"น้ำผึ้ง" ช่วยบรรเทาอาการหวัดได้ไหม? เราควรทำอย่างไรในช่วงหน้าฝน?

“น้ำผึ้ง” ช่วยบรรเทาอาการหวัดได้ไหม เราควรทำอย่างไรในช่วงหน้าฝน ใกล้จะเข้าสู่ช่วงหน้าฝนอย่างเต็มฤดู แน่นอนว่าคุณแม่หลายคนต้องหันมาดูแลรักษาสุขภาพตัวเอง และยิ่งอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อยแบบนี้อาจทำให้คุณแม่ป่วยและเป็นหวัดได้เหมือนกัน แต่ไม่ต้องกังวลใจเพราะวันนี้แอดจะพาคุณแม่ทุกคนมาทำความรู้จักกับอาหารที่ช่วยบรรเทาอาการหวัดให้ได้รู้กัน และเชื่อว่าหลายคนคงคุ้นเคยและเห็นอยู่เป็นประจำอย่างแน่นอน นั่นคือ “น้ำผึ้ง” ส่วนจะเป็นอย่างไรบ้างนั้น มาดูกันเลย

น้ำผึ้ง คืออะไร

เป็นอาหารที่มีรสหวาน มีความหนืดสูง โดยน้ำผึ้งจะเกิดจากตัวผึ้งที่โตเต็มวัยบินไปเก็บน้ำหวานจากเกสรดอกไม้ตามที่ต่าง ๆ มาทำการผลิต โดยน้ำหวานส่วนใหญ่ที่ได้จะประมาณ 80 ถึง 95 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งกระบวนการผลิตตัวผึ้งจะใช้กรด Enzyme ในส่วนท้องมาเปลี่ยนแปลงผ่านขั้นตอนต่าง ๆ จนกลายเป็นน้ำผึ้งนั่นเอง

ส่วนประกอบในน้ำผึ้งมีอะไรบ้าง

โดยทั่วไปน้ำผึ้งจะมีน้ำตาลชนิดต่าง ๆ เป็นส่วนประกอบ ได้แก่ ฟรักโทส กลูโคส มอลโทส ซูโครส แล็กโทส เป็นต้น

ผลการวิเคราะห์น้ำผึ้ง มีสารดังต่อไปนี้

• ฟรักโทส 38.2%
• กลูโคส 31.3%
• มอลโทส 7.1%
• ซูโครส 1.3%
• น้ำ 17.2%
• น้ำตาลที่สูงกว่า 1.5%
• เถ้า 0.2%
• อื่น ๆ /ไม่กำหนด 3.2%

ซึ่งส่วนผสมทั้งหมดนี้เป็นส่วนผสมที่ได้จากธรรมชาติและไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย เว้นแต่รับประทานในปริมาณที่มากเกินไป บางท่านที่แพ้เกสรดอกไม้หรือมีโรคประจำตัวก็อาจจะต้องปรึกษาแพทย์ก่อนรับประทาน นอกจากนี้น้ำผึ้งยังมีวิตามินต่างๆ อีกมากมายที่ส่งผลดีต่อร่างกายเรา ซึ่งประกอบด้วย

• วิตามิน บี1 หรือไทอามิน (Thiamin)
• วิตามินบี2 หรือไรโบฟลาวิน (Riboflavin)
• วิตามินบี3 หรือไนอะซิน (Niacin)
• วิตามินบี 5 หรือกรดแพนโทเทนิก (Pantothenic acid)
• วิตามินบี6 (Vitamin B-6)
• วิตามินบี 12 (Vitamin B-12)
• กรดโฟลิก (Folate)
• วิตามินซี (Vitamin C)
• วิตามันเอ (Vitamin A)
• วิตามินดี (Vitamin D)
• วิตามินอี (Vitamin E)
• วิตามินเค (Vitamin K)

ปริมาณที่ควรรับประทาน

น้ำผึ้งมีประโยชน์ต่อร่างกายก็จริง แต่มันจะยิ่งส่งผลดีต่อร่างกายเพิ่มขึ้นไปอีก ถ้าเรารับประทานในปริมาณที่พอเหมาะ โดยส่วนใหญ่จะรับประทานประมาณ 6 ช้อนชา หรือ 2 ช้อนโต๊ะ หรือถ้ามากกว่านั้นไม่ควรเกิน 10 ช้อนชา เพราะปกติในชีวิตประจำวันเราก็ต้องได้รับน้ำตาลจากอาหารชนิดอื่น ๆ อยู่แล้ว อาทิเช่น จากขนมหวาน ผลไม้หรือเครื่องดื่มชนิดต่าง ๆ เป็นต้น

สรรพคุณทางยา

เชื่อไหมว่า น้ำผึ้งสามารถฆ่าเชื้อจุลินทรีย์ต่าง ๆ ได้ เพราะในน้ำผึ้งจะมีความเข้มข้นของน้ำตาลสูงมาก โดยความเข้มข้นเหล่านี้จะช่วยไปกำจัดปริมาณน้ำในแบคทีเรียไม่ให้มีการเจริญเติบโต แถมยังมี สารไฮโดรเจนเพอร์ออกไซด์ และสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียต่าง ๆ ได้ดีอีกด้วย นอกจากนี้การรับประทานน้ำผึ้งผสมกับน้ำอุ่นก็จะช่วยให้ร่างกายสดชื่น และกระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย และทำให้ร่างกายแข็งแรง

น้ำผึ้งช่วยบรรเทาอาการหวัด

น้ำผึ้งมีฤทธิ์คล้าย ๆ กับสารต้านการอักเสบ โดยเฉพาะน้ำผึ้งที่ได้มาจากดอกไม้ เพราะในส่วนประกอบของดอกไม้จะมีอนุมูลละอองเกสรขนาดเล็กอยู่เป็นจำนวนมาก และอนุมูลเหล่านี้จะมาช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มในร่างกายเราให้ทำงานดีขึ้น จากนั้นร่างกายก็จะหลั่งสารชนิดหนึ่งออกมา หรือเรียกกันว่า “ฮีโสตามีน” (Histamine) ซึ่งเป็นสารที่ทำให้ร่างกายเราเกิดอาการน้ำมูกไหลได้น้อยลงนั่นเอง

คุณประโยชน์อื่นๆ ของน้ำผึ้ง

1.ช่วยให้นอนหลับสบายและผ่อนคลายมากขึ้น

สำหรับใครที่นอนไม่ค่อยหลับ หรือหลับๆ ตื่นๆ อาจจะลองดื่มน้ำผึ้งผสมกับน้ำอุ่นหรือนมอุ่นๆ สักแก้ว  และสิ่งนี้ก็อาจจะช่วยให้เราหลับสบายและผ่อนคลายมากขึ้น และถ้าร่างกายเราได้พักผ่อนเต็มที่ตื่นเช้ามาบอกเลยว่าสดชื่นอย่างแน่นอน

 2 .ช่วยลดความอ้วน

อย่างที่รู้กันว่าน้ำผึ้งเป็นอาหารที่มีรสชาติหวาน แต่น้ำผึ้งก็ไม่ได้ทำให้เราอ้วนได้ง่ายๆ สักทีเดียว ถ้าเรารู้จักรับประทานในปริมาณที่เหมาะแก่ร่างกาย เพราะในน้ำผึ้งจะมีกรดช่วยย่อยไขมันในร่างกาย ดังนั้นสำหรับใครที่กำลังลดน้ำหนักก็อาจจะเลือกรับประทานคู่กับผักหรือผลไม้ได้เช่นกัน เรียกได้ว่าเป็นเมนูที่ดีมีประโยชน์ต่อร่างกายเป็นอย่างมาก

บทความที่น่าสนใจ : หญ้าหวานแทนน้ำตาล ดีจริงหรือ หญ้าหวานน้อยแต่หวานนะ

3. ช่วยในการบำรุงผิว

น้ำผึ้งอุดมไปด้วยวิตามินต่าง ๆ ที่ดีต่อร่างกาย ไม่ว่าจะเป็น วิตามินซี วิตามินเอ และแร่ธาตุอื่น ๆ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่หลายคนจะนำน้ำผึ้งไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ ให้ได้ใช้กัน และสำหรับใครที่อยากมีผิวสวยเรียบเนียนมากขึ้น ก็อาจจะบำรุงผิวด้วยวิธีง่าย ๆ โดยการล้างหน้าด้วยน้ำอุ่น แล้วนำน้ำผึ้งมาพอกหน้าประมาณ 10 – 15 นาที แค่นี้ก็ทำให้ผิวของคุณดูเรียบเนียน ชุ่มชื้นได้เช่นกัน

4. ช่วยเพิ่มเม็ดเลือดแดงในร่างกาย

นอกจากการดื่มน้ำผึ้งผสมกับน้ำจะช่วยเพิ่มเม็ดเลือดแดงในร่างกายแล้ว สิ่งนี้ยังสามารถกำจัดแบคทีเรียในร่างกายของเราได้ และที่สำคัญยังช่วยเพิ่มระดับพลังงานให้แก่ร่างกายเราได้อีก บอกเลยว่าเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้นของคนชอบออกกำลังกายอย่างแน่นอน เพราะมันจะทำให้เราไม่เหนื่อยง่ายในขณะออกกำลังกายนั่นเอง

บทความที่น่าสนใจ : ภาวะเลือดจางในคนท้อง โลหิตจางในหญิงตั้งครรภ์ เลือดจางตอนท้องต้องกินอะไร วิธีป้องกันโลหิตจางในหญิงตั้งครรภ์

5. ช่วยบรรเทาอาการหวัด

หากใครที่ชอบเป็นหวัด หรือแพ้อากาศบ่อย ๆ ข้อนี้ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่จะช่วยให้คุณหายเป็นหวัดได้ง่ายขึ้น และยิ่งอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อยแบบนี้ แน่นอนว่าเราก็ต้องหันมาใส่ดูแลสุขภาพตัวเองสักหน่อยด้วยการจิบน้ำผึ้งผสมกับน้ำอุ่น ๆ หรือใครอยากให้ชุ่มคอมากขึ้นก็อาจจะผสมกับน้ำมะนาวได้เลย

บทความที่น่าสนใจ : ลูกเป็นภูมิแพ้อากาศ แค่ปัดกวาดเช็ดฝุ่นในบ้านเพียงพอหรือไม่?

“น้ำผึ้ง” เรียกได้ว่าเป็นอาหารอีกหนึ่งชนิดที่มีคุณประโยชน์เป็นอย่างมาก สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ในหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบของผลิตภัณฑ์ หรือการนำมาประกอบอาหารเมนูต่าง ๆ ก็ได้เช่นกัน และที่สำคัญน้ำผึ้งยังมีสรรพคุณทางยาช่วยบรรเทาโรคต่าง ๆ และบรรเทาอาการหวัดให้เราได้ด้วย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นควรรับประทานในปริมาณที่เหมาะสม เพราะถ้าเรารับประทานในปริมาณที่มากจนเกินไป สิ่งนี้ก็อาจส่งผลอันตรายต่อร่างกายได้ โดยเฉพาะท่านที่แพ้เกสรดอกไม้และมีโรคประจำตัวอยู่แล้ว ก็อาจจะต้องปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ผลิตภัณฑ์หรือรับประทาน

บทความที่น่าสนใจ :

เด็กทารกกินน้ำผึ้ง ได้หรือไม่?

เด็กเล่นน้ำฝน มีประโยชน์ อันตราย หรือแค่ทำให้เป็นหวัด

ที่มา : bnhhospital, 2, 3, line