คณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ มีมติเห็นชอบบรรจุวัคซีน PCV ป้องกันโรคติดเชื้อนิวโมคอคคัส หรือ IPD (Invasive Pneumococcal Disease) ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของโรคปอดอักเสบและเยื่อหุ้มสมองอักเสบในเด็กเล็ก เข้าเป็นสิทธิประโยชน์ในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง) โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย ซึ่ง วัคซีน IPD ฟรี จะช่วยลดภาระผู้ปกครองที่เคยต้องจ่ายเป็นหมื่น
ข่าวดี! เคาะเพิ่ม วัคซีน IPD ฟรี สิทธิบัตรทองเด็ก
เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2568 ที่กระทรวงสาธารณสุข นายพัฒนา พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะประธานการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ ครั้งที่ 5/2568 ได้เปิดเผยผลการประชุมว่า ที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบนโยบายการให้วัคซีนปี 2569 ในแผนงานสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคของประเทศ
โดยสาระสำคัญคือ การเพิ่มวัคซีนพีซีวี (PCV) หรือที่รู้จักกันในชื่อวัคซีน IPD เข้าไปในชุดสิทธิประโยชน์สำหรับเด็กภายใต้สิทธิบัตรทอง ซึ่งจะช่วยให้เด็กไทยสามารถเข้าถึงวัคซีนที่จำเป็นในการป้องกันการติดเชื้อแบคทีเรียนิวโมคอคคัส ที่เป็นสาเหตุของโรคร้ายแรงดังกล่าวได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
ทั้งนี้ นายพัฒนาได้มอบหมายให้กรมควบคุมโรค ซึ่งมี นพ.มณเฑียร คณาสวัสดิ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค เป็นหน่วยงานหลัก ประสานงานกับสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เพื่อดำเนินการในรายละเอียดและบรรจุวัคซีนดังกล่าวเข้าสู่ระบบต่อไป
การตัดสินใจครั้งนี้ถือเป็นข่าวดีสำหรับผู้ปกครองอย่างมาก เนื่องจากที่ผ่านมาวัคซีน IPD เป็นวัคซีนทางเลือกที่มีราคาสูง การบรรจุเข้าในสิทธิประโยชน์บัตรทองจะช่วยสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคในเด็กเล็กได้อย่างครอบคลุมและเท่าเทียมยิ่งขึ้น
คุณแม่อาจสงสัยว่าวัคซีนที่กำลังจะเป็น วัคซีน IPD ฟรี นี้ แท้จริงแล้วคืออะไรและช่วยป้องกันอะไรได้บ้าง เพื่อเตรียมความพร้อมและทำความเข้าใจถึงประโยชน์สูงสุดที่ลูกรักจะได้รับ เรามาเจาะลึกทำความรู้จักกับ วัคซีน PCV หรือ วัคซีน IPD ให้มากขึ้นกันค่ะ
วัคซีน PCV คืออะไร?
ชื่อทางการแพทย์ของวัคซีนชนิดนี้คือ PCV (Pneumococcal Conjugate Vaccine) ซึ่งเป็นวัคซีนที่ถูกออกแบบมาเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันต่อเชื้อแบคทีเรียที่มีชื่อว่า “นิวโมคอคคัส” (Streptococcus pneumoniae) เชื้อตัวนี้เป็นสาเหตุสำคัญของการเจ็บป่วยในเด็กเล็กทั่วโลก มันสามารถอาศัยอยู่ในโพรงจมูกและลำคอของคนปกติได้โดยไม่ก่อโรค แต่เมื่อใดที่ร่างกายอ่อนแอลง โดยเฉพาะในเด็กเล็กที่ภูมิคุ้มกันยังพัฒนาไม่เต็มที่ เชื้อนี้ก็พร้อมที่จะรุกรานและก่อให้เกิดโรคร้ายแรงตามมาได้ทันที

วัคซีน PCV ป้องกันโรคอะไรได้บ้าง?
ความน่ากลัวของเชื้อนิวโมคอคคัสคือความสามารถในการก่อโรคได้หลากหลาย ตั้งแต่การติดเชื้อที่ไม่รุนแรงไปจนถึงการติดเชื้อแบบลุกลามที่อันตรายถึงชีวิต โดยวัคซีน PCV สามารถป้องกันได้ทั้งสองกลุ่มอาการ ดังนี้
-
กลุ่มโรค IPD (Invasive Pneumococcal Disease)
นี่คือกลุ่มอาการติดเชื้อที่รุนแรงที่สุดและเป็นเป้าหมายหลักในการป้องกันของวัคซีน เกิดขึ้นเมื่อเชื้อนิวโมคอคคัสสามารถบุกรุกเข้าไปยังอวัยวะต่างๆ ที่โดยปกติแล้วจะปลอดเชื้อ เช่น กระแสเลือด หรือเยื่อหุ้มสมอง ทำให้เกิดภาวะที่อันตรายอย่างยิ่ง ได้แก่ เยื่อหุ้มสมองอักเสบ ติดเชื้อในกระแสเลือด และปอดอักเสบรุนแรง โดยเฉพาะในเด็กเล็กต่ำกว่า 2 ปีและผู้สูงอายุ องค์การอนามัยโลกประมาณการว่ามีเด็กเสียชีวิตจากโรคติดเชื้อนิวโมคอคคัสสูงถึงหนึ่งล้านคนต่อปี
-
กลุ่มการติดเชื้อที่ไม่รุนแรงแต่พบบ่อย
นอกจากโรคร้ายแรงแล้ว วัคซีนยังช่วยลดโอกาสการเกิดโรคที่พบบ่อยในเด็กเล็ก ซึ่งแม้ไม่ถึงชีวิตแต่ก็สร้างความเจ็บป่วยและส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของเด็กได้ เช่น หูชั้นกลางอักเสบ และไซนัสอักเสบ
การได้รับ วัคซีน IPD ฟรี จึงเป็นการสร้างเกราะป้องกันที่แข็งแกร่งให้กับลูกน้อยจากโรคร้ายเหล่านี้ค่ะ
“วัคซีน PCV” กับ “วัคซีน IPD” เหมือนหรือต่างกัน?
เป็นอีกหนึ่งคำถามที่สร้างความสับสนให้คุณพ่อคุณแม่หลายท่าน ซึ่งสามารถอธิบายให้เข้าใจง่ายๆ ได้ดังนี้
- PCV คือวัคซีน ส่วน IPD คือชื่อโรค
- วัคซีน PCV ป้องกันโรค IPD
แต่ในทางการสื่อสารกับผู้ปกครอง นิยมเรียกชื่อวัคซีนตามชื่อโรคเพื่อให้เข้าใจง่ายและจดจำได้ทันทีว่า “ฉีดวัคซีน IPD เพื่อป้องกันโรค IPD” คุณพ่อคุณแม่ส่วนใหญ่จึงคุ้นเคยกับชื่อ “วัคซีน IPD” มากกว่านั่นเองค่ะ
วัคซีน PCV ในปัจจุบัน มีกี่ชนิด?
เชื้อแบคทีเรียนิวโมคอคคัสมีมากกว่า 90 สายพันธุ์ แต่มีเพียงบางสายพันธุ์เท่านั้นที่เป็นสาเหตุหลักของการเกิดโรคในเด็ก ด้วยเหตุนี้ บริษัทผู้ผลิตวัคซีนจึงได้พัฒนาวัคซีน PCV ออกมาอย่างต่อเนื่องเพื่อให้สามารถป้องกันเชื้อสายพันธุ์ต่างๆ ได้ครอบคลุมมากที่สุด สำหรับวัคซีนที่ใช้ในเด็กในปัจจุบัน มีหลักๆ ดังนี้
- PCV10 (10 สายพันธุ์): เป็นวัคซีนรุ่นแรกๆ ที่ครอบคลุมเชื้อ 10 สายพันธุ์ที่ก่อโรคบ่อยในเด็ก
- PCV13 (13 สายพันธุ์): เป็นวัคซีนที่พัฒนาต่อยอดขึ้นมา โดยครอบคลุมเชื้อเพิ่มอีก 3 สายพันธุ์ และเป็นชนิดที่ถูกใช้อย่างแพร่หลายที่สุดในโรงพยาบาลเอกชนช่วงที่ผ่านมา
- PCV15 (15 สายพันธุ์): เป็นวัคซีนรุ่นใหม่ที่เพิ่มการป้องกันเชื้ออีก 2 สายพันธุ์
- PCV20 (20 สายพันธุ์): เป็นวัคซีนรุ่นใหม่ล่าสุดที่พัฒนาขึ้นมาเพื่อให้ครอบคลุมเชื้อได้มากที่สุดถึง 20 สายพันธุ์
สำหรับการให้บริการ วัคซีน IPD ฟรี ในโครงการบัตรทองนั้น คาดว่าจะมีการเลือกใช้วัคซีนชนิดใดชนิดหนึ่งเป็นมาตรฐาน แต่อย่างไรก็ตาม การเลือกชนิดของวัคซีนขึ้นอยู่กับสถานพยาบาลแต่ละแห่งและคำแนะนำของกุมารแพทย์ ซึ่งผู้ปกครองสามารถปรึกษาเพื่อรับข้อมูลเพิ่มเติมได้

ตารางการฉีดวัคซีน IPD: ลูกน้อยต้องฉีดเมื่อไหร่?
เพื่อให้การสร้างเสริมภูมิคุ้มกันมีประสิทธิภาพสูงสุด การฉีดวัคซีนจำเป็นต้องเป็นไปตามช่วงอายุที่แนะนำ โดยจำนวนเข็มจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับว่าลูกน้อยเริ่มฉีดวัคซีนเข็มแรกเมื่ออายุเท่าไหร่
-
ตารางการฉีดตามคำแนะนำมาตรฐาน (กรณีเริ่มฉีดตามเกณฑ์)
นี่เป็นตารางการฉีดที่ให้ผลในการป้องกันดีที่สุด โดยจะฉีดทั้งหมด 4 เข็ม:
- เข็มที่ 1: อายุ 2 เดือน
- เข็มที่ 2: อายุ 4 เดือน
- เข็มที่ 3: อายุ 6 เดือน
- เข็มกระตุ้น (Booster): อายุ 12-15 เดือน
หากลูกน้อยยังไม่เคยได้รับวัคซีนและมีอายุเกินเกณฑ์ ก็ยังสามารถฉีดได้ แต่จำนวนเข็มจะลดลงไปตามอายุ ดังนี้
- อายุ 7-11 เดือน: ฉีดทั้งหมด 3 เข็ม (2 เข็มแรกห่างกันอย่างน้อย 2 เดือน และเข็มกระตุ้นเมื่ออายุ 12-15 เดือน)
- อายุ 12-23 เดือน: ฉีดทั้งหมด 2 เข็ม (โดยแต่ละเข็มห่างกันอย่างน้อย 2 เดือน)
- อายุ 2 ปีขึ้นไป: ฉีด 1-2 เข็ม (ขึ้นอยู่กับชนิดของวัคซีนและปัจจัยเสี่ยงของเด็ก)
ควรปรึกษากุมารแพทย์เพื่อวางแผนการฉีดวัคซีนให้เหมาะสมและต่อเนื่องสำหรับลูกน้อย
ราคาวัคซีน IPD ในปัจจุบัน
นโยบายวัคซีน IPD ฟรี จะช่วยลดค่าใช้จ่ายของผู้ปกครองได้อย่างมาก เนื่องจากค่าใช้จ่ายที่ผู้ปกครองต้องรับผิดชอบในปัจจุบันนั้นค่อนข้างสูง
- ราคาต่อเข็ม: ในโรงพยาบาลเอกชน ราคาวัคซีน IPD จะอยู่ที่ประมาณ 2,500 – 4,500 บาท ซึ่งความแตกต่างของราคาจะขึ้นอยู่กับชนิดของวัคซีน (จำนวนสายพันธุ์) และค่าบริการของสถานพยาบาลแต่ละแห่ง
- ค่าใช้จ่ายรวมตลอดคอร์ส (4 เข็ม): หากฉีดครบตามเกณฑ์มาตรฐาน ผู้ปกครองจะต้องมีค่าใช้จ่ายรวมสูงถึง 10,000 – 18,000 บาท ต่อเด็กหนึ่งคน
ตัวเลขนี้อาจเป็นอุปสรรคที่ทำให้เด็กบางคนไม่สามารถเข้าถึงวัคซีนที่จำเป็นนี้ได้ ดังนั้น นโยบายวัคซีน IPD ฟรี จึงเปิดโอกาสให้เด็กไทยทุกคนมีสุขภาพที่แข็งแรงอย่างเท่าเทียมกัน
วัคซีน IPD ฟรี ภายใต้สิทธิบัตรทอง ถือเป็นก้าวที่สำคัญในการพัฒนาระบบสาธารณสุขของประเทศ คุณพ่อคุณแม่ผู้ปกครองควรเตรียมความพร้อมโดยการศึกษาข้อมูล และที่สำคัญคือติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด หากมีข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับกำหนดการและขั้นตอนในการเริ่มให้บริการฉีดวัคซีนฟรีอย่างเป็นทางการ theAsianparent จะนำมาอัพเดทคุณพ่อคุณแม่เพื่อจะได้ไม่พลาดโอกาสในการสร้างเกราะป้องกันที่แข็งแกร่งที่สุดให้กับลูกน้อยค่ะ
ที่มา: Bangkokbiznews , โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ
ข่าวดี! วัคซีนไข้หวัดใหญ่แบบพ่นจมูก ทางเลือกใหม่ ประสิทธิภาพสูง ลูกไม่ต้องเจ็บตัว
อัพเดท! ราคาวัคซีนไข้เลือดออก QDenga ปี 2568 โรงพยาบาลทั่วประเทศ
ฉีดวัคซีนไม่ครบ อันตรายกว่าที่คิด! หมอยกเคส เด็ก 8 ขวบป่วยบาดทะยักรุนแรง
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!