นมชงอยู่ได้กี่ชั่วโมง ? ก่อนลงมือชง คุณแม่มือใหม่อ่านก่อน

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

ลูกเริ่มหย่านมแม่แล้วมากินนมชงได้มากขึ้น สำหรับคุณแม่ที่ยังไม่เคยชงนมผง หรืออาจมีข้อสงสัยว่า นมชงอยู่ได้กี่ชั่วโมง ชงแล้วไม่อยากให้เสีย อยากให้ลูกได้กินนมที่มีสารอาหารครบถ้วน มีโอกาสในการปนเปื้อนน้อยที่สุด ทุกคำตอบอยู่ในบทความนี้เรียบร้อยแล้ว

 

นมชงอยู่ได้กี่ชั่วโมง ?

หากอิงตามอุณหภูมิห้องปกติ นมชงทั่วไปเฉลี่ยแล้วจะอยู่ได้ประมาณ 2 ชั่วโมงเท่านั้น (ระยะเวลาแปรตามนมผงในแต่ละยี่ห้อด้วย) ดังนั้นจึงไม่ควรชงเตรียมทิ้งไว้นาน หรือหากต้องการเตรียมเอาไว้ คุณแม่ควรรู้วิธีการเก็บรักษา เพื่อให้มีอายุการใช้งานที่นานมากขึ้น เหมาะกับคุณแม่ที่พาลูกน้อยออกไปข้างนอก ในขณะที่คุณแม่ที่อยู่บ้าน เราแนะนำให้ชงในเวลาที่จะให้ลูกกินนมจะดีที่สุด เพื่อความสดใหม่ และสารอาหารที่อยู่ในนมผง จะมีความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น

กรณีที่คุณแม่ให้ลูกกินนมไปแล้ว แต่ลูกกินไม่หมด คุณแม่ไม่ควรเก็บไว้นานเกิน 1 ชั่วโมง หากเลยเวลาแล้วควรเอาขวดเก่าทิ้ง แล้วชงขวดใหม่ให้ลูกเลย อย่างไรก็ตามแม้จะมีวิธีการเก็บรักษาเพื่อยืดอายุการใช้งาน แต่เราอยากให้คุณแม่ให้ความสำคัญกับนมที่ชงใหม่ ๆ มากกว่านมที่ชงเก็บเอาไว้ เพื่อประโยชน์ของตัวลูกน้อยเอง เพื่อให้ได้สารอาหารที่ครบถ้วน ดีต่อพัฒนาการของร่างกาย

บทความที่เกี่ยวข้อง : แนะนำ 10 นมผงสูตร 3 วิธีเลือกนมผงสำหรับเด็ก สูตรไหนเหมาะกับลูกน้อย

 

วิดีโอจาก : Nurse Kids

 

อยากให้นมชงอยู่ได้นานมากขึ้น ควรทำอย่างไร ?

สำหรับนมที่ชงแล้ว จะเก็บรักษาควรปิดภาชนะให้มิดชิดที่สุด กรณีที่ลูกยังไม่กินตอนนี้ ควรรีบเก็บเข้าตู้เย็น สิ่งที่ต้องหลีกเลี่ยง คือ การวางไว้ในจุดที่โดนแสงแดด หรือโดนความร้อน รวมถึงในรถ เพราะจะทำให้นมเสียได้อย่างรวดเร็ว สำหรับนมที่ชงแล้ว ให้ดูเวลาในการเก็บรักษาตามนี้

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

 

  • ชงไปแล้วลูกกินแล้วแต่ไม่หมด : นมที่ชงแล้ว ลูกควรทานให้หมดภายใน 1 ชั่วโมงหลังชง เพราะจะเสียเร็ว หากเกินเวลาควรทิ้งทันที
  • ชงแล้วยังไม่กิน : ควรเก็บรักษาทันที ด้วยการใส่ตู้เย็นที่อุณหภูมิ 2 – 4 องศาเซลเซียส ไม่แนะนำให้มากกว่านี้ และไม่แนะนำให้แช่นมในช่องน้ำแข็ง และไม่ควรเก็บไว้นานกว่า 24 ชั่วโมงนับจากเวลาที่ชงเสร็จ
  • ทำการชงไปแล้ว แต่ลืมใส่ตู้เย็น : นมที่ชงไว้ในอุณหภูมิห้องไม่ควรให้ลูกกินหากเกิน 2 ชั่วโมงไปแล้ว อย่างไรก็ตามเราไม่แนะนำให้ลูกกินนมชงที่ตั้งไว้ แล้วลืมใส่ตู้เย็น เนื่องจากอาจเสี่ยงต่อการปนเปื้อนไปแล้ว

 

ส่วนใหญ่แล้วเมื่อเปิดนมผงแล้ว ควรใช้ชงให้หมดภายใน 1 เดือน ไม่ควรเก็บไว้นาน เพื่อให้มีความสดใหม่ และลดโอกาสในการปนเปื้อนเชื้อโรคต่าง ๆ และอย่าลืมตรวจสอบวันเดือนปีที่ผลิต และวันหมดอายุข้างกล่องก่อนตัดสินใจซื้อด้วย เพื่อคำนวณว่าจะใช้ได้หมดทันไหม

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

 

ชงนมผงให้ระวัง คุณภาพอาจน้อย แถมอยู่ได้ไม่นาน

การชงนมผงให้กับลูกน้อยวัยกำลังโต อาจไม่ได้ทำให้ลูกโตมาแข็งแรงอย่างที่คิด เป็นเพราะการชงนมผงที่ผิดวิธี โดยสิ่งที่คุณแม่ต้องระวังให้ดี หากทำแบบนี้อยู่ให้หยุดทันที

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา
  • ถึงแม้จะเคยชงนมผงมาก่อน ก็ไม่สามารถคิดไปเองว่านมผงต่างยี่ห้อกันก็ชงแบบเดียวกัน ควรศึกษาฉลาก และวิธีการชงทุกครั้งที่ซื้อมา ไม่ว่าจะต่างยี่ห้อ หรือต่างสูตร
  • อย่ากะปริมาณการชงด้วยตนเองเด็ดขาด ต้องทำตามสัดส่วนที่กำหนดไว้เท่านั้น เนื่องจากนมที่ถูกชงแบบผิดสัดส่วนที่กำหนด จะส่งผลเสียต่อลูกได้ เช่น มีอาการท้องผูก, ขาดสารอาหาร หรือขาดน้ำ เป็นต้น
  • ตามสื่อออนไลน์บางแห่ง อาจทำคลิปเติมส่วนผสมอื่น ๆ ลงในนม เพื่อให้มีรสชาติใหม่ ๆ เพื่อหวังให้ลูกกินนมได้อร่อยขึ้น เช่น น้ำตาล หรือซีเรียล เป็นต้น ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ ห้ามเอาอะไรเติมลงไปในขั้นตอนการชงนมเด็ดขาด
  • หากต้องการจะอุ่นนม ห้ามอุ่นนมชงผ่านไมโครเวฟเด็ดขาด เพราะความร้อนจะไปไม่ทั่วถึงนมทั้งหมด คุณแม่อาจสัมผัสว่าอุ่นแล้วไม่ร้อนมาก แต่อาจยังมีนมบางส่วนที่ร้อน ส่งผลให้เสี่ยงทำให้ลูกรักปากพองอีกด้วย

บทความที่เกี่ยวข้อง : จำให้แม่น !! การเลือกซื้อนมผงให้ลูก อย่างไรให้เหมาะ ต้องพิสูจน์ด้วยตัวเอง อย่าเพิ่งเชื่อว่าดี !

 

7 ขั้นตอนชงนมให้ดีรักษาไว้ได้นานเต็มเวลา ดีต่อลูกรัก

นอกจากสิ่งที่ต้องระวังด้านบนแล้ว หากคุณแม่อาจมาถึงจุดนี้อาจเป็นกังวลว่าตอนนี้ เราชงนมให้ลูกน้อยถูกหรือเปล่า ไม่ต้องห่วงไป เพราะเรามีขั้นตอนเบื้องต้นมาแนะนำ อย่างไรก็ตามคุณแม่อย่าลืมศึกษาเพิ่มจากข้างกล่องด้วยนะ

 

  1. ก่อนและหลังชงนมให้ลูกทุกครั้ง ควรล้างทำความสะอาดมือ และภาชนะให้ดีก่อนเสมอ สำหรับภาชนะควรเอาเข้าเครื่องฆ่าเชื้อด้วย หรือนำไปต้มก็ได้เช่นกัน และเช็ดให้แห้งก่อนนำมาชงนม
  2. น้ำร้อนที่จะใช้ชงให้ลูก ไม่ควรเป็นน้ำต้มที่เหลือมาจากการต้มครั้งก่อน ทุกครั้งที่ต้มน้ำไปชงนงให้ลูก ควรล้างกาน้ำ และใช้น้ำใหม่เสมอ
  3. น้ำที่เดือดแล้ว ยังไม่ควรนำมาชงนมทันที ควรตั้งทิ้งไว้ก่อนประมาณ 30 นาที หรือหากมีเครื่องวัดอุณหภูมิ ควรรอให้ลงมาอยู่ที่ 70 องศาเซลเซียส
  4. ก่อนเริ่มลงชงนมต่อไป ให้ทำความสะอาดพื้นผิวบริเวณที่จะชงนมให้ลูก เพื่อลดโอกาสในการปนเปื้อนเชื้อโรคที่มองไม่เห็น
  5. เมื่อพร้อมแล้วให้เติมน้ำอุ่น และตามด้วยนมผง ไม่แนะนำให้ใช้ช้อนอื่นในการตัก ควรใช้ช้อนที่กล่องให้มา เพื่อวัดปริมาณสัดส่วนได้ถูกต้อง เสร็จแล้วประกอบจุกนมกับฝาดันให้สนิท
  6. นำฝาปิดขวดน้ำที่ชงแล้ว จากนั้นเริ่มเขย่าเพื่อให้ผงนม และน้ำอุ่นเข้ากัน จนกว่านมผงจะละลายรวมกับน้ำ ไม่ได้จับตัวเป็นก้อน
  7. ทดสอบว่านมร้อนเกินไปหรือไม่ ด้วยการลองหยดนมลงบนแขนของตนเอง หากพบว่าร้อนเกินไป สามารถตั้งทิ้งไว้ได้ก่อน และคอยมาเช็กอุณหภูมิจนกว่าจะใช้ได้

 

 

อย่าเสียดายนมชง สนใจความสดใหม่ดีกว่า

ก่อนจะทิ้งนมที่เกินเวลาแล้ว หากมีความคิดที่ว่าเกินไปเพียงไม่กี่นาที คงจะยังกินได้อยู่ ถือว่ามีความเสี่ยงเช่นกัน คุณแม่ห้ามเสียดายนมที่สุ่มเสี่ยงจะเกินเวลาเด็ดขาด หากต้องทิ้งก็ต้องทิ้ง เพราะหากนำมาให้ลูกกิน เพราะกลัวว่าจะเสีย จากความเสียดาย จะส่งผลเสียต่อทารกได้หลายอย่าง ตัวอย่างเช่น สามารถทำให้เกิดการติดเชื้อในทางเดินอาหารได้ แนะนำอาการมีไข้, อาเจียน, ถ่ายเหลว และอุจจาระเปลี่ยนไป รวมถึงมีมูกเลือด เป็นต้น หากมีอาการเหล่านี้ รวมถึงความผิดปกติใด ๆ ควรพาลูกไปพบแพทย์ เพราะเป็นสัญญาณของการติดเชื้อในทางเดินอาหารได้

 

วิธีชงนม และวิธีการเก็บที่ถูกต้อง เป็นประโยชน์โดยตรงต่อตัวของลูกน้อยเอง หากให้ความสำคัญแน่นอนว่าลูกน้อยจะแข็งแรง และได้รับสารอาหารที่ครบถ้วนอย่างแน่นอน

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

 

อ่านประสบการณ์จริงของคุณแม่ที่เคยชงนมผงเด็ก 1 ออนซ์เท่ากับกี่ ml

1ออนซ์เท่ากับกี่ml คะแม่ๆ ชงนมให้ลูกค่ะ แต่แม่ งงอยู่เลย 1ออนซ์เท่ากับกี่มิลลิลิตร

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :

นมผง ได้ประโยชน์น้อยกว่านมพร้อมดื่มจริงหรือ? คุณแม่ควรเลือกซื้อนมผงอย่างไร

นมผงทารก นมผงดัดแปลง เลือกสูตรไหน แม่จะรู้ได้ยังไงว่าลูกแพ้นมผง

10 อันดับ นมสูตร 4 ที่ดีที่สุดสำหรับเด็กวัยหัดเดิน 2-3 ปีเป็นต้นไป

ที่มา : hellokhunmor

บทความโดย

Sutthilak Keawon