เคยสงสัยไหมคะว่า การเลี้ยงลูกในคอนโดจะส่งผลต่อพัฒนาการของลูกน้อยอย่างไร? หรือการมีบ้านจะดีกว่าตรงไหน? ปัจจัยในการเลือกซื้อที่อยู่อาศัย บ้าน VS คอนโด แบบไหนดีต่อพัฒนาการเด็ก หลายคนเชื่อว่าการมีบ้านเดี่ยวพร้อมสวนหลังบ้านจะดีที่สุดสำหรับเด็ก แต่ในยุคปัจจุบันที่พื้นที่อยู่อาศัยมีราคาสูงขึ้น การเลือกอยู่คอนโดก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจเช่นกัน แต่ก็ยังกังวลว่า การเลี้ยงลูกในคอนโดจะมีผลกระทบต่อพัฒนาการของเด็กหรือเปล่า
ปัจจัยในการเลือกซื้อที่อยู่อาศัย แบบไหนดีต่อพัฒนาการเด็ก
บทความนี้จะพาคุณไปไขข้อข้องใจเกี่ยวกับ ปัจจัยในการเลือกซื้อที่อยู่อาศัย ข้อดีข้อเสียของการเลี้ยงลูกอยู่คอนโด VS อยู่บ้าน ที่อยู่อาศัยแบบไหน ดีต่อพัฒนาการเด็ก เพื่อให้คุณพ่อคุณแม่ได้ตัดสินใจเลือกที่อยู่อาศัยที่เหมาะสมกับครอบครัวของเรามากที่สุด
เลี้ยงลูกอยู่คอนโด หรือพื้นที่จำกัด มีผลกับพัฒนาการเด็กไหม?
-
ข้อดีของครอบครัวมีลูกอยู่คอนโด
- ความสะดวกสบาย: สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เช่น สระว่ายน้ำ ฟิตเนส สวนหย่อม ทำให้เด็กได้ออกกำลังกายและผ่อนคลาย
- ความปลอดภัย: ระบบรักษาความปลอดภัยดี มีกล้องวงจรปิด มีการควบคุมการเข้าออกอาคาร ลดความกังวลเรื่องความปลอดภัยของเด็ก
- ทำเลที่ตั้ง: มักอยู่ในเมือง ในทำเลที่เดินทางสะดวก ใกล้โรงเรียน ห้างสรรพสินค้า ใกล้รถไฟฟ้า ทำให้การใช้ชีวิตประจำวันสะดวกสบาย
-
ข้อเสียของครอบครัวมีลูกอยู่คอนโด
- พื้นที่จำกัด: เด็กอาจไม่มีพื้นที่วิ่งเล่นกว้างขวางเท่าบ้านเดี่ยว ทำให้การทำกิจกรรมบางอย่าง เช่น การขี่จักรยาน หรือการเล่นบอล อาจเป็นไปได้ยาก และการมีพื้นที่จำกัดทำให้ต้องจัดเก็บของเล่นและสิ่งของต่างๆ อย่างเป็นระเบียบ เพื่อไม่ให้ห้องยิ่งดูแคบ
- เสียงดัง: เสียงร้องไห้ เสียงวิ่งเล่นของเด็ก อาจรบกวนเพื่อนบ้านได้ หรือในทางกลับกันเสียงรบกวนจากผู้อื่น เช่น เสียงดนตรี เสียงคุยโทรศัพท์ อาจรบกวนการพักผ่อนของเด็ก
- ขาดพื้นที่ส่วนตัว: พื้นที่ส่วนตัวของแต่ละคนอาจจำกัด ทำให้สมาชิกในครอบครัวรู้สึกอึดอัด การทำกิจกรรมบางอย่าง เช่น การทำอาหารที่มีกลิ่นแรง อาจไม่สะดวกเท่าการทำในบ้านเดี่ยว
- สัตว์เลี้ยง: บางคอนโด ไม่อนุญาตให้เลี้ยงสัตว์เลี้ยง
- ความปลอดภัย: มีโอกาสเด็กเล็กตกจากที่สูง โดยเฉพาะบริเวณระเบียง
ครอบครัวที่มีลูก ควรซื้อบ้านหรือไม่?
-
ข้อดีของการซื้อบ้านเมื่อมีลูก
- พื้นที่กว้าง: เด็กๆ มีพื้นที่วิ่งเล่น ออกกำลังกาย ทำกิจกรรมต่างๆ ได้อย่างอิสระ และบ้านเดี่ยวมักมีพื้นที่เก็บของมากกว่าคอนโด ทำให้สามารถเก็บของเล่นของเด็กได้อย่างเป็นระเบียบ
- ความเป็นส่วนตัว: สามารถทำกิจกรรมต่างๆ ได้อย่างอิสระ ใช้เสียงได้มากกว่า รบกวนเพื่อนบ้านน้อยกว่าอยู่คอนโด
- ปรับเปลี่ยนได้: สามารถปรับเปลี่ยนพื้นที่ในบ้านให้เหมาะสมกับการเติบโตของเด็ก เช่น สร้างห้องเล่น ห้องเรียน หรือมุมสำหรับทำกิจกรรมต่างๆ
- สวนหลังบ้าน: เป็นพื้นที่สำหรับให้เด็กได้สัมผัสธรรมชาติ เล่นสนุก ปลูกพืชผักสวนครัว เรียนรู้เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม และธรรมชาติรอบตัว สามารถทำกิจกรรมกลางแจ้งได้หลากหลาย เช่น ปิกนิก ปาร์ตี้บาร์บีคิว หรือออกกำลังกาย
- สัตว์เลี้ยง: สามารถเลี้ยงสัตว์เลี้ยงได้อย่างอิสระ
-
ข้อเสียของการซื้อบ้านเมื่อมีลูก
- ค่าใช้จ่ายสูง: ราคาบ้านมักสูงกว่าคอนโด โดยเฉพาะบ้านเดี่ยวในทำเลที่ดี มีค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาบ้าน เช่น ค่าซ่อมแซม ค่าดูแลสวน
- ทำเลที่ตั้ง: บ้านเดี่ยวอาจตั้งอยู่ในทำเลที่ห่างไกลจากสิ่งอำนวยความสะดวก เช่น ห้างสรรพสินค้า โรงเรียน โรงพยาบาล
- การเดินทาง: การเดินทางไปทำงานหรือทำกิจกรรมต่างๆ อาจใช้เวลานานและเสียค่าใช้จ่ายในการเดินทางสูง
- ความปลอดภัย: ต้องดูแลเรื่องความปลอดภัยของบ้านเอง เช่น ติดตั้งระบบรักษาความปลอดภัย หรือเลือกหมู่บ้านที่มีระบบรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวด
ที่อยู่อาศัยทั้งสองประเภทมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกัน เพราะฉะนั้น จึงไม่มีคำตอบที่ถูกต้องตายตัวค่ะว่า ที่อยู่อาศัยแบบไหนดีต่อพัฒนาการเด็กมากกว่ากัน การเลือกอยู่คอนโดหรือบ้านขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของแต่ละครอบครัว โดยพิจารณาจากปัจจัยต่อไปนี้
ปัจจัยในการเลือกซื้อที่อยู่อาศัย
-
งบประมาณ
- ค่าซื้อหรือเช่า: ประเมินงบประมาณทั้งหมดที่คุณสามารถจ่ายได้ รวมถึงค่าดาวน์ ค่าผ่อนชำระ ค่าส่วนกลาง ค่าบำรุงรักษา และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
- ค่าใช้จ่ายแฝง: พิจารณาค่าใช้จ่ายอื่นๆ เช่น ค่าเดินทาง ค่าไฟฟ้า ค่าน้ำ ค่าอินเทอร์เน็ต ซึ่งอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับขนาดและทำเลที่ตั้ง
- งบประมาณสำรอง: ควรมีงบประมาณสำรองไว้สำหรับค่าใช้จ่ายฉุกเฉิน เช่น ค่าซ่อมแซม หรือค่าตกแต่ง
-
ขนาดครอบครัว
- จำนวนสมาชิก: เลือกขนาดของที่อยู่อาศัยที่เหมาะสมกับจำนวนสมาชิกในครอบครัว
- การเติบโตของครอบครัว: พิจารณาถึงความเป็นไปได้ในการขยายครอบครัวในอนาคต หากมีแผนจะเพิ่มสมาชิกในครอบครัว ควรเลือกที่อยู่อาศัยที่มีพื้นที่เพียงพอ
- ความเป็นส่วนตัว: พิจารณาว่าแต่ละคนต้องการพื้นที่ส่วนตัวมากน้อยแค่ไหน
-
ไลฟ์สไตล์
- กิจกรรมที่ชอบ: หากคุณชอบทำกิจกรรมกลางแจ้ง เช่น ปลูกผัก เลี้ยงสัตว์ บ้านเดี่ยวอาจเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า
- การเดินทาง: หากคุณต้องเดินทางบ่อยๆ ทำเลที่ตั้งที่ใกล้กับรถไฟฟ้า หรือสถานีขนส่งสาธารณะจะเป็นข้อดี
- ความสะดวกสบาย: พิจารณาสิ่งอำนวยความสะดวกที่คุณต้องการ เช่น สระว่ายน้ำ ฟิตเนส หรือพื้นที่สำหรับเด็กเล่น
-
ความสะดวกสบาย
- ทำเลที่ตั้ง: เลือกทำเลที่ตั้งที่ใกล้กับสถานที่ที่คุณใช้บ่อยๆ เช่น โรงเรียน โรงพยาบาล ห้างสรรพสินค้า
- สิ่งอำนวยความสะดวก: พิจารณาสิ่งอำนวยความสะดวกในโครงการ เช่น ระบบรักษาความปลอดภัย สวนสาธารณะ หรือพื้นที่จอดรถ
- สาธารณูปโภค: ตรวจสอบความพร้อมของสาธารณูปโภคในพื้นที่ เช่น ไฟฟ้า น้ำ ประปา
-
อนาคต
- การเปลี่ยนแปลงไลฟ์สไตล์: พิจารณาถึงความเป็นไปได้ที่ไลฟ์สไตล์ของคุณจะเปลี่ยนแปลงไปในอนาคต เช่น การเลื่อนขั้นตำแหน่ง การมีลูกเพิ่ม หรือการเกษียณอายุ
- การลงทุน: พิจารณาว่าการซื้อที่อยู่อาศัยเป็นการลงทุนระยะยาวหรือไม่ และมีโอกาสที่จะเพิ่มมูลค่าในอนาคตหรือไม่
เหตุผลหลักที่ทำให้คนตัดสินใจซื้อบ้านเมื่อมีลูก
การตัดสินใจซื้อบ้านเมื่อมีลูกเป็นเรื่องที่หลายครอบครัวให้ความสำคัญและพิจารณาอย่างรอบคอบ เนื่องจากบ้านเป็นมากกว่าที่อยู่อาศัย แต่ยังเป็นพื้นที่สำหรับการเติบโตและพัฒนาของลูกอีกด้วย โดยเหตุผลหลัก ได้แก่
- พื้นที่ใช้สอยที่กว้างขวาง: บ้านมักมีพื้นที่ใช้สอยที่มากกว่าคอนโด ทำให้เด็กมีพื้นที่สำหรับวิ่งเล่น เรียนรู้ และทำกิจกรรมต่างๆ ได้อย่างอิสระ ช่วยส่งเสริมพัฒนาการทางร่างกายและจิตใจ
- ความเป็นส่วนตัว: บ้านให้ความเป็นส่วนตัวมากกว่าคอนโด ครอบครัวสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างสะดวกสบาย ไม่ต้องกังวลเรื่องเสียงดังรบกวนจากเพื่อนบ้าน
- ความปลอดภัย: บ้านสามารถปรับเปลี่ยนและตกแต่งได้ตามต้องการ เพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้กับเด็ก เช่น ติดตั้งรั้ว ปรับปรุงพื้นที่ให้เรียบเสมอกัน
- การลงทุนในอนาคต: บ้านถือเป็นสินทรัพย์ที่มั่นคงและมีมูลค่าเพิ่มขึ้นในระยะยาว เป็นการวางแผนการเงินเพื่ออนาคตของครอบครัว
- ความรู้สึกเป็นเจ้าของ: การมีบ้านเป็นของตัวเอง ทำให้รู้สึกผูกพันและมีรากฐานที่มั่นคง
ผลสำรวจ ปัจจัยในการเลือกซื้อบ้านที่คุณแม่ให้ความสำคัญ
- 61% ความปลอดภัย
- 24% ทำเลที่ตั้ง
- 12% ขนาดพื้นที่บ้าน
- 3% โรงเรียนใกล้เคียง
theAsianparent Insights ได้ทำการสำรวจความคิดเห็นคุณแม่จำนวนกว่า 800 คน ผ่านแอปพลิเคชั่น theAsianparent พบว่า ปัจจัยด้านความปลอดภัย เป็นสิ่งสำคัญที่สุดที่คุณแม่พิจารณาในการเลือกซื้อบ้าน โดยมีสัดส่วนถึง 61% สะท้อนให้เห็นว่าคุณแม่ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของบุตรหลานเป็นอันดับแรก ซึ่งสอดคล้องกับบทบาทของผู้ปกครองที่ต้องการให้ลูกน้อยเติบโตในสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย
ปัจจัยอื่นๆ ที่คุณแม่ให้ความสำคัญ ได้แก่
- ทำเลที่ตั้ง (24%) รองลงมาคือปัจจัยเรื่องทำเลที่ตั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มคุณแม่ที่ต้องการให้ลูกน้อยเข้าถึงสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย เช่น โรงเรียน ห้างสรรพสินค้า และสถานพยาบาล
- ขนาดพื้นที่ (12%) แม้ว่าจะไม่ได้เป็นปัจจัยสำคัญที่สุด แต่ขนาดพื้นที่ก็ยังคงเป็นปัจจัยที่คุณแม่พิจารณา โดยเฉพาะอย่างยิ่งพื้นที่สำหรับให้ลูกน้อยได้เล่นและทำกิจกรรมต่างๆ
ผลสำรวจ งบประมาณในการซื้อบ้านของพ่อแม่ยุคใหม่
- 68% น้อยกว่า 3 ล้านบาท
- 22% 3-5 ล้านบาท
- 5% 5-7 ล้านบาท
- 5% มากกว่า 7 ล้านบาท
เมื่อพิจารณาถึงงบประมาณที่จัดสรรสำหรับการซื้อบ้าน ผลสำรวจจากคุณแม่กว่า 500 คนพบว่าส่วนใหญ่ของกลุ่มตัวอย่าง (68%) มีงบประมาณในการซื้อบ้านน้อยกว่า 3 ล้านบาท ซึ่งสอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบันที่ค่าครองชีพสูงขึ้น ทำให้ผู้บริโภคส่วนใหญ่มีข้อจำกัดด้านงบประมาณ
ผลสำรวจ สิ่งอำนวยความสะดวกที่สำคัญที่สุดเมื่อเลือกซื้อบ้าน
- 74% ระบบรักษาความปลอดภัย
- 14% โรงเรียนใกล้บ้าน
- 9% สนามเด็กเล่น/พื้นที่พักผ่อน
- 2% สวนสาธารณะ
สิ่งอำนวยความสะดวกที่ได้รับความนิยมสูงสุด ผลสำรวจจากคุณแม่กว่า 500 คน คือ ระบบรักษาความปลอดภัย (74%) รองลงมาคือ โรงเรียนใกล้บ้าน (14%) และสนามเด็กเล่น/พื้นที่พักผ่อน (9%) สะท้อนให้เห็นว่าคุณแม่ต้องการที่อยู่อาศัยที่มีความปลอดภัยและมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่เอื้อต่อการเลี้ยงลูก
ผลสำรวจ ทำเลที่คุณแม่เลือกซื้อบ้าน
- 43% พื้นที่ชนบท
- 37% ชานเมือง
- 20% ใจกลางเมือง
สำหรับทำเลที่เลือกซื้อบ้าน ผลสำรวจจากคุณแม่กว่า 400 คน พบว่าคุณแม่ส่วนใหญ่เลือกซื้อบ้านในย่าน ชานเมือง (37%) และ พื้นที่ชนบท (43%) มากกว่าใจกลางเมือง ทั้งนี้อาจเป็นเพราะค่าที่ดินในใจกลางเมืองมีราคาสูง และคุณแม่ต้องการบรรยากาศที่เงียบสงบและปลอดภัยสำหรับลูกน้อย และเพื่อให้สอดคล้องกับงบประมาณในการซื้อบ้านที่ตั้งไว้ด้วย
สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่ตัดสินใจเลือกคอนโด การเลี้ยงลูกในคอนโดหรือพื้นที่จำกัดไม่ได้ส่งผลกระทบต่อพัฒนาการของเด็กเสมอไป คุณพ่อคุณแม่สามารถจัดการให้ลูกน้อยเติบโตได้อย่างสมบูรณ์แบบ โดยการสร้างสรรค์และจัดการพื้นที่ให้เหมาะสมกับเด็ก ดังนี้
วิธีเลี้ยงลูกอยู่คอนโดให้เด็กเติบโตได้อย่างสมบูรณ์แบบ
- สร้างสรรค์พื้นที่ จัดสรรพื้นที่ให้ลูกได้เล่นและทำกิจกรรมต่างๆ อย่างเต็มที่ เช่น มุมอ่านหนังสือ มุมวาดรูป มุมของเล่น
- กิจกรรมนอกบ้าน พาลูกออกไปสนุกนอกบ้าน! ช่วงเช้าก่อน 10 โมงเช้า ชวนลูกน้อยออกไปสูดอากาศบริสุทธิ์ รับวิตามินดีกันหน่อย ไปสนุกที่สวนสาธารณะ สนามเด็กเล่น หรือจะลงเล่นน้ำที่สระว่ายน้ำก็ได้ แต่ต้องมีคุณพ่อคุณแม่คอยดูแลใกล้ชิดเสมอ เพื่อความปลอดภัย
- ของเล่นเสริมพัฒนาการ การเลือกของเล่นที่เหมาะสมกับวัย จะช่วยส่งเสริมพัฒนาการของเด็กอย่างรอบด้าน อาทิ ของเล่นที่ช่วยพัฒนาทักษะด้านภาษา ดนตรี และการเคลื่อนไหว เช่น บล็อกไม้ ตัวต่อ หรือของเล่นดนตรี ซึ่งจะช่วยกระตุ้นให้เด็กได้เรียนรู้และพัฒนาทักษะต่างๆ ได้อย่างเต็มที่
- สร้างปฏิสัมพันธ์ การมีปฏิสัมพันธ์กับลูกอย่างใกล้ชิดเป็นสิ่งสำคัญมาก ลองทำกิจกรรมง่ายๆ อย่างการอ่านหนังสือให้ฟัง เล่นเกมด้วยกัน หรือแม้แต่การพูดคุยทักทายคนรอบข้าง เช่น พี่รปภ. พี่แม่บ้าน หรือเพื่อนบ้าน ก็ช่วยให้ลูกน้อยได้เรียนรู้การเข้าสังคมและพัฒนาทักษะการสื่อสารได้เป็นอย่างดี
- จัดระเบียบ การสอนให้ลูกน้อยรู้จักการจัดระเบียบของเล่นและสิ่งของส่วนตัว ไม่เพียงแต่จะทำให้ห้องดูโล่งโปร่งสบายตา แต่ยังเป็นการปลูกฝังนิสัยที่ดีให้กับลูกอีกด้วย การจัดระเบียบเป็นทักษะชีวิตที่สำคัญ ฝึกความรับผิดชอบ ฝึกระเบียบวินัย และมีความสุขกับการใช้ชีวิตประจำวันมากขึ้น
- ตรวจสอบความปลอดภัย การอาศัยอยู่ในตึกสูงนั้นสะดวกสบาย แต่ก็มาพร้อมกับความเสี่ยง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับเด็กเล็กๆ บริเวณระเบียง คือจุดที่เราต้องใส่ใจเป็นพิเศษ เพราะเป็นจุดที่เด็กๆ ชอบปีนป่ายและอาจพลัดตกได้ง่าย ควรติดตั้ง ที่กั้นระเบียง ที่แข็งแรงและสูงพอสมควร เพื่อป้องกันอันตราย นอกจากนี้ การสอนให้ลูกน้อยเข้าใจว่าระเบียงเป็นพื้นที่อันตรายและห้ามปีนป่ายเด็ดขาด ก็เป็นสิ่งสำคัญมากๆ และอย่าลืม ปิดประตูและหน้าต่างให้มิดชิด ทุกครั้งหลังใช้งาน เพื่อป้องกันไม่ให้ลูกน้อยเปิดออกไปเอง
สุดท้าย ไม่ว่าคุณพ่อคุณแม่จะเลือกอยู่บ้านหรืออยู่คอนโด สิ่งสำคัญที่สุด คือการให้ความรัก ความอบอุ่น และการดูแลเอาใจใส่จากผู้ปกครอง จะทำให้ลูกน้อยมีพัฒนาการที่ดี และเติบโตอย่างงดงามไม่ว่าจะอาศัยอยู่ในที่พักแบบใดก็ตามค่ะ
เรายังมี Insights ที่น่าสนใจอีกมากมาย หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อได้ที่ [email protected]
ผลสำรวจที่น่าสนใจอื่นๆ
5 เหตุผลหลักที่คุณแม่ไทยนิยมผ่าคลอด : ผลสำรวจจาก theAsianparent insights
พฤติกรรมช้อปปิ้งออนไลน์ของคุณแม่ชาวไทย ปี 2567 : ผลสำรวจจาก theAsianparent Insights
ปัจจัยสำคัญที่ผู้ปกครองตัดสินใจ เลือกโรงเรียนให้ลูก : ผลสำรวจจาก theAsianparent Insights
แม่ตั้งครรภ์ยุคใหม่ เลือกโรงพยาบาลฝากครรภ์ ยังไงให้ถูกใจ : ผลสำรวจจาก theAsianparent Insights
ที่มา: theAsianparent Insights , โรงพยาบาลเปาโล , ZmyHome
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!