ในปัจจุบันก็มีสกินแคร์มากมายหลากหลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็นครีม เซรั่ม น้ำตบ มอยส์เจอไรเซอร์ และแต่ละประเภทก็ยังจำแนกตามสารสกัดรวมถึงจุดประสงค์ของการใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวนั้น ๆ อีกด้วย ซึ่งแต่ละไอเทมก็จะมีสรรพคุณและข้อดีที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งวันนี้ TAP BEAUTY จะมาแนะนำ วิธีเลือกสกินแคร์เซราไมด์ ต้องเลือกอย่างไรดีเพื่อให้เหมาะกับสภาพผิวทำให้ผิวได้รับการฟื้นฟูดูแลอย่างตรงจุด !
เซราไมด์ คืออะไร ?
เซราไมด์ (Ceramide) เป็นสารสกัดที่สามารถพบได้ตามธรรมชาติของผิวซึ่งผิวของแต่ละคนก็จะมีจำนวนปริมาณของเซราไมด์ที่แตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยทั้งการดูแลผิว การพักผ่อน รวมถึงการบำรุงผิว ซึ่งเมื่อผิวขาดเซราไมด์ก็จะส่งผลให้ผิวมีความอ่อนแอ แห้งกร้าน ก่อให้เกิดปัญหาผิวต่าง ๆ ตามมามากมาย ทั้ง ริ้วรอย ผื่น แดง อาการแพ้คัน รวมถึงยังทำให้ผิวขาดความชุ่มชื้น ไม่แข็งแรง ดังนั้นเซราไมด์จึงเป็นสารสกัดที่จะช่วยมอบความชุ่มชื้นให้กับผิวและยังช่วยบำรุงฟื้นฟูดูแลเสริมเกราะป้องกันผิวให้มีความแข็งแรงนั่นเองค่ะ
สกินแคร์เซราไมด์ มีแบบใดบ้าง ?
สำหรับสกินแคร์ที่มีส่วนผสมของเซราไมด์ (Ceramide) ก็จะมีหลากหลายรูปแบบเหมือนกับสกินแคร์ประเภทอื่น ๆ อาทิ เช่น
1. เซรั่มเซราไมด์
วิธีการเลือกสกินแคร์เซราไมด์ ประเภทเซรั่มจะเหมาะสำหรับคนที่สภาพผิวแห้ง ผิวมัน ผิวขาดน้ำ ไปจนถึงผิวบอบบางแพ้ง่าย เพราะสกินแคร์ที่เป็นเนื้อเซรั่มจะสามารถซึมเข้าสู่ผิวได้อย่างล้ำลึกทำให้ผลิตภัณฑ์ซึมเข้าสู่ผิวได้อย่างรวดเร็ว ดังนั้นจึงทำให้ผิวได้รับการบำรุงอย่างเร่งด่วน เนื้อผลิตภัณฑ์มีความบางเบา ไม่เหนียวเหนอะหนะ สามารถทาได้ทั้งตอนเช้าและก่อนนอน
2. น้ำตบเซราไมด์
สำหรับน้ำตบเซราไมด์จะเป็นสกินแคร์ที่มีความเหมาะสมกับคนที่มีสภาพผิวปกติ – ผิวมัน เพราะว่าเนื้อผลิตภัณฑ์จะเป็นแบบน้ำจึงมีความบางเบากว่าเนื้อผลิตภัณฑ์ชนิดอื่น ๆ ทำให้เมื่อทาลงไปบนผิวจะรู้สึกสบายผิว ไม่หนักหน้า ซึมเข้าสู่ผิวทันที แต่ก็มีข้อด้อยตรงที่ผิวอาจจะได้รับความชุ่มชื้นไม่เพียงพอสำหรับในบางผลิตภัณฑ์ ดังนั้นคนที่มีผิวแห้ง – แห้งมาก จึงไม่เหมาะกับการใช้น้ำตบเซราไมด์
3. ครีมเซราไมด์ และ มอยส์เจอไรเซอร์เซราไมด์
ในส่วนของ วิธีการเลือกสกินแคร์เซราไมด์ ที่เหมาะกับคนที่มีสภาพผิวแห้ง – แห้งมาก หรือคนที่มีปัญหาผิวขาดความชุ่มชื้น ขอแนะนำให้เลือกผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของเซราไมด์ในรูปแบบครีมหรือมอยส์เจอไรเซอร์ เพราะครีมและมอยส์เจอไรเซอร์เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีเนื้อค่อนข้างเข้มข้นจะช่วยมอบความชุ่มชื้นให้กับผิวได้อย่างเต็มที่และมีประสิทธิภาพ แต่สำหรับคนที่มีสภาพผิวมันถ้าอยากใช้ครีมหรือมอยส์เจอไรเซอร์เซราไมด์อาจจะต้องเลือกครีมที่มีเนื้อบางเบาหรือใช้เฉพาะตอนกลางคืนเท่านั้น เพราะว่าเนื้อผลิตภัณฑ์มีความหนักหน้าอาจก่อให้เกิดปัญหาการอุดตันของผิวและอาจทำให้ผิวมีปัญหาสิวตามมาได้เช่นกัน
บทความที่เกี่ยวข้อง : 10 เซรั่ม Tea Tree ยี่ห้อไหนดี ช่วยลดสิว ปลอบประโลมผิว ฟื้นฟูผิวให้แข็งแรง
แนะนำ วิธีเลือกสกินแคร์เซราไมด์ by TAP
ถ้าหากสามารถเลือกได้แล้วว่าสภาพผิวของตนเองนั้นเหมาะกับผลิตภัณฑ์รูปแบบใดไม่ว่าจะเป็นเซรั่ม น้ำตบ ครีมหรือมอยส์เจอไรเซอร์ ขั้นต่อไปก็คือ วิธีการเลือกสกินแคร์เซราไมด์ ที่พิจารณาจากส่วนประกอบอื่น ๆ เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีเซราไมด์ตามความต้องการของผิว โดยสามารถเลือกได้ดังต่อไปนี้
1. เลือกสกินแคร์จากประเภทของเซราไมด์
สารสกัดเซราไมด์สามารถแบ่งแยกย่อยออกมาได้ 4 ประเภท ทั้ง Bioceramide or Human Ceramide, Natural Ceramide, Plant Ceramide และ Synthetic Pseudo-Ceramide ซึ่งแต่ละประเภทก็จะมีความแตกต่างกันออกไป แต่ถ้าจะให้ได้รับเซราไมด์ที่มีความคล้ายและใกล้เคียงกับตามธรรมชาติของผิวมากที่สุด ขอแนะนำให้เลือกสกินแคร์ที่มีสารสกัดของเซราไมด์ประเภท Bioceramide หรือ Human Ceramide เพราะเซราไมด์ประเภทนี้จะได้มาจากการบ่มยีสต์ที่มีคุณสมบัติและโครงสร้างใกล้เคียงกับเซราไมด์ตามธรรมชาติของผิวหนังมากที่สุด ทำให้เซราไมด์ประเภทนี้ซึมเข้าสู่ผิวได้อย่างรวดเร็วและล้ำลึก รวมถึงยังช่วยมอบความชุ่มชื้น ช่วยเสริมเกราะป้องกันผิวให้มีความแข็งแรงได้ดีกว่าประเภทอื่น ๆ และโอกาสเสี่ยงที่จะก่อให้เกิดอาการแพ้หรือระคายเคืองก็มีค่อนข้างน้อย เพราะมีความใกล้เคียงกับผิวมาก ๆ
2. พิจารณาจากปริมาณของเซราไมด์ในผลิตภัณฑ์
สำหรับการซื้อผลิตภัณฑ์บำรุงผิวไม่ว่าจะในรูปแบบใดก็ตามส่วนใหญ่แล้วบนฉลากมักจะไม่ได้บอกสัดส่วนของสารสกัดหรือส่วนผสมอย่างแน่ชัด ดังนั้นวิธีการดูและสังเกตง่าย ๆ ว่าส่วนผสมหรือสารสกัดที่เราต้องการมีปริมาณมากหรือน้อยเพียงใดให้ดูจากลำดับของส่วนผสมหรือสารสกัดถ้าหากอยู่ในลำดับต้น ๆ ก็ถือว่ามีปริมาณของสารสกัดที่ค่อนข้างสูง ซึ่งสกินแคร์ที่มีปริมาณเซราไมด์สูงจะช่วยปลอบประโลมและเสริมสร้างปราการผิวรวมถึงเสริมเกราะป้องกันผิวให้มีความแข็งแรง ลดโอกาสเสี่ยงของการเกิดอาการแพ้หรือระคายเคืองผิวทำให้ผิวไม่อ่อนแอต่อปัจจัยต่าง ๆ ที่อาจทำให้ผิวเกิดอาการแพ้ได้
3. เลือกผลิตภัณฑ์เซราไมด์ที่มีส่วนผสมของ Anti-Aging
เนื่องจากเซราไมด์จะสามารถทำงานร่วมกับสารสกัดในกลุ่มที่จะช่วยต่อต้านริ้วรอย หรือ Anti-Aging ได้เป็นอย่างดี หากผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีส่วนผสมของเซราไมด์เป็นหลักไม่ว่าจะเป็นไอเทมรูปแบบใดก็ตามและยังมีส่วนผสมเสริมที่อยู่ในหมวดหมู่ช่วยต่อต้านริ้วรอย อาทิ เช่น อนุพันธ์วิตามินซีและอี ที่มีคุณสมบัติในการช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ หรือ เรตินอล (Retinol) ซึ่งเป็นอนุพันธ์วิตามินเอ ซึ่งจะทำหน้าที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพหรือตายแล้วให้หลุดออกตามธรรมชาติ เมื่อส่วนผสมในกลุ่มต่อต้านริ้วรอยมาทำงานร่วมกับเซราไมด์จะทำให้ผลิตภัณฑ์มีประสิทธิภาพในการดูแล ฟื้นฟู บำรุงและกู้ผิวให้มีสุขภาพดีได้มากขึ้น
4. พิจารณาจากสารสกัดอื่น ๆ ที่ช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ผิว
สำหรับข้อสุดท้ายสำหรับ วิธีการเลือกสกินแคร์เซราไมด์ คือการเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารที่จะช่วยเติมความชุ่มชื้นให้กับผิว อาทิ เช่น ไฮยาลูรอน (Hyaluronic Acid) คอลลาเจน ที่มีคุณสมบัติในการรักษาและคงความชุ่มชื้นของผิวทำให้ผิวมีความชุ่มชื้น อิ่มน้ำ เด้งฟู ซึ่งเมื่อมาผสานพลังกับเซราไมด์จะทำให้ผิวได้รับการเติมเต็มความชุ่มชื้นอย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยเสริมเกราะป้องกันผิวและเสริมสร้างปราการผิวให้มีความแข็งแรง เพราะปัญหาผิวแห้งกร้านขาดน้ำ คือสัญญาณของปัญหาผิวต่าง ๆ ที่จะตามมาทั้งผื่น คัน ผิวแห้งลอก ริ้วรอย ตีนกา ดังนั้นเมื่อผิวมีความชุ่มชื้นอย่างเพียงพอก็จะช่วยลดโอกาสเสี่ยงที่จะเกิดปัญหาต่าง ๆ ของผิวหน้าได้นั่นเองค่ะ
และนี่ก็เป็น วิธีเลือกสกินแคร์เซราไมด์ ที่ TAP BEAUTY ได้รวบรวมมาฝาก ! บอกเลยว่าเซราไมด์เป็นอีกหนึ่งสารสกัดสำคัญที่ได้รับความนิยมอันดับต้น ๆ ในการเลือกมาเป็นส่วนผสมในสกินแคร์บำรุงผิว เพื่อบำรุงฟื้นฟูผิวให้มีความแข็งแรงสุขภาพดี สำหรับใครที่รู้สึกว่าผิวมีความบอบบางอ่อนแอแพ้ง่ายหรืออยากดูแลผิวให้มีความแข็งแรง ขอแนะนำเลยว่าสกินแคร์ที่มีส่วนผสมของเซราไมด์เป็นตัวเลือกที่ดีแน่นอนค่ะ
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
10 เซรั่มรักษาฝ้า กระ จุดด่างดำ รับประกันใช้แล้วผิวสวย หน้าใส ไร้ฝ้ากวนใจ
7 เซรั่ม Niacinamide เผยหน้าใส ห่างไกลสิว ผิวเรียบเนียน รูขุมขนกระชับ !
10 เซรั่มปลูกผม ยี่ห้อไหนดี แก้ผมร่วง ผมบาง หัวล้าน เร่งผมยาวเร็ว ได้ผลจริง !
ที่มา : my-best
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!