การตั้งครรภ์ นับเป็นช่วงเวลาที่สร้างความตื่นเต้นให้คุณพ่อคุณแม่ตั้งแต่วันแรกค่ะ ทั้งการดูแลตัวเองเพื่อความแข็งแรงของลูกน้อย การติดตามพัฒนาการทุกช่วงเวลาของทารกในครรภ์ และแน่นอนการคาดการณ์ล่วงหน้าเกี่ยวกับ “เพศ” ของลูกน้อย ก็เป็นอีกหนึ่งหัวข้อที่ไม่เพียงคุณพ่อคุณแม่เท่านั้นที่อยากรู้ แต่รวมไปถึงคนรอบข้างด้วย จึงไม่น่าแปลกใจที่เรามักได้ยินทฤษฎีต่างๆ นานา เกี่ยวกับการ ทายเพศลูกตามความเชื่อ โดยเฉพาะ จริงไหม ท้องแหลมได้ลูกชาย ท้องกลมได้ลูกสาว วันนี้เราจะชวนมาไขข้อข้องใจกันค่ะ
สารบัญ
ปัจจัยที่กำหนดลักษณะท้องของแม่ตั้งครรภ์มีอะไรบ้าง
โดยปกติแล้วลักษณะท้องของแม่ตั้งครรภ์จะแตกต่างกันออกไป ซึ่งมักจะมองเห็นรูปร่างได้ในช่วงระยะครรภ์ประมาณ 12-16 สัปดาห์ ซึ่งปัจจัยที่จะกำหนดขนาดและรูปร่างท้องของคุณแม่มีดังนี้ค่ะ
-
ส่วนสูงของคุณแม่
ความสูงของคุณแม่มีความสัมพันธ์กับความสูงของครรภ์ได้ค่ะ โดยคุณแม่ที่มีรูปร่างสูงส่วนใหญ่มักจะอุ้มท้องสูง ในตำแหน่งที่ใกล้หน้าอกมากขึ้น ส่งผลให้ทารกมีพื้นที่ในการเติบโตในแนวตั้งมากขึ้น ส่วนกรณีคุณแม่ไม่สูง จะอุ้มท้องต่ำกว่า และกว้างกว่า เนื่องจากมีพื้นที่ในการเติบโตแนวตั้งน้อยลงนั่นเอง
เมื่อตั้งครรภ์ดัชนีมวลกายหรือน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นจะส่งผลให้ท้องของคุณแม่ยิ่งดูใหญ่ขึ้น แต่ในกรณีที่คุณแม่มีไขมันในร่างกายสูง ก็มีความเป็นไปได้ว่ามวลไขมันในร่างกายอาจมีส่วนอำพรางขนาดและลักษณะของท้องจริงได้ด้วย
-
โครงสร้างกล้ามเนื้อและอุ้งเชิงกรานคุณแม่
กล้ามเนื้อหน้าท้องและอุ้งเชิงกรานของคุณแม่มีหน้าที่ในการพยุงและรองรับมดลูกตลอดช่วงเวลาตั้งครรภ์ หากกล้ามเนื้อเหล่านี้ยิ่งตึงมากเท่าไร หน้าท้องของคุณแม่ก็จะยืดและแสดงความเปลี่ยนแปลงให้เห็นได้นานขึ้น เห็นท้องชัดเจนขึ้น
-
ตำแหน่งของลูกน้อย
โดยปกติแล้วทารกสามารถเจริญเติบโตได้ในเกือบทุกทิศทางภายในครรภ์ค่ะ เช่น ทารกอยู่ในท่าด้านหลัง คือ กระดูกสันหลังขนานกับแม่ หรือบางครั้งทารกอาจอยู่ในท่าที่ท้องหันเข้าหากระดูกสันหลังของแม่ ทำให้คุณแม่มีรูปร่างหน้าท้องที่แตกต่างกันไป
จริงไหม ท้องแหลมได้ลูกชาย ท้องกลมได้ลูกสาว
เรื่องการนำรูปร่างและลักษณะท้องของคุณแม่มาเป็นสิ่งที่บอกเพศของลูกอย่าง ท้องแหลมได้ลูกชาย ท้องกลมได้ลูกสาว นับเป็นความเชื่อเรื่องการทายเพศลูกที่ได้รับความนิยมมากที่สุดค่ะ อย่างไรก็ตาม ความเชื่อนี้ไม่เป็นจริงเสมอไป และหากอ้างอิงตามหลักการทางวิทยาศาสตร์แล้ว ลักษณะรูปร่าง หรือความสูงต่ำของท้องคุณแม่นั้นขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่างตามที่กล่าวไปแล้ว ทั้งโครงสร้างร่างกายของแม่ ความตึงตัวของกล้ามเนื้อและมดลูก น้ำหนักตัวคุณแม่ที่เพิ่มขึ้นเมื่อตั้งครรภ์ ขนาดและตำแหน่งของทารก
โดยยิ่งใกล้กำหนดคลอดมากเท่าไร ตำแหน่งของทารกก็จะยิ่งลดต่ำ ลงมาอยู่ใกล้อุ้งเชิงกรานมากขึ้นเท่านั้น ซึ่งในทางการแพทย์ วิธีการอัลตราซาวนด์ถือเป็นวิธีที่นิยมใช้เพื่อคาดการณ์เพศของทารกในครรภ์มากที่สุด แต่ทั้งนี้ การอัลตราซาวนด์ก็ยังไม่สามารถระบุเพศของทารกในครรภ์ได้อย่างแม่นยำ 100 เปอร์เซ็นต์
ไขข้อข้องใจ ท้องแหลมเพราะอะไร ท้องกลมเกิดจากอะไร |
|
ท้องกลมเกิดจากอะไร | คุณแม่ที่มีหน้าท้องกลมนั้น เป็นเพราะลักษณะมดลูกคว่ำค่อนไปทางด้านหลัง และอาจเกิดจากการที่คุณแม่ออกกำลังกายเป็นประจำ ทำให้หน้าท้องดูกระชับ ออกมามีรูปร่างกลมสวย |
ท้องแหลมเพราะอะไร | แม่ตั้งครรภ์ที่มีลักษณะท้องแหลม เกิดจากมดลูกของคุณแม่คว่ำไปค่อนทางข้างหน้า บวกกับการที่ออกกำลังกายน้อย กล้ามเนื้อหน้าท้องไม่กระชับ รูปร่างของท้องจึงมีลักษะแหลมนั่นเอง |
รู้เพศลูกได้แบบไม่อิงความเชื่อ ท้องแหลมได้ลูกชาย ท้องกลมได้ลูกสาว
เมื่อความเชื่อที่ว่า จริงไหม ท้องแหลมได้ลูกชาย ท้องกลมได้ลูกสาว ไม่เป็นจริงเสมอไป แต่คุณพ่อคุณแม่ต้องการรู้ลูกเพศทารกน้อยในครรภ์ แนะนำว่าให้พึ่งวิธีการทางวิทยาศาสตร์และเข้ารับการตรวจจากแพทย์ เพื่อตรวจดูเพศของทารกให้แน่ชัด ด้วยวิธีการต่อไปนี้
-
อัลตราซาวนด์ (Ultrasound Scanning)
นับเป็นวิธีการตรวจเพศลูกที่แม่นยำที่สุด เนื่องจากแพทย์จะสามารถมองเห็นอวัยวะเพศของทารกได้ชัดเจน ซึ่งทั่วไปจะสามารถตรวจเพศของทารกได้ตั้งแต่สัปดาห์ที่ 16 ขึ้นไป โดยคุณแม่อาจเห็นเพศลูกได้ชัดเจนเมื่ออายุครรภ์ประมาณ 18-22 สัปดาห์ นอกจากนี้ วิธีอัลตราซาวนด์ยังช่วยในการตรวจสอบและติดตามพัฒนาการของทารกในครรภ์ได้ด้วย
-
การตรวจโครโมโซม (Chromosomal Testing)
เพศของลูกน้อยนั้นถูกกำหนดมาตั้งแต่แรกเริ่มด้วยโครโมโซมที่ได้รับจากพ่อและแม่ค่ะ โครโมโซม X ให้ลูกสาว โครโมโซม Y ให้ลูกชาย การตรวจโครโมโซมจะใช้วิเคราะห์โครโมโซมของตัวอ่อนหรือทารกในครรภ์ โดยแพทย์จะทำการตรวจพันธุกรรมตัวอ่อนก่อนฝังตัว ที่นอกจากจะบอกเพศของทารกแล้วยังสามารถตรวจหาความผิดปกติทางพันธุกรรมบางชนิดได้
-
การเจาะน้ำคร่ำ (Amniocentesis)
มักจะทำในช่วงอายุครรภ์ 15-18 สัปดาห์ โดยเป็นการนำน้ำคร่ำซึ่งล้อมรอบทารกในครรภ์มาตรวจวิเคราะห์เพื่อหาความผิดปกติทางพันธุกรรมต่าง ๆ รวมถึงยังสามารถบอกเพศของทารกได้เช่นกัน
ทั้งนี้ การตรวจเพศทารกในครรภ์แต่ละอย่างขึ้นอยู่กับอายุครรภ์ ความเสี่ยงที่ยอมรับได้ รวมถึงค่าใช้จ่าย ซึ่งคุณพ่อคุณแม่ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับคำแนะนำที่เหมาะสมกับตัวคุณแม่และสุขภาพร่างกายของลูกน้อยในครรภ์ค่ะ
**วิธีอื่นๆ ที่มักใช้ทายเพศลูกตามความเชื่อ |
|
ทายเพศลูกจากใบไม้ | โดยให้คุณแม่เก็บใบไม้มาหนึ่งใบ หากคุณแม่ยื่นใบไม้มาในลักษณะหงาย ทำนายว่าจะได้ลูกสาว แต่ถ้าหากยื่นใบไม้มาในลักษณะคว่ำ จะทำนายว่าได้ลูกชาย |
ความฝันทำนายเพศลูก | เชื่อมโยงกับสัญลักษณ์ในความฝัน เช่น หากฝันเห็นอัญมณีทำนายว่าจะได้ลูกสาว เนื่องจากอัญมณีมีความเกี่ยวข้องกับความสวยงามและความอ่อนโยนของผู้หญิง แต่หากฝันเห็นพระพุทธรูป หรือช้าง ทำนายว่าจะได้ลูกชาย เนื่องจากมีความเกี่ยวข้องกับความแข็งแกร่งและพลกำลัง |
ทายเพศลูกจากอาหารที่กิน | หากแม่ท้องชอบกินของหวาน ขนม จะได้ลูกสาว แต่ถ้าชอบกินของคาว เนื้อสัตว์ จะได้ลูกชาย |
อาการแพ้ท้องบอกเพศลูก | เช่น แพ้ท้องหนักได้ลูกสาว แพ้ท้องน้อยได้ลูกชาย |
อัตราการเต้นของหัวใจลูก บอกเพศ | มีความเชื่อว่าหากอัตราการเต้นของหัวใจทารกต่ำกว่า 140 ครั้งต่อนาที จะเป็นลูกชาย แต่หากสูงกว่าจะเป็นลูกสาว |
** เป็นเพียงความเชื่อที่เล่าต่อกันมาเท่านั้น คุณพ่อคุณแม่โปรดใช้วิจารณญาณในการรับข้อมูล
ความเชื่อเรื่องการทายเพศลูกน้อยนั้นอาจเกิดจากความอยากรู้ของคุณพ่อคุณแม่มือใหม่ เพื่อให้สามารถเตรียมตัวเตรียมของใช้สำหรับลูกได้อย่างเหมาะสม อีกทั้งในบางครั้งการทายเพศทารกในครรภ์ยังอาจเป็นกิจกรรมที่สนุกและช่วยสร้างความผูกพันในครอบครัวได้ด้วย อย่างไรก็ตาม วิธีการและความเชื่อทั้งหมดล้วนเป็นเพียงการคาดเดา หากคุณพ่อคุณแม่อยากรู้และต้องการความแม่นยำ แนะนำให้เข้ารับการตรวจกับแพทย์ด้วยวิธีการทางวิทยาศาสตร์ เพื่อให้สามารถรู้เพศของทารกได้อย่างแม่นยำมากขึ้นนะคะ
ที่มา : www.trueplookpanya.com , www.pobpad.com , www.v-ivf.com , sneakpeektest.com
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ
Do & Don’t คนท้องอ่อน ไม่ควรทำอะไร และเรื่องไหนแม่ท้องต้องใส่ใจ
อาการคนท้อง ฉี่สีอะไร บ่งบอกสุขภาพแม่ท้องได้ไหม
คนท้องแพ้ท้อง อ้วกเป็นเลือด อ้วกเป็นฟอง อ้วกแบบไหนอันตรายต้องพบแพทย์ ?!?