แม้ว่า นม จะเป็นอาหารที่มีประโยชน์มาก กับเด็ก โดยเฉพาะ ในวัยทารก ที่ต้องทานนมเป็นหลัก และ ขวดนม กับเด็ก ก็ดูเหมือนจะเป็นของที่คู่กัน เป็นธรรมดา แต่เมื่อลูกอายุเกิน 1 ถึง 1 ปีครึ่ง ก็ควรจะเลิกใช้ขวดนมได้แล้ว เพราะอาจนำมาซึ่งปัญหาต่าง ๆ มากมาย เราจะมาดูกันว่า หากเด็กยัง ติดขวดนม จนเกินวัยที่เหมาะสม จะมีผลเสียอย่างไร และ เราจะมีวิธีการเตรียมตัว ให้ลูกสามารถเลิกขวดนมได้อย่างไร ซึ่งหากคุณพ่อ คุณแม่ ตระหนักเรื่อง วิธีเลิกขวด ให้ได้ภายในอายุ 1 ปีครึ่ง หรือ อย่างช้าที่สุดไม่เกิน 2 ปี และ มีการเตรียมพร้อม ตั้งแต่ลูกน้อย ยังอยู่ในวัยทารก ก็จะสามารถเลิกขวดนมได้ อย่างราบรื่น กว่าการเลิกแบบหักดิบแน่นอนค่ะ
ผลเสียจากการที่ลูกติดขวดนมนานเกินวัยอันควร
- โรคอ้วน
เนื่องจากเด็กที่ติดขวดนม ก็มักจะทานนมเยอะเกินความจำเป็น จึงนำมาซึ่งการเกิด โรคอ้วน ได้อย่างง่ายดาย โดยเฉพาะ หากทานนมที่มีรสหวาน ทั้งนี้เด็กอาจทานนมเยอะจน ไม่ยอมทานข้าว เนื่องจากอิ่มนม ก็จะเกิดปัญหา การขาดสารอาหารที่จำเป็นขึ้นได้ แม้เด็กจะมีรูปร่างอ้วนท้วนสมบูรณ์ก็ตาม
- ปัญหาด้านพัฒนาการ และ พฤติกรรม
หากลูก ติดขวดนม ก็มักใช้เวลาทานนมบ่อยเกินไป ทำให้เสียเวลา ที่จะมีโอกาสในการพัฒนาทักษะด้านต่าง ๆ ตามวัย เช่น การเคี้ยวอาหาร การพูดคุย สนทนา อีกทั้ง การฝึกดื่มนมจาก แก้ว หรือ ใช้หลอดดูด ก็ยังเป็นหนึ่ง ในพัฒนาการ ที่ส่งเสริมความเป็นตัวของตัวเอง ตามวัยของเด็กด้วย
- ฟันผุ
หากเด็กติดขวดนมก็มักจะติดกันดูดนมก่อนนอน และหลับไปพร้อมกับขวดนม บางคนจะไม่ยอมนอน หากไม่ได้ดูดขวดนมจนหลับไป ทำให้มีนมคาอยู่ในปากช่วงกลางคืน จนเกิดฟันผุได้ง่าย
- ฟันสบกันไม่ดี
หากเด็กติดขวดนมมาก และดูดนมตลอดในช่วงเวลาที่ฟันขึ้นเยอะหลัง 1 ปี ก็อาจมีผลต่อการสบฟัน และการเรียงตัวของฟันได้
การเตรียมความพร้อมให้ลูกสามารถเลือกขวดนมได้ภายในอายุ 1 ปีครึ่ง
- เมื่อลูกอายุ 4-6 เดือน
ลูกจะเริ่มมีพัฒนาการของกล้ามเนื้อมัดใหญ่ที่ดีขึ้น คอตั้งตรง และทรงตัวได้ดี ใช้มือหยิบจับสิ่งของได้มากขึ้น จึงควรเริ่มให้ลูกฝึกทานอาหารตามวัยสำหรับทารก เพื่อส่งเสริมทักษะการกินในรูปแบบอื่นที่ไม่ใช่ขวดนมและเต้านมแม่
- เมื่อลูกอายุ 6 เดือน
พอเด็กอายุได้ 6 เดือน จะเริ่มมีกล้ามเนื้อช่องปากที่แข็งแรงมากขึ้น เริ่มมีฟันขึ้น สามารถเริ่มฝึกให้ลูกกินนมและน้ำจากแก้วได้ โดยอาจเริ่มจากแก้วชนิดหัดดื่มสำหรับทารกก่อน และไม่ปลุกลูกมาทานนมมื้อดึกแล้ว ค่อย ๆ ลดนมในมื้อดึก จนสามารถเลือกการกินนมในช่วงกลางคืนได้ภายในอายุ 1 ขวบ
- เมื่อลูกอายุ 9-12 เดือน
ในช่วงนี้เด็กจะสามารถยกแก้วดื่มน้ำที่มีสองหูได้เอง เริ่มใช้หลอดดูดน้ำได้ดีขึ้น ควรให้ลูกใช้แก้วน้ำชนิดมี 2 หู ยกดื่มน้ำและนมได้ด้วยตนเอง และหัดให้หยิบอาหารเข้าปากด้วยตนเองให้คล่องแคล่ว
ทั้งนี้คุณพ่อคุณแม่ควรลดปริมาณมื้อนมลงเรื่อย ๆ และเพิ่มมื้ออาหารหลักให้มากขึ้น จนเมื่อเด็กอายุครบ 1 ปี ควรจะทานอาหารหลักได้ 3 มื้อ นมวันละ 3 รอบ โดยที่ไม่ทานนมก่อนนอนหรือหลังจากนอนไปแล้ว
- เมื่อลูกอายุใกล้ครบ 1 ปี
คุณพ่อคุณแม่ควรตกลงกับลูกก่อนว่า เราควรจะเลิกขวดนมได้เมื่อไหร่ ที่อายุเท่าใด และเก็บขวดนมทั้งหมดของลูกไปในเวลานั้นจริง ๆ เพื่อให้ลูกได้ทำใจและปรับตัวก่อนล่วงหน้า หากลูกสามารถเลิกขวดนมได้ก็ควรชมเชยลูกทันที
สิ่งสำคัญมากในการเลิกขวดนม คือ สมาชิกทุกคนในบ้านควรตั้งใจจริง ไม่ใจอ่อน และมีแนวทางปฏิบัติไปในทิศทางเดียวกันนะคะ
theAsianparent Thailand เว็บไซต์ข้อมูลคุณภาพและสังคมคุณแม่ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศและเอเชีย เรามีผู้เชี่ยวชาญด้านกุมารแพทย์ แหล่งความรู้แม่และเด็ก รวมถึงแอพพลิเคชั่น theAsianparent Thailand ที่ติดตามการตั้งครรภ์ให้คุณแม่ได้ลงทะเบียนใช้งาน เพื่อติดตามพัฒนาการทารกตั้งแต่ตั้งครรภ์ จนถึงติดตามหลังคลอดที่ครอบคลุมที่สุดและผู้ใช้งานสูงสุดในประเทศไทย นอกจากความรู้ยังมีไลฟ์สไตล์และสื่อมัลติมีเดียหลากหลาย ไม่ว่าสุขภาพแม่และเด็ก โภชนาการแม่และเด็ก กิจกรรมสำหรับครอบครัว
การวางแผนครอบครัวไปจนถึง การดูแลลูก การศึกษา และจิตวิทยาเด็ก theAsianparent Thailand เราพร้อมสนับสนุนพ่อแม่ทุกท่าน ให้มีความรู้และมีสุขภาพกายใจเข้มแข็ง เพื่อเสริมสร้างครอบครัวอย่างแข็งแรง
เพราะเราเชื่อว่า “พ่อแม่เข้มแข็ง ครอบครัวแข็งแรง”
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
https://www.thingthingkids.com/article
ขวดนมคอแคบ ขวดนมคอกว้าง ต่างกันอย่างไร เลือกแบบไหนให้ลูกดี
สัญลักษณ์ก้นขวดนมลูก สัญลักษณ์ใต้ขวด บอกอันตราย! ขวดนมไม่ปลอดภัย อย่าซื้อให้ลูก
วิธีล้างขวดนม ล้างอย่างไร ฆ่าเชื้อแบบไหนให้สะอาด ไม่ให้มีคราบเหลือง