ลูกแพ้อาหาร ลมพิษ ปากม่วง
คนมีลูกเล็กต้องระวังเรื่องอาหารการกินเป็นพิเศษ โดยเฉพาะเวลาไปเที่ยวต่างแดน ระหว่างการท่องเที่ยวกับครอบครัวของ อุ้ม ลักขณา เกิดเรื่องที่บีบหัวใจคนเป็นแม่สุด ๆ น้องดิสนีย์เกิดป่วยหนัก ลูกแพ้อาหาร ลมพิษ ปากม่วง จนต้องนำส่งโรงพยาบาลโดยด่วน แม่สงสารลูกแทบขาดใจ แต่ต้องตั้งสติให้ได้มากที่สุด
อุ้ม ลักขณา คุณแม่น้องดิสนีย์ ได้เล่าประสบการณ์บีบหัวใจในต่างแดนครั้งนี้ ผ่านอินสตาแกรมส่วนตัวของเธอไว้ว่า
วันที่ 2 พ.ย.ที่ญี่ปุ่น แม่กำลังป้อนอาหารเสริมแบบสำเร็จรูปที่ซื้อที่ญี่ปุ่น ซึ่งดูจากรูปส่วนผสมข้างขวดมีแคร์รอต ไก่ ฟักทอง ปกติดิสนีย์กินได้ ไม่แพ้ ก็เลยป้อนน้องปกติ
หลังจากกินได้สัก 5-6 คำ เริ่มเห็นผื่นขึ้นรอบปากแม่ก็หยุดป้อน และ น้องเริ่มเกาตรงคอ สักพักคอแดงเป็นลมพิษเห่อขึ้นมา แม่รีบทายาให้ทันที แต่ก็ยังไม่หาย น้องเริ่มร้องมากขึ้น ลมพิษเริ่มลามที่หน้า หู มือ เท้า ขา ตัว ทั่วไปหมดจนน้องตัวแดง และ ร้อน แม่จึงป้อนยาแก้แพ้ที่พกไปด้วย
น้องร้องหนักมากจนเหนื่อยและเริ่มหลับไป สักพักน้องไม่เกาและลมพิษเริ่มจางลง แต่หน้าและทุกอย่างยังแดง แต่ที่ผิดสังเกตุคือปากเริ่มม่วง แม่จึงรีบให้ทางโรงแรมโทรติดต่อโรงพยาบาลที่เป็น International เพราะต้อง สื่อสารภาษาอังกฤษ
และโรงพยาบาลที่ใกล้โรงแรมที่สุดก็ดันปิด โรงพยาบาลที่ญี่ปุ่นเค้ามีหยุดเสาร์อาทิตย์ด้วย ทางโรงแรมรีบโทรติดต่อโรงพยาบาล แจ้งว่าเป็นฉุกเฉินและเรียก Taxi ให้ จากชินจูกุไปที่โรงพยาบาลประมาน 40 นาที ( นี่ขนาดใกล้แล้ว )
พอไปถึงได้พบคุณหมอก็ตรวจดู พบว่าในอาหารนั้นมีส่วนผสมของ นมวัว และ แป้งสาลี ซึ่งไม่ได้มีรูปอยู่ในฉลาก และข้างขวดเป็นภาษาญี่ปุ่นทั้งหมด คุณหมอจึงบอก น้องอาจจะแพ้ตัวใดตัวนึงในนี้ โชคดีที่น้องไม่ได้เป็นทางระบบหายใจ แต่เป็น ทางผิวหนัง คุณหมอจึงสั่งยาแก้แพ้ให้กิน
ยาของญี่ปุ่นเป็นผง ๆ ผสมกับน้ำแล้วกิน คือ ขมมากๆๆๆๆ ( พี่บอลลองชิม ) ขมชนิดที่ผู้ใหญ่ยังไม่ไหว แต่ดิสนีย์ต้องโดนป้อน กินไปก็ร้องไป จะอ้วกไป แม่นี่ร้องไห้อยู่ในหัวใจ สงสารลูกแทบขาดใจ แต่ต้องมีสติมาก ๆ ทุก ๆ วินาที เพื่อดูแลลูก
พอกินยาปุ๊ป ดีขึ้นทันที ดิสนีย์คนเดิมก็กลับมายิ้มได้อีกครั้ง เป็นประสบการณ์ที่แม่ไม่ลืมเลย เวลาลูกไม่สบายน่าสงสารที่สุดเลย กลับมาแม่คงต้องเทสต์ว่าลูกแพ้อะไร และ คอยระวังให้มากกว่านี้ ค่ารักษาพยาบาล 15,000 บาทเลย กะยา 2 ซอง ดีที่ทำประกันการเดินทางและสุขภาพของดิสเอาไว้ด้วย คุณแม่ที่มีแพลนจะพาลูกไปเที่ยวต่างประเทศ เตรียมการณ์ไว้ให้ดีด้วยนะคะ ด้วยรักและห่วงใยจ้ะ
สำหรับการแพ้อาหารนั้น มักพบในเด็กเล็ก โดยเฉพาะเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 1 ปี โดยสาเหตุยอดฮิตของการแพ้อาหารในเด็ก ก็คือ นมวัว นั่นเอง รองลงมาก็คือ พวกไข่ ถั่วเหลือง แป้งสาลี อาหารทะเล ซึ่งตรงกับข้อสันนิษฐานที่คิดว่าน้องดิสนีย์น่าจะแพ้เลย
การแพ้อาหารนั้น สามารถเป็นได้กับ 3 ระบบ ได้แก่
- ระบบทางเดินอาหาร สังเกตได้จากอาการคันปาก ปากบวม คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง หรือท้องเสีย
- ระบบผิวหนัง สังเกตได้จาก อาการผื่นคัน ลมพิษ บวมใต้ผิวหนังบริเวณหน้า ตา ริมฝีปาก
- ระบบทางเดินหายใจ สังเกตได้จากอาการคัดจมูก ไอ จาม น้ำมูกไหล แน่นหน้าอก และอาจรุนแรงจนถึงขั้นหายใจลำบาก ความดันต่ำ ช็อคจนเสียชีวิตได้
ถ้าหากลูกมีอาการผิดปกติ ที่คาดว่าน่าจะเกิดจากการแพ้อาหาร คุณแม่ต้องมีสติให้มาก ๆ รีบนำส่งโรงพยาบาลเพื่อพบแพทย์โดยเร็วที่สุด แจ้งอาการของลูกให้แพทย์ทราบอย่างละเอียด พยายามนึกว่าลูกทานอะไรไปบ้าง มีส่วนผสมของอะไรบ้าง เพื่อให้แพทย์วินิจฉัยได้อย่างถี่ถ้วน
อย่างไรก็ตาม คุณแม่ที่มีเด็กเล็ก ควรระมัดระวังเรื่องอาหารให้มากที่สุด ตรวจสอบส่วนผสมของอาหารแต่ละชนิดทุกครั้งก่อนให้ลูกทาน หลีกเลี่ยงอาหารกลุ่มที่น้องแพ้ รวมไปถึงอาหารที่เด็กเล็กมักจะแพ้ ป้องกันไว้ก่อนดีกว่าแก้ แต่ถ้าหากเกิดเหตุที่ไม่คาดฝันขึ้นมา คุณแม่ก็ต้องมีสติ เพื่อช่วยลูกให้ได้มากที่สุด
ที่มา : instagram
https://www.instagram.com/p/CHNR68Ipa1R/
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
ลูกแพ้นมวัว แพ้ไข่ เป็นอย่างไร อาการลูกแพ้อาหาร ทารกแพ้อาหารผ่านน้ำนมแม่ ที่ต้องระวัง!
ลูกแพ้อาหาร เพราะแม่ลืมสิ่งเหล่านี้หรือเปล่า?
ลูกแพ้อาหาร อาจถึงชีวิตได้
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!