X
TAP top app download banner
theAsianparent Thailand Logo
theAsianparent Thailand Logo
คู่มือสินค้า
เข้าสู่ระบบ
  • อยากท้อง
  • ระยะการตั้งครรภ์
    • โภชนาการ เเม่ท้อง เเม่ให้นม
    • ไตรมาส 1
    • ไตรมาส 2
    • ไตรมาส 3
    • ตั้งชื่อลูก
  • แม่ผ่าคลอด
    • พัฒนาการเด็กผ่าคลอด
    • เตรียมตัวผ่าคลอด
    • สุขภาพเด็กผ่าคลอด
    • คู่มือคุณแม่ผ่าคลอด
    • การดูแลหลังผ่าคลอด
    • โภชนาการเด็กผ่าคลอด
  • หลังคลอด
    • คลอดธรรมชาติ
    • ผ่าคลอด
    • การให้นมลูก
  • สุขภาพและโภชนาการ
    • โภชนาการ
    • สุขภาพ
  • ลูก
    • ทารกแรกเกิด
    • ทารก
    • เด็กวัยหัดเดิน
    • เด็กก่อนวัยเรียน
    • เด็ก
    • เด็กก่อนวัยรุ่น และวัยรุ่น
  • ชีวิตครอบครัว
    • ความรักและความสัมพันธ์
    • การเลี้ยงลูก
    • มุมคุณพ่อ
    • ประกันชีวิต
    • การวางแผนการเงิน
    • ความรัก และ เซ็กส์
  • การศึกษา
    • เด็กวัยประถม
    • โรงเรียนประถม
    • มัธยมศึกษา
    • แบบฝึกหัดและข้อสอบ
    • แนะแนวการศึกษาต่างประเทศ
  • ผู้หญิง
    • แฟชั่น
    • ความงาม
    • ฟิตเนส
  • ที่เที่ยว
    • เที่ยวไทย
    • เที่ยวต่างประเทศ
    • ที่พัก และ โรงแรม
  • ที่กิน
    • ร้านอร่อย
    • ร้านอร่อยสำหรับเด็ก
    • คาเฟ่
    • เมนูอาหาร
  • ไลฟ์สไตล์
    • ดวง
    • ทำนายฝัน
    • สีมงคล
    • บทสวดมนต์
    • ข่าว
    • ดูแลบ้าน
    • แนะนำโดย TAP
    • อีเว้นท์
  • TAPpedia
  • วิดีโอ
    • การตั้งครรภ์
    • ทารก
    • คำแนะนำในการเลี้ยงลูก
    • การให้นมบุตร
    • อาหารเสริมทารก & โภชนาการ
    • เด็กเล็ก
  • ชอปปิง
  • #สอนลูกเรื่องเงิน ฉบับพ่อแม่
  • VIP

8 ทักษะชีวิตที่เด็กอนุบาลต้องมี เพื่อลูกพร้อมเผชิญความท้าทายในอนาคต (Part 2)

บทความ 5 นาที
8 ทักษะชีวิตที่เด็กอนุบาลต้องมี เพื่อลูกพร้อมเผชิญความท้าทายในอนาคต (Part 2)

ทักษะชีวิตที่เด็กอนุบาลต้องมี จะเป็นพื้นฐานสำคัญที่ช่วยให้ลูกพร้อมเผชิญกับความท้าทาย ฝึกให้ลูกมีความกล้าหาญและความมั่นใจในตนเอง

โลกในปัจจุบันเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว และทักษะที่จำเป็นสำหรับการดำรงชีวิตก็เปลี่ยนแปลงไปเช่นกัน ทักษะชีวิตที่เด็กอนุบาลต้องมี เป็นทักษะที่จำเป็นสำหรับการอยู่รอดและประสบความสำเร็จในโลกที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน การมีทักษะเหล่านี้จะช่วยให้ลูกสามารถปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมใหม่ๆ ได้อย่างรวดเร็ว และมีความพร้อมที่จะเผชิญหน้ากับความท้าทายในอนาคต ซึ่งสามารถเริ่มฝึกได้ตั้งแต่วัยอนุบาล

ในบทความก่อนหน้าเราได้พูดถึง 8 ทักษะจำเป็นที่เด็กอนุบาลต้องมี เพื่อก้าวสู่ศตวรรษที่ 21 (Part 1) สำหรับบทความนี้มาต่อกันที่ 4 ทักษะที่เหลือกันค่ะ

ทักษะชีวิตที่เด็กอนุบาลต้องมี เพื่อลูกพร้อมเผชิญความท้าทายในอนาคต (Part 2) 

▲▼สารบัญ

  • 5. ทักษะการควบคุมอารมณ์
  • 5 กิจกรรมเสริมสร้างทักษะการควบคุมอารมณ์ในเด็กอนุบาล
  • 6. ทักษะการควบคุมตนเอง
  • 5 กิจกรรมเสริมสร้างทักษะการควบคุมตนเองในเด็กอนุบาล
  • 7. ทักษะความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการ
  • 5 กิจกรรมเสริมสร้างความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการในเด็กอนุบาล
  • 8. ทักษะการประสานงานทางร่างกายและทักษะการเคลื่อนไหวที่ดี
  • 5 กิจกรรมเสริมสร้างทักษะการประสานงานทางร่างกายและทักษะการเคลื่อนไหวที่ดีในเด็กอนุบาล

5. ทักษะการควบคุมอารมณ์

การสอนให้ลูกเข้าใจความรู้สึกของตนเองและผู้อื่น รวมถึงการแสดงออกซึ่งความรู้สึกในทางที่เหมาะสม จะช่วยให้ลูกมีอารมณ์ที่มั่นคงและสามารถควบคุมตนเองได้ดี สร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับคนรอบข้าง ลูกสามารถเข้ากับเพื่อนๆ ได้ดีขึ้น ไม่ทะเลาะวิวาทกันบ่อย เมื่อลูกสามารถควบคุมอารมณ์ได้ ก็จะสามารถตั้งใจเรียนและฟังคำสั่งของครูได้ดีขึ้น

  • ไม่ได้ของเล่นที่ต้องการ: ลูกอาจรู้สึกโกรธหรือเสียใจ ให้หายใจเข้าออกลึกๆ ช้าๆ เพื่อให้ร่างกายผ่อนคลาย หาอย่างอื่นทำ หรือทำกิจกรรมอื่นๆ ที่สนใจ
  • เพื่อนแย่งของเล่น: ลูกอาจรู้สึกโกรธหรือหวง ให้พูดคุยกับเพื่อนอย่างสุภาพ เช่น “ขอเล่นด้วยคนนะ” หรือ “ขอเล่นสลับกันได้ไหม”  หากตกลงกันไม่ได้ อาจจะชวนเพื่อนไปเล่นอย่างอื่น หรือบอกครู
  • ทำการบ้านไม่ได้: ลูกอาจรู้สึกเบื่อหรือท้อแท้ ให้เด็กกล้าขอความช่วยเหลือจากพ่อแม่ ครู หรือเพื่อนๆ

ทักษะทางการควบคุมอารมณ์

Advertisement

5 กิจกรรมเสริมสร้างทักษะการควบคุมอารมณ์ในเด็กอนุบาล

  1. เล่นเกมแสดงอารมณ์ ใช้ภาพหรือตุ๊กตาที่แสดงอารมณ์ต่างๆ เช่น ดีใจ เสียใจ โกรธ กลัว ให้ลูกดูแล้วบอกว่าตัวละครในภาพรู้สึกอย่างไร และทำไมถึงรู้สึกอย่างนั้น ประโยชน์ ช่วยให้ลูกเข้าใจอารมณ์ของตนเองและผู้อื่นมากขึ้น และเรียนรู้วิธีแสดงออกซึ่งความรู้สึกในทางที่เหมาะสม
  2. ฝึกหายใจลึกๆ สอนให้ลูกหายใจเข้าลึกๆ และหายใจออกช้าๆ เมื่อรู้สึกโกรธ หรือมีความรู้สึกไม่สบายใจ ประโยชน์ ช่วยให้ลูกผ่อนคลายความตึงเครียด และควบคุมอารมณ์โกรธได้ดีขึ้น
  3. อ่านหนังสือเกี่ยวกับอารมณ์ต่างๆ ให้ลูกฟัง แล้วพูดคุยถึงความรู้สึกของตัวละครในหนังสือ และถามว่าลูกรู้สึกอย่างไรเมื่ออยู่ในสถานการณ์เดียวกัน ประโยชน์ ช่วยให้ลูกเข้าใจอารมณ์ของตนเองและผู้อื่นมากขึ้น และเรียนรู้วิธีรับมือกับอารมณ์ต่างๆ
  4. เล่นเกมเงียบๆ เล่นเกมที่ช่วยให้ลูกผ่อนคลาย เช่น เกมต่อจิ๊กซอว์ เกมวาดภาพ หรือเกมฟังเพลง ประโยชน์ ช่วยให้ลูกผ่อนคลายความตึงเครียด และลดความรู้สึกหงุดหงิด
  5. พูดคุยถึงความรู้สึก สร้างโอกาสให้ลูกได้พูดคุยถึงความรู้สึกของตัวเอง เช่น เมื่อเล่นไม่ถูกใจ หรือเมื่อรู้สึกเหงา ประโยชน์ ช่วยให้ลูกกล้าที่จะแสดงออกถึงความรู้สึกของตนเอง และเรียนรู้วิธีขอความช่วยเหลือเมื่อต้องการ

ตัวอย่างคำพูดที่ใช้ในการคุยกับลูก: เมื่อหนูรู้สึกโกรธ หนูจะทำอะไรได้บ้าง, การหายใจเข้าลึกๆ ช่วยให้เรารู้สึกดีขึ้นนะ

 

6. ทักษะการควบคุมตนเอง

ทักษะการควบคุมตนเอง หรือ Self-regulation เป็นทักษะที่สำคัญในการช่วยให้ลูกบรรลุเป้าหมายในชีวิต ลูกสามารถควบคุมอารมณ์ ความคิด และพฤติกรรมของตัวเองได้อย่างเหมาะสม การรอคอย การอดทน และการตัดสินใจที่ถูกต้อง 

  • รอคิว: เมื่อเล่นเกมหรือรออาหาร ลูกต้องเรียนรู้ที่จะรอคิวอย่างอดทน
  • แบ่งปันของเล่น: เมื่อมีเพื่อนอยากเล่นด้วย ลูกต้องเรียนรู้ที่จะแบ่งปัน
  • ควบคุมอารมณ์เมื่อรู้สึกโกรธหรือเสียใจ: เช่น เมื่อไม่ได้ของเล่นที่ต้องการ หรือเมื่อเพื่อนแกล้
  • ควบคุมความอยาก: ยับยั้งชั่งใจ เมื่อกำลังเล่นเกมที่สนุกมาก แต่ใกล้ถึงเวลาเข้านอนแล้ว ลูกต้องฝึกควบคุมความอยากเล่นต่อ เพื่อให้ได้นอนหลับพักผ่อนเพียงพอ

ทักษะชีวิตที่เด็กอนุบาลต้องมี

5 กิจกรรมเสริมสร้างทักษะการควบคุมตนเองในเด็กอนุบาล

  1. เกมรอคอย เตรียมของเล่นชิ้นโปรดหรือขนมที่ลูกชื่นชอบ ซ่อนไว้และบอกลูกว่าจะได้ของเหล่านั้นหลังจากทำกิจกรรมที่กำหนดเสร็จสิ้น เช่น หลังจากเล่นเกมต่อบล็อก หรือหลังจากอ่านหนังสือจบ ประโยชน์ ช่วยให้ลูกเรียนรู้การรอคอย และเข้าใจว่าการรอคอยจะนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ดี
  2. กิจกรรมทำตามคำสั่ง ให้ลูกทำตามคำสั่งทีละขั้นตอน เช่น “เดินไปที่ประตู แล้วหยิบตุ๊กตาหมีมาให้แม่” หรือ “วาดรูปวงกลมสีแดง แล้วระบายสีเหลืองข้างใน” ประโยชน์ ช่วยให้ลูกฝึกฟังคำสั่ง ทำตามขั้นตอน และควบคุมพฤติกรรมของตนเอง
  3. เกมเลือกของเล่น เตรียมของเล่นหลายชิ้น วางเรียงกัน และให้ลูกเลือกของเล่นเพียงชิ้นเดียว ประโยชน์ ช่วยให้ลูกเรียนรู้การตัดสินใจ และเข้าใจว่าการตัดสินใจบางครั้งก็ต้องเสียสละสิ่งอื่น
  4. โยคะสำหรับเด็ก ท่าโยคะง่ายๆ เช่น ท่ายกมือขึ้นฟ้า ท่าต้นไม้ ประโยชน์ ช่วยให้ลูกรู้จักการเคลื่อนไหวร่างกายอย่างช้าๆ และควบคุมการหายใจ
  5. เล่นเกมตามกติกา เล่นเกมที่ต้องมีการทำตามกติกา เช่น เกมกระดาน เกมต่อบล็อก หรือเกมหมากรุก ประโยชน์ ช่วยให้ลูกเรียนรู้การเคารพกติกา และควบคุมตนเองไม่ให้ทำผิดกติกา

ตัวอย่างคำพูดที่ใช้ในการคุยกับลูก: ถ้าหนูรออีกนิด หนูจะได้ของเล่นชิ้นนี้เลยนะ, การฟังคำสั่งทำให้เราทำงานได้เสร็จเร็วขึ้น, การเลือกสิ่งที่ชอบเป็นสิ่งที่ดี แต่บางครั้งเราก็ต้องเลือกสิ่งที่ถูกต้องก่อน

 

7. ทักษะความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการ

การสนับสนุนให้ลูกได้ใช้จินตนาการในการเล่นและการเรียนรู้ จะช่วยกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์และพัฒนาสมองส่วนที่เกี่ยวข้องกับการคิดวิเคราะห์ เมื่อเจอปัญหา ลูกจะสามารถคิดหาทางออกใหม่ๆ ที่ไม่เหมือนใคร

  • สร้างสรรค์ของเล่น: ลูกอาจจะนำของเล่นที่มีอยู่มาประยุกต์ใช้ให้เป็นอย่างอื่น หรือสร้างของเล่นใหม่ๆ จากวัสดุเหลือใช้
  • เมื่อของเล่นเสีย: ลูกอาจจะคิดหาวิธีซ่อมแซมของเล่น หรือหาทางเล่นของเล่นชิ้นนั้นในรูปแบบใหม่
  • เมื่อไม่มีของเล่นที่ต้องการ: ลูกอาจจะคิดหาสิ่งของอื่นๆ มาแทน หรือสร้างของเล่นใหม่ขึ้นมาเอง
  • เมื่อเกิดความขัดแย้งกับเพื่อน: ลูกอาจจะใช้จินตนาการในการหาทางออกที่ทุกคนพอใจ

ทักษะชีวิตที่เด็กอนุบาลต้องมี

5 กิจกรรมเสริมสร้างความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการในเด็กอนุบาล

  1. เล่นบทบาทสมมติ จัดเตรียมอุปกรณ์ประกอบฉาก เช่น ชุดหมอ ชุดเชฟ และให้ลูกเล่นเป็นตัวละครต่างๆ เช่น หมอ ครู พ่อค้า ประโยชน์ ช่วยให้ลูกได้ใช้จินตนาการในการสร้างเรื่องราว และเรียนรู้เกี่ยวกับบทบาทต่างๆ ในสังคม
  2. วาดภาพอย่างอิสระ จัดเตรียมกระดาษและสีให้ลูกวาดภาพได้อย่างอิสระ โดยไม่ต้องมีแบบให้ลอก ประโยชน์ ช่วยให้ลูกได้แสดงออกทางความคิดและจินตนาการอย่างเต็มที่
  3. สร้างสรรค์จากวัสดุเหลือใช้ รวบรวมวัสดุเหลือใช้ต่างๆ เช่น กล่องกระดาษ แก้วพลาสติก และให้ลูกนำมาสร้างสรรค์เป็นของเล่นหรือสิ่งประดิษฐ์ ประโยชน์ ช่วยให้ลูกได้คิดค้นและแก้ปัญหาในการนำวัสดุเหลือใช้มาประยุกต์ใช้
  4. เล่านิทาน ให้ลูกเล่านิทานที่ตัวเองแต่งขึ้น หรือเล่าเรื่องราวจากภาพที่เห็น ประโยชน์ ช่วยพัฒนาทักษะการใช้ภาษา และกระตุ้นจินตนาการในการสร้างเรื่องราว
  5. เล่นเกมสร้างสรรค์ เล่นเกมที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ เช่น เกมต่อบล็อก เกมต่อภาพ หรือเกมสร้างหุ่นจากดินน้ำมัน ประโยชน์ ช่วยให้ลูกได้ฝึกคิดและวางแผนในการสร้างสรรค์สิ่งต่างๆ

ตัวอย่างคำพูดที่ใช้ในการคุยกับลูก: หนูวาดรูปอะไรเหรอคะ น่าสนใจจังเลย, หนูสร้างอะไรจากกล่องกระดาษเนี่ย เก่งมากเลย, นิทานที่หนูเล่าสนุกมากเลย

 

8. ทักษะการประสานงานทางร่างกายและทักษะการเคลื่อนไหวที่ดี

การเล่นกีฬา การวาดภาพ และการทำกิจกรรมอื่น ๆ ที่ใช้ร่างกาย จะช่วยพัฒนาทักษะด้านนี้ ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญสำหรับการเรียนรู้ในด้านอื่น ๆ

  • พัฒนาการทางด้านร่างกาย: ช่วยให้กล้ามเนื้อแข็งแรง สามารถควบคุมร่างกายได้ดีขึ้น ทำให้ลูกสามารถทำกิจกรรมต่างๆ ได้อย่างคล่องแคล่ว เช่น วิ่ง จับลูกบอล กระโดด
  • พัฒนาการทางด้านสมอง: การเคลื่อนไหวของร่างกายจะกระตุ้นการทำงานของสมอง ทำให้สมองส่วนต่างๆ พัฒนาอย่างสมบูรณ์ ซึ่งส่งผลต่อการเรียนรู้และความจำ
  • พัฒนาการทางด้านอารมณ์: เด็กที่มีทักษะการเคลื่อนไหวที่ดี มักจะมีความมั่นใจในตัวเองสูงขึ้น และสามารถแสดงออกทางอารมณ์ได้อย่างเหมาะสม
  • พัฒนาการทางสังคม: ลูกจะสามารถเข้าร่วมกิจกรรมกับเพื่อนๆ ได้อย่างสนุกสนาน และสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้อื่น

ทักษะชีวิตที่เด็กอนุบาลต้องมี

5 กิจกรรมเสริมสร้างทักษะการประสานงานทางร่างกายและทักษะการเคลื่อนไหวที่ดีในเด็กอนุบาล

  1. เล่นกีฬาเบาๆ เล่นเกมกีฬาที่เหมาะสมกับวัย เช่น ฟุตบอล ตะกร้อ บาสเก็ตบอล หรือวอลเลย์บอล โดยปรับเปลี่ยนกติกาให้เข้าใจง่าย ประโยชน์ ช่วยพัฒนาทักษะการเคลื่อนไหว การทรงตัว และการประสานงานระหว่างตาและมือ
  2. เต้นตามเพลง เปิดเพลงที่ลูกชื่นชอบ และให้ลูกเต้นตามจังหวะเพลงอย่างอิสระ ประโยชน์ ช่วยพัฒนาทักษะการเคลื่อนไหวตามจังหวะ และการประสานงานระหว่างร่างกายและเสียงเพลง
  3. วาดภาพบนกระดานดำ ให้ลูกวาดภาพบนกระดานดำหรือกระดานไวท์บอร์ด โดยใช้ชอล์กหรือปากกาเมจิก ประโยชน์ ช่วยพัฒนาทักษะการควบคุมกล้ามเนื้อมัดเล็ก และการประสานงานระหว่างตาและมือ
  4. เล่นเกมที่ใช้ร่างกาย เช่น เกมซ่อนหา เกมจับคู่ หรือเกมวิ่งไล่จับ ประโยชน์ ช่วยพัฒนาทักษะการเคลื่อนไหว การรับรู้เชิงพื้นที่ และความสามารถในการทำงานร่วมกับผู้อื่น
  5. กิจกรรมศิลปะและงานฝีมือ ให้ลูกทำกิจกรรมศิลปะ เช่น ปั้นดินน้ำมัน ประดิษฐ์ของเล่น หรือวาดภาพ ประโยชน์ ช่วยพัฒนาทักษะการประสานงานระหว่างตาและมือ และส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์

ตัวอย่างคำพูดที่ใช้ในคุยกับลูก: วันนี้เราจะมาเล่นเกมซ่อนหาสนุกๆ กันนะ, ลองวาดภาพดอกไม้สวยๆ ดูสิลูก, การเต้นตามเพลงช่วยให้ร่างกายแข็งแรงนะ

คุณพ่อคุณแม่จะเห็นได้ว่า ทักษะชีวิตที่เด็กอนุบาลต้องมี บางกิจกรรมสามารถพัฒนาทักษะได้หลายด้านในเวลาเดียวกัน การพัฒนาทักษะเหล่านี้ให้กับเด็กๆ  ให้โอกาสลูกได้ลองทำสิ่งใหม่ ๆ และเผชิญกับความท้าทาย จะช่วยฝึกให้ลูกมีความกล้าหาญและความมั่นใจในตนเอง และที่สำคัญคือ การให้กำลังใจและชื่นชมเมื่อลูก ทำได้ดี จะช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้ลูกพยายามทำสิ่งที่ดีต่อไป และจะเป็นพื้นฐานสำคัญที่ช่วยให้ลูกเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีความสุขและประสบความสำเร็จในชีวิต

ที่มา : shaws.com.sg  

 

บทความจากพันธมิตร
อาหารมื้อแรก สำหรับลูกรัก กินอะไรดี? เพื่อสารอาหารที่ครบถ้วน
อาหารมื้อแรก สำหรับลูกรัก กินอะไรดี? เพื่อสารอาหารที่ครบถ้วน
นมสำหรับเด็กผ่าคลอดเจนใหม่ สร้างสมองไว เสริมภูมิคุ้มกันแข็งแรง ที่แม่ยุคใหม่เลือก
นมสำหรับเด็กผ่าคลอดเจนใหม่ สร้างสมองไว เสริมภูมิคุ้มกันแข็งแรง ที่แม่ยุคใหม่เลือก
Dadi International Kindergarten เรียนรู้สนุก เล่นอย่างสร้างสรรค์ ด้วย 3 ภาษา พร้อมเสริมสร้างทักษะ EF
Dadi International Kindergarten เรียนรู้สนุก เล่นอย่างสร้างสรรค์ ด้วย 3 ภาษา พร้อมเสริมสร้างทักษะ EF
ดูแลทารกแรกเกิดวิกฤติน้ำหนักเพียง 500 กรัมสำเร็จ ด้วยความเชี่ยวชาญระดับสากล ที่ โรงพยาบาลเด็กสมิติเวช อินเตอร์เนชั่นแนล
ดูแลทารกแรกเกิดวิกฤติน้ำหนักเพียง 500 กรัมสำเร็จ ด้วยความเชี่ยวชาญระดับสากล ที่ โรงพยาบาลเด็กสมิติเวช อินเตอร์เนชั่นแนล

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

นมกล่องเพิ่มน้ำหนัก 5 ยี่ห้อ มีแคลอรีสูง คัดมาเพื่อลูกน้อย

ค่าเทอม 15 โรงเรียนอนุบาลในกรุงเทพฯ แอบเล็งที่ไหนไว้มาดู Guideline กัน

สอนความแตกต่างระหว่างถูกและผิด สอนลูกให้รู้จักแยกแยะได้อย่างไร?

มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!

Follow us on:
facebook-logo instagram-logo tiktok-logo
img
บทความโดย

สิริลักษณ์ อุทยารัตน์

  • หน้าแรก
  • /
  • พัฒนาการลูก
  • /
  • 8 ทักษะชีวิตที่เด็กอนุบาลต้องมี เพื่อลูกพร้อมเผชิญความท้าทายในอนาคต (Part 2)
แชร์ :
  • ถอดรหัสพฤติกรรม ลูกชอบเรียงของ เป็นสัญญาณออทิสติก จริงไหม?

    ถอดรหัสพฤติกรรม ลูกชอบเรียงของ เป็นสัญญาณออทิสติก จริงไหม?

  • เสื้อผูกหน้าเด็กแรกเกิด ใช้ถึงกี่เดือน? เตรียมเสื้อผูกหน้าให้ลูกน้อย กี่ตัวดี?

    เสื้อผูกหน้าเด็กแรกเกิด ใช้ถึงกี่เดือน? เตรียมเสื้อผูกหน้าให้ลูกน้อย กี่ตัวดี?

  • วิธีเก็บรักษา ภาพอัลตราซาวด์ลูกน้อย ให้อยู่กับเราไปนานๆ

    วิธีเก็บรักษา ภาพอัลตราซาวด์ลูกน้อย ให้อยู่กับเราไปนานๆ

  • ถอดรหัสพฤติกรรม ลูกชอบเรียงของ เป็นสัญญาณออทิสติก จริงไหม?

    ถอดรหัสพฤติกรรม ลูกชอบเรียงของ เป็นสัญญาณออทิสติก จริงไหม?

  • เสื้อผูกหน้าเด็กแรกเกิด ใช้ถึงกี่เดือน? เตรียมเสื้อผูกหน้าให้ลูกน้อย กี่ตัวดี?

    เสื้อผูกหน้าเด็กแรกเกิด ใช้ถึงกี่เดือน? เตรียมเสื้อผูกหน้าให้ลูกน้อย กี่ตัวดี?

  • วิธีเก็บรักษา ภาพอัลตราซาวด์ลูกน้อย ให้อยู่กับเราไปนานๆ

    วิธีเก็บรักษา ภาพอัลตราซาวด์ลูกน้อย ให้อยู่กับเราไปนานๆ

ลงทะเบียนรับคำแนะนำเรื่องการตั้งครรภ์พัฒนาการลูกในท้องได้ที่นี่
  • เตรียมตัวเป็นผู้ปกครอง
  • พัฒนาการลูก
  • ชีวิตครอบครัว
  • ระยะการตั้งครรภ์
  • โภชนาการ
  • ไลฟ์สไตล์
  • TAP สังคมออนไลน์
  • ติดต่อโฆษณา
  • ติดต่อเรา
  • Influencer Marketing (KOL)
  • มาเข้าร่วมกับเรา


  • Singapore flag Singapore
  • Thailand flag Thailand
  • Indonesia flag Indonesia
  • Philippines flag Philippines
  • Malaysia flag Malaysia
  • Vietnam flag Vietnam
© Copyright theAsianparent 2025. All rights reserved
เกี่ยวกับเรา |ทีม|นโยบายความเป็นส่วนตัว |ข้อกำหนดการใช้ |แผนผังเว็บไซต์
  • เครื่องมือ
  • บทความ
  • ฟีด
  • โพล

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว