คุณพ่อคุณแม่ทุกคนคงเห็นพ้องต้องกันว่า ไม่ว่าจะในสถานที่ใด ความปลอดภัยของลูกน้อยเป็นสิ่งสำคัญที่สุด โดยเฉพาะในระหว่างการเดินทาง ซึ่งหนึ่งในวิธีการดูแลความปลอดภัยของลูกน้อยขณะเดินทางก็คือ การเลือกใช้คาร์ซีทที่เหมาะสม แต่สำหรับคุณพ่อคุณแม่ชาวไทยบางครอบครัว การใช้คาร์ซีทอาจดูเป็นเรื่องยุ่งยากเนื่องจากกฎหมายเรื่องการใช้คาร์ซีทเพิ่งมีการบังคับใช้ได้ไม่นานนัก อาจยังขาดความเข้าใจในหลักการพื้นฐานอยู่บ้าง ดังนั้น วันนี้ theAsianparent จะชวนมาทำความรู้จักคาร์ซีท รวมถึง วิธีเลือกซื้อ คาร์ซีทสำหรับเด็ก คู่มือฉบับสมบูรณ์สำหรับคุณพ่อคุณแม่ชาวไทย
สารบัญ
“คาร์ซีท” คืออะไร ทำความรู้จัก คาร์ซีทสำหรับเด็ก
คาร์ซีท (Car seat) คือ อุปกรณ์ที่ออกแบบมาสำหรับเด็กโดยเฉพาะ เพื่อให้เด็กนั่งอย่างปลอดภัยขณะเดินทางในรถยนต์ โดยจะยึดติดกับเบาะรถยนต์ มีจุดล็อกที่นั่งนิรภัย ป้องกันไม่ให้เลื่อนไหล รวมถึงมีสายคาดซึ่งทำหน้าที่เป็นเข็มขัดนิรภัย (Seat belt) ให้เด็กด้วย
เนื่องจากที่นั่งและเข็มขัดนิรภัยของรถไม่เหมาะกับสรีระของเด็ก คาร์ซีทจึงถูกออกแบบมาเพื่อช่วยรองรับร่างกายของลูกน้อยให้คงที่ในขณะเกิดอุบัติเหตุ ลดความเสี่ยงจากการบาดเจ็บร้ายแรง เช่น ศีรษะกระแทก คอหัก หรือกระดูกหัก และป้องกันการเสียชีวิต ซึ่งคุณพ่อคุณแม่สามารถใช้คาร์ซีทได้กับลูกตั้งแต่เป็นทารกไปจนถึงอายุ 12 ปี
ทำไม? ต้องใช้ คาร์ซีทสำหรับเด็ก
มีข้อมูลขององค์การอนามัยโลก พบว่า การใช้ คาร์ซีทสำหรับเด็ก ช่วยลดโอกาสการเสียชีวิตได้มากถึง 70% โดยเด็กที่นั่งด้านหน้ารถและไม่ได้ใช้ คาร์ซีทสำหรับเด็ก มีความเสี่ยงต่อการได้รับบาดเจ็บรุนแรงมากกว่าเด็กที่นั่งเบาะหลังของรถยนต์และใช้คาร์ซีทถึง 5 เท่า
นอกจากนี้ ยังมีงานวิจัยจาก National Highway Traffic Safety Administration (NHTSA) สหรัฐอเมริกา พบว่า การเลือกคาร์ซีทที่ถูกต้องก็สำคัญเช่นกัน เพราะไม่ใช่แค่ให้ลูกนั่งคาร์ซีทก็พอ แต่ผลการศึกษาพบว่าการให้ลูกนั่งคาร์ซีทที่มีขนาดไม่พอดีตัว ก็มีความเสี่ยงที่จะได้รับบาดเจ็บจากการเกิดุบัติเหตุมากถึง 2 เท่าเช่นกัน
จากผลการศึกษาข้างต้นจึงเป็นเหตุผลว่า ทำไม? ต้องใช้ คาร์ซีทสำหรับเด็ก ในขณะเดินทางด้วยรถยนต์ อย่างไรก็ตาม นอกจากเรื่องความปลอดภัย การลดความเสี่ยงจากการบาดเจ็บข้างต้นแล้ว ยังมีเหตุผลในเรื่องของ “กฎหมาย” เข้ามาเป็นปัจจัยสำคัญด้วย ซึ่งหลายประเทศมีกฎหมายบังคับให้เด็กต้องนั่งในคาร์ซีทขณะเดินทางโดยรถยนต์ รวมถึงประเทศไทยด้วยเช่นกัน
กฎหมายเกี่ยวกับข้อบังคับ เกี่ยวกับการใช้ คาร์ซีทสำหรับเด็ก |
|
พระราชบัญญัติจราจรทางบก (ฉบับที่ 13) ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 123
|
|
คาร์ซีทมีกี่แบบ วิธีเลือกซื้อ คาร์ซีทสำหรับเด็ก ให้เหมาะกับลูกน้อย
ตามหลักกฎหมายในตารางข้างต้น จะเห็นได้ว่า คาร์ซีทสำหรับเด็ก ที่กำหนดให้ใช้ได้นั้นมี 2 แบบด้วยกัน คือ ชนิดนั่งหันไปทางด้านหลังรถและชนิดนั่งหันไปทางด้านหน้ารถ กับที่นั่งพิเศษแบบไม่มีพนักพิง อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาตามการใช้งานแล้ว ต้องบอกว่าที่นั่งหรือเบาะนิรภัยสำหรับเด็กนั้นมีหลายแบบ และหลายขนาดเลยค่ะ ซึ่งคุณพ่อคุณแม่จำเป็นต้องเลือกใช้ให้เหมาะสมกับอายุ รวมถึงน้ำหนักและส่วนสูงของลูกน้อยด้วย ดังนี้
-
แบบหันหน้าเข้าหาเบาะ (Rearward Facing Seats)
เหมาะกับลูกน้อยวัยแรกเกิด – 2 ปี คาร์ซีทประเภทนี้จะสามารถปกป้องศีรษะ คอ และกระดูกสันหลังของทารกได้ดีกว่าคาร์ซีทที่หันไปด้านหน้า ซึ่งในกรณีที่คุณพ่อคุณแม่ต้องการติดตั้ง คาร์ซีทสำหรับเด็ก ไว้ตรงที่นั่งข้างคนขับ ต้องปิดการทำงานของถุงลมนิรภัยเพื่อความปลอดภัยด้วยนะคะ
-
แบบหันหน้าออกจากเบาะ (Forward Facing Seats)
เป็นคาร์ซีทที่ออกแบบให้มีสายรัดจำกัดการเคลื่อนที่ไปข้างหน้าของลูกน้อยในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ รวมถึงมีสายรัดสำหรับการยึดที่นั่งไว้ด้วย เหมาะสำหรับเด็กเล็กตั้งแต่อายุ 2-4 ปี
-
แบบเสริม (Booster Seats)
เป็นคาร์ซีทสำหรับเด็กที่มีขนาดตัวโตเกินกว่าขนาดของคาร์ซีทธรรมดา แต่ยังไม่โตพอที่จะสามารถใช้เข็มขัดนิรภัยได้เต็มที่ เหมาะกับลูกน้อยวัย 4-12 ปี เป็นคาร์ซีทที่จะช่วยเสริมก้นให้สูงขึ้น จนสามารถใช้เข็มขัดนิรภัยได้พอดี ซึ่งสายคาดควรพาดผ่านกระดูกเชิงกราน หน้าอก และไหล่ของลูก ส่วนเข็มขัดคาดเอวควรพาดผ่านอุ้งเชิงกรานโดยให้เส้นทแยงมุมอยู่เหนือไหล่ ไม่ใช่ที่คอ
วิธีเลือกซื้อ คาร์ซีทสำหรับเด็ก
เมื่อเข้าใจความสำคัญของการใช้คาร์ซีท รวมถึงทำความรู้จักคาร์ซีทแต่ละประเภทไปแล้ว สิ่งสำคัญมากอีกอย่างคือต้องรู้ วิธีเลือกซื้อ คาร์ซีทสำหรับเด็ก เพื่อให้สามารถป้องกันการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุดด้วย ซึ่งมีปัจจัยต่างๆ ที่คุณพ่อคุณแม่ต้องพิจารณา คือ
-
เลือกประเภทตามอายุ น้ำหนัก และขนาดตัวของลูก
นั่นคือเลือกตามประเภทของคาร์ซีท 3 ประเภทข้างต้น ได้แก่ แบบหันหน้าเข้าหาเบาะ แบบหันหน้าออกจากเบาะ และแบบบูสเตอร์ ดังนั้น คุณพ่อคุณแม่จึงควรเลือกซื้อให้ถูกประเภท เหมาะสมกับวัยและขนาดตัวของลูก โดยควรเลือกซื้อคาร์ซีทที่สามารถปรับให้กระชับ ไม่แน่น อึดอัด หรือหลวมเกินไป
-
เลือกจากการใช้งาน ติดตั้งถาวร หรือเคลื่อนย้ายได้
คือการพิจารณาเรื่องความถี่ของการใช้งานค่ะ ซึ่งการเลือกคาร์ซีทแบบติดตั้งถาวรจะเหมาะกับการใช้งานในระยะยาว กรณีลูกวัยก่อนเข้าเรียน วัยอนุบาล ที่ต้องเดินทางไปโรงเรียนบ่อยๆ คุณพ่อคุณแม่ก็อาจเลือกติดตั้งคาร์ซีทแบบติดตั้งถาวร ไม่ต้องถอดเข้าถอดออก และมีความปลอดภัยสูง แต่ข้อเสียคือมักจะหมุนไม่ได้ ส่วนคาร์ซีทแบบเคลื่อนย้ายได้จะใช้งานได้อิสระมากกว่า ซึ่งสามารถนำไปใช้กับรถเข็นเด็กได้ด้วยค่ะ
-
มีสัญลักษณ์มาตรฐานความปลอดภัยสากล
คุณค่าของ คาร์ซีท คือการเป็นอุปกรณ์ที่ช่วยป้องกันอันตรายให้แก่ลูกน้อย ดังนั้น คุณพ่อคุณแม่จำเป็นต้องให้ความสำคัญกับเรื่อง “คุณภาพ” และ “มาตรฐาน” เป็นพิเศษ โดยควรเลือกซื้อคาร์ซีทสำหรับเด็กที่มีมาตรฐานสัญลักษณ์ความปลอดภัยสากล ได้แก่
- UNr 129 หมายถึง คาร์ซีทได้รับการทดสอบแล้วว่าผ่านมาตรฐานการป้องกันการกระแทก จากด้านข้าง
- ECE R44 เป็นมาตรฐานสำหรับคาร์ซีทของสหภาพยุโรป หมายถึง คาร์ซีทได้รับการทดสอบแล้วว่าผ่านมาตรฐานการป้องกันการกระแทกจากด้านหน้าและด้านหลังของตัวคาร์ซีทแล้ว
- FMVSS 213 เป็นมาตรฐานจากประเทศสหรัฐอเมริกา หมายถึง คาร์ซีทได้รับการทดสอบแล้วว่าผ่านมาตรฐานของรัฐบาลกลาง โดยมีข้อกำหนดว่าทดสอบคาร์ซีทแบบ Frontal Sled Test เพื่อจำลองการชน
-
มีความเหมาะสมกับรถยนต์ที่ใช้งาน
ไม่เพียงตัวลูกน้อยเท่านั้นนะคะ แต่คาร์ซีทควรต้องมีความเหมาะสมกับรถยนต์ที่คุณพ่อคุณแม่ใช้ด้วย โดยสิ่งที่สำคัญคือการเช็กอุปกรณ์ติดตั้ง คือ เช็กคาร์ซีทว่าถูกออกแบบมาสำหรับเข็มขัดนิรภัยกี่จุด และรถที่ใช้สามารถติดตั้งได้ตามนั้นหรือไม่นั่นเอง
แนะนำคาร์ซีท 3 รุ่นจาก Cybex โดย TAP
theAsianparent ขอแนะนำ 3 คาร์ซีท เพื่อนเดินทางคู่ชีวิตของลูกน้อย จากแบรนด์ Cybex ค่ะ คาร์ซีททั้ง 3 รุ่นนี้มีอะไรน่าสนใจบ้าง มาดูกันค่ะ
ปกป้องลูกน้อยได้อย่างดีเยี่ยม ลดความเสี่ยงของการบาดเจ็บที่ศีรษะและคอของลูกได้ถึง 50% (เมื่อเทียบกับการใช้คาร์ซีทแบบหันหลังให้เบาะ จากการทดสอบตามมาตรฐาน ADAC ปี 2022) อย่างไรก็ตาม คุณพ่อคุณแม่สามารถใช้ Sirona T Plus แบบหันหน้าเข้าหาเบาะได้ตั้งแต่ลูกวัยแรกเกิด จนกระทั่งลูกอายุ 4 ขวบ แล้วจึงสลับใช้ Sirona T Plus แบบหันหลังให้เบาะได้ด้วยค่ะ
และเนื่องจากคาร์ซีทของ Cybex รุ่นนี้สามารถหมุนได้ 360 องศา จึงช่วยให้หมุนคาร์ซีทไปทางประตูรถได้แบบง่ายๆ ด้วยมือเดียว ลดอาการปวดหลังขณะอุ้มลูกเข้า-ออกรถได้ ใช้งานร่วมกับ Base T ที่ติดตั้งง่ายด้วยระบบ ISOFIX และขาตั้งเสริม เพิ่มความมั่นคง มีระบบ Linear Side-impact Protection (L.S.P.) ปกป้องจากแรงกระแทกด้านข้างได้มากขึ้น 25% (เมื่อเทียบกับคาร์ซีทที่ไม่มี L.S.P. ตามมาตรฐาน ADAC) แถมวัสดุก็ระบายอากาศได้ดีเยี่ยม แผ่นตาข่าย 3D เพิ่มการไหลเวียนของอากาศได้มากขึ้นถึง 6 เท่า ทั้งยังมีหลังคาบังแดดพร้อมช่องระบายอากาศเพิ่มความเย็นสบายให้ลูกน้อยด้วย ครบเครื่องและคุ้มค่าจริงๆ ค่ะ
คาร์ซีทที่สร้างมาเพื่อความทนทาน ออกแบบเพื่อการปกป้องลูกน้อยวัย 3-12 ปี ที่ได้รับรางวัลจาก ADAC สามารถปรับได้ถึง 12 ระดับความสูง ที่รองศีรษะปรับเอนได้ช่วยให้ศีรษะของลูกน้อยอยู่ในตำแหน่งที่ปลอดภัยตลอดการเดินทาง สายป้องกันบ่าปรับได้ด้วยมือเดียว มาพร้อมที่นั่งที่ขยายขนาดได้โดยอัตโนมัติ ปรับขนาดได้รวดเร็วและง่ายดาย สามารถป้องกันการชนด้านข้างโดยลดแรงกระแทกได้ถึง 20%
สำหรับลูกน้อยวัยแรกเกิด ถึง 2 ปี ติดตั้งแบบหันหน้าเข้าหาเบาะเช่นกัน ที่สำคัญคือเป็นแบบกระเช้าที่สามารถสลับใช้กับรถเข็นเด็กได้ด้วย คาร์ซีท CLOUD T i-SIZE PLUS มีฟังก์ชั่นในการปรับเบาะเอนนอนได้ เพื่อให้ลูกน้อยเดินทางอย่างสบายในท่านอนที่เหมาะสมกับสรีระ ศีรษะไม่ล้มไปข้างหน้า มาพร้อมการระบายอากาศรอบด้าน ด้วยผ้ารุ่นพิเศษ Plus มีแถบตาข่าย 3D ที่ช่วยเพิ่มการระบายอากาศได้ถึง 6 เท่า ทำให้ลูกน้อยเย็นสบาย หายใจสะดวก ไม่ว่าจะเป็นในสภาพอากาศร้อนหรือหนาว นอกจากนี้ คุณสมบัติที่โดดเด่นอีกอย่างของคาร์ซีทจาก Cybex รุ่นนี้ คือ สามารถหมุนได้ 180 องศาค่ะ (เมื่อใช้คู่กับ Base T) ทำให้การอุ้มลูกน้อยขึ้นและลงจากรถเป็นไปอย่างง่ายดาย แม้ในขณะนอนหลับก็ยังสามารถเดินทางต่อได้อย่างมั่นใจ
ทั้งนี้ คุณพ่อคุณแม่ทุกคนสามารถสัมผัสสินค้าจริง คาร์ซีททั้ง 3 รุ่น ของ Cybex ได้ที่ แผนกเครื่องใช้สำหรับเด็ก ชั้น 5 เซ็นทรัล ชิดลม หรือช้อปออนไลน์ได้ที่ www.central.co.th นะคะ
วิธีติดตั้งคาร์ซีทสำหรับเด็ก |
|
Rearward Facing Seats |
|
Forward Facing Seats |
|
ทั้งนี้ จุดติดตั้งคาร์ซีทสำหรับเด็กในรถยนต์คือ “เบาะหลัง” ค่ะ โดยมีผลการศึกษาพบว่า หากมีอุบัติเหตุเกิดขึ้น เบาะหลังคือตำแหน่งที่คาร์ซีทจะได้รับแรงกระทบเทือนน้อยที่สุด ซึ่งคุณพ่อคุณแม่ไม่ควรวางคาร์ซีทที่เบาะข้างคนขับเนื่องจากอาจมีความเป็นไปได้ที่ถุงลมนิรภัยจะบีบอัดกับตัวลูกน้อยหรือคาร์ซีท และตำแหน่งที่ปลอดภัยที่สุดก็คือ “ตรงกลางของเบาะหลัง” เพราะปลอดภัยจากแรงกระแทกต่างๆ ที่สุดค่ะ
“คาร์ซีท” ไม่ใช่แค่ที่นั่งสำหรับเด็กนะคะ แต่เป็นอุปกรณ์ที่ออกแบบมาเพื่อปกป้องลูกน้อยจากอันตรายที่อาจเกิดขึ้นขณะเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ การเลือกคาร์ซีทที่เหมาะสมกับวัย น้ำหนัก และส่วนสูงของลูกน้อย จึงมีความสำคัญที่จะช่วยลดความเสี่ยงจากการบาดเจ็บได้อย่างมาก หวังว่าบทความนี้จะเป็นคู่มือให้กับคุณพ่อคุณแม่ชาวไทยในการเลือกซื้อคาร์ซีทที่เหมาะสมที่สุดสำหรับลูก เพื่อสร้างความมั่นใจได้ว่าลูกน้อยของคุณพ่อคุณแม่จะได้รับการปกป้องอย่างดีที่สุดขณะเดินทางนะคะ
ชวนคุณแม่ และคุณพ่อ ช้อปสุดคุ้ม โปรปังงานเบบี้แฟร์ 9-20 มกราคม 2568
หากคุณพ่อคุณแม่ยังเตรียมของไม่ครบ เราขอแนะนำอีเวนต์สุดปัง! งานใหญ่รับต้นปี Central x theAsianparent Baby Fair ครั้งแรกของปีรับสิทธิ์ลดหย่อนภาษี ช้อปกี่ครั้งก็ยังฟิน งานนี้ต้องบอกเพื่อน ๆ ชวนกันมาช้อปแหลก พลาดไม่ได้ งานแฟร์แม่และเด็ก ช้อปครบ ราคาถูก ได้ของดี คุ้มยิ่งกว่าคุ้ม!
คลิกรับของสมนาคุณ งานเบบี้แฟร์ ยกขวนสินค้า ลดราคาสุดคุ้ม
ลดแรงส่งท้ายปี จัดใหญ่ จัดหนัก จัดเต็ม ครั้งแรกของปีรับสิทธิ์ลดหย่อนภาษี #ช้อปครบจบในที่เดียว #ช้อปสบายไม่ต้องขนกลับ พบสินค้า ลดสูงสุด 70% วันที่ 9 ม.ค. 68 – 20 ม.ค. 68 ที่ BCC Hall ชั้น 5 เซ็นทรัล ลาดพร้าว เวลา 10.00 – 20.00 น. (จันทร์-พฤหัสบดี) และ 10.00 – 21.00 น. (ศุกร์-อาทิตย์) อย่าลืม! บอกต่อเพื่อน ๆ มาช้อปด้วยกัน
เอาใจคุณแม่ คุณลูก ทุกครอบครัว กับโปรเด็ดโดนใจ!
ช้อปคุ้มๆ พร้อมส่วนลดและของรางวัล 3 ต่อ
- ต่อที่1 : สมาชิก My Little Club Plus รับส่วนลดเพิ่ม 5% สินค้าที่ร่วมรายการ
- ต่อที่2 : ใช้คะเเนนลดเพิ่มและรับเครดิตเงินคืนจาก The 1 และเครดิตการ์ดสูงสุด 30%
- ต่อที่3 : ทุกๆ การสั่งซื้อครบ 2,000 บาทขึ้นไป รับฟรีของสมนาคุณ/คูปองส่วนลดแทนเงินสด มูลค่ารวมกว่า 2 ล้านบาท *คูปองส่วนลดแทนเงินสด สำหรับใช้ในการสั่งซื้อสินค้าครั้งถัดไป ตามเงื่อนไขที่กำหนด
รับฟรี!! กระเป๋าและของสมนาคุณ ที่หน้างาน มูลค่ากว่า 500 บาท (จำนวนจำกัด) เพียงลงทะเบียนล่วงหน้า ที่นี่ >> คลิกเลย
ที่มา : www.thaihealth.or.th , www.carsome.co.th , www.prachachat.net
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ
ปี 2025 เริ่มต้น เด็ก Gen Beta เด็กยุค AI ที่โลกไม่ควรละสายตา
พาลูกเที่ยวตอนกี่เดือน ทารกเดินทางได้ตอนกี่เดือน เคล็ดลับเดินทางครั้งแรกกับทารก
แจก 42 พิกัด เที่ยวงานวันเด็ก 2568 เรียนรู้สนุก กับกิจกรรมสุดสร้างสรรค์
เจ้าหนูจำไม ถามเก่ง ถามไม่หยุด พ่อแม่ควรรับมือยังไงดี