รู้หรือไม่ว่า วิธีกินแมคคาเดเมีย ให้เหมาะสม นั้นจะต้องกินปริมาณเท่าไหร่ถึงจะดีต่อสุขภาพ อีกทั้ง เราจะพาไปไขข้อสงสัยกันว่า คนท้องกินแมคคาเดเมียได้ไหม สามารถกินได้เหมือนคนทั่วไปหรือไม่ รวมถึง การรับประทานแมคคาเดเมียจะช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นโรคเบาหวานได้ เราจะมาไขข้อสงสัยเราเหล่านี้ไปพร้อม ๆ กันค่ะ ถ้าพร้อมแล้วมาตามไปดูพร้อมกันเลย
วิธีกินแมคคาเดเมีย กินอย่างไร ถึงจะดีต่อสุขภาพ
แมคคาเดเมีย เรียกได้ว่าเป็นธัญพืชที่เปี่ยมไปด้วยประโยชน์มากมายที่ดีต่อสุขภาพ เช่น ช่วยลดคอเลสเตอรอล ช่วยลดอาการท้องผูก ช่วยเสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรง และยังถือเป็นแหล่งโปรตีนที่สำคัญของร่างกายอีกด้วย หลาย ๆ คนอาจจะชอบรับประทานแมคคาเดเมียเป็นของว่างทานเล่น
การรับประทานแมคคาเดเมียให้ปลอดภัยต่อสุขภาพ แนะนำให้รับประทานเพียงแค่ 1 กำมือ หรือ 40 กรัม นะคะ ถือเป็นปริมาณที่เหมาะสม เนื่องจากถ้าหากรับประทานในปริมาณที่มากกว่านี้ อาจจะทำให้ร่างกายนั้นได้รับปริมาณแคลอรีที่สูงไปด้วย เนื่องจากแมคคาเดเมียนั้นมีปริมาณแคลอรีที่สูงมาก จึงไม่ควรรับประทานในปริมาณที่เยอะเกินไป เพื่อความปลอดภัยต่อสุขภาพ
แต่ถ้าหากใครที่มีอาการแพ้แมคคาเดเมีย หรือประวัติการแพ้ถั่ว ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานโดยเด็ดขาด เพราะอาจจะไปกระตุ้นให้อาการแพ้กำเริบได้ และถ้าหากใครที่มีโรคประจำตัว และต้องการรับประทานแมคคาเดเมีย แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนรับประทานนะคะ เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดอาการแทรกซ้อนต่าง ๆ ตามมา
คนท้องกินแมคคาเดเมียได้ไหม?
แมคคาเดเมีย ถือเป็นธัญพืชที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพร่างกายมากมายในหลาย ๆ ด้าน สำหรับคนทั่วไป แต่ก็มีหลาย ๆ คนได้เกิดข้อสงสัยกันว่า คนท้องกินแมคคาเดเมียได้ไหม คำตอบคือ คนท้องกินแมคคาเดเมียได้นะคะ แต่อาจจะต้องรับประทานแมคคาเดเมียในปริมาณที่เหมาะสม ไม่อย่างนั้นอาจจะทำให้ก่อเกิดอันตรายต่าง ๆ ต่อสุขภาพขึ้นได้ แล้วก็ไม่ควรใช้แมคคาเดเมียในการใช้เป็นยารักษานะคะ เพราะยังไม่มีหลักฐานยืนยันในเรื่องความปลอดภัยสำหรับคนท้อง
ดังนั้น จึงควรหลีกเลี่ยงการที่จะนำมาใช้เป็นยารักษานะคะ เพื่อความปลอดภัยของแม่ท้องและทารกในครรภ์ หรือถ้าหากจะนำมาใช้งาน หรืออยากจะรับประทาน ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนทุกครั้งนะคะ
กินแมคคาเดเมียช่วยลดความเสี่ยงเป็นโรคเบาหวานได้จริงไหม?
การรับประทานแมคคาเมีย อาจมีส่วนช่วยในการป้องกันการเกิดโรคเบาหวานประเภทที่ 2 ได้ เนื่องจากแมคคาเดเมียนั้นมีคุณสมบัติในการช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในระดับปกติ นอกจากนี้ ยังได้มีงานวิจัยที่ทดลองกับหนูที่เป็นโรคเบาหวาน พบว่า หนูที่รับประทานถั่วแมคคาเดเมียร่วมกับการออกกำลังกาย นั้นจะสามารถลดระดับค่าน้ำตาลที่สะสมได้มากกว่าหนูที่ออกกำลังกายเพียงอย่างเดียวค่ะ
บทความที่เกี่ยวข้อง : เบาหวานประเภท 2 สัญญาณเริ่มต้นของโรคเบาหวานประเภท 2 คืออะไร?
แจกสูตร เมนูแมคคาเดเมีย อร่อยเด็ด ทำทานง่าย ๆ ได้ที่บ้าน
เค้กคาราเมลแมคคาเดเมีย
วัตถุดิบทำเนื้อเค้ก
- แป้งอเนกประสงค์ 150 กรัม
- ผงฟู 1 ช้อนชา
- เกลือ ¼ ช้อนชา
- เนยละลาย 100 กรัม
- นมสด 50 มิลลิลิตร
- น้ำร้อน 30 มิลลิลิตร
- ผงกาแฟ 1 ช้อนโต๊ะ
- ไข่ไก่ 3 ฟอง
- น้ำตาลทราย 80 กรัม
วัตถุดิบทำซอสคาราเมล
- น้ำตาลทราย 150 กรัม
- น้ำเปล่า 20 กรัม
- วิปปิ้งครีม 100 มิลลิลิตร
- เนยจืด 60 กรัม
- ถั่วแมคคาเดเมียสับหยาบ 100 กรัม
วิธีทำ
- สำหรับขั้นตอนแรกเริ่มด้วยการร่อนวัตถุดิบของแห้งเข้าด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น แป้งอเนกประสงค์, ผงฟู และเกลือ จากนั้นก็นำไปพักไว้
- ขั้นตอนต่อมา ให้นำผงกาแฟมาใส่ในน้ำร้อน จากนั้นก็คนส่วนผสมให้เข้ากัน แล้วพักทิ้งไว้
- ตอกไข่ไก่ใส่ลงในภาชนะ จากนั้นก็ใส่น้ำตาลทรายลงไป แล้วก็ทำการตีส่วนผสมให้เข้ากัน ทำการตีจนส่วนผสมฟูจนตั้งยอดเลยนะคะ
- จากนั้นก็นำเนยที่ละลายไว้ ใส่นมสด กาแฟที่พักไว้ และของแห้งที่ร่อนไว้ จากนั้นก็ตี ให้พอเข้ากัน และนำไปใส่ถุงบีบ
- จากนั้นก็นำส่วนผสมบีบลงในพิมพ์ และนำเข้าเตาอบด้วยอุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 15 นาที
- ขั้นตอนต่อมาจะเป็นการทำซอสคาราเมลสำหรับราด นำหม้อขึ้นตั้งไฟ จากนั้นก็ใส่น้ำตาล และน้ำเปล่าลงไป แล้วรอจนน้ำตาลละลาย จากนั้นใส่วิปปิ้งครีม และเนยจืดตามลงไป แล้วก็คนส่วนผสมให้เข้ากัน แล้วก็ใส่แมคคาเดเมียที่สับหยาบลงไป ก็เป็นอันเสร็จสิ้น
- นำเค้กที่อบเสร็จแล้วออกมา แล้วก็นำคาราเมลไปราดลงบนเค้ก เพียงเท่านี้ก็จะได้เค้กคาราเมลแมคคาเดเมียอร่อย ๆ ไว้รับประทานแล้วค่ะ
วิดีโอจาก : Wongnai
ชีสเค้กคาราเมลแมคคาเดเมีย
วัตถุดิบฐานแคร็กเกอร์
- แคร็กเกอร์ 110 กรัม
- น้ำตาลไอซิ่ง 1 ช้อนชา
- แป้งสาลีอเนกประสงค์ 30 กรัม
- เนยละลาย 45 กรัม
วัตถุดิบชีสเค้ก
- ครีมชีส 170 กรัม
- น้ำตาล 45 กรัม
- น้ำเลม่อน 1 ช้อนโต๊ะ
- ไข่ไก่ 1 ฟอง
- แป้งข้าวโพด 4 กรัม
- วิปปิ้งครีม 60 กรัม
- เกลือป่น 1/8 ช้อนชา
วัตถุดิบซอสคาราเมลท็อปปิ้ง
- น้ำตาลทราย 110 กรัม
- น้ำเปล่า 40 กรัม
- วิปปิ้งครีม 60 กรัม
- เนย 30 กรัม
- แมคคาเดเมีย 120 กรัม
วิธีทำ
- นำแครกเกอร์มาบดให้ละเอียด จากนั้นพอบดละเอียดแล้ว ก็นำไปใส่ในภาชนะ จากนั้นก็ใสแป้งสาลีอเนกประสงค์ตามลงไป แล้วก็น้ำตาลทราย จากนั้นก็ใช้ไม้พายคนส่วนผสมให้เข้ากัน
- ขั้นตอนต่อมาก็ใส่เนยละลายลงไปในส่วนผสมแห้งที่เตรียมไว้ แล้วก็คนให้เข้ากันจนให้มีลักษณะเป็นทรายเปียก ๆ จากนั้นก็เทใส่ลงไปในพิมพ์ที่เป็นรูปทรงวงกลม แล้วก็นำไปอบที่อุณหภูมิ 160 องศา เป็นเวลา 10 นาที
- ขั้นตอนต่อ นำครีมชีสใส่ลงไปในภาชนะ จากนั้นก็ใช้ตะกร้อไฟฟ้าตีให้ครีมชีสอ่อนตัวลง จากนั้นก็ใส่น้ำตาลทรายลงไป แล้วก็ทำการตีให้เข้ากัน
- ขั้นตอนต่อมาเตรียมวิปปิ้งครีมไว้ และใส่แป้งข้าวโพดลงไป แล้วก็ใช้ช้อนคนให้แป้งข้าวโพดละลาย จากนั้นก็นำไปเทใส่ลงครีมชีสที่เตรียมไว้ แล้วก็ใส่ไข่ไก่ลงไป 1 ฟอง แล้วก็คนให้เข้ากัน และใส่น้ำเลม่อนลงไป ตามด้วยกลิ่นวานิลลา และเกลือป่น และตีส่วนผสมให้เข้ากัน
- จากนั้นก็นำฐานที่อบไว้ออกมา และเทส่วนผสมชีสเค้กที่เตรียมไว้ลงไป และนำเข้าไปอบต่อที่อุณหภูมิ 120 องศา ประมาณ 30 – 35 นาที เสร็จแล้วก็นำออกมาพักไว้ให้คลายร้อน
- จากนั้นก็จะเป็นขั้นตอนการทำคาราเมลแมคคาเดเมีย เตรียมหม้อมาไว้ และใส่น้ำตาลทราย และน้ำเปล่าลงไป แล้วก็คนให้เข้ากัน และนำไปตั้งเตา และเคี่ยวไปเรื่อย ๆ จนเป็นสีน้ำตาลคาราเมล จากนั้นก็ใส่วิปปิ้งครีมลงไป แล้วก็ใช้ไม้พายคนให้เข้ากัน และใส่เนยสดตามลงไป คนให้ละลาย ตามด้วยเกลือป่น และแมคคาเดเมียลงไป จากนั้นก็คนส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน
- จากนั้นก็นำชีสเค้กที่อบเสร็จแล้วออกมาจากเตา และนำซอสคาราเมลราดลงไปบนชีสเค้ก จากนั้นก็นไปแช่ตู้เย็นให้เค้กเช็ตตัว แล้วก็นำออกจากพิมพ์ และตัดแบ่งรับประทานได้เลย
วิดีโอจาก : VIPS Station
เป็นอย่างไรกันบ้างคะ สำหรับข้อมูลที่เรานำมาฝากกันวันนี้ สำหรับใครที่ยังไม่เคยลองทานแมคคาเดเมีย ลองไปเลือกซื้อมาทานกันดูนะคะ ราคาไม่แพง แถมยังมีประโยชน์ที่อัดแน่นเต็มเม็ด รสชาติอร่อย หวานมัน เคี้ยวเพลินสุด ๆ หรือจะลองนำสูตรขนมที่เรานำมาฝากไปลองทำทานกันได้นะคะ เพราะแมคคาเดเมียทานกับอะไรก็อร่อย และเราก็ได้มาคลายข้อสงสัยให้เหล่าคุณแม่ท้องได้ทราบกันแล้วนะคะว่าสรุปแล้ว คนท้องกินแมคคาเดเมียได้ไหม สรุปแล้วก็คือทานนะคะ เพียงแค่จะต้องรับประทานในปริมาณที่เหมาะสมนั่นเองค่ะ หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ให้สำหรับทุกคนนะคะ
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
9 ประโยชน์ของเมล็ดเจีย (Chia Seeds) กินแล้วดีต่อสุขภาพอย่างไรบ้าง?
เมนูข้าวบาร์เลย์ ธัญพืช อร่อย ไฟเบอร์สูง ดีต่อสุขภาพ ที่สายกินไม่ควรพลาด
ข้าวโพดมีประโยชน์ต่อสุขภาพอย่างไร เด็กเล็กกินข้าวโพดได้ไหม ?
ที่มา : sanook, pueasukkapab, pobpad