วิธีใช้ลิปมัน ที่ถูกต้องมีวิธีใช้อย่างไร เพื่อไม่ริมฝีปากแห้งแตก ลอกเป็นขุยกว่าเดิม บทความวันนี้เรามีคำตอบมาฝากกันค่ะ ลิปมันถือเป็นไอเทมเด็ดที่จะช่วยบำรุงริมฝีปากที่แห้งแตกให้กลับมาชุ่มชื้นดูสุขภาพดี ถ้าหากทาลิปมันอย่างถูกวิธีนะคะ เพราะถ้าไม่รู้เทคนิคในการทาลิปมันที่ถูกต้อง ก็อาจจะส่งผลกระทบทำให้ริมฝีปากที่แห้งแตกนั้นระคายเคืองยิ่งกว่าเดิมได้ ถ้าพร้อมแล้ว ไปดูทริคที่เรานำมาฝากกันเลยค่ะ
ลิปมันช่วยแก้ปากแห้งแตกได้จริงไหม ทำไมต้องทาลิปมัน?
สำหรับใครที่มีปัญหาริมฝีปากแห้งแตก ลอกเป็นขุย การบำรุงรักษาริมฝีปากให้กลับมาดูสุขภาพดีจึงถือเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมาก ๆ แต่การที่จะป้องกันได้อย่างถูกวิธีการรู้สาเหตุที่ทำให้เกิดอาการริมฝีปากแห้ง แตก ลอกเป็นขุย ก็ถือเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างมาก ซึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหาเหล่านี้ขึ้น ก็สามารถเกิดขึ้นได้หลากหลายปัจจัยมาก ๆ เช่น สภาพอากาศหนาวหรือแห้ง, การเลียริมฝีปาก, ดื่มน้ำน้อย, ภาวะขาดสารอาหาร หรือการใช้ผลิตภัณฑ์บางชนิดที่ส่งผลทำให้เกิดการระคายเคืองต่อริมฝีปาก เป็นต้น
และการป้องกันไม่ให้ริมฝีปากนั้นเกิดอาการแห้ง ลอกเป็นขุย ที่คุณสามารถทำได้ง่าย ๆ นั่นก็คือการเลือกใช้ลิปมันเพื่อบำรุงริมฝีปากเพื่อป้องกันไม่ให้ริมฝีปากสูญเสียความชุ่มชื้นไป เพราะริมฝีปากจะไม่สามารถผลิตน้ำมันมารักษาความชุ่มชื้นได้ ดังนั้น การบำรุงริมฝีปากให้ชุ่มชื้นตลอดเวลาจึงถือเป็นสิ่งที่สำคัญมาก แต่การจะเลือกลิปมันมาใช้ในการบำรุงริมฝีปากจะต้องอย่าลืมตรวจดูส่วนผสมให้ละเอียดด้วยนะคะ ว่าปลอดต่อริมฝีปากหรือไม่ เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดการแพ้ตามมา
บทความที่เกี่ยวข้อง : 15 ประโยชน์ของลิปมัน สารพัดเรื่องรอบตัวที่ไม่ได้มีดีแค่ความชุ่มชื้น!
เคล็ดลับ วิธีใช้ลิปมัน ที่ถูกต้อง
1. การใช้ลิปมันให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อช่วยให้ริมฝีปากของคุณสุขภาพดีขึ้น คือควรทาเป็นแนวตั้งไปตามร่องริมฝีปาก เพื่อที่จะได้ช่วยให้เนื้อลิปมันซึมผ่านเข้าไปตามร่องปากได้ง่ายมากยิ่งขึ้น เพราะโดยปกติทั่วไปแล้วริมฝีปากของคนเราจะไม่ได้เรียบเนียน แต่จะมีเส้นร่องบริเวณริมปากอยู่
ดังนั้น วิธีการใช้ลิปมันที่ถูกต้องที่สุด ก็คือคุณควรที่จะทาลิปมันตามแนวเส้นร่องปากแนวตั้ง หรือแนวดิ่งนั่นเองค่ะ แต่ถ้าหากคุณเลือกที่จะทาแนวนอนจะเป็นการเพิ่มการเสียดสีบริเวณริมฝีปากยิ่งขึ้นไปอีก และจะเป็นการไปกระตุ้นให้ริมฝีปากแห้ง และแตกมากยิ่งขึ้น ดังนั้น อย่าลืมเลือกทางให้ถูกวิธีนะคะเพื่อที่ริมฝีปากจะได้รับการบำรุงได้อย่างล้ำลึกได้รับความชุ่มชื้นอย่างเต็มที่และลดความเสี่ยงทำให้ระคายเคืองเพิ่มขึ้นค่ะ
2. การทาลิปมันเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพคุณควรที่จะทาอย่างสม่ำเสมอเป็นประจำ เพื่อรักษาให้ชุ่มชื้น และป้องกันไม่ให้ริมฝีปากหมองคล้ำ สามารถทาลิปมันได้ทั้งช่วงเช้าและก่อนนอนเลยค่ะ หรือจะทาหลังรับประทานอาหาร และดื่มน้ำก็ได้เช่นกัน หมั่นทาลิปมันทุก ๆ 2 ชั่วโมงจะดีที่สุดค่ะ ไม่จำเป็นจะต้องรอให้ปากแห้ง หรือเนื้อลิปหายถึงค่อยทานะคะ
3. เนื่องจากลิปมันบางยี่ห้อก็จะถูกออกแบบมาโดยเฉพาะลิปสำหรับใช้ทาตอนเช้า ใช้ระหว่างวัน และใช้ทาก่อนนอน ดังนั้น ถ้าหากจะเลือกซื้อลิปมันมาใช้งานสำหรับช่วงเช้า หรือทาระหว่างวัน แนะนำให้เลือกลิปมันที่มีส่วนผสมของสารกันแดดด้วยนะคะ อย่างน้อยควรมีค่า SPF 30 จะได้ช่วยปกป้องริมฝีปากของคุณจากแสงแดด และรังสียูวีได้อย่างมีประสิทธิภาพ และลดความเสี่ยงทำให้ริมฝีปากสูญเสียน้ำ และเหี่ยวย่น แต่ถ้าหากต้องการทาลิปมันช่วงก่อนนอน แนะนำให้เลือกซื้อลิปมันที่มีสารเน้นการบำรุงชุ่มชื้นโดยเฉพาะจะดีที่สุดค่ะ
บทความที่เกี่ยวข้อง : HOW – TO วิธีเลือกลิปมันกันแดด เลือกอย่างไรให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด !?
สารอันตรายในลิปมันที่ควรหลีกเลี่ยงมีอะไรบ้าง?
-
สารในกลุ่มฟีนอล เมนทอล การบูร
สารทั้ง 3 ชนิดนี้ จะช่วยทำให้ริมฝีปากรู้สึกสดชื่น และให้สัมผัสที่เย็นซ่า ซึ่งผลข้างเคียงในการใช้ลิปมันที่มีส่วนผสมทั้ง 3 ชนิดนี้ จะส่งผลทำให้ริมฝีปากจะแห้งเร็วมากกว่าปกติ เมื่อเทียบกับลิปมันที่ไม่ผสมเมนทอล และอาจจะส่งผลกระทบทำให้เกิดอาการแพ้ตามมาได้ค่ะ
-
ซิลิโคนออยล์ (Silicone Oil)
สำหรับส่วนผสมของซิลิโคนออยล์ จะมีคุณสมบัติช่วยทำให้ริมฝีปากเกิดความแวววาว มักจะอยู่ในส่วนผสมของลิปกลอส ถึงแม้ว่าซิลิโคนออยล์จะช่วยเพิ่มความอิ่มเอิบให้ริมฝีปาก แต่ก็ไม่ได้มีประโยชน์ที่จะช่วยบำรุงริมฝีปากเลยแม้แต่นิดเดียวค่ะ ดังนั้นควรหลีกเลี่ยงการเลือกใช้ลิปมันที่ส่วนผสมของซิลิโคนออยล์นะคะ เพราะเมื่อนำมาใช้งานคุณก็จะไม่ได้รับการบำรุงใด ๆ ทั้งสิ้นค่ะ
ลิปมันที่ดี และมีคุณภาพจะต้องปราศจากน้ำหอม หรือสารแต่งกลิ่น สี และรส เพราะถ้าหากลิปมันนั้นต้องมีสีที่สวย และมีกลิ่นหอม หรือมีรสอร่อยชาติเวลาที่เผลอชิมตอนทาเข้าไป อาจจะเสี่ยงทำให้เกิดอาการแพ้ได้สูง และสามารถทำให้ริมฝีปากแห้งกว่าเดิมได้ การที่จะตรวจสอบว่าลิปมันนั้นอุดมไปด้วยคุณค่าการบำรุงดีมากแค่ไหน คุณสามารถตรวจสอบก่อนเลือกซื้อมาใช้งานได้นะคะ
สำหรับกรดชนิดนี้หลาย ๆ คนก็อาจจะคุ้นเคยกัน เพราะเป็นสารที่นิยมนำมาประกอบในผลิตภัณฑ์รักษาสิว เพราะกรดชนิดนี้จะมีฤทธิ์ในการต้านเชื้อแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดสิว แต่ผู้ผลิตบางรายก็ได้มีการเติมสารนี้ลงไปในลิปมันด้วย ซึ่งการเติมสารนี้ลงไปในลิปมันไม่ได้ทำให้เกิดประโยชน์ใด ๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่มีคุณสมบัติในการบำรุงริมฝีปาก ซ้ำ และยังมีส่วนทำให้ริมฝีปากแห้งเร็ว และลอกได้ง่ายอีกด้วยค่ะ
วิธีการตรวจดูว่าลิปมันใกล้หมดอายุแล้วหรือยัง?
โดยปกติทั่วไปลิป 1 แท่ง จะมีอายุ 2 ปี นับจากวันที่ผลิต หรือไม่ก็มีอายุ 6 เดือนเท่านั้น หลังจากเปิดใช้งาน แต่ถ้าหากเป็นลิปมันที่ผลิตจากธรรมชาติ 100% ก็จะมีโอกาสหมดอายุเร็วมาก ๆ ประมาณ 3 เดือน แต่ถ้าหากเป็นลิปสติกทั่วไปที่ไม่ใส่สารกันบูด ก็สามารถใช้งานได้อย่างน้อย 6 เดือน แต่ถ้าหากเป็นลิปสติกที่ใส่สารกันบูด ก็จะสามารถใช้งานได้ประมาณ 6 เดือนขึ้นไป หรือถ้าคุณไม่แน่ใจว่าลิปมันของคุณนั้นหมดอายุหรือยัง
คุณก็สามารถตรวจสอบด้วยวิธีการง่าย ๆ โดยการดูที่สีของลิปมัน ถ้าสีมีความคล้ำกว่าตอนที่ซื้อมาใหม่ ๆ ควรที่จะทิ้งเลยนะคะ เพราะอาจจะมีแบคทีเรียเริ่มที่จะสะสมอยู่ในนั้น แล้วก็ต่อมาจะเป็นในเรื่องของกลิ่นของลิปมันค่ะ หากดมแล้วรู้สึกว่าไม่ได้กลิ่นเหมือนตอนแรกที่เปิดใช้งาน ควรหยุดการใช้ทันทีนะคะ
และอย่างสุดท้ายที่คุณสามารถตรวจสอบได้ง่าย ๆ นั้นก็คือเนื้อสัมผัสของลิปมันนะคะว่ามีการเปลี่ยนไปหรือไม่ ถ้าหากเนื้อของลิปมันแห้งและแตกเป็นขุย หรือนุ่มเกินไปควรเปลี่ยนใหม่ลิปมันแท่งใหม่ทันทีนะคะ นี่ก็เป็นเพียงทริคเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่จะทำให้คุณสามารถสังเกตได้ว่าลิปมันของตัวเองนั้นยังมีประสิทธิภาพอยู่หรือไม่ค่ะ
เป็นอย่างกันบ้างคะ สำหรับ วิธีใช้ลิปมัน ที่เรานำมาฝากกันวันนี้ การหากรู้วิธีการใช้ลิปมันที่ถูกต้อง คุณก็จะสามารถบำรุงริมฝีปากที่แห้งแตกได้อย่างมีประสิทธิภาพ คงความชุ่มชื้นยาวนาน เพียงเท่านี้คุณก็สามารถโชว์รอยยิ้มสวยได้อย่างมั่นใจแล้ว แล้วก็ก่อนที่จะเลือกซื้อลิปมันมาใช้งานก็อย่าลืมตรวจสอบส่วนผสมของลิปมันด้วยนะคะ ว่าส่วนผสมที่เป็นอันตรายต่อริมฝีปากหรือไม่ เพื่อความปลอดภัย และไม่เกิดอาการแพ้ตามมา ต่อจากนี้ก็ไม่ต้องกังวลปัญหาริมฝีปากแห้งแตก ลอกเป็นขุยอีกต่อไปแล้ว
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
คนท้องใช้ลิปอะไรได้บ้าง ? ท้องอยู่ก็สวยได้ ! ปลอดภัยทั้งแม่และลูกน้อยในครรภ์
เผยเทคนิค วิธีใช้ลิปสครับ แก้ปากดำคล้ำ แห้งลอกเป็นขุย ใช้อย่างไรให้เห็นผล !?
ทำความรู้จัก ลิปออยล์ เครื่องสำอางที่ควรมีติดบ้าน ลิปออยล์คืออะไร ?
ที่มา : mybest, sanook, makeupmuddle
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!