สำหรับใครที่ชอบสะพายกระเป๋าเป้ แล้วรู้สึกว่าเวลาสะพายกระเป๋าแล้วทำให้เกิดอาการปวดเมื่อยบริเวณ หลัง ไหล่ และคอ เกิดขึ้นอยู่เป็นประจำ นั่นอาจแสดงว่าคุณกำลังสะพายกระเป๋าเป้อย่างผิดวิธีอยู่ก็ได้ค่ะ ดังนั้น บทความวันนี้เราจึงจะมาแนะนำ วิธีสะพายกระเป๋าเป้ อย่างถูกต้องกันค่ะ เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดปัญหาสุขภาพตามมา เพราะถ้าหากสะพายกระเป๋าเป้ผิดวิธีก็ทำให้ส่งผลอันตรายต่อสุขภาพด้วยเช่นกัน ถ้าพร้อมแล้ว มาตามไปดูพร้อมกันเลยค่ะ
เผยเทคนิค! วิธีสะพายกระเป๋าเป้ อย่างไร ให้ถูกต้อง
ปรับสายกระเป๋าเป้ให้เหมาะสมอย่างถูกวิธี
สำหรับการปรับสายกระเป๋าเป้ให้เหมาะสม ถือเป็นสิ่งที่จะต้องให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะจะช่วยลดความเสี่ยงในการปวดไหล่ และปวดหลังได้ ซึ่งวิธีที่ถูกต้องในการปรับสายกระเป๋าคือ คุณจะต้องปรับสายสะพายไหล่ ให้เป้อยู่บริเวณบนหลังของคุณ และสายสะพายบนไม่ควรยาวเกินเอวของคุณ หรือควรอยู่เหนือสะโพก 1 นิ้ว หรือมากกว่านั้น ให้ตัวกระเป๋าแนบติดหลังไว้จะดีที่สุด
แล้วก็ควรสวมสายสะพายไหล่ทั้งสองข้างให้เสมอกัน ไม่ควรสะพายเป้โดยใช้สายสะพายข้างเดียว ซึ่งวิธีนี้เป็นวิธีที่ผิดนะคะ เพราะคนส่วนใหญ่มักจะใช้วิธีนี้ในการสะพายกระเป๋าเป้ ซึ่งการสะพายกระเป๋าเป้ข้างเดียว จะเป็นการเพิ่มน้ำหนักให้กับไหล่ให้แบกรับน้ำหนักทั้งหมดของกระเป๋า ดังนั้น จึงอาจจะทำให้เกิดปัญหาปวดเมื่อยตามมาได้
น้ำหนักกระเป๋าเป้สะพายหลัง
ในส่วนของน้ำหนักภายในกระเป๋าก็ถือเป็นปัจจัยที่จะต้องให้ความสำคัญด้วยเช่นเดียวกัน เพราะน้ำหนักของกระเป๋าเป้จะสามารถสร้างความแตกต่างอย่างมากในด้านความสบายเวลาที่คุณสะพาย เวลาที่คุณใส่สิ่งของในกระเป๋าเป้ ควรระมัดระวังเป็นอย่างมาก เพื่อป้องกันไม่ให้สิ่งของที่เปราะบางแตกหัก แล้วก็ควรตรวจดูว่าสิ่งของของคุณนั้นมีขนาดที่พอดีกับกระเป๋าของคุณมากหรือไม่ แล้วก็ควรรักษาความสมดุลเวลาบรรจุของลงกระเป๋าเป้ให้ดี หากมีสิ่งของที่มีน้ำหนักมากควรเอาไว้ชิดกับแผ่นหลังเสมอนะคะ
ซึ่งน้ำหนักของกระเป๋าเป้สะพายหลัง สำหรับไปโรงเรียน ที่ทำงาน หรือการเดินป่าระหว่างวัน เพื่อให้สบายกระเป๋าเป้ได้อย่างสบาย ไม่ควรมีน้ำหนักเกิน 10% ของน้ำหนักตัว เมื่อใส่เต็ม ซึ่งรวมถึงน้ำหนักของน้ำในขวดที่พกพาติดกระเป๋าด้วยค่ะ
แต่ถ้าหากใครที่แบกเป้เดินทางข้ามคืน หรือไปปีนเขาหลายวัน สัมภาระของคุณที่อยู่ภายในกระเป๋านั้นควรมีน้ำหนักไม่เกิน 20% ของน้ำหนักตัว เมื่อบรรจุเต็มกระเป๋า เมื่อมีน้ำหนักกระเป๋าที่มากขึ้น หากคุณต้องเดินเท้าหลายวันเพื่อให้การเดินมั่นคงยิ่งขึ้น คุณก็อาจจะต้องเลือกสวมรองเท้าเดินป่าที่มีคุณภาพดีเป็นพิเศษ หรือใช้ไม้เท้าเทรคกิ้งร่วมด้วยนะคะ จะได้สะพายกระเป๋าเป้ที่มีน้ำหนักมากได้อย่างมั่นคง
สังเกตขณะสะพายกระเป๋า
เมื่อจัดสิ่งของใส่กระเป๋าเรียบร้อยแล้ว ก็ลองนำกระเป๋าเป้มาสายดูนะคะ และสังเกตจากด้านข้าง ขณะสะพายกระเป๋าว่า ศีรษะ และลำตัว อยู่ในแนวตรงหรือไม่ ถ้าสังเกตแล้วเป็นอย่างที่กล่าวมา ก็แสดงว่าคุณจัดสิ่งของให้มีน้ำหนักได้อย่างเหมาะสม และสะพายกระเป๋าในลักษณะที่ถูกต้องแล้วค่ะ เพราะเวลาที่สะพายกระเป๋าเป้ ไม่ควรเกิดการก้มคอ หลังโค้งไปด้านหน้า หรือเข่าแอ่น ถ้าหากเกิดลักษณะนี้ขึ้น ก็อาจจะทำให้มีอาการปวดเมื่อย คอ ไหล่ เข่า และหลังตามมาได้ ดังนั้น อย่าลืมสังเกตตัวเองนะคะ ว่าเวลาสายกระเป๋าเป้ ศีรษะ และลำตัวอยู่ในแนวตรงหรือไม่ เพื่อความปลอดภัยของสุขภาพร่างกายของตัวเอง ลดความเสี่ยงในการผลเสียการปวดเมื่อยตามร่างกายในระยะยาวค่ะ
บทความที่เกี่ยวข้อง : อันตราย เมื่อลูก สะพายกระเป๋าหนักเกินไป ปัญหาที่เกิดจากกระเป๋าของลูกรัก
วิธีการสะพายกระเป๋าเป้ที่ไม่ถูกต้อง
การสวมสายสะพายข้างเดียว
วิธีนี้การนี้เรียกได้ว่าเป็นวิธีการสะพายกระเป๋าเป้ที่ไม่ถูกต้องนะคะ แต่ก็เป็นวิธีที่ใช้กันทั่วไปสำหรับเด็ก และวัยรุ่น หรือผู้ใหญ่ ซึ่งการสะพายสายกระเป๋าข้างเดียวจะทำให้เกิดแรงกดที่ไม่สมดุลกับไหล่ข้างหนึ่ง และหลังส่วนบน และคอ ดังนั้น จึงทำให้เกิดอาการปวดไหล่ คอ และหรือหลัง เกิดขึ้นนั่นเองค่ะ นอกจากนี้ เมื่อเกิดแรงกดที่ไม่เท่ากันเวลาสะพายเป้ ก็จะทำให้ท่าทางนั้นผิดปกติไปอีกด้วย และอาจทำให้ปวดสะโพก และเข่าได้
วิธีสะพายเป้แบบ Low Back
สำหรับวิธีการสะพายเป้แบบนี้ ก็เป็นวิธีที่ผิดเช่นกันนะคะ การสะพายกระเป๋าเป้ด้วยลักษณะแบบนี้จะช่วยเพิ่มแรงกดที่ด้านหลังของไหล่ ซึ่งเมื่อต้องโน้มตัวไปข้างหน้าก็จะเกิดการถ่วงน้ำหนัก และจะทำให้ปวดบริเวณหลังส่วนล่าง และยิ่งถ้าหากใครที่ชอบปรับสายกระเป๋าให้รัดหลวม ๆ ปล่อยให้เป้ห้อยต่ำ เวลาที่เดินก็ทำให้กระเป๋าแกว่งไปมาเวลาเดิน ก็อาจจะทำให้เกิดแรงเสียดสีบริเวณกระดูกสันหลัง และทำให้เวลาสะพายในลักษณะนี้ก็จะไม่สามารถรองรับน้ำหนักได้คงที่ เสี่ยงต่อการบาดเจ็บที่หลัง และอาจทำให้ไหล่เกิดรอยถลอกเวลาที่สะพายกระเป๋าได้
สะพายกระเป๋าหนักทำให้เกิดกระดูกสันหลังคดจริงไหม?
สำหรับการเกิดกระดูกสันหลังคด ส่วนใหญ่เกิดขึ้นโดยไม่ทราบสาเหตุ หรือบางคนอาจมีพันธุกรรมบางอย่างเข้ามาเกี่ยวข้อง ดังนั้น การสะพายกระเป๋าหนักก็ยังไม่ได้รับการตรวจสอบที่แน่ชัดว่าเป็นสาเหตุของกระดูกสันหลังคด แต่อาจทำให้มีความเสี่ยงที่กระดูกจะคดขึ้นได้ เพราะถ้าหากใครที่มีพฤติกรรมสะพายกระเป๋าข้างเดียว หรือสะพายกระเป๋าหนักเกินไปเป็นประจำ ก็จะทำให้กล้ามเนื้อหลังทั้ง 2 ข้าง นั้นจะทำงานไม่เท่ากัน
และอาจส่งผลทำให้หลังโค้งงอมากกว่าปกติ หรือเกิดภาวะกระดูกสันหลังคดตามมาได้ ดังนั้น ควรหลีกเลี่ยงการสะพายกระเป๋าเป้ที่หนักนะคะ เพราะอาจทำให้เกิดอันตรายต่อกระดูกสันหลัง และมีอาการปวดกล้ามเนื้อขึ้นได้ จึงต้องระมัดระวังเป็นอย่างมากเลยค่ะ
บทความที่เกี่ยวข้อง : สาเหตุอาการปวดหลัง เกิดจากอะไร? ปวดหลังแบบไหนอันตราย ต้องรีบรักษา!
เป็นอย่างไรกันบ้างคะกับ วิธีสะพายกระเป๋าเป้ ที่เรานำมาฝากกันวันนี้ การสะพายกระเป๋าเป้ให้ถูกวิธี ก็ถือเป็นสิ่งสำคัญมาก ๆ เลยนะคะ เพราะถ้าหากสะพายกระเป๋าเป้ผิดวิธีก็อาจจะทำให้ส่งผลอันตรายต่อสุขภาพร่างกายอื่น ๆ ตามมา เช่น ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อคอ ไหล่ และหลัง เป็นต้น ซึ่งอาการที่เกิดขึ้นเหล่านี้ก็คือการที่กล้ามเนื้อทำงานไม่ได้ตามปกติ เพราะเกิดจากการเกร็งเนื่องจากสะพายกระเป๋าผิดวิธี จนทำให้กล้ามเนื้อนั้นขาดความยืดหยุ่น ดังนั้น การสะพายกระเป๋าเป้ให้ถูกต้อง และมีน้ำหนักที่เหมาะสม จึงถือเป็นเรื่องที่สำคัญ และไม่ควรมองข้ามไป
ถึงแม้พฤติกรรมการสะพายกระเป๋าไม่ถูกวิธี อาจจะไม่ส่งผลอันตรายต่อชีวิต แต่ก็อาจผลเสียในระยะยาวที่รบกวนการใช้ชีวิตประจำวันของคุณได้ ซึ่งถ้าหากคุณสะพายกระเป๋าเป้อย่างถูกวิธี ก็จะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอาการเหล่านี้ขึ้นได้ และทำให้เดินได้อย่างเป็นธรรมชาติ และช่วยให้กล้ามเนื้อสมดุลกันอีกด้วย หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ให้สำหรับทุกคนนะคะ
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
7 วิธีเลือกกระเป๋าเป้ให้ลูก ป้องกันการแบกกระเป๋าหนัก ๆ ไปโรงเรียน
เบาะรองหลัง ช่วยแก้อาการปวดหลังได้จริงหรือไม่? ใช้อย่างไรให้ถูกวิธี
แม่เล่า ลูกเป็นโรคความบกพร่องของกระดูกสันหลัง เพราะขาดโฟลิก
ที่มา : wikihow, tsptclinic, pt.mahidol