โลกในปัจจุบันเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว และทักษะที่จำเป็นสำหรับการดำรงชีวิตก็เปลี่ยนแปลงไปเช่นกัน ทักษะชีวิตที่เด็กอนุบาลต้องมี เป็นทักษะที่จำเป็นสำหรับการอยู่รอดและประสบความสำเร็จในโลกที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน การมีทักษะเหล่านี้จะช่วยให้ลูกสามารถปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมใหม่ๆ ได้อย่างรวดเร็ว และมีความพร้อมที่จะเผชิญหน้ากับความท้าทายในอนาคต ซึ่งสามารถเริ่มฝึกได้ตั้งแต่วัยอนุบาล
ในบทความก่อนหน้าเราได้พูดถึง 8 ทักษะจำเป็นที่เด็กอนุบาลต้องมี เพื่อก้าวสู่ศตวรรษที่ 21 (Part 1) สำหรับบทความนี้มาต่อกันที่ 4 ทักษะที่เหลือกันค่ะ
ทักษะชีวิตที่เด็กอนุบาลต้องมี เพื่อลูกพร้อมเผชิญความท้าทายในอนาคต (Part 2)
5. ทักษะการควบคุมอารมณ์
การสอนให้ลูกเข้าใจความรู้สึกของตนเองและผู้อื่น รวมถึงการแสดงออกซึ่งความรู้สึกในทางที่เหมาะสม จะช่วยให้ลูกมีอารมณ์ที่มั่นคงและสามารถควบคุมตนเองได้ดี สร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับคนรอบข้าง ลูกสามารถเข้ากับเพื่อนๆ ได้ดีขึ้น ไม่ทะเลาะวิวาทกันบ่อย เมื่อลูกสามารถควบคุมอารมณ์ได้ ก็จะสามารถตั้งใจเรียนและฟังคำสั่งของครูได้ดีขึ้น
- ไม่ได้ของเล่นที่ต้องการ: ลูกอาจรู้สึกโกรธหรือเสียใจ ให้หายใจเข้าออกลึกๆ ช้าๆ เพื่อให้ร่างกายผ่อนคลาย หาอย่างอื่นทำ หรือทำกิจกรรมอื่นๆ ที่สนใจ
- เพื่อนแย่งของเล่น: ลูกอาจรู้สึกโกรธหรือหวง ให้พูดคุยกับเพื่อนอย่างสุภาพ เช่น “ขอเล่นด้วยคนนะ” หรือ “ขอเล่นสลับกันได้ไหม” หากตกลงกันไม่ได้ อาจจะชวนเพื่อนไปเล่นอย่างอื่น หรือบอกครู
- ทำการบ้านไม่ได้: ลูกอาจรู้สึกเบื่อหรือท้อแท้ ให้เด็กกล้าขอความช่วยเหลือจากพ่อแม่ ครู หรือเพื่อนๆ
5 กิจกรรมเสริมสร้างทักษะการควบคุมอารมณ์ในเด็กอนุบาล
- เล่นเกมแสดงอารมณ์ ใช้ภาพหรือตุ๊กตาที่แสดงอารมณ์ต่างๆ เช่น ดีใจ เสียใจ โกรธ กลัว ให้ลูกดูแล้วบอกว่าตัวละครในภาพรู้สึกอย่างไร และทำไมถึงรู้สึกอย่างนั้น ประโยชน์ ช่วยให้ลูกเข้าใจอารมณ์ของตนเองและผู้อื่นมากขึ้น และเรียนรู้วิธีแสดงออกซึ่งความรู้สึกในทางที่เหมาะสม
- ฝึกหายใจลึกๆ สอนให้ลูกหายใจเข้าลึกๆ และหายใจออกช้าๆ เมื่อรู้สึกโกรธ หรือมีความรู้สึกไม่สบายใจ ประโยชน์ ช่วยให้ลูกผ่อนคลายความตึงเครียด และควบคุมอารมณ์โกรธได้ดีขึ้น
- อ่านหนังสือเกี่ยวกับอารมณ์ต่างๆ ให้ลูกฟัง แล้วพูดคุยถึงความรู้สึกของตัวละครในหนังสือ และถามว่าลูกรู้สึกอย่างไรเมื่ออยู่ในสถานการณ์เดียวกัน ประโยชน์ ช่วยให้ลูกเข้าใจอารมณ์ของตนเองและผู้อื่นมากขึ้น และเรียนรู้วิธีรับมือกับอารมณ์ต่างๆ
- เล่นเกมเงียบๆ เล่นเกมที่ช่วยให้ลูกผ่อนคลาย เช่น เกมต่อจิ๊กซอว์ เกมวาดภาพ หรือเกมฟังเพลง ประโยชน์ ช่วยให้ลูกผ่อนคลายความตึงเครียด และลดความรู้สึกหงุดหงิด
- พูดคุยถึงความรู้สึก สร้างโอกาสให้ลูกได้พูดคุยถึงความรู้สึกของตัวเอง เช่น เมื่อเล่นไม่ถูกใจ หรือเมื่อรู้สึกเหงา ประโยชน์ ช่วยให้ลูกกล้าที่จะแสดงออกถึงความรู้สึกของตนเอง และเรียนรู้วิธีขอความช่วยเหลือเมื่อต้องการ
ตัวอย่างคำพูดที่ใช้ในการคุยกับลูก: เมื่อหนูรู้สึกโกรธ หนูจะทำอะไรได้บ้าง, การหายใจเข้าลึกๆ ช่วยให้เรารู้สึกดีขึ้นนะ
6. ทักษะการควบคุมตนเอง
ทักษะการควบคุมตนเอง หรือ Self-regulation เป็นทักษะที่สำคัญในการช่วยให้ลูกบรรลุเป้าหมายในชีวิต ลูกสามารถควบคุมอารมณ์ ความคิด และพฤติกรรมของตัวเองได้อย่างเหมาะสม การรอคอย การอดทน และการตัดสินใจที่ถูกต้อง
- รอคิว: เมื่อเล่นเกมหรือรออาหาร ลูกต้องเรียนรู้ที่จะรอคิวอย่างอดทน
- แบ่งปันของเล่น: เมื่อมีเพื่อนอยากเล่นด้วย ลูกต้องเรียนรู้ที่จะแบ่งปัน
- ควบคุมอารมณ์เมื่อรู้สึกโกรธหรือเสียใจ: เช่น เมื่อไม่ได้ของเล่นที่ต้องการ หรือเมื่อเพื่อนแกล้
- ควบคุมความอยาก: ยับยั้งชั่งใจ เมื่อกำลังเล่นเกมที่สนุกมาก แต่ใกล้ถึงเวลาเข้านอนแล้ว ลูกต้องฝึกควบคุมความอยากเล่นต่อ เพื่อให้ได้นอนหลับพักผ่อนเพียงพอ
5 กิจกรรมเสริมสร้างทักษะการควบคุมตนเองในเด็กอนุบาล
- เกมรอคอย เตรียมของเล่นชิ้นโปรดหรือขนมที่ลูกชื่นชอบ ซ่อนไว้และบอกลูกว่าจะได้ของเหล่านั้นหลังจากทำกิจกรรมที่กำหนดเสร็จสิ้น เช่น หลังจากเล่นเกมต่อบล็อก หรือหลังจากอ่านหนังสือจบ ประโยชน์ ช่วยให้ลูกเรียนรู้การรอคอย และเข้าใจว่าการรอคอยจะนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ดี
- กิจกรรมทำตามคำสั่ง ให้ลูกทำตามคำสั่งทีละขั้นตอน เช่น “เดินไปที่ประตู แล้วหยิบตุ๊กตาหมีมาให้แม่” หรือ “วาดรูปวงกลมสีแดง แล้วระบายสีเหลืองข้างใน” ประโยชน์ ช่วยให้ลูกฝึกฟังคำสั่ง ทำตามขั้นตอน และควบคุมพฤติกรรมของตนเอง
- เกมเลือกของเล่น เตรียมของเล่นหลายชิ้น วางเรียงกัน และให้ลูกเลือกของเล่นเพียงชิ้นเดียว ประโยชน์ ช่วยให้ลูกเรียนรู้การตัดสินใจ และเข้าใจว่าการตัดสินใจบางครั้งก็ต้องเสียสละสิ่งอื่น
- โยคะสำหรับเด็ก ท่าโยคะง่ายๆ เช่น ท่ายกมือขึ้นฟ้า ท่าต้นไม้ ประโยชน์ ช่วยให้ลูกรู้จักการเคลื่อนไหวร่างกายอย่างช้าๆ และควบคุมการหายใจ
- เล่นเกมตามกติกา เล่นเกมที่ต้องมีการทำตามกติกา เช่น เกมกระดาน เกมต่อบล็อก หรือเกมหมากรุก ประโยชน์ ช่วยให้ลูกเรียนรู้การเคารพกติกา และควบคุมตนเองไม่ให้ทำผิดกติกา
ตัวอย่างคำพูดที่ใช้ในการคุยกับลูก: ถ้าหนูรออีกนิด หนูจะได้ของเล่นชิ้นนี้เลยนะ, การฟังคำสั่งทำให้เราทำงานได้เสร็จเร็วขึ้น, การเลือกสิ่งที่ชอบเป็นสิ่งที่ดี แต่บางครั้งเราก็ต้องเลือกสิ่งที่ถูกต้องก่อน
7. ทักษะความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการ
การสนับสนุนให้ลูกได้ใช้จินตนาการในการเล่นและการเรียนรู้ จะช่วยกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์และพัฒนาสมองส่วนที่เกี่ยวข้องกับการคิดวิเคราะห์ เมื่อเจอปัญหา ลูกจะสามารถคิดหาทางออกใหม่ๆ ที่ไม่เหมือนใคร
- สร้างสรรค์ของเล่น: ลูกอาจจะนำของเล่นที่มีอยู่มาประยุกต์ใช้ให้เป็นอย่างอื่น หรือสร้างของเล่นใหม่ๆ จากวัสดุเหลือใช้
- เมื่อของเล่นเสีย: ลูกอาจจะคิดหาวิธีซ่อมแซมของเล่น หรือหาทางเล่นของเล่นชิ้นนั้นในรูปแบบใหม่
- เมื่อไม่มีของเล่นที่ต้องการ: ลูกอาจจะคิดหาสิ่งของอื่นๆ มาแทน หรือสร้างของเล่นใหม่ขึ้นมาเอง
- เมื่อเกิดความขัดแย้งกับเพื่อน: ลูกอาจจะใช้จินตนาการในการหาทางออกที่ทุกคนพอใจ
5 กิจกรรมเสริมสร้างความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการในเด็กอนุบาล
- เล่นบทบาทสมมติ จัดเตรียมอุปกรณ์ประกอบฉาก เช่น ชุดหมอ ชุดเชฟ และให้ลูกเล่นเป็นตัวละครต่างๆ เช่น หมอ ครู พ่อค้า ประโยชน์ ช่วยให้ลูกได้ใช้จินตนาการในการสร้างเรื่องราว และเรียนรู้เกี่ยวกับบทบาทต่างๆ ในสังคม
- วาดภาพอย่างอิสระ จัดเตรียมกระดาษและสีให้ลูกวาดภาพได้อย่างอิสระ โดยไม่ต้องมีแบบให้ลอก ประโยชน์ ช่วยให้ลูกได้แสดงออกทางความคิดและจินตนาการอย่างเต็มที่
- สร้างสรรค์จากวัสดุเหลือใช้ รวบรวมวัสดุเหลือใช้ต่างๆ เช่น กล่องกระดาษ แก้วพลาสติก และให้ลูกนำมาสร้างสรรค์เป็นของเล่นหรือสิ่งประดิษฐ์ ประโยชน์ ช่วยให้ลูกได้คิดค้นและแก้ปัญหาในการนำวัสดุเหลือใช้มาประยุกต์ใช้
- เล่านิทาน ให้ลูกเล่านิทานที่ตัวเองแต่งขึ้น หรือเล่าเรื่องราวจากภาพที่เห็น ประโยชน์ ช่วยพัฒนาทักษะการใช้ภาษา และกระตุ้นจินตนาการในการสร้างเรื่องราว
- เล่นเกมสร้างสรรค์ เล่นเกมที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ เช่น เกมต่อบล็อก เกมต่อภาพ หรือเกมสร้างหุ่นจากดินน้ำมัน ประโยชน์ ช่วยให้ลูกได้ฝึกคิดและวางแผนในการสร้างสรรค์สิ่งต่างๆ
ตัวอย่างคำพูดที่ใช้ในการคุยกับลูก: หนูวาดรูปอะไรเหรอคะ น่าสนใจจังเลย, หนูสร้างอะไรจากกล่องกระดาษเนี่ย เก่งมากเลย, นิทานที่หนูเล่าสนุกมากเลย
8. ทักษะการประสานงานทางร่างกายและทักษะการเคลื่อนไหวที่ดี
การเล่นกีฬา การวาดภาพ และการทำกิจกรรมอื่น ๆ ที่ใช้ร่างกาย จะช่วยพัฒนาทักษะด้านนี้ ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญสำหรับการเรียนรู้ในด้านอื่น ๆ
- พัฒนาการทางด้านร่างกาย: ช่วยให้กล้ามเนื้อแข็งแรง สามารถควบคุมร่างกายได้ดีขึ้น ทำให้ลูกสามารถทำกิจกรรมต่างๆ ได้อย่างคล่องแคล่ว เช่น วิ่ง จับลูกบอล กระโดด
- พัฒนาการทางด้านสมอง: การเคลื่อนไหวของร่างกายจะกระตุ้นการทำงานของสมอง ทำให้สมองส่วนต่างๆ พัฒนาอย่างสมบูรณ์ ซึ่งส่งผลต่อการเรียนรู้และความจำ
- พัฒนาการทางด้านอารมณ์: เด็กที่มีทักษะการเคลื่อนไหวที่ดี มักจะมีความมั่นใจในตัวเองสูงขึ้น และสามารถแสดงออกทางอารมณ์ได้อย่างเหมาะสม
- พัฒนาการทางสังคม: ลูกจะสามารถเข้าร่วมกิจกรรมกับเพื่อนๆ ได้อย่างสนุกสนาน และสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้อื่น
5 กิจกรรมเสริมสร้างทักษะการประสานงานทางร่างกายและทักษะการเคลื่อนไหวที่ดีในเด็กอนุบาล
- เล่นกีฬาเบาๆ เล่นเกมกีฬาที่เหมาะสมกับวัย เช่น ฟุตบอล ตะกร้อ บาสเก็ตบอล หรือวอลเลย์บอล โดยปรับเปลี่ยนกติกาให้เข้าใจง่าย ประโยชน์ ช่วยพัฒนาทักษะการเคลื่อนไหว การทรงตัว และการประสานงานระหว่างตาและมือ
- เต้นตามเพลง เปิดเพลงที่ลูกชื่นชอบ และให้ลูกเต้นตามจังหวะเพลงอย่างอิสระ ประโยชน์ ช่วยพัฒนาทักษะการเคลื่อนไหวตามจังหวะ และการประสานงานระหว่างร่างกายและเสียงเพลง
- วาดภาพบนกระดานดำ ให้ลูกวาดภาพบนกระดานดำหรือกระดานไวท์บอร์ด โดยใช้ชอล์กหรือปากกาเมจิก ประโยชน์ ช่วยพัฒนาทักษะการควบคุมกล้ามเนื้อมัดเล็ก และการประสานงานระหว่างตาและมือ
- เล่นเกมที่ใช้ร่างกาย เช่น เกมซ่อนหา เกมจับคู่ หรือเกมวิ่งไล่จับ ประโยชน์ ช่วยพัฒนาทักษะการเคลื่อนไหว การรับรู้เชิงพื้นที่ และความสามารถในการทำงานร่วมกับผู้อื่น
- กิจกรรมศิลปะและงานฝีมือ ให้ลูกทำกิจกรรมศิลปะ เช่น ปั้นดินน้ำมัน ประดิษฐ์ของเล่น หรือวาดภาพ ประโยชน์ ช่วยพัฒนาทักษะการประสานงานระหว่างตาและมือ และส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์
ตัวอย่างคำพูดที่ใช้ในคุยกับลูก: วันนี้เราจะมาเล่นเกมซ่อนหาสนุกๆ กันนะ, ลองวาดภาพดอกไม้สวยๆ ดูสิลูก, การเต้นตามเพลงช่วยให้ร่างกายแข็งแรงนะ
คุณพ่อคุณแม่จะเห็นได้ว่า ทักษะชีวิตที่เด็กอนุบาลต้องมี บางกิจกรรมสามารถพัฒนาทักษะได้หลายด้านในเวลาเดียวกัน การพัฒนาทักษะเหล่านี้ให้กับเด็กๆ ให้โอกาสลูกได้ลองทำสิ่งใหม่ ๆ และเผชิญกับความท้าทาย จะช่วยฝึกให้ลูกมีความกล้าหาญและความมั่นใจในตนเอง และที่สำคัญคือ การให้กำลังใจและชื่นชมเมื่อลูก ทำได้ดี จะช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้ลูกพยายามทำสิ่งที่ดีต่อไป และจะเป็นพื้นฐานสำคัญที่ช่วยให้ลูกเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีความสุขและประสบความสำเร็จในชีวิต
ที่มา : shaws.com.sg
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ
นมกล่องเพิ่มน้ำหนัก 5 ยี่ห้อ มีแคลอรีสูง คัดมาเพื่อลูกน้อย
ค่าเทอม 15 โรงเรียนอนุบาลในกรุงเทพฯ แอบเล็งที่ไหนไว้มาดู Guideline กัน
สอนความแตกต่างระหว่างถูกและผิด สอนลูกให้รู้จักแยกแยะได้อย่างไร?
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!