รับมือ!!อาการคออักเสบในเด็กให้ถูกวิธี

lead image

ลูกเป็นไข้ไม่สบายแต่ละที วุ่นกันทั้งบ้านเพราะเจ้าหนูยังสื่อสารได้ไม่เก่งนัก บางทีเป็นออะไร เจ็บปวดตรงไหนก็ยังไม่สามารถบอกได้ แต่ที่แน่ๆ หากมีอาการเจ็บคอ สังเกตได้ว่าจะไม่ยอมทานอาหารหรือดูดนม คอจะแดง ไอ บางทีก็มีหนองอีกด้วย รับมือ!!อาการคออักเสบในเด็กให้ถูกวิธี ติดตามอ่าน

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

อาการคออักเสบที่พบในเด็กทั่วไปมีกี่ประเภท

วิธีการดูแลเมื่อเด็กคออักเสบ

คออักเสบที่พบในเด็กแบ่งออกเป็น 5 ประเภท

ประเภทที่ 1 คออักเสบร่วมกับไข้หวัดซึ่งพบได้บ่อย ๆ เกิดจากเชื้อไวรัสคออักเสบแบบนี้เด็กจะเจ็บคอไม่มากแต่จะมีอาการน้ำมูกไหล  ไอ และจามร่วมด้วย

ประเภทที่ 2 เป็นคออักเสบชนิดที่คุณพ่อคุณแม่จะสังเกตเห็นได้ชัดเจนว่า  ในคอของลูกจะมีอาการบวมแดงและจะเจ็บคอมาก  มักจะเป็นในเด็กอายุ 4 ขวบไปแล้ว เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย ชนิดสเตร็ป

ประเภทที่ 3  เป็นคออักเสบชนิดที่คอแดง  เจ็บ และมี ฝ้าขาวหรือจุดหนองในลำคอ  มีไข้สูงมาก  บางครั้งอาจสูงถึง 39 องศาเซลเซียส   มีต่อมน้ำเหลืองโตที่คอ เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย ชนิดสเตร็ป  เช่นกัน

ประเภทที่ 4 เป็นอาการของโรคตีบ แสดงออกด้วยการเจ็บคอ  แต่โรคคอตีบจะไม่เจ็บคอมากนักและไข้ไม่สูง  โรคนี้จะพบได้ในเด็กที่ไม่ฉีดวัคซีนป้องกันโรคคอตีบ   ปัจจุบันประเทศของเราเกิน 90% มีการฉีดวัคซีนโรคคอตีบ  ไอกรน  บาดทะยัก  ตามมาตรฐานกระทรวงสาธารณสุขแล้ว  ดังนั้น  จึงพบโรคคอน้อยลงแต่ไม่ควรประมาท  ควรฉีดวัคซีนตามที่คุณหมอนัดอย่างเคร่งครัด

ประเภทที่ 5 เป็นคออักเสบที่พบในเด็กเล็ก  ขวบปีแรกลูกจะมีอาการเจ็บคอมาก และจะเห็นเป็นตุ่มพองใสหรือแผลเล็ก ๆในปากทั่วทั้งเพดาน  กระพุ้งแก้ม  และมีไข้สูงตามไป   ด้วยที่สำคัญอาการที่สังเกตง่ายคือ จะมีน้ำลายไหลย้อย   เนื่องจากกลืนน้ำลายไม่ได้เพราะจะเจ็บคอมาก  อาการนี้มักจะเป็นอยู่ 3 – 4 วันจะค่อย ๆ ดีขึ้น แต่อย่างไรก็ตามควรพาไปพบคุณหมอจะดีที่สุดค่ะ

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

รับมือ!!อาการคออักเสบในเด็กให้ถูกวิธี

พญ.ประมวล  สุนากร  กล่าวถึง  การดูแลโรคคออักเสบในเด็กไว้ว่า

1. คุณพ่อคุณแม่สามารถดูแลลูกที่เป็นคออักเสบได้ด้วยตนเอง คือ ประเภทที่ 1 คออักเสบร่วมกับไข้หวัด โดยทำให้อาการทุเลาลงได้ ด้วยการให้ลูกดื่มน้ำมาก ๆ จะเป็นน้ำอุ่นหรือน้ำเย็นก็ได้นะคะ  แต่ทางที่ดีควรเป็นน้ำอุ่นจะดีกว่า  แต่เด็กบางคนชอบน้ำเย็น  ในที่นี้หมายถึง  เย็นแบบอุณหภูมิห้อง ไม่ใช่น้ำใส่น้ำแข็งหรือน้ำจากตู้เย็นค่ะ  หรือถ้าลูกมีไข้สูงก็ให้ทานยาลดไข้ หรือถ้ามีอาการไอก็ให้ทานยาแก้ไอร่วมด้วย  ซึ่งเป็นวิธีการง่าย ๆ ที่คุณพ่อคุณแม่สามารถดูแลลูกได้

2. คออักเสบชนิดเป็นตุ่มพอง มีไข้สูง ในประเภทนี้ ในเบื้องต้นคุณพ่อคุณแม่อาจให้ทานยาลดไข้ และดูแลในเรื่องอาหารการกิน ควรเป็นอาหารเหลวหรืออาหารที่มีความเย็น  ได้แก่  ไอศกรีม  นมเย็น  น้ำหวาน  เพื่อบรรเทาอาการเจ็บปวด และทานง่ายขึ้น  ที่สำคัญให้ดื่มน้ำมาก ๆ   ตามปกติอาการเจ็บคอรุนแรง จะเป็นอยู่ 2 – 3  หลังจากที่ไข้ลดลง   อาการเจ็บคอจะเริ่มดีขึ้น  แต่โดยทั่วไปจะเป็นในช่วงเวลาสั้น ๆ แต่อาการเช่นนี้คุณพ่อคุณแม่ควรพาลูกไปพบคุณหมอจะดีกว่าค่ะ เพื่อให้วินิจฉัยว่ามีโรคแทรกซ้อนอื่น ๆ หรือไม่

3. คออักเสบชนิดมี ฝ้าขาวซึ่งอาจจะเป็นโรคคอตีบได้ อาการเช่นนี้ต้องพบคุณหมออย่างเดียวเลยค่ะ เพื่อหาต้นตอขอโรคที่แท้จริง  เพราะหากเป็นโรคคอตีบจริง  หากปล่อยไว้จะเป็นอันตรายมาก  เพราะอาจมีการอุดตันทางเดินหายใจ

4. ต่อมทอลซิลอักเสบ มักจะมีไข้สูงและลำคออักเสบร่วมกัน กรณีที่ป่วยเป็นต่อมทอลซิลอักเสบบ่อย ๆ คุณหมอมักจะยังไม่แนะนำให้ตัด เพราะเด็กอายุ 4 – 5 ขวบ ขนาดของต่อมทอลซิลอักเสบจะค่อย ๆ มีขนาดเป็นปกติ  เมื่ออายุ 8 – 11 ปี ขนาดของต่อมทอลซิลจะค่อย ๆเล็กลง

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

บทความแนะนำ  ลูกมีต่อมทอนซิลโตเรื้อรัง เป็นเพราะอะไร?

สำหรับกรณีที่ต่อมทอลซิลมีความผิดปกติ  คือ  มีขนาดใหญ่มากจนถึงขั้นอุดตัน ทำให้เด็กกลืนอาหารลำบากหรือหายใจไม่สะดวก   คุณหมอจึงจะพิจารณาให้ตัดออกเป็นราย ๆ ไป ซึ่งมีเด็กจำนวนน้อยที่จะเป็นดังนั้น หากลูกของคุณแม่มีขนาดต่อมทอลซิลที่ใหญ่แต่ไม่มีอาการใด ๆ ที่ผิดปกติก็ไม่ต้องกังวลไปค่ะ

ได้ทราบถึงวิธีการดูคออักเสบของลูกแล้วนะคะ ในเบื้องต้นคุณพ่อคุณแม่สามารถดูแลได้ตามที่คุณหมอแนะนำไว้  ซึ่งส่วนใหญ่อาการคออักเสบควรจะพาลูกไปพบคุณหมอจะดีกว่า  เพื่อตรวจดูและป้องกันไม่ให้เกิดโรคแทรกซ้อนที่จะเป็นอันตรายต่อไป

ร่วมบอกเล่าและแชร์ประสบการณ์ในช่วงตั้งครรภ์   คลอดบุตร รวมถึงการเลี้ยงดูทารกน้อย  เพื่อเป็นประโยชน์ต่อครอบครัวอื่น ๆ กันนะคะ  หากมีคำถามหรือข้อสงสัย ทางทีมงานจะหาคำตอบมาให้คุณ

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

อ้างอิงข้อมูลจาก

หนังสือ “คุยกับหมอเด็กยามลูกป่วย” โดยคณะแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคเด็ก

บทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง

ลูกอักเสบติดเชื้อเกือบช็อก เพราะโดนกวาดยา

โรคติดต่อที่มักพบในโรงเรียนอนุบาล