอดช่วยได้ วิธีลดหน้าท้องหลังคลอดสำหรับ คุณแม่ ที่ผ่าคลอดนั้น มีอะไรบ้าง มาติดตามกันได้เลย

วิธีลดพุงคนท้อง
คุณแม่ หลังคลอดหลายบ้าน มักจะใส่ผ้ารัดหน้าท้อง หรือ กางเกงกระชับสัดส่วน เพื่อช่วยให้ร่างกาย คุณแม่ หลังคลอดเข้าที่เข้าทางได้เร็วยิ่งขึ้น หน้าท้องดูกระชับ ไม่เหี่ยว ไม่หย่อนยาน แต่จะเห็นผลมากน้อยขนาดไหนนั้นขึ้นอยู่ กับแต่ละคน แต่โดยมากแล้ว คุณแม่ หลังคลอดมักจะใช้ผ้ารัดหน้าท้อง เพื่อช่วยไม่ให้เจ็บแผลเวลาเดินอยู่แล้ว ส่วนจะผอมลงเยอะ หรือไม่ อันนั้นถือเป็นผลพลอย ได้ไปในตัว
ที่คุณแม่ หลังคลอดท้องไม่ยุบลงสักที เป็นเพราะน้ำคาวปลายังถูกขับออกไม่หมด บางบ้านมักจะใช้วิธีการอยู่ไฟ เพื่อช่วยขับน้ำคาวปลาให้ออกมาให้หมดเร็ว ๆ ถ้าหากน้ำคาวปลาถูกขับออกมาจนหมด ก็จะช่วยให้ผอมลง หน้าท้องยุบได้เร็วยิ่งขึ้น
การดื่มน้ำเย็นจะยิ่งทำให้หน้าท้องพอง หน้าท้องยุบช้าลง หรือบางคนก็คือหน้าท้องไม่ยอมยุบลงสักที ให้เปลี่ยนไปดื่มน้ำอุ่นแทน จะช่วยให้หน้าท้อง คุณแม่ หลังคลอดยุบเร็วยิ่งขึ้นได้
การควบคุมอาหารเป็นอีกปัจจัยที่จะช่วยให้หน้าท้องของ คุณแม่ หลังคลอดยุบลงได้เร็ว พยายามทานอาหารให้ครบห้าหมู่ ทานอาหารที่เป็นประโยชน์ รวมไปถึงต้องปลอดภัยต่อลูกน้อยด้วย ถ้าหากบ้านไหนเป็น คุณแม่ ให้นมบุตร งดของหวาน ของหมักดอง ของทอด พวกเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูง เช่น น้ำอัดลม ถ้าหากเลี่ยงก็ได้ให้เลี่ยงไปก่อน จะได้ผอมลงเร็ว ๆ

คุณแม่หลังคลอดที่ผ่าคลอดมา แล้วหน้าท้องไม่ยุบสักที สามารถออกกำลังกายหลังคลอด เพื่อช่วยให้ผอมลงเร็วขึ้นได้ แต่ให้ใช้การออกกำลังกายแบบเบา ๆ ไปก่อน ไม่ให้หักโหมออกกำลังกายหนัก ๆ เพราะอาจจะเป็นอันตรายต่อแผลผ่าคลอดได้
ในช่วงหนึ่งสัปดาห์แรก คุณแม่หลังคลอดสามารถออกกำลังกายเบา ๆ ด้วยการนอนชันเข่า แล้วใช้วิธีเกร็งกล้ามเนื้อหน้าท้อง เป็นการออกกำลังกายกระชับสัดส่วนได้ โดยให้นอนหงาย ชันเข่าขึ้น หายใจเข้าพร้อมกับเกร็งกล้ามเนื้อหน้าท้อง จากนั้นหายใจออกพร้อมกับคลายกล้ามเนื้อหน้าท้อง ทำแบบนี้ 15 – 30 ครั้งต่อวัน จะสามารถช่วยให้หน้าท้องยุบเร็วขึ้นได้

ถ้าหากแผลเริ่มหายดี หรือหลังคลอดอย่างน้อย 6 สัปดาห์ คุณแม่หลังคลอดสามารถออกไปวิ่งเบา ๆ ตามสวนสาธารณะได้แล้ว ไปวิ่งรับอากาศสดชื่น ช่วยให้ร่างกายได้เสียเหงื่อ เผาผลาญพลังงาน ช่วยให้ผอมลงได้เร็วขึ้น หรือจะเล่นพวกกีฬาในร่มที่ไม่หนักมาก อย่างเช่น แบตมินตัน เพื่อช่วยบริหารกล้ามเนื้อได้
หลังจากคลอดแล้วไม่ต่ำกว่า 3 เดือน คุณแม่หลังคลอดอาจจะลองบริหารหน้าท้องด้วยวิธีการนอนยกขาทีละข้างสลับกัน เกร็งหน้าท้องระหว่างทำ เพื่อช่วยลดพุงให้ยุบเร็วขึ้น
แต่อย่างไรก็ตาม สภาพร่างกายของ คุณแม่ แต่ละคนไม่เหมือนกัน การลดน้ำหนักของคุณแม่หลังคลอดย่อมต้องใช้เวลามากน้อยไม่เท่ากัน สามารถเอาวิธีลดน้ำหนักนี้ไปปรับใช้ให้เข้ากับตัวเองได้ อย่าเครียดหรือหักโหมจนเกินไป โดยทั่วไปแล้ว ถ้าหากคุณแม่หลังคลอดเลี้ยงลูก ให้นมลูกบ่อย ๆ ควบคู่ไปกับการเลือกกินอาหาร รวมไปถึงการออกกำลังกาย หุ่นคุณแม่ก็จะกลับมาสวยเป๊ะได้ไม่ยาก
ที่มา https://th.theasianparent.com
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
อาการแม่หลังคลอด 1 ปี มีอะไรเปลี่ยนแปลงบ้าง จะมีลูกคนที่สองได้เมื่อไหร่
8 ท่าโยคะแม่หลังคลอด ท่าโยคะลดพุง แก้อาการปวดหลัง [คลิปวิดิโอประกอบ]
เมนูปลาหลังคลอด รวมเมนูอาหารแม่หลังคลอด แม่ลูกอ่อนควรกินอะไรให้ฟื้นฟูเร็ว
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!