ฟุตซอล (Futsal) คือกีฬาที่ได้รับความนิยมอย่างมากตั้งแต่ปัจจุบันจนถึงอดีต ซึ่งประเทศไทยเองก็ถือว่าอยู่ในระดับที่ค่อนข้างสูงในการแข่งขันแต่ละครั้ง ด้วยความที่เป็นกีฬาประเภททีมที่เล่นในร่มทำให้เหมาะกับเด็กเป็นอย่างมาก และด้วยกฎกติกาที่มีส่วนคล้ายฟุตบอลค่อนข้างมากทำให้เด็กไม่ต้องใช้ความพยายามในการปรับตัวมากเท่าไหร่
ทำความรู้จักกีฬาฟุตซอล
ฟุตซอลเป็นกีฬาที่มีความคล้ายคลึงอย่างมากกับฟุตบอล หากคนที่ไม่ได้ติดตามกีฬาอาจคิดไปว่ากีฬา 2 ชนิดนี้คือกีฬาชนิดเดียวกัน แต่จุดที่ทำให้มีความแตกต่างคือจำนวนของตัวผู้เล่น และขนาดของสนามที่ ฟุตซอล จะเน้นไปที่ความกระชับของการแข่งขัน และความเร็วของเกมที่มีมากกว่า ทำให้ผู้เล่นกีฬาประเภทนี้สามารถแสดงศักยภาพของตนเองออกมาได้อย่างเด่นชัด นอกจากนี้สำหรับประเทศไทยนั้นยังถือว่าติด Top ความเก่งในฟุตซอลระดับโลก และเข้าแข่งขันกับนานาชาติมาโดยตลอด ด้วยเหตุนี้จึงไม่แปลกที่จะมีผู้คนมากมายให้ความสนใจ
ประวัติของกีฬาฟุตซอล
เมื่อ ค.ศ. 1854 หรือ พ.ศ. 2397 ประเทศแคนาดาในช่วงที่ประชาชนกำลังประสบกับปัญหาสภาพอากาศหิมะปกคลุมไปทั่วพื้นที่แจ้ง ทำให้คนแคนาดาไม่สามารถเล่นฟุตบอลตามที่ตนต้องการได้ พวกเขาจึงตัดสินใจเล่นกันในโรงยิมแทนถึงแม้ว่าจะมีสนามที่เล็กกว่า แต่สามารถแก้ปัญหาเรื่องสภาพอากาศได้ ในเวลานั้นถูกเรียกว่า Indoor soccer หรือ five a side soccer
หลังจากนั้นการเล่นกีฬาชนิดนี้ก็เริ่มแพร่หลายมากขึ้นเรื่อย ๆ จนในปี 1965 หรือ พ.ศ. 2508 ได้มีการจัดการเเข่งขันฟุตซอลนานาชาติเป็นครั้งแรก และนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาด้วยความเป็นที่นิยมก็เกิดการแข่งขันในรายการใหญ่ ๆ มากขึ้นเรื่อย ๆ จนท้ายที่สุดก็ถูกจัดการแข่งขันชิงแชมป์โลกขึ้นนับว่าเป็นยุคทองของฟุตซอลมาจนถึงทุกวันนี้
บทความที่เกี่ยวข้อง : แฮนด์บอล (Handball) กีฬาแห่งความเร็ว และการทรงตัว เหมาะกับเด็กอย่างไร
ฟุตซอลเหมาะกับเด็กอย่างไร
- ความคุ้นชิน : เด็ก ๆ คงมีความคุ้นเคยกับกีฬาอย่าง “ฟุตบอล” มาไม่มากก็น้อยหากมีความเข้าใจในฟุตบอลก็สามารถปรับตัวได้ง่ายในการเล่น ฟุตซอล อย่างแน่นอน อย่างไรก็ตามความแตกต่างระหว่างกีฬา 2 ประเภทนี้ยังมีอยู่พอสมควร ดังนั้นก่อนเริ่มเล่นจริงเด็กควรทำความเข้าใจกฎเกณฑ์ต่าง ๆ เสียก่อน
- โอกาสบาดเจ็บน้อยกว่า : หากเทียบกับกีฬาคู่แฝดอย่างฟุตบอลแล้ว ฟุตซอลถือว่ามีความปลอดภัยกว่าค่อนข้างมาก เนื่องจากในสนามที่เล็กทำให้กรรมการสามารถสังเกตเห็นจังหวะปะทะกันของผู้เล่นทั้ง 2 ฝั่งได้ง่ายกว่า หากมีการทำฟาวล์เกิดขึ้นจะทำให้มีโอกาสได้รับการลงโทษสูง ซึ่งไม่ใช่ผลดีต่อตัวของผู้เล่นเองอย่างแน่นอน
- ฝึกได้สะดวก : กีฬาที่อยู่ในร่มสามารถฝึกได้สะดวกกว่ากีฬากลางแจ้งอย่างมาก เนื่องด้วยสามารถเล่นในพื้นที่ปิดที่สามารถควบคุมเรื่องสภาพอากาศได้ ในจุดนี้ส่งผลดีต่อประเทศไทยที่นับว่าเป็นประเทศเขตร้อน การให้เด็กเล่นฟุตซอลจะทำให้เด็กไม่ต้องเผชิญกับสภาพอากาศอย่างที่กล่าวถึงไป
องค์ประกอบของฟุตซอลมีอะไรบ้าง
- สนามเเข่งขัน : จะต้องเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าเท่านั้น โดยความยาวเส้นข้างยาวกว่าความยาวเส้นประตู โดยจะมีความยาวต่ำสุด 25-42 ม. ความกว้าง15-25 ม.
- ลูกฟุตซอล : ต้องเป็นทรงกลม ทำด้วยหนังหรือวัสดุอื่น ๆ เส้นรอบวง 62-64 ซม. ขณะการแข่งขัน ลูกบอลต้องมีความดันลม 400-440 ก.
- นักกีฬา : ผู้เล่นทีมละไม่เกิน 5 คนอยู่บนสนาม โดยใน 5 คนนั้นจะมี 1 คนที่เป็นผู้รักษาประตู และมีผู้เล่นสำรองไม่เกิน 7 คน สามารถเปลี่ยนตัวผู้เล่นเมื่อไหร่ก็ได้ ไม่จำกัดจำนวน ผู้เล่นที่เปลี่ยนออกไปแล้วสามารถกลับเข้าไปเล่นใหม่ แต่หากเกิดเหตุการณ์ใด ๆ ที่มีผู้เล่นเหลือไม่เกิน 3 คนจะไม่สามารถแข่งต่อได้ ผู้เล่นห้ามใส่เครื่องประดับใด ๆ
- อุปกรณ์เบื้องต้น : เสื้อยืดหรือเสื้อเชิ้ต, กางเกงขาสั้น, ถุงเท้ายาว, สนับแข้ง และรองเท้าผ้าใบหรือรองเท้าหนังนิ่ม หรือรองเท้าสำหรับออกกำลังกายที่พื้นรองเท้าเป็นยาง
กติกาของฟุตซอล
การแข่งขัน ฟุตซอล จะแข่งทั้งหมด 2 ครึ่งโดยจะมีเวลาครึ่งละ 20 นาที สามารถขอเวลานอกได้รวมทีมละ 1 นาทีต่อครึ่ง พักครึ่งได้ไม่เกิน 15 นาที การนับคะแนนจะนับก็ต่อเมื่อผู้เล่นฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งสามารถทำประตูได้โดยไม่ฟาวล์ โดยจะนับเป็นครั้งละ 1 คะแนน หากมีการทำเข้าประตูฝั่งตนเองจะเสียคะแนนให้ฝ่ายตรงข้าม นอกจากนี้ในระหว่างการแข่งขันยังมีกฎกติกาต่าง ๆ ดังนี้
- การสัมผัสบอลไม่สามารถใช้แขนหรือมือในการสัมผัสได้ ผู้เล่นที่ได้บอลสามารถครอบครองบอลได้นานเท่าไหร่ก็ได้
- หากเกิดการปะทะ ได้แก่ เตะ, ขัดขา, กระโดด, ชน, ทำร้าย และผลักผู้เข้าแข่งขันฝ่ายตรงข้าม รวมไปถึงเจตนาขวางทิศทางการเล่นของคู่ต่อสู้ด้วยเช่นกัน การกระทำเหล่านี้จะถือว่าฟาวล์
- หากมีการทำผิดกติการวม 5 ครั้งจะได้รับการเตะโทษ
ส่วนกติกาข้ออื่น ๆ เช่น การเสียจุดโทษ, การเตะมุมก็แทบไม่มีความแตกต่างจากกีฬาฟุตบอลเลยเพียงแต่มีสนามที่เล็กกว่าเท่านั้นเอง
วิดีโอจาก : Changsuek Official
ทักษะที่เด็กจะได้รับจากฟุตซอล
ประโยชน์หลัก ๆ ที่ร่างกายจะได้รับคือการควบคุมกล้ามเนื้อบริเวณขา เนื่องจากโดยทั่วไปเด็ก ๆ หรือบุคคลทั่วไปใช้ขาหรือเท้าในการวิ่งหรือดินเท่านั้น แต่สำหรับฟุตซอลแล้วเป็นกีฬาที่ต้องเน้นการควบคุมลูกบอลในพื้นที่จำกัด ถือเป็นการฝึกกล้ามเนื้อหาได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังมีทักษะอื่น ๆ ที่เด็กจะได้รับ ดังนี้
- การวางแผนที่เป็นระบบ : หากเทียบกีฬาประเภทเดียวกันที่ต้องวิ่งจากอีกฝั่งไปอีกฝั่งนั้น ฟุตซอล ถือว่ามีจำนวนผู้เล่นที่น้อยพอสมควรด้วยคนเพียง 5 คนต่อทีมเท่านั้น ทำให้การเล่นส่วนมากจะเป็นจังหวะรูปแบบการครองบอล แล้วรอให้อีกฝ่ายพลาดเสียมากกว่าเพราะหากเสียตำแหน่งจะเกิดผลเสียได้ ด้วยเหตุนี้การครองบอลแต่ละครั้งจึงต้องวางแผนให้ดี
- ฝึกวินัยและความรับผิดชอบ : จากที่กล่าวไปด้วยตัวผู้เล่นที่น้อยนั้นหากเกิดความผิดพลาดจะทำให้มีโอกาสเสียประตูสูงมากด้วยสนามที่เล็ก นอกจากนี้แต่ละคนจะต้องรับบทบาทหน้าที่ในสนามและทำอย่างมีวินัย หากไม่สนใจจะทำให้ทีมมีโอกาสแพ้ได้
- ทัศนคติที่ดี : ในการเล่นฟุตซอลนั้นผู้เล่นทุกคนมีความสำคัญแม้จะเป็นผู้เล่นสำรอง เนื่องจากจะให้ผู้เล่นตัวจริงเล่นตลอดเวลาการแข่งขันคงลำบาก ทำให้ทุกคนมีโอกาสได้ลงสนามซึ่งต่างกับฟุตบอลที่ตัวสำรองบางคนอาจไม่ได้รับโอกาสเพราะจำกัดการเปลี่ยนตัว
นอกจากนี้พื้นฐานของประโยชน์ทั่วไปจากกีฬาประเภททีมคือการได้ฝึกความร่วมมือร่วมใจกับเพื่อนร่วมทีมตลอดการแข่งขัน ถือเป็นการเข้าสังคมที่ดีในเด็กวัยกำลังเรียน
บทความที่น่าสนใจ
เด็ก ๆ เล่นบอล แล้วดียังไง ฟุตบอลช่วยเสริมทักษะด้านไหนได้บ้าง
เทควันโด กีฬาสุดฮิตดีต่อลูกอย่างไร? เรียนเทควันโดได้ตั้งแต่อายุเท่าไร?
วอลเลย์บอล ดีต่อเด็กอย่างไร ควรเริ่มเล่นวอลเลย์บอลตอนไหน ?