ช่วยลูกเรื่องการบ้าน ไม่ใช่ช่วยลูกทำการบ้าน
ช่วงหัวค่ำที่สมาชิกในครอบครัวจะได้อยู่กันพร้อมหน้านั้นเป็นอะไรที่ค่อนข้างจะจำกัด กว่าจะรับประทานอาหารเย็นและทำความสะอาดเรียบร้อยก็เหลือเวลาน้อยเต็มที สิ่งที่จะทำช่วงนี้ก็ไม่พ้น การบ้าน อาบน้ำและเตรียมตัวเข้านอน แทบจะไม่เหลือเวลาให้ทำอย่างอื่นร่วมกันเลย
จริงๆ แล้วเมื่อถึงเวลาที่ลูกจะต้องทำ การบ้าน ด้วยความที่คุณพ่อคุณแม่อยากจะช่วยลูก ทำให้บ่อยครั้ง คุณพ่อคุณแม่ให้ความช่วยเหลือมากจนเกินไป บางครั้งอาจกลายเป็นว่าคุณพ่อคุณแม่ทำ การบ้าน นั้นแทนลูกเสียเอง แทนที่จะนั่งอยู่ข้าง ๆ คอยช่วยเวลาลูกเกิดข้อสงสัย
แล้วจะช่วยลูกอย่างไร
ลูกมี การบ้าน เพราะว่า 1) ลูกทำงานในห้องไม่เสร็จ 2) คุณครูเห็นว่าลูกควรทำแบบฝึกหัดเพิ่มเติมเพื่อให้เข้าใจแนวคิดของบทเรียนได้ดีขึ้น ซึ่งหมายความว่า ถ้าคุณทำ การบ้าน เสียเอง คุณไม่ได้กำลังช่วยลูกเลยแม้แต่น้อย จริง ๆ แล้วคุณกำลังทำร้ายลูกเสียด้วยซ้ำเพราะวันรุ่งขึ้นพอลูกไปโรงเรียน ลูกก็จะยังคงไม่รู้อยู่เหมือนเดิมว่างานที่คุณครูสั่งมานั้นทำอย่างไร
แต่นี่ก็ไม่ได้หมายความว่าคุณจะต้องนั่งนิ่งไม่ทำอะไรเลยนะคะ ยังมีอีกหลายวิธีที่คุณจะช่วยลูกเรื่อง การบ้าน ได้ ไม่ว่าจะเป็น…
การสะกดคำหรือเขียนตามคำบอก ให้ลูกสะกดคำที่คุณครูกำหนดให้ถูกต้อง แล้วคุณกับลูกแข่งกันแต่งประโยคโดยใช้คำเหล่านั้น
การอ่าน แทนที่จะอ่านนิทานก่อนนอนกัน คุณก็ให้ลูกอ่านเรื่องที่คุณครูกำหนดให้คุณฟังแทน หรืออาจให้ลูกอ่านให้ทุกคนในครอบครัวฟังแทนหลังจากรับประทานอาหารเย็นกันเสร็จ นอกจากนี้คุณยังส่งเสริมให้ลูกรักการอ่านหนังสือได้ด้วยการที่ตัวคุณเองก็อ่านหนังสือให้ลูกเห็น รวมทั้งหาหนังสือที่น่าสนใจสำหรับลูก
คณิตศาสตร์ เช็คการบ้านของลูก ถ้าถูกทั้งหมดก็ชมลูก แต่ถ้ายังมีข้อผิด ให้คุณคิดโจทย์เพิ่มสัก 2-3 ข้อให้ลูกทำพร้อมกับอธิบายทีละขั้นตอน จากนั้นให้ลูกทำทีเหลือเองแล้วดูว่าถูกทั้งหมดหรือไม่ ถ้าถูกให้ชม แต่ถ้ายังผิดอยู่ก็ให้ทำใหม่และอธิบายใหม่อีกครั้ง นอกจากนี้ คุณยังสามารถเสริมความรู้ทางคณิตศาสตร์ให้ลูกได้ด้วยการนำคณิตศาสตร์มาใช้ในชีวิตจริง เช่น ให้ลูกตวงส่วนผสมต่างๆ ในการทำอาหาร นับสิ่งของ หารจำนวนขนมกับพี่น้อง เป็นต้น
อ่านวิธีช่วยลูกเรื่องการบ้านหน้าถัดไป
ภาษาไทย/ภาษาอังกฤษ/ไวยากรณ์ อ่านงานที่คุณครูสั่งอย่างละเอียด ตอบคำถามที่ลูกอาจสงสัยและให้ลูกทำงานนั้นเอง เมื่อลูกทำเสร็จแล้วให้มาตรวจสอบความถูกต้อง ถ้าถูกทั้งหมดให้ชมเชย แต่ถ้ายังมีที่ผิด ให้อธิบายที่ผิดให้เข้าใจและให้ลูกทำใหม่ อย่าลืมเช็คว่าลูกเข้าใจที่คุณอธิบายหรือไม่ แล้วเช็คงานลูกอีกครั้ง นอกจากนี้ การพูดคุยโดยสอนให้ลูกใช้ภาษาให้ถูกต้องและเหมาะสมยังช่วยพัฒนาทักษะทางภาษาให้ลูกได้ หากเป็นไปได้ คุณอาจพูดคุยกับลูกเป็นภาษาอังกฤษและสอนให้ลูกใช้ไวยากรณ์ภาษาอังกฤษอย่างถูกต้อง สำหรับเด็กโตขึ้นอีกหน่อย คุณอาจให้ลูกเล่นเกมภาษาเช่น อักษรไขว้ ต่อคำคล้องจอง หรือ Mad-Libs
สังคมศีกษา ตรวจ การบ้าน หรือใบงานที่คุณครูกำหนดว่าถูกต้องหรือไม่ และให้ลูกแก้ถ้ายังมีที่ผิด ถ้าลูกต้องทบทวนบทเรียนเพื่อสอบ ให้ถามคำถามจากหนังสือหรือใบงานเพื่อให้แน่ใจว่าลูกเข้าใจและมีความรู้เกี่ยวบทเรียน ถ้าลูกมีโปรเจคพิเศษเช่น เรียงความ ทำรายงานสรุปจากหนังสือ แผนที่ แผนภูมิ ให้คุณช่วยลูกวางแผนการทำโปรเจคแล้วปล่อยให้ลูกทำเอง คุณครูไม่สนใจหรอกนะคะว่าคุณพ่อคุณแม่จะมีความคิดสร้างสรรค์หรือมีฝีมือทางศิลปะขนาดไหน สิ่งที่คุณครูสนใจคือความเข้าใจและความรู้เกี่ยวกับสิ่งที่คุณครูสอน
วิทยาศาสตร์ คุณพ่อคุณแม่สามารถช่วยลูกได้ด้วยวิธีเดียวกันกับวิชาสังคมศึกษา ส่วน การบ้าน ที่เป็นโปรเจควิทยาศาสตร์และการทดลองนั้น ให้คุณพ่อคุณแม่ช่วยเตรียมอุปกรณ์ที่ต้องใช้ เช็คว่าลูกเข้าใจข้อแนะนำและแนวทางในการทำโปรเจคหรือไม่ ให้ลูกลงมือทำเองโดยคอยดูอยู่ใกล้ๆ เผื่อลูกต้องการความช่วยเหลือ แต่จะต้องเป็นกรณีที่จำเป็นจริง ๆ เท่านั้น
เมื่อใดที่การช่วยเหลือนั้นเกินขอบเขต
การช่วยลูกเรื่อง การบ้าน จะกลายเป็นเรื่องเกินขอบเขตเมื่อ…
การบ้าน นั้นเสร็จลงได้ด้วยลายมือของคุณ
ลูกไปโรงเรียนวันรุ่งขึ้นโดยไม่ได้รู้อะไรมากขึ้นจากเมื่อวานเลย
คุณนั่งข้างๆ ลูกและบอกให้ลูกเขียนตาม แทนที่จะสอนให้ลูกคิดเองว่าจะต้องเขียนอะไร
โปรเจค และ/หรือ การทดลองวิทยาศาสตร์เสร็จขณะที่ลูกกำลังดูการ์ตูน
แผนที่ที่ลูกทำมีอัตราส่วนที่เป๊ะมาก
คำตอบของลูกเมื่อคุณครูถามเกี่ยวกับ การบ้าน คือ “คุณแม่/คุณพ่อเป็นคนทำ”
3 วิธีช่วยให้ลูกทำการบ้าน
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!