สวัสดีค่ะ วันนี้อยากจะมาแชร์ประสบการณ์ ความดันสูง ระหว่างตั้งครรภ์ให้คุณแม่หลาย ๆ ท่านที่กำลังตั้งครรภ์อยู่ได้หมั่นสังเกตตัวเอง หรือให้คนรอบข้างช่วยกันสังเกต เพราะภาวะความดันสูงนี้อันตรายกับตัวคุณแม่เอง และเจ้าตัวน้อยในครรภ์อีกด้วย !!
รีวิวประสบการณ์ภาวะความดันโลหิตสูงขณะตั้งครรภ์ จากคุณแม่ กรชวัล สูงขาว สำหรับคุณแม่หลาย ๆ ท่านที่กำลังตั้งครรภ์อยู่ คงจะมีความกังวลใจกับหลาย ๆ เรื่องอยู่แล้ว ..ไม่ว่าจะเป็นความแข็งแรงของเจ้าตัวน้อยในครรภ์ และความเจ็บปวดจากการผ่าคลอด หรือจากการคลอดธรรมชาติ จนอาจจะทำให้เผลอลืมสังเกตร่างกายของตนเองไป และต่อไปนี้จะขอเล่าถึง ประสบการณ์ภาวะความดันโลหิตสูงขณะตั้งครรภ์ ซึ่งพบเจอได้มากในหญิงตั้งครรภ์ !!
ภาวะ ความดันสูง ความดันโลหิตสูงที่แม่ท้องไม่รู้ตัว !
เริ่มจากปกติแล้ว เป็นคนไม่มีโรคประจำตัว ไม่ค่อยป่วย ร่างกายแข็งแรงอยู่แล้วในระดับหนึ่ง จึงไม่ได้มีความเอะใจ หรือใส่ใจตัวเองมากพอ เพราะคิดว่าไปหาคุณหมอสูติ ฯ ทุกเดือนตามนัดอยู่แล้ว การตั้งครรภ์ดำเนินไปเรื่อย ๆ แม่ไปตามนัดทุกเดือนเพื่อจะดูการเจริญเติบโตของเจ้าตัวน้อยในครรภ์ว่าแข็งแรงดีไหม อวัยวะครบไหม และการเจริญเติบโตตามเกณฑ์ดีหรือไม่ ผลทุกครั้งที่ไปหาคุณหมอเป็นที่น่าพอใจทุกครั้ง ไม่มีอะไรต้องเป็นห่วงเลย ทั้งคุณแม่เอง และเจ้าตัวน้อยในครรภ์ จนระยะเวลาผ่านไป คุณแม่ก็เข้าสู่ช่วงตั้งครรภ์ 35 สัปดาห์ วันนั้นมีนัดไปหาคุณหมอเพื่อนัดวันผ่าคลอด (คุณแม่เลือกที่จะผ่าคลอดตั้งแต่แรก)
เมื่อไปถึงคลินิกผู้ช่วยคุณหมอก็ได้เรียกไปวัดความดันก่อนเข้าพบคุณหมอ (ในใจก็คิดว่าไม่มีอะไรเหมือนทุกครั้งสบาย ๆ ไม่ตื่นเต้น) แต่กลับไม่เป็นอย่างที่คิด ผู้ช่วยคุณหมอทำหน้าเปลี่ยนไปเป็นขมวดคิ้ว แม่เลยถามว่ามีอะไรหรือเปล่าคะ ? ผู้ช่วยบอกแม่ว่าขอลองวัดใหม่อีกครั้งนะคะ พอวัดเสร็จผู้ช่วยแจ้งว่าแปลกใจมากเลยค่ะ ครั้งนี้คุณแม่ความดันสูงปรี๊ดด!! เข้าพบคุณหมอด่วนเลยนะคะ
แม่เดินเข้าไปหาคุณหมอในห้องตรวจ คุณหมอขอวัดใหม่อีกรอบ (คิดในใจ อะไรกันเนี่ย แม่เป็นอะไร มันร้ายแรงแค่ไหน ยังไง คำถามตีกันในหัว) เพราะก่อนหน้านี้ แม่ไม่เคยมีอาการอะไรเลยที่ดูจะผิดปกติไป คุณหมอถามว่าเร็ว ๆ นี้แม่มีอาการเวียนหัวไหมคะ จะอ้วกไหมคะ ตาลายไหมคะอย่างกระตือรือร้น แน่นอนว่าแม่ปฏิเสธทุกคำถาม (ยัง ยังไม่รู้ตัว)
แม่แจ้งไปตรง ๆ ว่าไม่เคยมีอาการอะไรเลยค่ะคุณหมอ มีแค่เหนื่อยง่ายกว่าปกติ คิดว่าเป็นเพราะท้องแก่ใกล้คลอดที่เป็นเรื่องปกติของคุณแม่ตั้งครรภ์ คุณหมอก็บอก เอ..แปลกจังเลย งั้นขึ้นไปอัลตราซาวนด์ดูเจ้าตัวน้อยกันก่อน ทุกอย่างปกติดี อัตราการเต้นหัวใจ น้ำหนัก และตำแหน่งทุกอย่างอยู่ในเกณฑ์ดีเยี่ยม พออัลตราซาวนด์เสร็จคุณหมอก็แจ้งแม่ว่า จะเขียนใบส่งตัวไปโรงพยาบาลที่จะคลอดนะคะคุณแม่ ให้เข้าไปเลยตอนนี้!! จากนั้นก็ได้ไปตรวจเลือด และดูการบีบตัวของมดลูก ถ้าไม่ดีอาจจะต้องผ่าวันนี้!! (คุณพระ! แม่ไม่ได้เตรียมตัวเตรียมใจมา แม่ยังไม่พร้อมมม คุณพ่อที่ไปด้วยกันยังช็อก บอกวันนี้เหรอครับหมอ..แล้วก็ค้างไว้แค่นั้น มือเตรียมจะกดโทรศัพท์ลางาน แม่บอก อย่าเพิ่งงงง พ่อใจเย็น ) ทีนี้ก็ไปโรงพยาบาลซึ่งอยู่ข้าง ๆ คลินิก คุณหมอให้แม่ไปที่ห้องคลอดเลย เนื่องจากคุณหมอได้ประสานกับพยาบาลห้องคลอดไว้แล้ว และให้คุณพ่อไปทำประวัติแทน
คุณพยาบาลก็ดำเนินการเอาปัสสาวะของแม่ไปตรวจ ให้แม่ไปติดเครื่องมือวัดการบีบตัวของมดลูก สักพักใหญ่ๆ ผลการบีบตัวของมดลูกอยู่ในเกณฑ์ปกติ ทีนี้มาฟังผลตรวจปัสสาวะ พยาบาลก็แจ้งว่า คุณแม่มีภาวะครรภ์เป็นพิษเบื้องต้นนะคะ ไม่ร้ายแรง และโปรตีนรั่วนิดหน่อย เป็นผลมาจากความดันโลหิตสูง วันนี้ให้กลับบ้านได้ หมั่นสังเกตอาการให้ดี หากมีเวียนหัว ตาลาย พร่ามัว ให้มาโรงพยาบาลทันที! และทำการนัดอีก 1 สัปดาห์ให้มาโรงพยาบาลอีกครั้ง และเวลาก็ผ่านไปอย่างรวดเร็ว ครบกำหนดไปโรงพยาบาล แม่อายุครรภ์ครบ 36 สัปดาห์ วันนี้คุณพ่อ คุณยาย ไปกับแม่ด้วยและคุณยายไม่ลืมที่จะหิ้วกระเป๋าอุปกรณ์เตรียมคลอดของแม่มาด้วย (เอามาเป็นลาง 55)
เช้านี้แม่ตื่นมางดน้ำงดอาหารมาเรียบร้อยเผื่อมีอะไรฉุกเฉิน (เป็นลางอีกรอบ!) เมื่อมาถึงหน้าห้องตรวจพยาบาลวัดความดันแม่ แล้วบอกสูงมากเลยนะคะคุณแม่! แม่กำลังจะพูดว่าจริงหรอคะ คุณพยาบาลบอกอย่าพูดนะคะ คุณแม่ เดี๋ยวเหนื่อย พร้อมกับเรียกรถเข็นมาพาแม่เข้าห้องตรวจพบคุณหมอ ระยะห่างจากจุดที่แม่อยู่ 10 ก้าวเดิน! คุณหมอบอกดูจากความดันแม่แล้ว อาจจะต้องผ่าวันนี้เลยนะคะคุณแม่ คิวแรกวันนี้เลยค่ะ ทำการอัลตราซาวด์ดูน้ำหนักเจ้าตัวน้อย ได้ 2,650 กรัม ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่จะคลอดได้แล้ว ก็ได้เรียกรถเข็นมาพาแม่ไปเพื่อเตรียมตัวผ่าคลอด ตอนนั้นไม่ให้แม่ขยับตัวหรือทำอะไรที่จะให้เหนื่อยเลย แม่ได้ฉีดยากันชักไป
ถึงเวลาเตรียมผ่าคลอด !
พยาบาลก็จัดการกับแม่เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการผ่าคลอด เมื่อเวลาผ่าคลอดมาถึง ใช้เวลาอยู่ประมาณ ครึ่งชั่วโมง เจ้าตัวน้อยของแม่ก็ได้ออกมาดูโลก ด้วยน้ำหนัก 3,020 กรัม ซึ่งเยอะกว่าที่ประเมินก่อนผ่า และแข็งแรงดี ช่วงพักฟื้นกลางคืนแม่มีการตกเลือด คุณหมอก็มาคอยดูบ่อย ๆ พร้อมกับคอยล้วงเอาเลือดออกจากช่องคลอด พอเช้าวันถัดมาแม่ก็ได้ย้ายไปพักห้องพิเศษ เพราะอาการดีขึ้นมากไม่มีอะไรผิดปกติแล้ว แต่สิ่งที่ได้กลับมาจากการตั้งครรภ์ครั้งนี้คือ โรคความดันโลหิตสูง ที่ต้องรักษากันต่อไปค่ะ
ภาวะความดันโลหิตสูงนี้มีอาการอย่างไร
บางรายอาจมีภาวะบวมตามมือและหน้า หรือมีน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตามบางรายอาจไม่มีอาการหรืออาการไม่แน่ชัด ดังนั้นจึงควรมาตรวจครรภ์อย่างสม่ำเสมอตามแพทย์นัด เพื่อรับการวินิจฉัยและดูแลรักษาแต่เนิ่น ๆ หากเกิดภาวะดังกล่าวขึ้น อาการที่บ่งบอกสภาวะของโรครุนแรงขึ้น คือ ปวดศีรษะมาก ตามัว จุกแน่นลิ้นปี่ ปวดเกร็งท้อง เลือดออกทางช่องคลอด ซึ่งอาจเป็นอาการแสดงของรกลอกตัวก่อนกำหนด หรือลูกดิ้นน้อยลง
แนวทางการดูแลรักษา แพทย์อาจจะให้คุณแม่พักตัวไว้ในโรงพยาบาล เพื่อตรวจติดตามภาวะของโรคและสุขภาพของทารกไว้ได้อย่างใกล้ชิด การรักษาภาวะนี้ขึ้นอยู่กับระดับความรุนแรงของโรคและอายุครรภ์ หากการตั้งครรภ์ครบกำหนด หรือภาวะของโรคมีแนวโน้มที่จะรุนแรงขึ้น แนวทางการรักษา คือ ยุติการตั้งครรภ์ ซึ่งบางรายอาจจำเป็นต้องผ่าตัดคลอด อย่างไรก็ตาม หากการตั้งครรภ์ยังไม่ครบกำหนดและภาวะของโรคความดันโลหิตสูงก็ยังสามารถควบคุมได้ อาจพิจารณาดำเนินการตั้งครรภ์ต่อไปภายใต้การดูแลของแพทย์
เป็นอย่างไรกันบ้างคะ สำหรับประสบการณ์ภาวะความดันโลหิตสูงขณะตั้งครรภ์ของแม่ แม่หวังว่าจะมีประโยชน์กับคุณแม่หลาย ๆ ท่าน ที่กำลังสงสัย หรือมีอาการที่เกี่ยวข้องและอาจนำพาไปสู่ภาวะนี้ได้ อย่างไรก็ตามคุณแม่ และคนรอบข้างต้องช่วยกันสังเกตอย่างใกล้ชิดนะคะ หากพบว่ามีอาการอะไรที่ผิดปกติ ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อทำการตรวจอย่างละเอียดเพื่อที่จะทำการดูแลและรักษาได้ทันท่วงทีค่ะ ครั้งนี้แม่ถือว่าตัวเองโชคดีมากที่ปลอดภัยทั้งแม่และเจ้าตัวน้อย จึงอยากมาแชร์ประสบการณ์เพื่อเป็นประโยชน์ให้กับคุณแม่ ๆ ท่านอื่นค่ะ
บทความอื่น ๆ ที่คุณอาจจะสนใจ :
15 วิธีลดความดันโลหิต ด้วยวิธีธรรมชาติ ลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรค
ความดันสูง ความดันต่ำของคนท้อง มีอาการและวิธีการรักษาแตกต่างกันอย่างไร
โรคความดันโลหิตสูง อาการและแนวทางรักษา ทุกเรื่องที่ควรรู้เกี่ยวกับความดันโลหิตสูง