ปัญหาเท้าเหม็น กลิ่นเท้าไม่พึงประสงค์ หนึ่งในปัญหาที่ทำให้หลาย ๆ คนไม่กล้าถอดรองเท้าในที่สาธารณะ เพราะเป็นอันหวั่น กลัวคนอื่นจะเดือดร้อนทุกที ที่จริงแล้ว การดูแลรักษาเท้าของเรา ก็เป็นอีกหนึ่งสุขลักษณะอนามัยของเรา ที่ควรจะรักษาความสะอาดไว้อยู่เสมอ ๆ เพื่อป้องกันกลิ่นไม่พึงประสงค์นั่นเอง บทความนี้ จะพาไปดูสาเหตุของเท้าเหม็น และ วิธีป้องกันเท้าเหม็น ทำยังไงให้เท้าสะอาด ปลอดภัย ไร้กลิ่นเหม็น
เท้ามีกลิ่นเกิดจากอะไร?
สาเหตุส่วนใหญ่ของเท้าเหม็น กลิ่นเท้าไม่พีงประสงค์ คือ แบคทีเรียและเหงื่อ ที่ออกมาบริเวณเท้าของเรา เพราะเท้ามีต่อมเหงื่ออยู่เป็นจำนวนมาก และผลิตเหงื่อออกมามาในสภาวะแวดล้อมที่แตกต่างกันออกไป เช่น อากาศร้อน อากาศอบอ้าว อากาศชื้น เป็นต้น แบคทีเรียที่อยู่บริเวณเท้า จะทำการย่อยสารในเหงื่อจนทำให้เกิดกลิ่นเหม็น ซึ่งกลิ่นไม่พึงประสงค์เหล่านี้ ก็จะสะสมอยู่บริเวณเท้า ถุงเท้า และรองเท้าที่เราสวมใส่นั่นเอง
วิธีป้องกันเท้าเหม็น เท้าเหม็นป้องกันได้ยังไง?
การป้องกันโรคเท้าเหม็น กับการลดอาการเท้าเหม็น จำเป็นต้องทำควบคู่กันไป โดยทั่วไปแล้วความสะอาดเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งสามารถทำได้หลายแบบ ดังนี้
-
การรักษาสุขลักษณะอนามัยให้เท้า
การทำความสะอาดเท้า และรักษาให้เท้าสะอาดอยู่เสมอ สามารถทำได้ด้วยการล้างเท้าด้วยสบู่ และเช็ดให้แห้งเป็นประจำทุกวัน เพื่อช่วยป้องกันความเปียกชื้นเมื่อเราสวมใส่รองเท้า เพราะความเปียกชื้นเป็นแหล่งที่อยู่ของแบคทีเรีย และแบคทีเรียเจริญเติบโตได้ง่าย
2. หลีกเลี่ยงการใส่รองเท้าที่รัดจนเกินไป
ฟังดูแล้วอาจจะงง ว่าทำไมการสวมใส่รองเท้าที่คับ แน่น จะทำให้เกิดกลิ่นเท้าได้ นั่นก็เพราะว่า การใส่รองเท้าที่เล็กเกินไป รัดจนเกินไป จะทำให้เกิดเหงื่อได้ง่ายมากกว่า และเมื่อเกิดเหงื่อแล้ว ก็ส่งผลให้เกิดการสะสมของแบคทีเรียต่าง ๆ ที่อยู่บริเวณเท้า ทำให้เกิดอาการเท้าเหม็นได้นั่นเอง
3. ตัดเล็บเท้าให้สั้น
การรักษาซอกเล็บเป็นสิ่งสำคัญ การทำความสะอาด และการตัดเล็บเท้าให้สั้นอยู่เสมอ จะช่วยลดการสะสมของแบคทีเรีย ที่สะสมอยู่ในเล็บได้ นอกจากนี้เรายังควรขัดเท้า กำจัดเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วออก เพราะผิวหนังที่ตายแล้วเหล่านั้น จะทำให้เกิดเป็นแหล่งสะสมของแบคทีเรียได้
4. หลีกเลี่ยงการใส่รองเท้าร่วมกับคนอื่น
แน่นอนว่าเหงื่อของคนเรา มีแบคทีเรียและสิ่งสกปรกสะสมอยู่ และเมื่อสวมใส่รองเท้าแล้วมีเหงื่อออก รองเท้าคู่นั้นก็จะมีแบคทีเรียสะสมอยู่ หากเราใส่รองเท้าร่วมกับคนอื่น ก็จะเป็นการรับเชื้อที่สะสมอยู่ได้ อีกทั้งเรายังอาจเป็นตัวแพร่กระจายเชื้อ จากคนหนึ่งไปยังอีกคนหนึ่งได้ง่าย
5. หลีกเลี่ยงการใส่รองเท้าคู่เดิมติดต่อกันหลายวัน
การสวมใส่รองเท้าคู่เดิม ติดต่อกันเป็นเวลาหลายวัน เป็นการเพิ่มโอกาสของการสะสมแบคทีเรียได้ เพราะความเปียกชื้นที่ยังคงอยู่ ทำให้เกิดกลิ่นได้ง่าย วิธีป้องกันคือการหลีกเลี่ยงการใส่รองเท้าคู่เดิม ติดต่อกันหลายวัน ง่าย ๆ เพียงแค่เปลี่ยนคู่ ไปใส่คู่อื่นบ้าง เพื่อให้รองเท้าได้แห้งสนิทและปราศจากความชื้น ก่อนกลับมาใส่อีกครั้ง
6. ใช้ผลิตภัณฑ์ลดเหงื่อ
ปัญหากลิ่นเท้า มีสาเหตุมาจากการเกิดเหงื่อ ดังนั้นการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยลดเหงื่อ จะช่วยแก้ปัญหาตั้งแต่ต้นเหตุ โดยสามารถใช้ฉีดลงไปในรองเท้า ทิ้งไว้ให้แห้งก่อนใส่ เพียงแค่นี้ก็จะช่วยลดการเกิดการสะสมของแบคทีเรียได้แล้ว หรือ ถ้าอยากประหยัดงบ ลองนำแป้งเด็กมาโรยก่อนสวมใส่ เพียงเท่านี้ก็ช่วยได้แล้ว
7. กำจัดกลิ่นในรองเท้าด้วยเบคกิ้งโซดา
เบคกิ้งโซดา เป็นสิ่งที่หาได้ง่ายตามห้างและร้านขายทั่วไป อีกทั้งยังมีประโยชน์มากมายหลายอย่าง หนึ่งในนั้นก็คือการระงับกลิ่น ลองนำเบคกิ้งโซดาใส่ลงไปในที่กรองกาแฟแล้วปิดปากถุง จากนั้นนำไปวางไว้ในรองเท้าข้างละ 1 ซอง แล้วทิ้งไว้ข้ามคืน ก่อนนำมาสวมใส่
8. ทำความสะอาดรองเท้าเป็นประจำ
การทำความสะอาดรองเท้า จะช่วยขจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ที่ติดอยู่กับรองเท้าได้ โดยเฉพาะรองเท้าผ้าใบ หรือ รองเท้าที่มีการสะสมของการอับชื้น ทำความสะอาดแล้วตากเอาไว้ให้แห้งสนิท ย้ำว่าต้องแห้งสนิทเท่านั้น ก่อนนำไปใส่ ไม่อย่างนั้นความชื้นที่ติดอยู่ อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดกลิ่นได้
9. เลือกถุงเท้าที่เหมาะ
รองเท้าบางประเภท จำเป็นต้องสวมใส่ควบคู่ไปกับถุงเท้า เช่น รองเท้าหนัง รองเท้าผ้าใบ เป็นต้น เนื่องจากรองเท้าเหล่านั้น ระบายความชื้นได้ยาก และนั่นอาจเป็นปัญหาของกลิ่นเท้าไม่พึงประสงค์ได้ ดังนั้น ควรเลือกถุงเท้าที่ผลิตจากวัสดุจากธรรมชาติอย่างผ้าฝ้าย ผ้าขนสัตว์ หรือ เลือกซื้อถุงเท้าที่มีคุณสมบัติในการยับยังการเกิดเชื้อแบคทีเรีย เป็นต้น
10. เปลี่ยนถุงเท้าบ่อย ๆ
การรักษาความสะอาดของถุงเท้า ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญ ที่ช่วยลดการเกิดกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ได้ เพราะการสวมใส่ถุงเท้าคู่เดิมบ่อย ๆ จะทำให้เกิดการอับชื้น จนกลายเป็นแหล่งสะสมของแบคทีเรียได้
เท้าเหม็นอันตรายยังไง?
การสะสมของแบคทีเรีย สิ่งสกปรก และความชื้นที่บริเวณเท้า อาจทำให้เกิดการติดเชื้อ ที่บริเวณผิวหนังที่เท้าได้ เช่น โรคน้ำกัดเท้า หรือ ฮ่องกงฟุต ซึ่งเกิดจากการติดเชื้อรา ส่งผลให้มีอาการคัน เท้าลอก แท้าแตก และมีกลิ่น ซึ่งถ้ามีการติดเชื้อแล้ว จำเป็นต้องได้รับการรักษา เพื่อป้องกันการติดเชื้ออื่น ๆ ที่อาจตามมาได้
นอกจากนี้ บางคนยังมีภาวะเหงื่อออกมากผิดปกติ ทำให้เป็นตัวกระตุ้นให้เกิดการผลิตเหงื่อมากเกินไป จนเกิดความอับชื้น และสะสมของแบคทีเรียได้เช่นกัน
กลิ่นเท้าที่ไม่พึงประสงค์ เท้าเหม็น ก็อาจทำให้ใครหลาย ๆ คนสูญเสียความมั่นใจได้ แต่เราสามารถป้องกัน และลดปัญหากลิ่นเท้าได้จากต้นเหตุ ซึ่งหากเรารู้จักวิธีป้องกันที่ดี ก็จะช่วยให้ปัญหาเหล่านี้หมดไปได้ ลองนำวิธีต่าง ๆ ที่เรานำมาฝากกันวันนี้ไปลองใช้กันดูนะคะ
ที่มาข้อมูล pobpad
บทความที่นาสนใจ
เรื่องกลิ่นเท้า เรื่องใหญ่ รวม 5 สมุนไพรดับกลิ่นเท้า กลิ่นอับ กลิ่นเหม็น
10 วิธีทำให้รองเท้าหายเหม็น รองเท้าเหม็น ซักยังไงก็ไม่หาย เคล็ดลับแม่บ้าน
ดับกลิ่นตู้เย็น หมดกังวลเรื่องกลิ่นเหม็น! 10 วิธีกำจัดกลิ่นเหม็นในตู้เย็น
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!