โคลีนพัฒนาสมองทารก ในครรภ์จริงหรือ โคลีนดีต่อทารกอย่างไร?

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

คุณแม่เคยสงสัยไหมคะ ว่าโคลีนคืออะไร? และมีส่วนช่วยในการพัฒนาสมองทารก อย่างไร?  เนื่องจากระบบประสาทของทารกเริ่มพัฒนาตั้งแต่ลูกน้อยอยู่ในครรภ์ 22 วัน หรือเพียงแค่ 3 สัปดาห์เท่านั้น และจะมีการพัฒนาต่อมาเรื่อย ๆ  ดังนั้นทารกควรที่จะได้รับสารอาหารที่มีประโยชน์อย่างเต็มที่ เพราะจะมีส่วนช่วยให้การเจริญเติบโตของสมองไปจนกระทั่งลูกน้อยคลอดออกมา โดยสารอาหารที่จำเป็นต่อทารกในระหว่างที่คุณแม่ตั้งครรภ์นั้น แน่นอนเลยว่า “โคลีน” เป็นหนึ่งในนั้น เรามาดูกันว่า โคลีนพัฒนาสมองทารก อย่างไร และมีอยู่ในอาหารอะไรบ้าง

 

 

โคลีนพัฒนาสมองทารก ตั้งแต่อยู่ในครรภ์ได้อย่างไร

โคลีน (Choline) คือ สารอาหารที่ช่วยเร่งกระบวนการเผาผลาญไขมันของร่างกาย อยู่ในกลุ่มของวิตามินบีรวม ซึ่งทำงานร่วมกับ อิโนซิทอล ในการนำไขมันไปใช้ร่วมกับคอเลสเตอรอล ในด้านของคุณแม่ท้อง โคลีนพัฒนาสมองทารก ตั้งแต่อยู่ในครรภ์

  • ช่วยเพิ่มพูนการทำงานให้กับเซลล์สมองทารกให้มีพัฒนาการอย่างเหมาะสม เสริมสร้างความแข็งแรงแก่เยื่อหุ้มเซลล์ และสังเคราะห์อะซิติลโคลีน ซึ่งเป็นสารเกี่ยวข้องกับความจำ
  • โคลีนจะตรงเข้าไปยังเซลล์สมอง เพื่อผลิตสารเคมีที่ช่วยเรื่องความทรงจำ รวมถึงสารสื่อประสาทที่ใช้ในการติดต่อสื่อสารระหว่างเซลล์ประสาทต่าง ๆ  มีส่วนช่วยในการเสริมสร้างการเรียนรู้
  • ทารกในครรภ์ได้รับโคลีนจากการรับประทานอาหารของแม่  แล้วไปกระตุ้นการทำงานของระบบประสาท สมอง และความจำ ซึ่งส่งผลให้ทารกมีความพร้อมในการเรียนรู้และต่อยอดความฉลาดต่อไปในอนาคต
  • สถาบันทางการแพทย์ของสหรัฐอเมริกา ได้กำหนดปริมาณโคลีนที่เพียงพอสำหรับทารก เด็ก ผู้ใหญ่ และแม่ตั้งครรภ์ หรือแม่ให้นม ได้แก่ คนท้องควรได้รับ 40 มิลลิกรัม/วัน แม่ให้นมควรได้รับ 550 มิลลิกรัม/วัน และ ปริมาณสูงสุดที่บริโภคได้คือไม่เกิน  3.5 กรัม / วัน

บทความที่เกี่ยวข้องวิตามินอี ดีต่อคุณแม่ตั้งครรภ์อย่างไร? อันตรายต่อทารกในครรภ์หรือไม่?

โคลีนพบได้ในอาหารชนิดใด

โคลีนอยู่ในอาหารจำพวก  ได้แก่  ไข่ไก่ ผักใบเขียว ผักกาดหอม  ผักหัวชนิดต่าง ๆ  ผักกาด ผลไม้รสเปรี้ยว กล้วย ข้าวโพด ข้าวสาลี เนื้อไก่ ปลา หอย  นม กะหล่ำปลี ธัญพืช ยีสต์  ตับ จมูกข้าวสาลี โดยเฉพาะ ถั่วเหลืองเป็นแหล่งของโคลีนที่ปราศจากคอเลสเตอรอลและมีไขมันต่ำ

 

ไข่ไก่ อาหารที่มีโคลีนสูง

ไข่ไก่ เป็นอาหารที่หารับประทานง่าย อีกทั้งมีโคลีนสูง สามารถนำไปปรุงอาหารได้หลายประเภท ที่สำคัญ ไข่ คือ แหล่งโภชนาการที่ดี ราคาถูก อุดมไปด้วยสารอาหารมากมาย  เช่น  โคลีน โปรตีน กรดอะมิโน รวมทั้ง วิตามินเอ วิตามินบี  วิตามินอี  โฟเลตลูทีน โอเมก้า3  โพแทสเซียม ทองแดง ซีลีเนียม และสังกะสี

  • มีสารโคลีน อิโนซิทอล วิตามินบี 2 ฟอสฟอรัส และเลซิติน ซึ่งมีความจำเป็นต่อการทำงานภายในเซลล์ต่าง ๆ บำรุงสมอง
  • ช่วยเสริมสร้างความจำ บำรุงตับ และเร่งการเผาผลาญของคอเลสเตอรอล ลดความเสี่ยงต่อการอุดตันในเส้นเลือดได้ดี
  • โคลีนในไข่ไก่ ในรูปของเลซิติน เป็นองค์ประกอบสำคัญที่พบในเยื่อหุ้มเซลล์สมอง จึงจำเป็นต่อระบบประสาทและสมองตั้งแต่เป็นทารกอยู่ในครรภ์

ประโยชน์ของโคลีนในด้านอื่น ๆ

  1. โคลีนมีส่วนช่วยลดการสะสมของคอเลสเตอรอลในร่างกาย โดยเฉพาะคอเลสเตอรอลมาจากการรับประทานอาหาร
  2. โคลีนที่มีมากในวิตามินบีรวม จะพบว่า มีส่วนช่วยให้เกิดความรู้สึกผ่อนคลาย ให้ผลดีกับคุณแม่ท้องที่มีความรู้สึกเครียดระหว่างตั้งครรภ์
  3. เป็นหนึ่งในสารสำคัญที่ช่วยกำจัดสารพิษและยาต่าง ๆ ที่ตกค้างในร่างกาย อีกทั้งยังช่วยให้ทำงานของตับดีขึ้น
  4. ส่งเสริมระบบการทำงานของประสาท ช่วยต่อสู้กับปัญหาความจำเสื่อมในวัยสูงอายุ ดังนั้น เราควรรับประทานโคลีนให้ได้  1,000 – 5,000 มิลลิกรัม
  5. ควรรับประทานโคลีนเพื่อป้องกันการเกิดโรคอัลไซเมอร์ได้ในอนาคต
  6. ช่วยลดไขมันอุดตันในเส้นเลือดได้
  7. โคลีนมีส่วนทำให้ระบบไหลเวียนเลือดดีขึ้น จึงช่วยป้องกันโรคหลอดเลือดหัวใจ

บทความที่เกี่ยวข้อง : โอกาสทอง!!!เพิ่มเซลล์สมองให้ลูกก่อนสายเกินไป

 

แนะนำ! เมนูอาหารที่มีโคลีนสูง

1. ไข่ตุ๋นข้าวโพด

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

 

เครื่องปรุง

  • ไข่ไก่                                                     3     ฟอง
  • ข้าวโพดต้มสุก                                     ½    ถ้วย
  • แครอท                                                  1     ช้อนโต๊ะ
  • ซอสถั่วเหลือง                                       1     ช้อนชา
  • ต้นหอมซอย                                          1     ต้น
  • น้ำซุป                                                    1      ถ้วย

วิธีปรุง

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา
  • ตอกไข่ใส่ชามกระเบื้องทนความร้อน ใส่น้ำซุป เหยาะซอสถั่วเหลืองแล้วตีให้เข้ากัน
  • ตามด้วยแครอท และข้าวโพดต้มสุก
  • นำไข่ไปตุ๋น ประมาณ 15-20 นาที พอใกล้สุกให้โรยต้นหอมซอย จากนั้นเช็กว่าไข่ตุ๋นสุกพอดีแล้วยกลง เสิร์ฟ

การทำไข่ตุ๋นควรนำไปตั้งในหม้อนึ่งที่น้ำเดือดพอดีแล้วลดไฟลง เหลือไฟกลาง วิธีเช็กไข่สุกหรือไม่ ให้นำส้อมจิ้มไข่ดูค่ะ ถ้าไม่มีน้ำไข่ติดมาแสดงว่าไข่สุกแล้ว

 

2. ปลานึ่งซีอิ๊ว

เครื่องปรุง

  • ปลากะพง หรือปลา แซลมอน              ½     ชิ้น
  • ซอสถั่วเหลือง                                      ½      ช้อนชา
  • บรอกโคลี ตามชอบ
  • กะหล่ำปลี ตามชอบ
  • คื่นไช่และขิงซอยสำหรับโรยหน้า

วิธีทำ

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา
  • ล้างปลาให้สะอาด แล้วหมักด้วยซอสถั่วเหลืองให้ทั่ว วางลงบนจานเปลสำหรับนึ่ง
  • เติมน้ำเปล่าลงไปในจานปลาเล็กน้อย แล้วใส่วางผักลงรอบตัวปลา
  • นำปลาไปนึ่งในหม้อนึ่ง ใช้ไฟระดับกลางประมาณ 15 นาที จากนั้นโรยหน้าด้วยใบคื่นไช่และขิงซอยเล็กน้อย พร้อมเสิร์ฟได้เลย

การนึ่งปลาไม่ให้เหม็นคาวนั้น ควรนึ่งตอนน้ำเดือดแล้วลดไฟกลาง อย่าเปิดฝาขณะนึ่งปลา

3. โจ๊กไก่ใส่ตับ

เครื่องปรุง

  • ข้าวโอ๊ตหรือโจ๊กแห้ง                          1     ถ้วย
  • อกไก่บด                                          100    กรัม
  • ตับหมู                                                50    กรัม
  • ไข่ลวก                                             1-2    ฟอง
  • แครอท ฟักทองหั่นเต๋าเล็กต้มสุก    1       ถ้วย
  • น้ำซุป                                               4       ถ้วย
  • ต้นหอมผักชีหั่นฝอย

วิธีทำ

  • นำข้าวโอ๊ต หรือข้าวตุ๋นแห้ง นำไปต้มกับน้ำซุป เคี่ยวไฟกลางจนนิ่ม
  • เติมเกลือหรือผงปรุงรส ตามชอบ
  • ใส่เนื้อไก่บด ปั้นเป็นก้อนเล็ก ๆ ลงไป
  • ใส่ตับหมูสไลด์ที่ลวกสุกแล้วตามชอบ
  • เติมแครอทและฟักทอง ตามลงไป
  • เมื่อโจ๊กสุกแล้วสุกแล้ว สามารถใส่ไข่ลวกตามชอบ โรยต้นหอมผักชีซอยพร้อมเสิร์ฟ

คุณแม่สามารถเติมน้ำระหว่างต้มโจ๊ก หากดูแห้งเกินไป ก่อนตามด้วยเครื่องต่าง ๆ

 

4. คะน้าผัดตับ

เครื่องปรุง

  • คะน้าหั่นพอดีคำ     1        ถ้วย
  • ตับหมูหั่นบาง ๆ       100   กรัม
  • น้ำซุป                     ½      ถ้วย
  • ซอสหอยนางรม      1      ช้อนชา
  • ซอสถั่วเหลือง         1      ช้อนชา
  • กระเทียมสับ            1      ช้อนชา

วิธีทำ

  • ตั้งน้ำมันให้ร้อนแล้วกระเทียมสับลงไป
  • ใส่ตับลงไปผัดจนสุก เติมซอสหอยนางรมและซอสถั่วเหลือง
  • เติมน้ำซุป พอประมาณก่อน (อย่าเพิ่งใส่หมด)
  • ใส่คะน้าลงไปผัดจนสุด จากนั้นยกลง เสิร์ฟ รับประทานกับข้าวกล้อง
  • เวลาล้างตับหมูให้บีบเลือดออกจนหมดแล้วนำตับหมูลงไปหมักกับนมสด เพื่อให้ตับหมูนิ่ม

5. ยำวุ้นเส้น

 

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

เครื่องปรุง

  • วุ้นเส้นตัดสั้นลวกสุก                    2       ถ้วย
  • เนื้อหมูต้มสุกหั่นชิ้นบางเล็ก         ½    ถ้วย
  • ตับหมูต้มสุกหั่นชิ้นบางเล็ก          ½    ถ้วย
  • กุ้งต้มหั่นบาง                                 ½    ถ้วย
  • กุ้งแห้งทอดกรอบ                          ¼   ถ้วย
  • ผักกาดหอมหั่นท่อนสั้น                 1      ต้น
  • มะเขือเทศหั่นเสี้ยว                        1      ลูก
  • ขึ้นฉ่ายหั่นท่อนสั้น                         1     ถ้วย
  • หอมใหญ่หั่นบาง                          ½    ถ้วย

วิธีทำน้ำยำ

  • โขลกพริกชี้ฟ้าแดง 1 เม็ด รากผักชีหั่น 1 ช้อนโต๊ะ  กระเทียมดองหั่น 2 หัว  ให้ละเอียด
  • ใส่น้ำตาลทราย ¼ ถ้วย เกลือป่น 2 ช้อนชา น้ำส้มสายชู 1/3 ถ้วย
  • คนให้เข้ากันตักใส่หม้อ ตั้งไฟพอเดือด ยกลงทิ้งให้เย็น

วิธีทำ

  • ใส่วุ้นเส้นลงในชามผสม  ใส่เนื้อหมูสับ  ตับ  กุ้งต้ม  หอมใหญ่  ขึ้นฉ่าย  ราดด้วยน้ำยำ  เคล้าเบา ๆ ชิมรส ใส่มะเขือเทศ  เคล้าพอทั่ว
  • วางผักกาดหอมเรียงข้าง ๆ จาน ตักยำใส่ โรยกุ้งแห้งทอดกรอบ พร้อมเสิร์ฟ

ยำวุ้นเส้นจานนี้คุณแม่จะได้รับโคลีนจากตับหมู ผักใบเขียว ได้แก่  ผักกาด  ขึ้นฉ่าย และยังได้รับสารอาหารที่จำเป็นอื่น ๆ ที่โปรตีน วิตามิน รับรองว่ายำวุ้นเส้นจานนี้ ทั้งแม่ท้องอิ่มอร่อย พร้อมกับทารกในครรภ์ยังได้รับโคลีนและสารอาหารอื่น ๆ อีกด้วย

 

เท่านี้คุณแม่ก็รู้แล้วใช่ไหมคะ ว่าโคลีนมีประโยชน์ต่อลูกน้อยอย่างไรบ้าง มีส่วนช่วยในการพัฒนาระบบประสาทของทารก ตั้งแต่อยู่ในครรภ์อย่างไร คุณแม่ก็อย่าลืมที่จะเลือกรับประทานอาหารที่มีโคลีนด้วยนะคะ เพราะพัฒนาการที่ดีของลูกน้อย เริ่มได้ตั้งแต่อยู่ในครรภ์

 

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :

กระตุ้นลูกให้ฉลาดตั้งแต่อยู่ในครรภ์ ด้วย 7 เคล็ดลับที่ต้องทำก่อนคลอด

อยากให้ลูกฉลาดสร้างได้ตั้งแต่อยู่ในครรภ์

8 ซูเปอร์ฟู้ดช่วยบำรุงสมองลูกตั้งแต่ในครรภ์

ที่มา : enfababy, huggies

หนังสือ สุขภาพดีเริ่มที่ตัวคุณ  โดย มิ่งขวัญ ลิรุจประภาร