การเข้าโรงเรียนสาธิต นับว่าเป็นความฝันของหลายๆครอบครัวเลยใช่ไหมคะ วันนี้มาดู แชร์ประสบการณ์ สอบเข้าสาธิต ติวลูกเข้าสาธิตเอง จากแม่ฝน โรงเรียนสาธิตเกษตร กันดีกว่าค่ะ!
แชร์ประสบการณ์ ติวลูกเข้าสาธิตเอง จากแม่ฝน สอบเข้าสาธิต
การเข้าโรงเรียนสาธิต นับว่าเป็นความฝันของหลายๆครอบครัวเลยใช่ไหมคะ เพราะโรงเรียนสาธิตในความคิดของทุกคนนั้นต้องเป็นโรงเรียนที่เน้นวิชาการ และ โรงเรียนสาธิตเป็นโรงเรียนอันดับต้นๆ โรงเรียนที่คุณพ่อคุณแม่หลายๆ ท่านอยากที่อยากจะให้บุตรหลานของตนได้เข้าไปเรียนเพราะเป็นที่ยอมรับกันในสังคมถึงมาตรฐานทางด้านวิชาการ วันนี้เรามาอ่าน แชร์ประสบการณ์ ติวลูกเข้าสาธิตเอง จากแม่ฝน โรงเรียนสาธิตเกษตร
ติวลูก เข้า สาธิตเอง จากแม่ฝน โรงเรียน สาธิตเกษตร
โรงเรียนสาธิตคืออะไร?
โรงเรียนสาธิต คือ โรงเรียนที่เป็นตัวอย่างหรือเป็นแปลงทดลอง สำหรับนิสิต-นักศึกษา ที่เรียนวิชาชีพครู โดยที่มีคณะครุศาสตร์หรือคณะศึกษาศาสตร์เป็นผู้ดูแลด้วยเหตุนี้จึงทำให้ผู้ปกครองให้ความเชื่อถือและยอมรับ ซึ่งในแต่ละปีโรงเรียนในเครือสาธิตจึงมียอดผู้เข้าสอบนับพันคน แม้ว่าโรงเรียนจะสามารถรองรับเด็กได้เพียงหลักร้อยเท่านั้น
บทความที่เกี่ยวข้อง : ลูกพร้อมเรียนกวดวิชาหรือไม่ ชวนคุณพ่อคุณแม่มาเช็กลิสต์กัน!
แชร์ประสบการณ์ติวลูกสอบเข้าเองจากแม่ฝน
ติวลูก เข้า สาธิตเอง จากแม่ฝน โรง เรียน สาธิตเกษตร
แม่ฝน เป็นคุณแม่สุดตรอง ที่เลี้ยงและติวลูกสอบเข้าสาธิตเกษตรได้เอง วันนี้เรามาดูเคล็ดลับของแม่ฝนกันเลยดีกว่า ค่ะ แม่ฝนเปิดเผยกับ เราว่า แม่ฝนได้เลือก โรงเรียนสาธิตเกษตร ตั้งแต่มีน้องข้าวฟ่าง อยู่ในท้อง โดยตอนแรกแม่ฝนสับสนระหว่างโรงเรียนสาธิต กับ โรงเรียนนานาชาติ แต่แม่ฝนก็คิดในใจว่าถ้าลูกเราได้เรียนโรงเรียนสาธิต เรื่องของหลักสูตรก็น่าจะมีความแตกต่าง
โดยหลังจากน้องข้าวฟ่างเกิด แม่ฝนมีวิธีการติวที่ค่อนข้างปล่อยให้น้องข้าวฟ่างได้เรียนรู้จากของเล่น เพราะแม่ฝนเผยว่า ปัจจุบันของเล่นที่มีขายตามท้องตลาดนั้น สามารถส่งเสริม IQ EQ เรียกได้ว่าเป็นของเล่นเสริมพัฒนาการ ให้ลูกได้ค่อนข้างเยอะ อย่างเช่น บล็อกไม้ต่อบ้าน เลโก้ รวมถึงหนังสือคำศัพท์ต่างๆ
ติวลูก เข้า สาธิตเอง จากแม่ ฝน โรง เรียน สาธิตเกษตร
รวมถึง แม่ฝน ก็ได้พูดคุยกับลูกถึงบรรยากาศในห้องสอบว่า ให้ตั้งใจฟังคำสั่งของคุณครู ฟังคุณครูอ่านโจทย์ให้จบก่อนแล้วจึงกาคำตอบลงในกระดาษคำตอบที่ได้รับ ถ้าไม่ได้ยินโจทย์หรือได้ยินไม่ชัดเจนให้ ยกมือขึ้นถามคุณครูอีกครั้ง ถ้าเกิดดินสอหักหรือเกิดปัญหาใด ๆ ก็ตาม เช่น ปวดท้องหรือต้องการเข้าห้องน้ำก็ให้ยกมือบอกคุณครูทันที อย่ารอจนสอบเสร็จ อีกสิ่งหนึ่งที่แม่ฝนเผยว่าเป็นข้อดี สำหรับแม่ๆที่ควรจำไว้คือ พ่อแม่ ควรสอนให้ลูกอ่านออกเขียนได้ เพราะน้องข้าวฟ่าง นั้นบางข้อก็ฟังคุณครูไม่ทันเหมือนกัน แต่พออ่านออกก็สามารถทำข้อนั้นได้ เพราะฉะนั้นอย่าลืมเตรียมความพร้อมด้านนี้ด้วย
และหนึ่งอาทิตย์ก่อนสอบ แม่ฝน ก็ได้พาน้องข้าวฟ่าง ไปเที่ยวทะเล เพื่อลดความเครียดจากการสอบ โดยปล่อยให้เขา มีอาการรีแลกซ์ และ ผ่อนคลายมากขึ้น แม่ฝนบอกว่าถ้ากดดันมากเกินไป ลูกเราเองก็อาจจะรนได้ เพราะฉะนั้นต้องอยุ่ตรงกลางให้ได้
ส่วนวันสอบ แม่ฝนได้พาน้องข้าวฟ่างไปนอนโรงแรมแถวโรงเรียน นั้นเป็นเพราะว่าจะได้ไม่เสียเวลาเดินทาง และ ลดความตึงเครียดของตอนเช้าอีกด้วย แม่ฝนเผยว่า ควรให้ลูกได้รับประทานอาหารเช้าอย่างน้อย 30 นาทีก่อนสอบ ควรรับประทานอาหารที่ย่อยง่าย เช่น โจ๊ก ข้าวต้ม นม หรือขนมปัง เป็นต้นและพาเข้าห้องน้ำให้เรียบร้อย ก่อนรายงานตัวเข้าสอบ และก่อนเข้าห้องสอบควรพูดให้กำลังใจลูก ชมและภูมิใจในตัวลูกและรักลูกมากพร้อมทั้งกอดให้กำลังใจ ขอให้ลูกทำให้ดีที่สุด ลูกทำได้แค่ไหนก็แค่นั้นไม่ต้องกังวลหรือเครียดใดๆทั้งสิ้นเพราะลูกทำดีที่สุดแล้ว พ่อกับแม่จะคอยไปกำลังใจให้ลูก
ติวลูก เข้า สาธิตเอง จากแม่ ฝน โรง เรียน สา ธิต เกษตร
และหลังจากติดแม่ฝนก็ดีใจนั้นเป็นเพราะว่าตอนแรกคาดหวังแต่ไม่กดดัน แต่พอลูกเราทำได้แม่ก็ดีใจ หลังจากได้เข้าเรียนโรงเรียนสาธิตจริงๆ แม่ฝนก็รู้สึกว่า สิ่งที่ชอบมากที่สุดในโรงเรียนนี้คือ วิชาการเขาเข้มข้นจริงๆ เด็กทุกคนได้เกรด 4 เป็นเรื่องปกติ แต่สิ่งที่ดีคือ เขาจะไม่มาบอกว่าลูกเราได้อันดับที่เท่าไหร่ แต่จะเป็นการบอกเกรดแทน นอกจากวิชาการที่แน่นแล้วกิจกรรมก็เข้มข้นสุดๆ เพราะน้องข้าวฟ่างได้ทำกิจกรรมหลากหลายจากโรงเรียนนี้ ไม่ว่าจะเป็นเต้น รำ การแสดง โรงเรียนนี้ก็มีให้อย่างครบครันนั้นเอง
ติวลูก เข้า สาธิตเอง จากแม่ ฝน โรง เรียน สาธิต เกษตร
แม่ฝนได้เผยเคล็ดลับเล็กๆน้อยๆเสริมมาให้อีกว่า การจะสอบเข้าโรงเรียนสาธิตเกษตร ผู้ปกครองต้องดูเกณฑ์ตามวันเกิดดีๆ เพราะ เกณฑ์คัดเลือกจากอายุนั้นเป็นอะไรที่จะสับสนได้ง่ายเพราะฉะนั้นต้องติดตามจากเว็บไซต์โรงเรียนบ่อยๆ นะคะ และ เกณฑ์ที่โรงเรียนสาธิตเกษตรได้ทำการคัดเลือกก็ได้แก่ กลุ่มบุคคลทั่วไป 130 คน แบ่งเป็น 2 กลุ่ม ตามช่วงอายุ คือกลุ่มเด็กเล็กอายุ 5 ปี 6 เดือน ถึง 5 ปี 11 เดือน และกลุ่มเด็กโตอายุตั้งแต่ 6 ปี ถึง 6 ปี 6 เดือน โดยคำนวณจากอัตราส่วนผู้สมัครในแต่ละกลุ่มอายุ และเรียงลำดับคะแนนสูงสุดลงมาจนถึงจำนวนที่ต้องการรับในแต่ละกลุ่ม รวมถึงการพิจารณาให้มีสัดส่วนของเด็กชายและเด็กหญิงที่ใกล้เคียงกัน
นอกจากนี้ การเล่นของเล่น สำคัญมาก แต่ต้องเป็นของเล่นที่เสริมพัฒนาการลูกของเรา เช่น บล็อกไม้ เลโก้ หนังสือการ์ตูน
อีกหนึ่งวิธีที่จะได้ผลมากๆ สำหรับหลายๆคนคือการดาวน์โหลดข้อสอบเก่ามาให้ลูกทำ ก็จะดีเหมือนกันเพราะพ่อแม่ก็จะเห็นแนวทางและจะได้รู้ว่าควรไกด์ลูกไปในทิศทางไหน
การสอบเข้าโรงเรียนสาธิตนับว่าเป็นสนามสอบที่ใหญ่มากสำหรับเด็กในระดับอนุบาล การสอบได้หรือไม่ได้นั้นไม่ใช่เครื่องชี้วัดว่าลูกของคุณเก่งหรือไม่เก่ง เพราะการสอบเป็นเพียงด่านแรกของลูกที่จะก้าวสู่โลกภายนอกและเป็นประสบการณ์หนึ่งของลูกเท่านั้น แม้ว่าลูกของคุณจะพลาดโอกาสสอบไม่ได้ก็ตาม ลูกของคุณก็สามารถประสบความสำเร็จในชีวิตได้เช่นกัน อย่าลืมว่าโรงเรียนสาธิตเป็นเพียงหนึ่งทางเลือกเท่านั้นสำหรับลูกของคุณ ยังมีโรงเรียนที่ดีและเหมาะสมกับลูกของคุณอีกมากเพราะฉะนั้นอย่ากดดันจนเกินไป
บทความอื่นๆที่น่าสนใจ :
เปิดใจ “คุณแม่ปู” คุณแม่สายเฮลตี้ อยากแข็งแรง จะได้อยู่กับลูกไปนาน ๆ
” สอง บทบาทแม่ ในร่างเดียว ” แม่แนน ร่วมแชร์ การเป็นแม่และแม่พิมพ์ของชาติ
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!